ประมูล หมวด:หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ – หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก - หลวงพ่อตัด วัดชายนา - หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง
ปลัดขิก
| ชื่อพระเครื่อง | ปลัดขิก |
|---|---|
| รายละเอียด | ปลัดขิก(ปุ้มปุ้ย)รุ่นแรกไม้ดำดงหายากแล้วครับ พอพูดถึง หลวงพ่อยิด จนฺทสุวณฺโณ ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายจะพูดถึงปลัดขิก คือเครื่องรางของขลังอันสุดยอดของหลวงพ่อยิด ที่ท่านสามารถปลุกเสกให้เคลื่อนที่ได้ และลอยตัวขึ้นได้อยู่กลางอากาศ ด้วยพลังจิตอันแก่กล้า จนเกิดปาฏิหาริย์ “ปลัดขิกบินแข่งกับเครื่องบิน” เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๒๘ ขณะที่นายทหาร พ.ต.สมเกียรติ (ยศในขณะนั้น) นั่งเฮลิคอปเตอร์บินข้ามอุทยานเขาสามร้อยยอดพ้นมา อยู่ๆได้ยินเสียงวัตถุอย่างหนึ่งชนเข้ากับเครื่องบินมีเสียงดังมากและเครื่องยนต์เหมือนมีปัญหา มีอาการสะดุด นักบินจึงแก้ปัญหาด้วยการมองหาที่ดอนราบเรียบเพื่อที่จะนำเครื่องลงจอด และในขณะนั้นเองผู้พันสอดส่องสายตาไปข้างหน้า เจอกับวัตถุชิ้นหนึ่งลอยอยู่หน้าเฮลิดอปเตอร์ “โอ๊ะๆ นั่นมันปลัดขิกนี่หว่า!!ทำไมมาลอยอยู่กลางอากาศได้” พลันสายตาก็เหลือบมองลงมาด้านล่าง เห็นหลังคาวัดอยู่วัดหนึ่งและหันกับมามองข้างหน้าอีก เห็นเจ้าปลัดขิกตัวนั้นบินฉวัดเฉวียนไปมา รอบ ๆ เฮลิคอปเตอร์และพลันก็บินหายเข้ากลีบเมฆไป ที่สำคัญเครื่องยนต์กับไม่มีปัญหาใดๆ จึงไม่ต้องร่อนลงจอดและบินต่อกับไปกองบิน ๕๓ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้อย่างปลอดภัย เรื่องนี้ทำให้ผู้พันถึงกับอึ้งในใจกับปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับทหารที่นั่งมาด้วยกันหลายคน จึงได้สอบถามทหารในกองบิน ๕๓ ว่าที่พิกัดตรงนี้มีวัดอะไร ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างนี้ใครพอจะทราบหรือไม่ว่า มีพระอะไรเก่งวิชาอาคมบ้างในแถวนั้น เมื่อทหารในกองบิน ๕๓ ทราบข่าวต่างรีบตอบเลยว่า ”หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก” จากนั้นผู้พันจึงให้ทหารพาเข้ามาหาหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก พอเดินทางไปถึงที่วัด ผู้พันถึงกับเกิดอาการขนลุกขนพองไปทั้งตัวและพอลูกน้องพาเข้าไปถึงห้องหลวงพ่อยิด ภาพที่ประทับใจมากที่สุดสำหรับผู้พันคือ รอยยิ้มอันแฝงไปด้วยความเมตตาในสายตาของหลวงพ่อยิด มันสงบเยือกเย็นทำให้เกิดมีกำลังศรัทธายิ่งนัก ผู้พันถึงกับนั่งคุกเข่าคลานเข้าไปใกล้ๆ กราบลงไปตรงที่ตักท่าน หลวงพ่อยิดเอามือท่านจับที่หัวผู้พันเบาๆ ความเย็นวิ่งเข่าไปถึงข้างในแผ่ซ่านไปทั้งต้ว เงยหน้าขึ้นมาต้องเกิดอาการขนลุกขนพองอีกครั้งเมื่อสายตามองไปห็นเจ้าปลัดขิกตัวงามตัวนั้น วางอยู่บนพานข้างกายหลวงพ่อยิด ผู้พันอุทานขึ้นมาด้วยเสียงอันดังแบบตื่นเต้น “นี่งัย! เจ้าปลัดขิกตัวนี้ล่ะ ที่บินแข่งกับเครื่องบินของผมเมื่อตอนสายๆ ที่ผมกำลังนั่งเครื่อง บินข้ามหลังคาวัดพอดี มันลอยอยู่หน้าเฮลิคอปเตอร์ผม บินฉวัดเฉวียนไปมาและหายเข้าไปในกลีบเมฆ มันคือปลัดขิกตัวนี้ล่ะครับ! หลวงพ่อ” และปรากฏว่าปลัดขิกตัวนั้นที่ผู้พันบอกนั้นคือปลัดขิกไม้พยุง จากนั้นผู้พันสมเกียรติก็นั่งสนธนากับหลวงพ่อยิดอยู่จนมืดค่ำและถวายตัวเป็นศิษย์ ก่อนเดินทางกลับกองบิน ๕๓ หลวงพ่อยิดก็ได้มอบปลัดขิกไม้พยุงตัวนั้นให้กับผู้พันสมเกียรติกลับไปบูชา สร้างความปลื้มปิติให้กับผู้พันยิ่งนัก ข่าวเรื่องนี้ได้เริ่มกระจายและแพร่สะพัดออกไปจากปากต่อปากจนทำให้ชื่อเสียงของหลวงพ่อยิดโด่งดัง มิศิษยานุศิษย์เข้ามากราบนมัสการท่านมากมายทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ในการสร้างปลัดขิกนั้นหลวงพ่อยิดได้แกะปลัดขิกเองและปลุกเสกตั้งแต่ตอนท่านเป็นอาจารย์ยิดสักยันต์แล้ว จนมาถึงปีพ.ศ.๒๕๑๗ ท่านได้เข้ามาบวชในร่มกาสาวพัตร์เป็นครั้งสุดท้าย ท่านก็ได้แกะปลัดขิกด้วยมือท่านเอง ปลุกเสกและแจกให้ศิษย์นำไปบูชาติดตัว พุทธคุณครบเครื่องดีเด่นทางด้านการค้าขาย กิจการรุ่งเรืองป็นเมตตามหานิยม มหาโชคลาภ เจ้านายรักใคร่ ชายเห็นชายทัก หญิงเห็นหญิงรักหรือบูชาพกติดตัวเป็นแคล้วคลาด-คงกระพันชาตรี ป้องกันเสนียดจัญไร พอภายหลังช่วงประมาณพ.ศ.๒๕๒๖ หลวงตาลาว ปภาโส ได้เข้าไปบวชอยู่กับหลวงพ่อยิด ก็ได้เริ่มแกะปลัดขิกให้กับหลวงพ่อยิดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปีพ.ศ.๒๕๓๘ (ตรงนี้ขอบอกไว้ว่า ขอให้ทุกท่านศึกษาและดูให้แตกฉานปลัดขิกถ้าเป็นลายมือแกะปลัดขิก หลวงพ่อยิดแกะเองและหลวงตาลาวแกะจะไม่มีของปลอม ขอให้ทุกท่านศึกษาให้ดี) พอมาช่วงปีพ.ศ.๒๕๒๙ เริ่มมีชาวบ้านแถวจ.ประจวบคีรีขันธ์และ จ.เพชรบุรี เริ่มแกะปลัดขิกทรงพิมพ์หลวงปู่ฟัก ทรงพิมพ์ธรรมดาและทรงพิมพ์ลิงขี่ปลัดขิกไปถวาย ถึงช่วงปีพ.ศ.๒๕๓๑ เป็นต้นมาชาวบ้านดอนมะขาม ต.ดอนยายหนู เริ่มแกะปลัดขิกเข้าไปถวายหลวงพ่อยิด และเมื่อศิษยานุศิษย์ที่เดินทางมาทั้งใกล้และไกลเริ่มรู้แหล่งที่แกะปลัดขิกและวัดวาอารามต่างๆ ที่ศรัทธาหลวงพ่อยิด เริ่มขอบารมีหลวงพ่อยิดเพื่อนำไปแจกตามวาระต่างๆก็เริ่มมาว่าจ้างชาวบ้านต.ดอนมะขาม แกะปลัดขิกในราคาค่าจ้างตัวละ ๒ บาท นำไปให้หลวงพ่อยิดลงยันต์และปลุกเสกให้ จนมาถึงช่วงปีพ.ศ.๒๕๓๒ หลวงพ่อยิดท่านได้เริ่มถ่ายทอดและสอนให้สามเณรกุ้ง หัดจารอักขระยันต์ เรียกสูตรเรียกนาม เพื่อให้ช่วยจารอักขระยันต์ที่ตัวปลัดขิก หลังจากจารอักขระยันต์เสร็จแล้วหลวงพ่อยิดท่านจะเป็นผู้ปลุกเสกเองทุกตัว สามเณรกุ้งจึงได้ช่วยหลวงพ่อยิดจารอักขระยันต์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาจนถึงปีพ.ศ.๒๕๓๘ ส่วนมากแล้วการแกะปลัดขิกหลวงพ่อยิดเป็นฝีมือชาวบ้าน ดูทรงพิมพ์ก็พอสวยบ้างไม่สวยบ้าง แต่เข้มขลังเหมือนกันทุกตัว ส่วนที่แกะปลัดขิกได้ทรงสวยในสมัยนั้นก็คือศิษย์หลวงพ่อยิดอีกท่านหนึ่ง อยู่ที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี คือคุณประสิทธิ์ เอี่ยมวันทอง ที่ได้เดินทางไปวัดหนองจอกคณะเดียวกันกับพี่เล็ก (คุณธีรภัทร เนียมศิริ)จะเป็นผู้ไปแกะปลัดขิกถวายหลวงพ่อยิดอยู่บ่อยครั้ง และคุณประสิทธิ์ เอี่ยมวันทอง ก็เป็นผู้ที่แกะปลัดขิกปุ้มปุ้ยถวายหลวงพ่อยิดในปีพ.ศ.๒๕๓๖ ตัวปลัดขิกอาจจะเล็กบ้างใหญ่บ้างตามแต่วัตถุดิบที่มี ในจำนวนนี้มีงาช้างแกะ ไม้กัลปังหาดำ ไม้มะยม ไม้ขนุน ไม้ตาล(สากกะเบือแม่หม้าย) ไม้รักขาว ไม้รักแดงและไม้กาฝากกาหลง เป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น ๗๕ ตัว ที่ก้นปลัดขิกทุกตัวเลี่ยมเงินลายดอกพิกุลตอกโค้ดอุตัวเดียวกับที่ตอกเหรียญนั่งปิดตาหลังพญาสิงหราช ไตรมาส ๒๕๓๖ แต่ก็มีบ้างเป็นบางตัวที่ไม่ได้ตอกเนื่องจากก้นเล็ก และทุกตัวไม่ว่าเขียนยันต์ด้วยหมึกเมจิกหรือจารด้วยเหล็กจาร |
| ราคาเปิดประมูล | 500 บาท |
| ราคาปัจจุบัน | 500 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
| เพิ่มขึ้นครั้งละ | 100 บาท |
| วันเปิดประมูล | อา. - 03 ม.ค. 2559 - 15:07.56 |
| วันปิดประมูล |
ส. - 23 ม.ค. 2559 - 15:07.56
|
| ผู้ตั้งประมูล | |
| แชร์หน้านี้ |
| ราคาปัจจุบัน | 500 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
|---|---|
| เพิ่มครั้งละ | 100 บาท |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
| กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
| ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
|---|---|---|
| ยังไม่มีผู้ประมูล | ||
กำลังโหลด...






