หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน พระนักธรรม เนื้อผง (วัดสร้าง) ของดีประสบการณ์มากมาย สวยมาก #6 - webpra

ประมูล หมวด:พระเกจิภาคกลางตอนล่าง

หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน พระนักธรรม เนื้อผง (วัดสร้าง) ของดีประสบการณ์มากมาย สวยมาก #6

หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน พระนักธรรม เนื้อผง (วัดสร้าง) ของดีประสบการณ์มากมาย สวยมาก #6 หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน พระนักธรรม เนื้อผง (วัดสร้าง) ของดีประสบการณ์มากมาย สวยมาก #6
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน พระนักธรรม เนื้อผง (วัดสร้าง) ของดีประสบการณ์มากมาย สวยมาก #6
รายละเอียดสุดยอดของดีราคาไม่แพง ที่ลองใช้แล้วประสบการณ์มากมาย อีกเกจิหนึ่งที่ต้องขอแนะนำครับ พระรูปเหมือนฝังเม็ดมะกล่ำ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่มีความเมตตาเป็นอย่างยิ่ง และได้สร้างวัตถุมงคลมากมาย โดยเฉพาะวัตถุมงคลที่วัดสร้างนี้ ส่วนใหญ่จะแจกให้นำไปใช้กัน หลวงพ่อกำกับสร้างกันเองในวัด จากข้อมูลของผู้ที่สร้างแม่พิมพ์ให้หลวงพ่อ ขออนุญาติอ้างอิงนะครับ

"พระเนื้อผงชุดนี้จะแบ่งเป็น 4 แบบ ที่พิมพ์ที่วัด หลังจากผมสั่งทำแม่พิมพ์เหล็กของ พระรูปเหมือนก่อน ตามด้วย แหวกม่าน นักธรรม ต่อมาก็ โพธิ์พลิกแผ่นดิน เป็นชุดสุดท้าย นอกนั้นมีคุณ ศ ทำแม่พิมพ์มาเพิ่ม และศูนย์ก็ทำมาถวาย เมื่อหาวัสดุ มาพร้อมก่อนพิมพ์พระรูปเหมือน พอวันหนึ่งที่ผมไปหาหลวงพ่อ พอเจอหน้าท่านบอกจุดธูปเทียน บอกครูแล้ว ตั้งแต่นี้ไปสร้างได้เลย

ในการสร้างต่อมา ที่ช่วยๆกันทำ

๑) หลวงพ่อ เตรียมดอกไม้เอง เป็นดอกไม้ที่บูชาพระ ที่คนเอามา ท่านเอามาใส่กะละมัง เตรียมไว้ มีพระและลูกศิษย์มาบดดอกไม้ให้ เครื่องบด นายหมี แบกมาถวายหนึ่งอัน เป็นโกร่งบดดา เก่าจากบ้านเขาที่โคราช ผงดอกไม้นี้ หลวงพ่ออาจจะเสกเตรียมไว้ให้ก่อน

๒) ท่านเตรียมปูนเอง เอาปูนไปแช่น้ำให้จืด ( ปูนหอย ซื้อมาจากแถวทวีวัฒนา เขาไว้ใส่ต้นไม้ในสวน ) แช่ค้างคืน แล้วเทน้ำทิ้ง บางที แช่สองน้ำ ให้จืด หลวงพ่อท่านเพลินกับการเตรียมปูนมาก ขั้นตอนนี้ท่านอาจจะเสกปูนไปด้วย

๓) มีชาวบ้านเอาพวกว่านมาถวาย ผมเห็นพวก สบู่เลือดเขาหิ้วมาเป็นพวง คล้ายหัวมันแกว เอามาถวายท่านทำพระ พระก็เอา ผาน ตากแห้ง แล้วบดทำผง

๔) มีลูกศิษย์ เอามาถวาย ผงต่างๆที่คิดว่าดี มีหลายอย่างจาระไนไม่ไหมด ใครเอามาก็ว่าดี ผมก็ว่าดี ก็ใส่กันเข้าไป เช่นผงแร่บางไผ่ ผงชันเพชร ผงไม้พยุง ฯลฯ

๕) ผงแปลกๆส่วนใหญ่ที่ใส่ลงไปในพระ มาจาก พระสวัดด์ ลูกศิษย์ หลวงพ่ออีกองค์ ท่านมีของแปลกๆเยอะ มีความคิดแปลกๆ และขยันพิมพ์พระมาก ผงแปลกๆที่พอจำได้ ผงยานัตถุ์ ผงดินก้นบ่อน้ำ เกศา ผ้าจีวร

ส่วนวัสดุ พื้นฐาน ( ส่วนใหญ่ ) คือ ปูนหอย ( มีผมและคุณ ศ ซื้อมาหลายสิบถุงอยู่เรื่อยๆ รวมๆกันผมก่ะไม่ถูก แต่ผมหาไปน่ะ หลายเที่ยวรถ ) ปูนเพชร - ปูนแม่พิมพ์ ( ผมซื้อมาเรื่อยๆ เมื่อหมด ) น้ำมันตั้งอิ้ว ( ผมและคุณ ศ ซื้อมา ) กาววิทยาศาสตร์ ( ผสมพระง่าย คุณ ศ ซื้อมา )

หัวน้ำหอม น้ำมันเก้ากลิ่น ผมซื้อมา เท่าที่จำได้ หลักๆมีเท่านี้ ไม่เคยได้ยินว่าหลวงพ่อลบผง เอามาผสม ถ้ามีน่าจะแค่เสกผงให้ เพราะฉนั้น ผงหลักๆ มีเท่าที่บรรยาย

แต่การปลุกเสก น่าจะมีบทบังคับ และ เมื่อหลวงพ่อท่านสำเร็จวิชาไหนแล้ว แค่อธิษฐานจิตไปตามขั้นตอนที่ท่านฝึกมา ในวิชานั้นๆ การเสกนี้ แค่อึดใจ ช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น เมื่อร่างกายสบาย จิตดี จิตถึง วสีคล่อง ป๊อกเดียวก็เสร็จครับ ถ้าแบบหลวงพ่อจง เป่าพ้วงเดียว ไม่ว่าเล็กใหญ่ พระหรือ เครื่องราง ลังเล็ก ลังใหญ่ พ้วงเดียว ยิงไม่ออกครับ

มันอยู่ที่จิตครับ ไม่ได้อยู่ที่มวลสาร ไม่ได้อยู่ที่ ฤถษ์ ไม่ได้อยู่ที่พิมพ์ ไม่ได้อยู่ ผงวิเศษต่างๆ ที่ลูกศิษย์เอามาถวาย มีใส่ก็ดี ถึงไม่มีใส่ มีแค่ปูนก็ดีครับ พระบางขุนพรหม พระหลวงปู่ภู น่ะพวกท่านไปดู แก่ปูนทั้งสิ้น บางองค์แทบจะเป็นปูนล้วนๆ การสร้างพระเยอะๆ ก็แค่เอาผงใส่ครกตำให้เหนียวก้พิมพ์พระ จะให้ผงผสมทั่วทุกสัดส่วนคงยาก แค่ทำตามเคล็ด ตามบังคับ พระกรุเก่าๆ มีแค่ดิน เพราะเอาไปเผาให้ดินสุก พวกมวลสารโดนไฟขนาดนั้น ไม่มีทางเหลือ แต่ทำไมถึงขลังครับ เป็นแค่ก้อนดิน มันก็อยู่ที่จิตนี่แหละครับ

มันอยู่ที่จิตครับ หลวงปู่บุญศรีบอกผมว่า จิตมั่นใช้ได้ หลวงพ่ออั้บบอกแบบเดียวกันกับผม ว่าอยู่ที่จิต วิชาท่านเรียนมาเยอะเป็นร้อยๆอย่าง แต่ท่านบอกว่า ก็อยู่ที่จิตครับ

จิตเป็นใหญ่กว่าทั้งปวง ยิ่งจิตที่สงบ ไม่เกี่ยวข้องแวะกับอารมณ์กิเลส ยิ่งใหญ่เข้าไปใหญ่ครับ

ส่วนผงต่างๆของหลวงปู่บุญศรี ที่ผมเอาไปใส่ หลวงพ่อทรง ไม่เคยพูดถึงครับ เพราะท่านคงตั้งใจอยู่ที่ขั้นตอนสำคัญ คือการ ปลุกเสกมากกว่าครับ

วัน และ เวลาจะพิสูจน์ เรื่องหลวงพ่อทรง และ พระเครื่องที่ท่านอธิษฐานจิตน่ะครับ ว่าดีจริงหรือไม่"

ซึ่งเป็นพระเนื้อผงที่เจตนาการสร้างดี สร้างกันเอง ทำกันเองในวัด แม่พิมพ์ทำลายแล้ว และที่สำคัญ ของดีจริงๆ มีประสบการณ์มากมายและราคายังเบาหวิว ยังพอหาได้บ้างครับผม พระนักธรรม ใช้ดีมากทุกด้าน และที่มีประสบการณ์เด่นชัดมากคือเรื่องเกี่ยวกับการเรียนของเด็ก พระนักธรรมนั้น หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน จ.อ่างทอง มักแจกให้เด็กๆเสมอโดยเด็กๆที่ได้ไปห้อยคอ จากเด็กที่เรียนไม่เก่งบ้าง ไม่ค่อยขยันบ้าง กลับเปลี่ยนเป็นเด็กที่เรียนดีขึ้น ขยันเรียนมากขึ้นถ้าลองนับดูในวงการพระเครื่องส่วนมากพระเครื่องเครื่องรางที่จัดสร้างขึ้นเพื่อการนี้นั้นมีไม่มากนัก ส่วนใหญ่ ผู้ที่ศรัทธาหลวงพ่อทรงและมีลูกหลานก็จะนิยมให้แขวนพระนักธรรมนี่แหละครับ เห็นผลชัดเจนจริงๆ จนเป้นที่นิยมอย่างมาก แต่ก็ยังพอหาได้ครับ ต้องลองนำไปใช้ดูครับ ของหลวงพ่อทรง สุดยอดเกจิท่านหนึ่งที่ต้องแนะนำครับ ^^

---------------------------------------------------------------------------------
ประวัติ พระเดชพระคุณพระครูสุภัทรธรรมโสภณ (หลวงพ่อทรง ฉนฺทโสภี ) วัดศาลาดิน ( มอญ )
( โดยพระครู อุปถัมท์ธรรมรังสี วัดไผ่แหลม )

ประวัติ
เดิมชื่อ ทรง วารีรักษ์ เกิดวันอังคารที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 บิดาของท่านนามว่า จัน มารดานามว่า กอง วารีรักษ์ เกิดที่บ้านม่วงเตี้ย ตำบลม่วงเตี้ย อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง
หลวงพ่อเรียนจบชั้นประถมปีที่ 6 ที่โรงเรียนวัดยางมณี เมื่ออายุครบ 20 ปี ได้อุปสมบทที่วัดยางมณี เลขที่ ต.ม่วงเตี้ย อ.วิแศษชัยชาย จ.อ่างทองเมื่อวันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2486 เดือน 5 ปีมะแม

พระอธิการชวน (พระครูสุกิจวิชาญ) เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอธิการสุวรรณ วัดไร่ เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอธิการชั้ว วัดตูม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ตำแหน่งต่าง ๆ ในทางคณะสงฆ์
พ.ศ. 2513 ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดศาลาดิน
พ.ศ. 2525 เป็นเจ้าคณะตำบลม่วงเตี้ย
พ.ศ. 2535 ได้รับพระราชทางเป็นพระครูสัญญบัตรชั้นโท ในราชทินนามที่ พระครูสุภัทรธรรมโสภณ
พ.ศ. 2547 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลม่วงเตี้ย

ชีวะประวัติ ในวัยเยาว์หลวงพ่อเป็นคนใฝ่รู้ในด้านต่าง ๆ เสมอมา ช่วยบิดาทำมาหากินมาตลอด และมีจิตใจฝักใฝ่ในทางศาสนา ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนจบ ป.6 ในสมัยนั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะจบแค่ ป. 4 จึงเป็นการเรียนจบที่สูงสามารถ เป็นครูสอนตามโรงเรียนได้ จนมาถึงวัยครบ 20 ปี หลวงพ่อก็ตั้งใจบวชทดแทนคุณมารดาบิดา แต่ในใจลึกของหลวงพ่อนั้น ตั้งใจศึกษาในด้านพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง ทั้งในด้านธรรมะ ด้านการสวดมนต์ ด้านพุทธาคมพระเวทย์ หลวงพ่อได้ศึกษาพิธีกรรมการปลุกเสกวัตถุมงคลที่จะทำให้เกิดความเข้มขลังแก่ผู้ที่ได้นำไปใช้ในทางสุจริต หลวงพ่อสวดพระปาฎิโมกข์ได้ ซึ่งเป็นบทที่สวดได้ยาก ผู้ที่สวดได้จะต้องเป็นผู้มีบุญญาธิการเพราะต้องนั่งสวดให้พระฟัง จะเป็นพระผู้ใหญ่ระดับใดก็ต้องนั่งต่ำกว่า ถ้าไม่มีบุญกุศลแล้วจะทำให้ผู้สวดต้องมีอันเป็นไปต่าง ๆ เช่น สึกหาลาเพศ สติวิปลาสได้

หลวงพ่อได้ศึกษาวิทยาคมกับหลวงพ่อดัง ๆ ในยุคนั้น หลายรูปด้วยกัน เช่น การทำเบี้ยแก้ หลวงพ่อได้ศึกษาจากตำราที่สืบทอดของหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์ จอมขมังเวทย์ ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการทำเบี้ยแก้เป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นที่ต้องการหาเช่ากันในปัจจุบันหลวงพ่อได้ศึกษาและเรียนเคล็ดวิชามาเป็นอย่างดีทำให้หลวงพ่อทรงมีความเชี่ยวชาญในการทำเบี้ยแก้ เพราะการทำเบี้ยนั้นไม่ใช่ทำกันง่ายต้องมีกรรมวีธีหลายอย่าง และต้องไปตามหลักวิชาที่ถูกต้องตามโบราณ ส่วนราคาก็สูง ถึงแม้จะเป็นของใหม่ก็ตาม ทำให้คิดได้ว่าราคาจะสูงขึ้นไปอีกอย่างไม่ต้องสงสัย

หลวงพ่อยังได้ศึกษาจากพระอุปัชฌาย์คือ พระครูสุกิจวิชาญ(หลวงพ่อชวน) ที่มีความเชี่ยวชาญการทำเชือกกล้วยคาดเอว ซึ่งเป็นที่เรื่องลือในแถวบ้านย่านนั้น เรื่องไฟไม่ไหม้

ศึกษาจากพระอธิการชั้ว วัดตูม ซึ่งเป็นพระอนุสาวนาจารย์ของหลวงพ่อ เพราะพระอธิการชั้วก็จัดว่ามีความรู้ในวิชาอาคมองค์หนึ่งในพื้นที่ หลวงพ่อก็ได้รับประสิทธิ์ประสาทสรรพวิชาต่าง ๆ

ศึกษาจากหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุดยอดเกจิแห่งสุพรรณบุรี การสร้างเหรียญบินรุ่นแรกของหลวงพ่อทรง ปี 2513 หลวงพ่อมุ่ยท่านก็มานั่งเป็นประธานให้

ศึกษาหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ( ศิษย์หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ) และหลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำ ที่เป็นเกจิอาจารย์ในอดีตที่ได้สร้างวัตถุมงคลเป็นที่ยอมรับกันในวงการพระเครื่องทั่วไป ซึ่งหลวงพ่อทั้งสององค์คือหลวงพ่อนุ่มและหลวงปู่คำ จะเชี่ยวชาญเรื่องการทำวัตถุมงคลเป็นอย่างมาก เช่น เบี้ยแก้ เหรียญ และอื่น ๆ ผู้ที่ได้รับวัตถุมงคลของท่านแล้วจะเป็นผู้ที่แคล้วคลาดในภยันอันตรายต่าง ๆ หลวงพ่อก็ได้มีโอกาสศึกษาและได้รับคำแนะนำ

และหลวงพ่อยังได้ศึกษาจากฆราวาสที่เก่งในด้านอาคม เวทมนต์ คาถา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในแถวย่านบ้านนั้น คือ หมอฟู และหมอเปรี้ยว ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นที่พึ่งของคนชาวบ้านที่ได้รับความเดือนร้อนโดยประการต่าง ๆ เช่น เรื่องโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ได้ยินมาว่าฆราวาสที่มีอาคมขนาดนอนกลางวันยังต้องลงมุ้งเพราะกลัวโดนของที่มีผู้ที่มีเวทมนต์ทำแล้วปล่อยมา เมื่อมาโดนเข้าแล้วอาจได้รับอันตรายได้ ซึ่งหลวงพ่อก็ได้รับความรู้ที่แตกฉานในวิชาอาคมต่าง ๆ เป็นอย่างดี

และในภายหลังหลวงพ่อก็ได้นำสรรพวิชาความรู้ที่ได้ศึกษามาจากครูบาอาจารย์ต่าง ๆ เพื่อสร้างวัตถุมงคลในการที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ที่บูชา ฉะนั้นวัตถุมงคลของหลวงพ่อจึงมากด้วยพลานุภาพและมีผู้เสาะแสวงหากันเป็นอย่างมากและที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ ความที่หลวงพ่อเป็นพระที่สมถะ ความเป็นอยู่ของหลวงพ่อจัดว่าอยู่แบบเรียบง่าย มีจิตใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยเมตตาเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งผู้ที่ได้เข้าใกล้หลวงพ่อจะรับรู้ได้ แม้กระทั่งตอนอาพาธหลวงพ่อก็ยังเมตตาให้ลูกสิษย์ลูกหาได้พบตลอด ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ว่าจะ เป็นคนที่ร่ำรวยหรือคนยากจนก็ตามในการที่หลวงพ่อเป็นอุปัชฌาย์ที่มีหน้าที่ต้องบวชของกุลบุตรที่มีวัยครบ 20 ขึ้นปี หลวงพ่อทรงจัดว่ามีผู้ที่ต้องการให้ไปเป็นอุปัชฌาย์มากที่สุด บวชกุลบุตรในจังหวัดอ่างทองและจังหวัดใกล้เคียง จนแทบไม่มีวันหยุดพัก จึงถือได้ว่าหลวงพ่อเกิดมาเพื่ออนุเคราะห์ให้กับคนทั้งหลายอย่างแท้จริง

เปรียบเสมือนเทพเจ้าที่มีแต่คำว่าให้เสมอมา ความเป็นจริงหลวงพ่อนั้นเป็นที่เลื่องลือมานานมาก แต่หลวงพ่อก็ยังถือวัตรปฏิบัติในสมณสารูปอย่างเคร่งครัดไม่เคยเปลี่ยนแปลง ก็ยังเป็นที่พึ่งของคนทั่วไปได้เสมอ จะเห็นได้จากองค์ฟ้าหญิงอุบลรัตน์ฯ ได้เสด็จมาหาหลวงพ่อที่วัด และยังคนที่มีชื่อเสียงมากมายที่เข้ามาสักการะองค์หลวงพ่อ ให้หลวงพ่อได้ช่วยเพื่อช่วยให้มีชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจ เพื่อปรึกษาสนทนาธรรมและเพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตและด้วยที่หลวงพ่อได้เป็นผู้ให้กับคนมากมาย

บางครั้งแทบจะไม่ค่อยได้พักผ่อนอย่างพอเพียงกับผู้ที่มีอายุมากขึ้น ความตรากตรำนั้นทำให้สุขภาพทรุดโทรมและในท้ายที่สุดหลวงพ่อก็ได้มรณภาพด้วยอาการอันสงบ ก่อนที่หลวงพ่อจะมรณภาพ ( พระครูอุปฯ )ได้เคยไปเยี่ยมอาการอาพาธของหลวงพ่อหลวงพ่อมีสีหน้าที่สดใส ไม่มีอาการหวั่นไหวในมรณะภัย และยังสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาไม่ให้เสียใจในการที่ต้องจากไปให้มีความสมัครสมานและสามัคคีกัน จึงถือได้ว่าหลวงพ่อเป็นที่พึ่งของคนทั้งหลายอย่างแท้จริง หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน(มอญ) เป็นเกจิอาจารย์เรืองเวทย์เพียงหนึ่งเดียวของจังหวัดอ่างทอง
วัตถุมงคลของท่านนั้นได้ทำหลายอย่าง แต่ละอย่างเป็นที่ศรัทธาเสาะหาของประชาชนทั่วไป แต่ที่มีความเข้มขลังที่สุด ได้แก่ เหรียญรุ่นแรกหรือที่เรียกกันว่า “เหรียญบิน” เนื้ออัลปากร้า ในปี พ.ศ.2513 และ เบี้ยแก้ซึ่งเป็นเครื่องรางอันมหัศจรรย์ยิ่งที่บุคคลใดมีไว้แล้วจะมีความปลอดภัยแคล้วคลาดเมตตามหานิยม

หลวงพ่อได้มรณะภาพเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2550 ด้วยอาการอันสงบเวลา 22.50 น. สิริอายุ 83 ปี 8 เดือน 64 พรรษา
ราคาเปิดประมูล600 บาท
ราคาปัจจุบัน650 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูลส. - 16 ม.ค. 2559 - 11:04.08
วันปิดประมูล ส. - 30 ม.ค. 2559 - 22:58.40 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
เบอร์ติดต่อ 081-3551050
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 650 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ50 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เนื่องด้วยเจ้าของรายการประมูลนี้ ได้ทำผิดกฎ หรือ ถูกลดสิทธิ์ในการตั้งรายการประมูล ดังนั้นรายการประมูลทั้งหมดของเจ้าของรายการประมูลนี้จะถูกระงับชั่วคราว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
650 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) ศ. - 29 ม.ค. 2559 - 22:58.40
กำลังโหลด...
Top