
ประมูล หมวด:เครื่องรางของขลัง
วัดใจเคาะเดียว....๑๐๐ เดียวเท่านั้น ปลัดขิกหลวงพ่อสร้อย 'สังข์ทอง' วัดเลียบราษฎร์บำรุง บางซื่อ กทม.





ชื่อพระเครื่อง | วัดใจเคาะเดียว....๑๐๐ เดียวเท่านั้น ปลัดขิกหลวงพ่อสร้อย 'สังข์ทอง' วัดเลียบราษฎร์บำรุง บางซื่อ กทม. |
---|---|
รายละเอียด | ปลัดขิกหลวงพ่อสร้อย 'สังข์ทอง' วัดเลียบราษฎร์บำรุง บางซื่อ กทม. เนื้อไม้ไม้ขนุน บรรจุกริ่ง จารมือ เคลือบแลกเกอร์ ขนาด ๑.๕ นิ้ว ดีเด่นทางเมตตามหาเสน่ห์ ค้าขาย กันอสรพิษ พุทธคุณสุดยอด หลวงพ่อสร้อย ธมฺมรโส วัดเลียบราษฎร์บำรุง ซอยกรุงเทพ-นนท์ ๔๓ ถนนกรุงเทพ-นนท์ แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีลูกศิษย์มากมายมากราบไหว้ท่านตั้งแต่เช้ายันค่ำ เชี่ยญชาญในเรื่องวิชาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการถอนคุณไสย อยู่ยงคงกระพัน เมตตารวมไปถึงการทำนายทายทัก อีกทั้งท่านยังเป็นพระนักพัฒนาอีกด้วย เดิมทีท่านมีภูมิลำเนาอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงอย่างประเทศกัมพูชา แต่ในอดีตเคยเป็นส่วนปกครองของประเทศไทย ซึ่งอาจจะกล่าวได้อีกอย่างว่า ภูมิลำเนาเดิมของท่านนั้นเป็นคนไทย แต่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนการปกครองไปเป็นของประเทศกัมพูชาไปแล้ว เมื่อย้อนถึงอดีตความเป็นมานั้นบ้านเดิมของท่านเกิดที่กัมพูชา หลวงพ่อสร้อย เกิดเมื่อวันที่ ๒๑ เดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๖ ที่บ้านโคกระวา ต.ละเวีย อ.ปวก จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา แต่ว่าในสมัยนั้นยังคงเป็นดินแดนปกครองของประเทศไทย เข้าสู่เส้นทางธรรมะภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ ที่พัธสีมาวัดละเวีย ต.หลักชัย อ.ไพรีฯ จ.พิบูลย์สงคราม (สมัยนั้นประเทศไทยปกครอง) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัยและศึกษาวิชาต่างๆ ที่เป็นตำราโบราณสืบทอดกันมา พร้อมทั้งยังฝึกฝนวิชาต่างๆ จนเกิดความเชี่ยวชาญในการนั่งสมาธิ จนเป็นที่ยอมรับกันดีในประเทศกัมพูชา มีสรรพวิชาต่างๆ จนเป็นที่เลื่องลือและเชื่อกันว่าเสมือนหนึ่งสามารถรู้ถึงเหตุการณ์ข้างหน้า พ.ศ.๒๔๙๑ ท่านก็ได้เดินธุดงค์เรื่อยมาทางบ้านแดง อ.ละหานทราย ด้วยเท้าเปล่าจนเข้าเขตประเทศไทยและมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแจ้ง อ.ประโคนชัย แต่ที่นั่นมีชาวกัมพูชาอยู่มาก การเทศนาหรือการให้พร การสวดต่างๆ ต้องใช้เป็นภาษาเขมรทั้งหมด ท่านก็ไม่ค่อยจะชอบเพราะอยู่ในประเทศไทยแล้วเทศน์แต่ภาษาเขมร จากนั้นท่านจึงเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ แต่ท่านก็หาวัดจำพรรษาอยู่ไม่ได้ จนในที่สุดท่านก็เดินธุดงค์ต่อไปที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและจำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิ์ศรี อ.เมือง จ.ขอนแก่น และมีโอกาสเรียนภาษาไทยตั้งแต่แรกเริ่มอย่างถูกต้อง หลวงพ่อสร้อยเดินธุดงค์ด้วยเท้าเปล่าเพื่อเสาะหาสัจธรรมและวิชาต่างๆ จากเกจิอาจารย์ทุกจังหวัดในประเทศไทย จากนั้นเดินเท้าเข้าสู่ประเทศพม่าและอยู่ที่นั่นถึง ๓ ปี ออกจากพม่าเข้าสู่ประเทศอินเดียและอยู่ที่นั่นอีก ๕ ปี ออกจากอินเดียต่อมายังประเทศจีนตอนล่างมายังเวียดนามตอนเหนือผ่านมายังประเทศลาวและสุดท้ายก็เข้าสู่มุกดาหาร พ.ศ.๒๕๐๐ ท่านมาปักกรดที่วัดร้างแห่งหนึ่ง ชื่อว่าวัดดอกบัว ท่านได้จำพรรษาอยู่ ๖ พรรษา ซึ่งบริเวณรอบๆ นั้น มีชาวบ้านอาศัยเพียงกว่าสิบหลังคาเรือนเท่านั้น ท่านได้พัฒนาวัดดอกบัวและให้การศึกษาพระธรรมวินัยให้แก่พระภิกษุและสามเณรที่วัดลานคา ในขณะนั้นมีญาติโยมมากมายมานิมนต์ท่านให้ไปจำพรรษาที่กรุงเทพฯ แต่ท่านก็อยู่ดูแลวัดจนถึง พ.ศ.๒๕๐๗ ท่านจึงมาศึกษาพระธรรมวินัยต่อที่กรุงเทพฯ โดยจำพรรษาที่วัดเลียบราษฎร์บำรุง จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๒ ท่านมรณภาพ สิริอายุได้ ๗๖ ปี https://www.facebook.com/Pakinmahawet/ |
ราคาเปิดประมูล | 50 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 150 บาท (ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
วันเปิดประมูล | อ. - 09 ส.ค. 2559 - 18:58.25 |
วันปิดประมูล |
พ. - 10 ส.ค. 2559 - 19:37.04 ![]() |
ผู้ตั้งประมูล | |
แชร์หน้านี้ |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
กำลังโหลด...