
ประมูล หมวด:ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง - ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี - ครูบาชัยวงศ์ วัดพระพทธบาทห้วยต้ม
พระยอดขุนพลแก้ว เนื้อผงย า (สร้างน้อยเสกนาน2) 1 ใน 300 องค์ ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน


ชื่อพระเครื่อง | พระยอดขุนพลแก้ว เนื้อผงย า (สร้างน้อยเสกนาน2) 1 ใน 300 องค์ ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน |
---|---|
รายละเอียด | พระยอดขุนผลที่แรงด้วยอำนาจจิตอันบริสุทธิ+บุญฤทธิ์วิทยายุทธขั้นสุดยอด เสริมด้วยแรงเทวดาชั้นสูง และบารมีคุณแห่งยันต์ล้านนานาม "ราหูไค่หัว" สุดยอดเคล็ดวิชาของ "หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก" แห่งวัดบ้านฟ่อน เชียงใหม่ หากใครรู้สึกไม่คล่องตัว ดวงตก โดนปีชง การงานไม่ก้าวหน้า มีอุปสรรค มารผจญ แนะนำให้บูชาพระยอดขุนพลรุ่นนี้เป็นที่สุด เพราะสร้างด้วยมวลสารผงยา(แก้ต่างๆ)ของครูบาดวงดีท่านโดยตรง ตัวยันต์อักขระด้านหลังองค์พระก็จัดเต็มแบบไม่ให้ตกหล่น ทั้งยันต์ราหูไค่หัว โดยมีสนเทห์ว่าคนดวงไม่ดีดวงตกมักโดนราหูอมดวงชะตาอยู่ แก้ด้วยยันต์ราหูไค่หัวหรือหัวเราะแล้วคายดวงชะตาของผู้ตกทุกข์ออกมา ทำให้เกิดความเจริญขึ้นดวงดีเสริมดวงหนุนดวงไปในตัว ทั้งยันต์หัวใจขุนแผน สุนะโมโล เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมยิ่งนัก และไม่ต้องหวั่นว่าท่านจะใช้ขึ้นหรือไม่ขึ้นเพราะกำกับด้วยเลขยันต์ของคนที่เกิดวันทั้ง๗ ครบทุกวันใช้ได้ทุกคนและตลอดกาลเวลา อีกทั้งการอธิษฐานจิตปลุกเสกก็ได้ หลวงปู่ครูบาดวงดี ยติโก อธิษฐานทั้งที่งานเททองพระกริ่งอินทขิล และอธิษฐานเดี่ยวที่วัดสำทับลงไปอีกแบบจัดเต็ม ด้วยอำนาจจิตแห่งพระอริยเจ้าผู้บริสุทธิ์ทำให้ตัวยันต์ต่างๆมีคุณตามแต่ละอักขระนั้นกำหนดมาทุกประการ ไม่จำเป็นต้องมานั่งท่องทุกตัว เพราะจิตอันถึงวิมุติและบุญฤทธิ์อันเปรี้ยงปร้างของครูบาดวงดีท่านจัดหนักจัดเต็มให้ พระยอดขุนพลแก้วจักรพรรดินครพิงค์ชุดนี้มีคุณประหนึ่งของค่าควรเมืองอย่างใดอย่างนั้นเลยทีเดียว "พระยอดขุนพลแก้ว จักรพรรดินครพิงค์"(ขุนแผนรูปหล่อ ยอดขุนพลรูปงาม)นี้ "พุทธวงศ์"เป็นประธานจัดสร้างถวายบูชาพระคุณและสืบทอดวิทยายุทธลับและวิชชาเฉพาะบางประการของหลวงปู่ครูบาเจ้าดวงดี ยติโก สุดยอดพระอริยคณาจารย์อาวุโสแห่งวัดบ้านฟ่อน เชียงใหม่(อายุ 98) ที่คนพื้นที่หรือคนเหนือเองน้อยคนนักจักล่วงรู้ แต่คนไกลศิษย์สายตรงในหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ระยอง(อากฤต น้องเขยคุณชินพร สุขสถิตย์)ยังทราบถึงกิตติศัพท์และออกปากยอมรับในความเก่งอย่างหาใครเทียบได้ยากยิ่งของท่านให้"พุทธวงศ์"ได้ยินว่า"ครูบาดวงดีเก่งมาก..!!!!!"ให้คงอยู่ด้วยดี อันชนรุ่นหลังสามารถพึ่งพาอาศัยและสามารถบูชาสักการะได้อย่างสนิทใจตลอดไปเป็นประการสำคัญ ในชั้นแรก การดังว่าก็ไม่ได้คิดอะไรมาก นอกจากเพื่อพระสร้างเสร็จ ก็แค่ยกไปถวายให้ครูบาเสกที่วัดบ้านฟ่อน ก็คงจะแล้วเรื่องเหมือนอย่างปกติทั่วไปดังที่เคยเป็นมานั่นแล้ว แต่ชะรอย พระมหาคีรีผีค้ำเสาหลักเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่จะดลบันดาลให้การดังกล่าวมีความอลังการยิ่งใหญ่พิเศษสูงส่งยิ่งไปกว่านั้นเป็นแม่นมั่น ด้วยว่าขณะที่"พุทธวงศ์"มาเตรียมการเททองพระกริ่งอินทขีล ณ วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่อยู่นั้น ก็ได้ข่าวด่วนว่า ตอนเททองพระกริ่งอินทขีลในวันที่ 13 เมษายนนั้น ได้มีการล็อบบี้จากพระวงในให้มีการนิมนต์ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อน ที่ช่วงหลังจะไม่ค่อยรับกิจนิมนต์มาภายนอก ด้วยสุขภาพไม่อำนวยมาร่วมเททองด้วยอย่างแน่นอน ก็อดให้รู้สึกปลาบปลื้มปีติยินดีหาได้น้อยไม่ จากแผนเดิมที่จะนำพระไปถวายให้ครูบาที่วัดบ้านฟ่อนเฉยๆ ก็เลยเกิดไอเดียบรรเจิดขึ้นมาในบัดดล ก็ในเมื่อมีวาสนาสูงสุด ครั้งแรกที่สุดในประวัติศาสตร์ 700 กว่าปี นับแต่พ่อขุนเม็งรายมหาราชได้สถาปนาเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เมื่อ พ.ศ. 1839 นับถึงปัจจุบัน 2555 ก็ได้ 716 ปี แล้วมีโอกาสได้มาช่วยมาเตรียมการงานสร้างพระกริ่งอนุสรณ์ถึงภายในหอหลวงที่ประดิษฐานเสาอินทขีล อันเป็นหัวใจของบ้านของเมืองที่สำคัญที่สุดฝ่ายอาณาจักรถึงเพียงนี้ กอรปทั้งครูบาเจ้าดวงดี ยติโกอันเป็นที่เคารพศรัทธาแห่งเราอย่างยิ่งก็จักได้มาร่วมพิธีอีกด้วยอีกต่างหาก ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่หาได้ยากยิ่งอย่างที่สุดมาประจวบเหมาะลงตัวกันพอดีถึงเพียงนี้ ก็จะไม่คิด Upgrade การทั้งนั้นให้วิเศษใหญ่ยิ่งกว่าปกติดั้งเดิมไปได้ฤา..??? ว่าแล้ว "พุทธวงศ์"ก็ได้อัญเชิญ"พระยอดขุนพลแก้ว จักรพรรดินครพิงค์"(ขุนแผนรูปหล่อ ยอดขุนพลรูปงาม) ขึ้นประดิษฐาน"บนเสาอินขีล"ภายในหอหลวง วัดเจดีย์หลวง จ.เชียงใหม่ เพื่อรับพลังพระและเทวดา ตลอดจนอานุภาพแห่งมหาทักษาเมือง ที่ได้กำหนดให้วัดเจดีย์หลวงเป็นศูนย์กลาง พร้อมด้วยชนวนพิเศษบางประการที่เตรียมนำมาถวายเททองพระกริ่งอินทขีลชุดนำฤกษ์ตลอดคืนวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2555 เพื่อเป็นการรองพื้นแห่งมหาพลังไว้รอท่าในวันรุ่งที่ 13 เมษายน อันเป็นวันมหาสงกรานต์ อย่างที่ไม่เคยมีพระเครื่องชุดใดๆในฝ่ายหัวเมืองเหนือหรือทั่วทั้งประเทศไทยในชั่วนับร้อยนับพันเคยกระทำการอันหาญกล้าถึงที่สุดดุจดังว่านี้มาก่อนเลยทีเดียว ..!!!!!????? และเมื่อพระชุดนี้ได้รับการแจกจ่ายออกไป และได้ตกมาถึงมือของหน่วยสืบราชการลับทางจิตแห่ง"พุทธวงศ์"สาย"โยคะ" ผลก็ได้รับการเปิดเผยออกมาอย่างน่าทึ่งและน่าอนุโมทนาสาธุการเป็นที่ยิ่ง กล่าวคือ "นิมิตแรก เห็นเป็นมือเทวดา ซึ่งมีความสวยงามกว่ามือสามัญมนุษย์โดยทั่วไป ในมือนั้นถือลูกแก้วดวงหนึ่งซึ่งมีรัศมีสว่างไสวมากๆ ยื่นลงมาจากสวรรค์ ในจิตบอกเลยว่า เบื้องบนกำหนดไว้แล้วว่า พระชุดนี้(หรือพิธีนี้) จะเปรียบเสมือนแก้วมณีคู่บารมีสำหรับประดับเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่เลยทีเดียว..!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" แต่ที่น่าแปลกประหลาดยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ "พระผู้เสกองค์นี้ เหมือนมีจิตที่หลุดพ้น ปล่อยวางจนหมดสิ้นแล้ว การอธิษฐานจิตของท่านจึงใช้แต่จิตล้วนๆ แต่วิชชาอาคมเก่าที่ท่านเคยร่ำเรียนมาอย่างมหาศาลก็ยังมีตกค้างอยู่ในจิตอย่างสมบูรณ์ ซึ่งท่านจะนำอาคมไสยเวทย์นั้นมาใช้ก็ได้ ไม่ใช้ก็ได้ บรรดาคาถาอาคมทั้งหลายทำอะไรท่านไม่ได้หรือไม่มีผลใดๆต่อท่านต่อไปอีกแล้ว แค่กำหนดจิตอธิษฐานเพียงชั่วไม่กี่ขณะจิตโดยไม่ต้องว่าคาถาโอมออมตั้งรูปตั้งนามปั่นธาตุหนุนธาตุอะไรให้เสียเวลา ทั้งจิตและคาถาทุกอย่างก็จะมีการจัดระเบียบประจุเข้าไปโดยอัตโนมัติจนสำเร็จสมบูรณ์แบบในพริบตาเดียว นี่สิ จึงนับเป็นการเสกพระสายเวทย์วิทยาคมชั้นโลกุตระอย่างแท้จริง.!!!!!!!!!!!!!!!!!" และการรู้การเห็นของหน่วยสืบราชการลับทางจิตสาย"โยคะ"นี้ ก็ได้ตรงกับหน่วยสืบราชการลับทางจิตสาย"โพธิ"ที่บอกไว้เป็นประโยคแรกๆ ทั้งๆที่ไม่ได้บอกไม่ได้เล่าถึงที่มาที่ไปใดๆแม้เพียงคำเดียวเลยว่า "พระองค์ที่เสกนี้ จิตบริสุทธิ์มาก แม้จะเคยร่ำเรียนคาถาอาคมมา แต่เวลาเสก ไม่ได้ร่ายคาถาว่าอาคมอะไรให้ยืดยาวยุ่งยากอะไรเลย เพียงแค่ใช้จิตล้วนๆอธิษฐานกำหนดเพียงอย่างเดียว คาถาทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับองค์พระและอักขระยันต์ ก็ได้รับการเข้าไปประจุและเข้าไปขับเคลื่อนให้บังเกิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ มีอานุภาพตามอุปเท่ห์แห่งอักขระตัวยันต์ต่างๆนั้นโดยอัตโนมัติและฉับพลันทุกประการ ซึ่งผู้ที่จะทำจะเสกแบบหลุดพ้นแล้วได้ผลครบเครื่องทั้งวิชชาและวิมุติได้แบบนี้ ต้องเป็นพระอริยเกจิระดับสุดยอดเท่านั้น จึงจะทำได้ถึงขนาดนี้เลยทีเดียว..!!!???!!!???" "พระยอดขุนพล จักรพรรดินครพิงค์นี้ มีอานุภาพสูงมากๆ กำลังของเทวดาผู้ทรงมเหศักดานุภาพชั้นสูงก็เยอะมากๆ ไม่แพ้หรือยิ่งหย่อนไปกว่าพระขุนแผนของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ซึ่งใช้วิญญาณพรายกุมารผีตายโหงมาปรุงให้เป็นกึ่งภูติกึ่งเทพเลยแม้แต่น้อย (จะต่างก็ตรงที่จิตหลวงปู่ทิมซึ่งพระอริยะสายหลวงปู่ดูลย์องค์หนึ่งเคยบอก"พุทธวงศ์"ไว้เป็นการส่วนตัวว่า "หลวงปู่ทิมท่านยังมีขันธ์อยู่ ตอนนี้อยู่ชั้นพรหมโลก"จะออกไปแนวอิทธิฤทธิ์ร้อนแรง ส่วนจิตครูบาดวงดีเป็นไปในทางชุ่มเย็นเป็นสุข อันเกิดแต่จิตที่วิมุตติหลุดพ้นไปแล้ว) แถมบางอย่าง ก็ยังจะเลยล้ำออกไปอีกเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะอานุภาพทางด้านหนุนดวง เสริมดวงนั้น ใครที่ดวงตกดวงไม่ดีแล้วนำมาห้อยมาบูชา จะดีวิเศษมากแท้ๆ (เชื่อว่า เกิดแต่พระยันต์ราหูใคร่หัวที่ครูบาท่านสำเร็จและเชี่ยวชาญอย่างยิ่ง ซึ่ง"พุทธวงศ์"ได้สืบทราบและได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระยันต์หลักด้านหลังของพระรุ่นนี้ทุกองค์) สุดยอดมากจริงๆ..!!!!!!!!!!!!!!!!!!" หน่วยสืบราชการลับทางจิตสาย"โพธิ" ข้อมูลจากเวปไซต์พุทธวงศ์ |
ราคาเปิดประมูล | 1,000 บาท |
ราคาปัจจุบัน | 1,000 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
เพิ่มขึ้นครั้งละ | 50 บาท |
วันเปิดประมูล | จ. - 12 ก.ย. 2559 - 08:17.02 |
วันปิดประมูล |
อา. - 02 ต.ค. 2559 - 08:17.02 ![]() |
ผู้ตั้งประมูล | |
เบอร์ติดต่อ | 0838244611 |
แชร์หน้านี้ |
ราคาปัจจุบัน | 1,000 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ) |
---|---|
เพิ่มครั้งละ | 50 บาท |
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
กรุณาทำการ Login เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ |
ผู้เสนอราคา | ราคา | เวลา |
---|---|---|
ยังไม่มีผู้ประมูล |
กำลังโหลด...