พระพิมพ์ขุนแผนยอดขุนพล หลวงปู่เรือง เขาสามยอด จ.ลพบุรี ปี2542 - webpra

ประมูล หมวด:หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู - หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน - หลวงปู่เรือง วัดเขาสามยอด

พระพิมพ์ขุนแผนยอดขุนพล หลวงปู่เรือง เขาสามยอด จ.ลพบุรี ปี2542

พระพิมพ์ขุนแผนยอดขุนพล หลวงปู่เรือง เขาสามยอด จ.ลพบุรี ปี2542 พระพิมพ์ขุนแผนยอดขุนพล หลวงปู่เรือง เขาสามยอด จ.ลพบุรี ปี2542
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง พระพิมพ์ขุนแผนยอดขุนพล หลวงปู่เรือง เขาสามยอด จ.ลพบุรี ปี2542
รายละเอียดหลวงปู่เรือง อาภัสสโร เป็นพระสงฆ์ที่เล่าขานกันว่าทรงคุณพุทธาคม แห่งวัดเขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี

เป็นพระสงฆ์ที่เคร่งครัดพระธรรมวินัย และเปี่ยมด้วยคุณธรรม เป็นที่พึ่งของชาวบ้านและสาธุชนโดยทั่วไป มีจิตที่เปี่ยมด้วยความเมตตา

ชื่อเสียงของท่าน เป็นที่รับรู้กันทั่วเมืองลพบุรี โดยเฉพาะวัตถุมงคล

ปัจจุบัน สิริอายุ 96 ปี พรรษา 76

อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า บุญเรือง สุขสันต์ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2457 ที่ ต.บ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายคำพันธ์และนางศรี สุขสันต์ มีพี่น้อง 8 คน ท่านเป็นคนที่ 2

ในช่วงวัยเยาว์ได้เข้ารับการศึกษาชั้นประถม ที่โรงเรียนขุนโคกปีบปรีชา จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ท่านเก่งทั้งภาษาไทย และภาษาขอม เมื่อเรียนจบแล้วทางราชการได้ให้ท่านช่วยสอนหนังสือ แต่ท่านไม่รับกลับมาช่วยครอบครัวทำไร่ทำสวนหาเลี้ยงชีพ

ครั้นอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ได้เข้ารับการอุปสมบทตามประเพณีชายไทย เพื่อทดแทนคุณบิดามารดา เมื่อวันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม 2477 ณ พัทธสีมาวัดสระข่อย ต.โคกปีบ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

มีพระสมุห์จำปา วัดสระข่อย เจ้าคณะตำบลโคกปีบ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพัด ธัมมธีโร วัดโคกมอญ ต.โคกปีบ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ฉัตร คังคปัญโญ วัดต้นโพธิ์ ต.โคกปีบ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังอุปสมบท ท่านได้อยู่จำพรรษาและศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดสระข่อย อยู่รับใช้อุปัฏฐากพระสมุห์จำปา พระอุปัชฌาย์ พร้อมทั้งศึกษาวิทยาคมไปในตัว พร้อมกับเรียนนักธรรมชั้นตรี-โท-เอกจนสำเร็จ

จากนั้น ท่านได้ไปศึกษาวิชาบาลีมูลกัจจายน์ วิชาโหราศาสตร์ แพทย์สมุนไพร พร้อมด้วยวิทยาคมต่างๆ จากพระอาจารย์ฉัตร วัดต้นโพธิ์

ต่อมา ท่านได้กราบพระอุปัชฌาย์ ออกท่องธุดงควัตรแสวงวิเวก ตัดสินใจออกสะพายย่ามแบกกลดเดินทางออกจากวัด เดินทางธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ โดยเฉพาะภาคอีสานนั้นเดินทางธุดงค์ไปจนทั่ว

มีอยู่ครั้งหนึ่งเดินทางธุดงค์แวะจำพรรษาที่วัดท่าหลวง จ.นนทบุรี ในช่วงนั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารฝ่ายพันธมิตร ได้นำเครื่องบินมาทิ้งระเบิดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นจำนวนมาก

วัดที่ท่านจำพรรษาอยู่ใกล้ฐานกองกำลังญี่ปุ่น จึงมีระเบิดหล่นใส่ใกล้วัดเป็นประจำ ชาวบ้านในเขตนั้นก็ย้ายอพยพย้ายหนีไปจนหมด มีญาติโยมมาถามหลวงปู่ด้วยความเป็นห่วงว่า "หลวงปู่ไม่ย้ายไปต่างจังหวัดหรือ? ไม่กลัวโดนระเบิดหล่นใส่หรือไง?"

หลวงปู่เรือง บอกว่า "คนเราเมื่อถึงที่ตาย อยู่ตรงไหนก็ตาย ไม่มีใครหนีพ้นหรอก"

ครั้นถึงช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 หลวงปู่เรือง ได้ออกเดินธุดงค์ขึ้นไปยังภาคอีสานอีกครั้ง ก่อนย้อนกลับมาภาคกลาง ที่ จ.ลพบุรี ณ ถ้ำพิบูลย์ในปี พ.ศ.2489

ต่อมา เจ้าหน้าที่ทหารได้มานิมนต์ให้ท่านไปอยู่วัดที่สร้างใหม่ที่ใหญ่โตกว่าที่ เดิม อีกทั้งไม่ทุรกันดาร เนื่องจากที่ท่านอยู่นี้เป็นเขตทหาร อีกทั้งมีการซ้อมยิงอาวุธอยู่เป็นประจำ เกรงว่าจะได้รับอันตราย หลวงปู่เรือง จึงเก็บเครื่องอัฐบริขารสะพายย่ามออกธุดงค์เข้าป่าลึกไปทันที

พ.ศ.2493 ท่านเดินธุดงค์อยู่ในป่า จนมาถึงถ้ำแห่งหนึ่งที่เขาสามยอด หลวงปู่เรือง ตัดสินใจจะปักหลักสร้างสำนักสงฆ์ ณ ที่แห่งนี้ไม่เดินทางไปไหนอีก จะขออยู่จำพรรษาที่นี่ตลอดไป

ในระยะแรกที่หลวงปู่เรือง อยู่บนเขาสามยอด ท่านไม่ได้ออกบิณฑบาต ท่านได้เล่าให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดฟังว่า ในตอนนั้น ท่านอาศัยอยู่เพียงลำพัง ฉันผลไม้ป่า เผือก มัน กล้วยป่า ยอดไม้ ส่วนน้ำดื่ม ท่านไปตัดเถาวัลย์ให้น้ำไหลจากเถาวัลย์ เอากระติกรอง แล้วนำมาฉันพอแก้กระหาย

เป็นธรรมดาที่หลวงปู่เรือง พระนักปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน อันประกอบด้วยความเพียร มีจิตสงบปราศจากกิเลส ได้หมั่นปฏิบัติสมาธิภาวนา จนพบความสงบแห่งจิตใจ ย่อมทำให้จิตของท่านสว่างไสว สามารถรับรู้สื่อสารกับสิ่งต่างๆ ที่ปุถุชนคนธรรมดาทั่วไปไม่อาจเห็นหรือรับรู้ได้

แต่ท่านไม่เคยสำแดงหรือโอ้อวดให้เป็นที่ประจักษ์ของผู้ใดทั้งสิ้น

ต่อมา มีชาวบ้านในแถบนั้น ได้มาพบเห็นท่าน เกิดความเลื่อมใสศรัทธาต่อวัตรปฏิบัติอันเคร่งครัด จนบอกต่อๆ ไป ทำให้มีคนมากราบเยี่ยมเยียนบ่อยขึ้น พร้อมทั้งนำภัตตาหารมาถวาย รวมทั้งได้มาสร้างกุฏิหลังเล็กให้ ภายหลังมีพระภิกษุ-สามเณร จำพรรษาอยู่กับหลวงปู่เรืองอีก 2 รูป

การสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่เรือง ไม่ได้จัดสร้างบ่อยนัก นานครั้งในวาระพิเศษ ส่วนใหญ่จะอนุญาตให้ศิษย์ใกล้ชิดสร้างขึ้น ทำให้วัตถุมงคลของท่านมีจำนวนไม่มากรุ่น แต่ได้รับความนิยมสูง

เช่น เหรียญสุริยุปราคา ปี 2538, พระขุนแผนรุ่นแรกหลวงปู่เรือง สมเด็จฝังตะกรุด 3 กษัตริย์รุ่งเรืองร่ำรวย และอื่นๆ เป็นต้น

สำหรับพระคาถาของหลวงปู่เรือง มีใจความว่า "ปุพพะนิมิตตัง ทัฬหังนิติ อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ มะอะอุ"

"พุทธังแคล้วคลาด พระเจ้าย่างบาท แคล้วคลาดด้วยพระพุทธัง ธัมมังแคล้วคลาด พระเจ้าย่างบาท แคล้วคลาดด้วยพระธัมมัง สังฆังแคล้วคลาด พระเจ้าย่างบาท แคล้วคลาดด้วยพระสังฆัง"

ด้วยล่วงเลยเข้าสู่วัยชราแล้ว และมีอายุใกล้ร้อยขวบปี ท่านได้สั่งสมประสบการณ์ รู้หนาวรู้ร้อน ผ่านกาลฝนมามาก มีประสบการณ์ทุกอย่าง

เกียรติคุณของหลวงปู่เรือง เป็นที่รู้จักศรัทธาเลื่อมใส เป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม ความชราไม่เป็นปัญหากับหลวงพ่อสิน ด้วยความเมตตาที่เปี่ยมล้น หากมีใบฎีกานิมนต์มา ท่านไม่เคยปฏิเสธ ทำให้ท่านมีอาการอาพาธอ่อนเพลียอยู่เป็นประจำ จนลูกศิษย์ของท่านต้องขอร้อง ให้ท่านงดกิจนิมนต์ เพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ

เกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคม ทำให้ท่านได้รับการยกย่องว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ที่มีบารมีเข้มขลังแก่กล้า ระดับแนวหน้าของลพบุรีอีกรูปหนึ่ง
ราคาเปิดประมูล350 บาท
ราคาปัจจุบัน350 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูลพ. - 01 ก.พ. 2560 - 14:48.00
วันปิดประมูล อ. - 21 ก.พ. 2560 - 14:48.00 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
เบอร์ติดต่อ 0819472581
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 350 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ50 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
ยังไม่มีผู้ประมูล
กำลังโหลด...
Top