เหรียญหลวงปู่คง ฉลองอายุ 90 ปี เนื้อทองฝาบาตร - webpra

ประมูล หมวด:พระหล่อ-เหรียญหล่อ-พระปั๊มรูปเหมือน ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน

เหรียญหลวงปู่คง ฉลองอายุ 90 ปี เนื้อทองฝาบาตร

เหรียญหลวงปู่คง ฉลองอายุ 90 ปี เนื้อทองฝาบาตร เหรียญหลวงปู่คง ฉลองอายุ 90 ปี เนื้อทองฝาบาตร เหรียญหลวงปู่คง ฉลองอายุ 90 ปี เนื้อทองฝาบาตร เหรียญหลวงปู่คง ฉลองอายุ 90 ปี เนื้อทองฝาบาตร เหรียญหลวงปู่คง ฉลองอายุ 90 ปี เนื้อทองฝาบาตร
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง เหรียญหลวงปู่คง ฉลองอายุ 90 ปี เนื้อทองฝาบาตร
รายละเอียดเทพเจ้าแห่งแก่งกระจานหลวงพ่อคง ฐิติวิริโย 'วัดเขากลิ้ง' จ.เพชรบุรี
ที่มา : เรื่อง ไตรเทพ ไกรงู

“พระครูถาวรวิริยคุณ” หรือหลวงพ่อคง ฐิตวิริโย เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันและรูปแรกของ "วัดเขากลิ้ง" ตั้งอยู่หมู่ที่ ๒ บ้านเขากลิ้ง ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ทั้งนี้ ท่านได้ธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพร ตั้งแต่ จ.ชลบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี จนกระทั่งธุดงค์มาถึงแก่งกระจาน ได้ปักกลดตรงบริเวณป่าไผ่ที่เป็นที่ตั้งวัดในปัจจุบัน ในเวลากลางคืนได้นั่งบำเพ็ญเพียรทางจิตอยู่ภายในกลด จนเวลาเที่ยงคืนได้เวลาจำวัด ในคืนหนึ่งได้ฝันว่า ตัวท่านเองได้เดินแบกกลดไปในป่าถึงแม่น้ำแห่งหนึ่งมีช้างเดินตามท่านมาด้วย ๓ เชือก ในความฝันท่านเดินข้ามแม่น้ำที่ลึกนั้นได้โดยไม่จม พร้อมกันนั้นช้าง ๓ เชือกได้เดินข้ามมาด้วย โดยไม่จมเช่นกัน
เมื่อตื่นจากความฝัน หลวงพ่อคงได้นั่งคิดตรึกตรองถึงความฝันนั้นอยู่หลายวัน แต่แก้ไม่ตกไม่รู้ว่าความฝันนั้นหมายถึงอะไร จนกระทั่งเดินทางไปกราบเรียนพระอุปัชฌาย์ของท่าน คือ พระครูญาณประยุติ (หลวงพ่อเรียน) เมื่อหลวงพ่อเรียนได้รับการเล่าแล้ว ท่านก็ทำนายความฝันนั้นให้ว่า "คุณคง คุณจะทำป่าตรงนั้นให้เป็นวัดขึ้นได้ในอนาคต แม้จะยากแสนยากอย่างไรก็จะประสบผลสำเร็จดุจดังที่คุณได้ข้ามแม่น้ำนั้นมาได้โดยปราศจากอุปสรรคใดๆ" ส่วนช้างที่ข้ามมาด้วยนั้น คือ บริวารผู้ที่จะให้การสนับสนุนให้สำเร็จ พระภิกษุคง ก็ได้กราบพระอุปัชฌาย์แล้วกล่าวคำว่า “สาธุ” รับเอาคำอวยพรที่พระอุปัชฌาย์ทำนายไว้ในใจตลอดจนกระทั่งได้ลงมือสร้างวัด
ในการสร้างวัตถุมงคลนั้น หลวงพ่อคงได้สร้างเหรียญ รุ่นแรกเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓ จากนั้นก็สร้างต่อมาอีกหลายสิบรุ่น ซึ่งล้วนได้รับความนิยมจากลูกศิษย์ ทั้งนี้ท่านมักถูกนิมนต์ไปนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลเสมอๆ ถึงกับมีการขนานนามท่านว่า "หลวงพ่อคงเทพเจ้าแห่งแก่งกระจาน" เลยทีเดียว
หลวงพ่อคงได้สร้างเหรียญรุ่นแรก เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓ จากนั้นก็สร้างต่อมาอีกหลายสิบรุ่น ซึ่งล้วนได้รับความนิยมจากลูกศิษย์ ทั้งนี้ท่านมักถูกนิมนต์ไปนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลเสมอๆ ถึงกับมีการขนานนามท่านว่า "หลวงพ่อคงเทพเจ้าแห่งแก่งกระจาน" เลยทีเดียว
_____________________________________

พระเกจิ “จอมขมังเวท” เมืองเพชรบุรี
หลวงพ่อคง เทพเจ้าแห่งแก่งกระจาน เจ้าตำรับผ้าอาบน้ำโบกดับไฟป่าอย่างน่อัศจรรย์ !!!
ที่มา : ปิยพัชร์ อ่ำสำอางค์

พระครูถาวรวิริยคุณ หรือ หลวงพ่อคง ฐิตวิริโย ในสมัยที่ท่านยังอยู่ในวัยหนุ่ม อายุอานามอยู่ในวัย 40-50 ปี กล่าวว่าอยู่ในวัยฉกรรจ์ ร่างกายเข้มแข็งบึกบึน อีกทั้งด้วยอุปนิสัยที่เอาใจใส่ต่อหน้าที่การงานของตน เมื่อท่านได้รับการแต่งตั้งให้ได้รับตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดท่ากระเทียม อำเภอท่าย่าง จังหวัดเพชรบุรี ท่านก็ทำหน้าที่แทนเจ้าอาวาสได้เป็นอย่างดีในทุกๆ เรื่องจนชาวบ้านเองก็รักใคร่ให้ความศรัทธาท่านเป็นอย่างมาก ไม่ว่าด้านทางคณะสงฆ์หรือญาติโยม ท่านก็ได้ช่วยเหลือตลอดมา แต่ด้วยความที่ท่านชอบความสงบ และเป็นพระที่ชอบปลีกวิเวก ท่านจึงได้ครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาว่า...อยากจะออกธุดงค์ไปหาที่สงบๆ นั่งปฏิบัติภาวนา เจริญกรรมฐานเพื่อหาที่สุดแห่งทุกข์ให้จงได้ ซึ่งบรรดาญาติโยมและท่านเจ้าอาวาสเองก็รู้มาตลอดว่า...ท่านอยากออกธุดงค์
ญาติโยมก็พยายามขอร้องให้ท่านอยู่ที่วัดท่ากระเทียมนี่แหละ ไม่ต้องไปไหนหรอก เพราะกลัวว่าเมื่อท่านออกไปแล้วท่านจะไม่กลับมาอีก แต่ด้วยความตั้งใจที่เป็นทุนเดิมของ หลวงพ่อคง มีอยู่ก่อนแล้ว จึงได้ลาท่านเจ้าอาวาสออกธุดงค์ไปแสวงหาที่สงบจนได้
แม้ว่าท่านเจ้าอาวาสเองจะรู้สึกเสียดาย ใจนึกก็ไม่อยากให้ท่านไปเพราะทำให้ขาดพระผู้มีสติปัญญาที่สามารถช่วยเหลืองานของสงฆ์ได้เป็นอย่างดีไปอีกรูปหนึ่ง แต่ด้วยความตั้งใจอย่างแน่วแน่ของหลวงพ่อคง จำใจท่านเจ้าอาวาสจึงต้องอนุโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วย จึงได้อนุญาตให้ท่านออกธุดงค์ตามความประสงค์
หลังจากได้รับการอนุญาตบอกนิสัยอันเป็นข้อวัตรการอยู่ป่าอยู่ดงท่องไปในไพรเขาจนเป็นที่เข้าใจจากท่านเจ้าอาวาสในฐานะครูบาอาจารย์ผู้ปกครองแล้ว หลวงพ่อคงท่านจึงได้ออกเดินธุดงค์ทันที โดยมุ่งหน้าสู่ป่าแก่งกระจาน เพื่อออกไปสู่เส้นทางภูเขาตะนาวศรี ในท่ามกลางญาติโยมจำนวนมากที่ออกมาส่งท่านที่หน้าวัดท่ากระเทียมและร่วมอนุโมทนาบุญกับหลวงพ่อคงท่านด้วย
สมัยก่อนนั้นการเดินทางถือได้ว่าลำบากมากๆ ถนนหนทางมันไม่ได้สะดวกสบายเหมือนสมัยนี้เลย ส่วนมากเป็นเส้นทางเกวียนที่ผู้คนใช้สัญจรโดยใช้วัวเทียมเกวียนเดินเป็นทางลัดเลาะไปตามแนวป่าแทบทั้งนั้น อีกทั้งป่าละแวกนั้นก็ยังเต็มไปด้วยเสือและสัตว์ร้ายนานาพันธุ์อีกมากมาย ทั้งงูเห่าดง-งูจงอาง-หมีควาย-หมีป่าที่ดุร้ายมีมากมายในยุคนั้น
หลวงพ่อคง ท่านได้ออกเดินธุดงค์ไปด้วยจิตใจอันมุ่งมั่น จิตสงบถือจิตเมตตาเป็นที่ตั้งในการเดินทางครั้งนี้ถึงแม้จะต้องเจออุปสรรคมากมายทั้งไข้ป่า ไข้มาลาเรียที่ร้ายที่สุดในสมัยนั้นทำให้พระป่านักธุดงค์หลายรูปต้องป่วยไข้ถึงแก่มรณภาพไปท่ามกลาวป่าดง ไม่มีโอกาสสั่งลาพระอุปัชฌายาจารย์และญาติมิตรเป็นจำนวนไม่ใช่น้อยทีเดียว แม้แต่พรานไพรผู้เชี่ยวกับการท่องเที่ยวไปในพงไพรป่าเขาก็เถอะ หากแม้ประมาทพลั้งเผลอก็หมดโอกาสคืนกลับบ้านมาหาลูกเมีย ญาติพี่น้องได้เช่นกัน
แต่หลวงพ่อคง ท่านก็ไม่เคยเกรงกลัวกับสิ่งต่างๆ เหล่านี้ บางครั้งเดินทั้งวันยังไม่เจอบ้านผู้คนแม้แต่หลังเดียว อาหารบิณฑบาตก็ไม่มีให้ฉัน เพราะในสมัยก่อนโน้นเส้นทางสู่ป่าแก่งกระจานยังไม่มีผู้คนที่ขึ้นไปอยู่มากมายเหมือนปัจจุบันนี้
ผู้ที่ไปอยู่ส่วนมากจะพากันไปอยู่เป็นกลุ่มๆ ในหมู่ญาติพี่น้อง เป็นคนในครอบครัวที่ยากจนจริงๆ ไม่มีที่ทางทำมาหากินจึงได้ดิ้นรนไปอยู่กันและยังต้องต่อสู้กับไข่ป่า สัตว์ป่าจำนวนมาก ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าพวกเขาเหล่านั้นมีเป็นจำนวนมากเหมือนกันที่ขึ้นไปอยู่แล้วต้องล้มหายตายจากกันไปด้วยฤทธิ์ไข้ป่ามาลาเรีย
เมื่อเป็นดังนั้น วันไหนที่ท่านธุดงค์ไปแล้วไม่พบเจอหมู่บ้านผู้คนอาศัยอยู่ หลวงพ่อคงท่านก็จะพลีเด็ดยอมมะกอกป่า ออกมาหนึ่งกำมือและอธิษฐานเสกเพื่อขบเคี้ยวฉันใบยอดมะกอกอ่อนเป็นอาหารแทน
หลวงพ่อคง ท่านจะสังเกตดูว่าป่าที่ไหนสงบมากท่านก็จะแขวนกลดภาวนาอยู่ในที่นั้นนานหน่อย แต่ไม่นานไปกว่า 5 วัน 7 วัน เพราะหากอยู่นานไปกว่านั้นอาจทำให้จิตใจคุ้นเคยและติดกับสถานที่นั้นๆ ได้ อย่างเช่นครั้งหนึ่งท่านเดินทางมาถึงป่าแถวเขตวังไคร้ รู้สึกว่าสถานที่นี้น่าปลีกวิเวกมาก ท่านจึงได้ปักกลดอยู่ถึง 7 วัน 7 คืน แล้วก็ไม่ได้ออกบิณฑบาตที่ไหนเลย เพราะยังไม่มีผู้คนไปอยู่อาศัย จึงได้แต่เสกยอดอ่อนใบไม้วันละหนึ่งกำมือฉันเป็นยาเป็นอาหารพลางๆ ไปก่อน แต่ท่านก็อยู่ได้อย่างไม่มีความรู้สึกว่าหิวด้วย เพราะบารมีที่ท่านทำสมาธิกรรมฐานอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ใจสงบไม่วอกแวก
ดังนั้น ความร้อน ความหนาว ความหิว จึงไม่ได้มารบกวนจิตใจ ท่านจึงได้นั่งเสวยสุขอยู่เป็นเวลานานทีเดียว "เมตตาธรรม ทำให้พ้นภัย"
วันหนึ่งในขณะที่ท่านทำสมาธิกรรมฐาน นั่งภาวนาอยู่ในกลดกลางป่า ก็ได้ยินเสียงไก่ป่าวิ่งและบินขึ้นต้นไม้เปล่งเสียงร้องดังเหมือนเตือนภัยบอกพวกพ้องว่า...กำลังมีภัยมาเยือน แต่หลวงพ่อคง ท่านกลับนั่งนิ่งเฉยโดยภาวนากำหนดเป็นลมหายใจเข้าออก “พุทโธ”
ฉับพลันทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงดังเหมือนใบไม้กิ่งไม้แห่งกระทบกับอะไรใหญ่ๆ สักอย่างหนึ่ง เมื่อมันดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าหลวงพ่อคงทันที แต่ท่านก็ยังนิ่งเฉยไม่ได้นึกรู้สึกกลัวอะไร แต่พอท่านลืมตาขึ้นมาดู...
โอ๊ะ! เบื้องหน้าของท่านคือ งูจงอางขนาดใหญ่ ลำตัวของมันยาวมาก มันมากังถึง 4 ตัวด้วยกัน พากันมาแผ่แม่เบี้ยขึ้นสูงท่วมหัวทีเดียว!!! (คนสมัยก่อนเขาบอกว่า ลักษณะนี้เป็นงูที่เลื้อยจับคู่กันมา ภาษาคนเพชรบูรี เรียกว่า “งูตำเชิง” ตอนนั้นถ้าใครเจอต้องรีบเผ่นหนีไวที่สุด หนีให้สุดชีวิตกันไปเลย เพราะงูพวกนี้จะดุมากกว่าเดิมหลายเท่า คนเฒ่าคนแก่เคยบอกไว้อย่างนั้น) เมื่อหลวงพ่อคงท่านเห็นเช่นนั้น ท่านก็หลับตาภาวนาต่อ...
กรรมอันใดถ้าข้าพเจ้าเคยมีกับเจ้า ข้าพเจ้าขอชดใช้ในชาตินี้ แต่ถ้าไม่เคยมีกรรมซึ่งกันและกันแล้ว ขออย่ามีเวรต่อกันและกันเลย “สัพเพสัตตา” สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดสิ้น “อเวราโหนตุ” จงเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย ถ้าเป็นทุกข์ ขอให้พ้นทุกข์ ถ้ามีสุข ขอให้ท่านจงสุขยิ่งๆ ขึ้นไป
หลวงพ่อคง ท่านนั่งภาวนาอยู่อย่างนั้นด้วยจิตที่แผ่เมตตา จากนั้นไม่นาน งูจงอางทั้ง 4 ตัวก็ลดหัวลงมาถึงพื้นดิน แล้วก็เลื้อยหนีเข้าป่าไปไม่มารบกวนท่านอีกเลย
ส่วนหลวงพ่อคง ท่านเองก็ยังไม่เลิกละในการเจริญภาวนาในที่นั้น ท่านยังคงนั่งภาวนาอย่างสงบระงับไปเรื่อยๆ จนถึงเที่ยงคืนเห็นจะได้ ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีก มีเสียงดังร้องโฮกๆๆ หลายเสียงด้วยกัน ท่านจึงได้ลืมตาขึ้นดู อาศัยแสงจันทร์ส่องสว่างลอดต้นไม้ลงมา จึงมองเห็นว่านั่นคือ เสือโคร่งขนาดใหญ่หลายตัวที่เดินวนเวียนไปมาอยู่รอบๆ กลดที่ท่านนั่งอยู่
เสือโคร่งร้ายเหล่านั้น อยู่ห่างจากท่านสัก 3-4 เมตรเห็นจะได้ ดูแล้วเหมือนว่าพวกมันกำลังคิดว่าเจออาหารอันโอชะของมันเข้าแล้ว...
ผ่านจากฝูงงูจงอางมาเจอฝูงเสือโคร่งที่สามารถสร้างความสยดสยองสะพรึงกลัวได้ไม่แพ้กัน แต่หลวงพ่อคงยังมีสติไม่ได้ตกอกตกใจอะไร นึกอยู่เสมอว่าเกิดมาแล้วไม่ตายในวันนี้วันหน้าก็ต้องตายอยู่ดี แต่ถ้าจะตายในวันนี้แล้ว เนื้อหนังมังสาของเราขอมอบให้เป็นอาหารเสือที่หิวโหยได้ก็ยินดีมอบให้เป็นบุญกุศลต่อฝูงหมู่สัตว์ที่หิวโหยทั้งหลาย ท่านจึงได้อธิษฐานบารมีแผ่จิตออกไปว่า
ถ้าบารมีเรายังมีอยู่พอที่จะเป็นผู้หนึ่งที่ช่วยนำพาเผยแผ่ในบวรพระพุทธศาสนาได้อีกก็ขอให้พ้นภัยร้ายไปได้ในคืนนี้
จากนั้นท่านก็หลับตาภาวนาพระคาถาแผ่เมตตาให้กับเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงที่กำลังห้อมล้อมท่านอยู่ ด้วยความเมตตาและจิตใจสงบมีเมตตาธรรมค้ำจุนโลกศัตรูย่อมพ่ายแพ้ต่อผู้ที่มีจิตเป็นเมตตาโดยไม่คิดประทุษร้ายผู้อื่น
สักพักนึงเสียงร้องดังขู่คำรามของเสือโคร่งก็ค่อยๆ เงียบหายไป ได้ยินแต่เสียงจิ้งหรีดจักจั่นเรไรร้องดังระงมไปทั่วป่า ตอนนี้อากาศตอนเช้ามือเริ่มหนาวเย็นยะเยือก แต่หลวงพ่อคงท่านก็ยังนั่งภาวนาเจริญกรรมฐานอยู่อย่างสงบ
_____________________________________

เหรียญหลวงปู่คง วัดเขากลิ้ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
เนื้อทองฝาบาตร เหลืองอร่าม สวยงาม
ลายช้างถวายดอกบัวจะอยู่ด้วยหน้าครับ ต่างกับลายไข่ปลาช้างถวายดอกบัวจะอยู่ด้านหลัง

เงื่อนไขการรับประกัน - รับประกันแท้ตลอดชีพ !!! และตามกฎของเวบครับ
เงื่อนไขการส่งพัสดุ - ราคารวมค่าขนส่งแล้วครับ ไม่บวกเพิ่ม
- สั่งซื้อวัตถุมงคล รวมทุกรายการไม่เกิน 500 บาท ส่งพัสดุลงทะเบียน
- สั่งซื้อวัตถุมงคล รวมทุกรายการเกิน 500 บาท ส่งพัสดุ EMS
ราคาเปิดประมูล600 บาท
ราคาปัจจุบัน600 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูลอ. - 04 เม.ย. 2560 - 22:25.28
วันปิดประมูล จ. - 24 เม.ย. 2560 - 22:25.28 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 600 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ50 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
ยังไม่มีผู้ประมูล
กำลังโหลด...
Top