เหรียญธรรมสภา หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน ปี2538 เนื้อทองแดง บล็อก"เนือง" - webpra

ประมูล หมวด:หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก - หลวงปู่ดู่ วัดสะแก – หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน

เหรียญธรรมสภา หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน ปี2538 เนื้อทองแดง บล็อก"เนือง"

เหรียญธรรมสภา หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน ปี2538 เนื้อทองแดง บล็อก"เนือง" เหรียญธรรมสภา หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน ปี2538 เนื้อทองแดง บล็อก"เนือง" เหรียญธรรมสภา หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน ปี2538 เนื้อทองแดง บล็อก"เนือง"
รายละเอียด
ชื่อพระเครื่อง เหรียญธรรมสภา หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน ปี2538 เนื้อทองแดง บล็อก"เนือง"
รายละเอียดเหรียญธรรมสภา หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน ปี2538 เนื้อทองแดง บล็อก"เนือง"

เหรียญธรรมสภา เป็นเหรียญยอดนิยมในหมู่ลูกศิษย์ที่ต่างต้องการมีไว้ครอบครองและบูชา เนื่องจากมีประสบการณ์มาก

หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน อยุธยา ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ลูกศิษย์ลูกหามากมาย เมื่อท่านละสังขาร ร่างกายจึงไม่เน่าเปื่อย เป็นที่เคารพเสื่อมใสของชาวบ้าน และประชาชนทั่วไป และที่สำคัญคือ หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เคยจับพลังงานเหรียญรุ่นนี้ ถึงกับบอกศิษย์ว่า สมัยนี้ยังมีพระที่เสกของได้แรงขนาดนี้อยู่มีอีกหรือ และยังได้ให้ศิษย์ที่เป็น ฤาษีชื่อสมชาย มาเก็บเหรียญรุ่นนี้ไปเป็นจำนวนมาก และเป็นเหรียญที่ออกแบบได้สวยงามมาก (ช่างแกะเหรียญคนเดียวกันกับเหรียญเปิดโลก ลป.ดู่ วัดสะแก ครับ) อนาคตดีแน่นอน
อีกครั้ง ที่ หลวงปู่ดู่ วัดสะแกได้ปรารภกับศิษย์ใกล้ชิดไว้แต่สมัยที่ยังทรงสังขารอยู่ทีเดียวว่า
"ในอยุธยานี้ ยังมีพระอรหันต์อยู่อีกองค์หนึ่ง แต่ท่านปิดตัวเองน๊ะ..!!?!"
"ใครกันขอรับ หลวงพ่อ..??"ศิษย์ผู้นั้นกราบเรียนถาม
"ก็หลวงพี่ชื้น วัดญาณเสนนะซิ......."
หมายเหตุ , เกี่ยวกับกรณีนี้ คุณสุธันย์ สุนทรเสวี นักสร้างพระมือทองแห่งสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งเคยสร้างพระถวายให้หลวงปู่ดู่เสกหลายรุ่นก็ได้เคยเล่าให้"พุทธวงศ์"ฟังว่า ในสมัยก่อน(ราวปี 20 กว่าๆ) แม้พระเถรานุเถระในอยุธยายุคนั้นจะมีมากมายเพียงไร แต่หลวงปู่ดู่จะกล่าวถึงแต่หลวงปู่ชื้นให้ได้ยินบ่อยที่สุด โดยหลวงปู่ดู่จะย้ำยกย่องหลวงปู่ชื้นอยู่หลายวาระทีเดียวว่า
"ท่านเป็นพระดีน๊ะฯ"
หลวงปู่ผู้สำเร็จวิชารัตนจักร...
“หลวงปู่ชื้น พุทธสโร” พระผู้กล้าแห่งกรุงศรีอยุธยา อดีตเจ้าอาวาสวัดญาณเสน เจ้าตำรับเคล็ดวิชา “รัตนจักร”อันลือลั่น ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์ วิชาอาคม แพทย์แผนโบราณ โดยนำความรู้ทุกแขนงมาช่วยปัดเป่าทุกข์ให้ชาวเมืองกรุงเก่า จนเป็นที่เคารพเลื่อมใสในความมีเมตตาธรรมอันสูงส่ง นอกจากนี้ ยังมีวัตถุมงคลขลังที่มากด้วยประสบการณ์ ด้านเมตตา แคล้วคลาด
พื้นเพของท่านเป็นชาวหมู่บ้านไผ่ต่ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี มีนามเดิมว่า “ชื้น” เกิดเมื่อวันพุธ เดือน 4 ปีมะแม ตรงกับวันที่ 18 มี.ค. 2450 ในตระกูลของนายจัน กับนางหงิม สกุล “ยอดฉิม” ซึ่งประกอบอาชีพเป็นเกษตรกร เบื้องต้นได้ศึกษาเล่าเรียนที่ วัดเกาะลอย ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน จากนั้นเมื่ออายุได้ 15 ปีก็บรรพชาเป็นสามเณร จนถึงอายุ 18 ปีก็ลาสิกขาออกมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนาอยู่ประมาณ 3 ปี
ก่อนจะเข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดเกาะลอย ในวันที่ 14 พ.ค. 2470 โดยมีหลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ จ.สระบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการมาด วัดหนองแคเก่า เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการทองดี วัดเกะลอย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พุทธสโร”
ท่านขยันหมั่นเพียรในการเรียนพระปริยัติธรรม จนกระทั่งพรรษาที่ 3 จึงสอบได้นักธรรมตรี ก่อนที่จะตัดสินใจเลิกเรียนทางด้านนี้ เบนเข็มไปหาความรู้ทางด้านไสยเวทย์วิทยาคมจากครูบาอาจารย์ที่วัดเกาะลอย ซึ่งมีทั้งไสยเวทย์ และแพทย์แผนโบราณ เมื่อมีความรู้พอรักษาตนเองได้ จึงออกธุดงค์บำเพ็ญเพียรเสาะหาพระเกจิอาจารย์เพื่อร่ำเรียนวิชาอาคมอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มออกเดินทางจากสระบุรี เรื่อยมาจนถึงพระนครศรีอยุธยา และมาหยุดอยู่ที่วัดญาณเสน
ณ อารามแห่งนี้ ท่านได้ศึกษาไสยศาสตร์ วิชาแพทย์แผนโบราณ โหราศาสตร์ และเล่นแร่แปรธาตุกับพระอาจารย์สาย หรือขุนโจรย่ามแดงในอดีต และอยู่จำพรรษาตั้งแต่นั้นมา โดยพึงพอใจกับการใช้วิชาความรู้สงเคราะห์ญาติโยมที่มาให้ท่านปัดเป่า บรรเทาความเดือดร้อนอยู่หลายปีด้วยกัน ต่อมา พระอาจารย์สายได้ลาสิกขาออกไป ทำให้หลวงปู่ชื้นต้องอยู่ลำพังต้อนรับญาติโยมที่นับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น กระทั่งเริ่มเบื่อหน่ายในวิชาไสยศาสตร์และคาถาอาคม
ช่วงนั้นร่างกายและจิตใจของท่านเกิดความร้อนรุ่ม ประกอบกับมีข่าวเกี่ยวกับพระภิกษุรูปหนึ่งมาปักกลดอยู่หน้าวัดกุฏิทอง และมีญาติโยมไปขึ้นเยอะ ปฏิปทาของพระอาจารย์รูปนั้น เป็นที่โจษขานกันมาก โดยวันพระท่านจะไม่พูดกับใครเลย และไม่ฉันด้วย ส่วนวันธรรมดาก็จะพูดน้อยมาก อัฐบริขารมีเพียงกลด จีวร และรองเท้าเก่าๆ ส่วนในย่ามก็มีเพียงกะลาสำหรับเป็นภาชนะใส่ข้าวและช้อนกะลาเท่านั้น
พระอาจารย์รูปนั้นคือ พระอาจารย์เสน เตชะธัมโม ธุดงค์มาจาก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา หลวงปู่ชื้นจึงไม่รีรอที่จะเข้าไปใกล้ชิด เพื่อสัมผัสพิสูจน์ตามคำโจษขานนั้น และได้รับคำทักท้วงว่า “ท่านเดินผิดทางแล้ว”
พระอาจารย์เสนย้ำอยู่อย่างนี้หลายครั้งหลายหน จนท่านต้องนำคำพูดนั้นมาทบทวน และค่อยใช้สติ สมาธิพิจารณาความหมาย กระทั่งพบข้อเท็จจริงแห่งสัจธรรม ต่อมาทั้งสองท่าน ก็ปวารณาตนเป็นศิษย์-อาจารย์ ทบทวนศีลและพระธรรมวินัยต่างๆ โดยหลวงปู่ชื้นได้นำตำราด้านไสยศาสตร์ วิชาอาคมต่างๆที่ได้เล่าเรียนมาแต่ต้นเผาทิ้งจนหมดสิ้น และได้ร่วมปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดกับพระอาจารย์เสน พร้อมกับนิมนต์มาอยู่จำพรรษาด้วยกันที่วัดญาณเสน
จากปฏิปทาที่เปลี่ยนแปลงไปของท่าน จึงมีเสียงครหาไปในทางไม่สู้ดี แต่ท่านก็ไม่สนใจ ยังคงมุ่งปฏิบัติต่อไปจนถึงขั้นอุกฤษณ์ใต้ต้นโพธิ์ข้างโบสถ์เป็นเวลา 1 เดือน ด้วยการนั่งสมาธิตลอดเวลา ยกเว้นเวลาฉัน ปัสสาวะ อุจจาระเท่านั้น เพียง 24 วันจากการเริ่มต้นปฏิบัติ ท่านก็สำเร็จสุดยอดวิชา “รัตนจักร”
พร้อมกันนั้น ก็ถูกร้องเรียนให้คณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยาพิจารณาปฏิปทาเพี้ยนๆ เป็นต้นว่า ชอบอยู่อย่างสมถะ สันโดษ ข้าวของที่ญาติโยมนำมาถวาย ใครจะหยิบฉวยเอาไป ก็ไม่ว่ากล่าวห้ามปราม หมู หมา ไก่ นก ฯลฯ จะมาอยู่ภายในวัดและสร้างความสกปรกอย่างไร ท่านก็วางเฉยไม่ดำเนินการใดๆ จึงมีคำสั่งปลดท่านออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส
หลวงปู่ชื้นมิได้อนาทรร้อนใจแต่อย่างใด เพียงแต่ขอทางคณะสงฆ์ว่า การแต่งตั้งเจ้าอาวาสแทนท่านนั้น ขอให้พิจารณาและแต่งตั้งพระจากวัดญาณเสนเท่านั้น ทว่า ในความรู้สึกของชาวบ้านและญาติโยมที่เข้าใจและรู้ซึ้ง ก็ยังคงเคารพนับถือในหลวงปู่ชื้น และศรัทธาในความเข้มขลังจากวัตถุมงคลที่ท่านได้อธิษฐานจิตด้วยการอัญเชิญพระรัตนจักรสู่วัตถุมงคลนั้นๆ จนกระทั่งวาระสุดท้ายในชีวิตท่าน เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 46 สิริอายุได้ 97 ปี
ราคาเปิดประมูล900 บาท
ราคาปัจจุบัน900 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูลอา. - 25 มิ.ย. 2560 - 18:09.08
วันปิดประมูล ส. - 15 ก.ค. 2560 - 18:09.08 ปิดประมูล
ผู้ตั้งประมูล
nulee (24) 1.46.201.64
แชร์หน้านี้
รายละเอียดราคาประมูล
ราคาปัจจุบัน 900 บาท (ยังไม่ถึงราคาขั้นต่ำ)
เพิ่มครั้งละ100 บาท
การประมูลพระเครื่องนี้ ถูกปิดโดยระบบแล้ว
เคาะประมูล
กรุณาทำการ เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการประมูลใดๆ
รายละเอียดผู้เสนอราคา
ผู้เสนอราคา ราคา เวลา
ยังไม่มีผู้ประมูล
กำลังโหลด...
Top