หัวข้อ: สอบถามผู้รู้ครับว่าพระแท้หรือไม่ครับ สมเด็จวัดระฆังแตกลายงาพิมพ์อกวี
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ
ถ้าไม่แท้พอรู้ที่มะครับ ขอบคุณ
d mai kub
D mai kub
เก๊ มาแต่ไกลเลยครับ
ถาพน่าจะใหญ่กว่านี้อีกนิดน๊ะครับ หรือถ่ายใกล้ๆหน่อยครับ .....
เพิ่มเติมรูปครับ
สวัสดียามค่ำครับ พี่เจ้าของกระทู้ .....
ตามแนวทางและความคิดของผม พระสมเด็จวัดระฆังฯ จะตัดสินที่รูปภาพไม่ได้ ว่าแท้หรือเก๊ครับ .....
เพราะการดูพระสมเด็จจำเป็นต้องดูองค์ประกอบโดยรวม ของพระองค์นั้นๆครับ .....
ก็เอาเป็นว่า ตามภาพละกันเน๊าะ คือถ้าดูตามเนื้อผ้าพระสมเด็จวัดระฆังฯองค์นี้ ถ้าไม่แท้ก็ต้องบอกว่า " เก๊ " เพราะดูจากลักษณะ และปัจจัยต่างๆขององค์พระแล้ว ไม่น่าจะตีเป็นที่อื่นได้ ...
ถ้าดูที่พิมพ์ องค์นี้สากลไม่นิยมครับ " แต่นักสะสมรุ่นเก่าบอกไว้ว่า พิมพ์มีไว้เรียกว่าองค์นี้พิมพ์อะไร เนื้อสำคัญที่สุด พิมพ์ผิดเพี้ยนได้ไม่ถือเป็นข้อยุติ เพราะคนแกะพิมพ์ไม่ได้มีแค่คนเดียว " เพราะผมคิดว่าพิมพ์ไม่เป็นปัญหาครับ ....
ต่อมาก็คือเนื้อหา จากที่ผมดูการแตกลายของพระก็ดูเป็นธรรมชาติดีครับ นักสะสมรุ่นเก่าบอกไว้ว่า การผสมมวลสารพระไม่มีความแน่นอน แล้วแต่จะหยิบได้มากได้น้อยไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นมวลสารบางอย่างไม่มี ก็ไม่ถือเป็นข้อยุติ...
รอยย่นของเนื้อก็มีให้เห็น ด้านข้างดูแห้งและหดตัวอย่างเป็นธรรมชาติ ขาดแต่ด้านหลังครับเพราะ " ผมมองไม่ชัด " ..... อิ อิ
พระแตกลายที่เกิดจากการบังคับให้แห้ง หรือ " พระอบ " ลองคิดตามหลักความเป็นจริง คือ ถ้าอบค้วยความร้อนสูงลายงานั้นจะอ้าออกเกินจริง ด้านข้างก็จะอ้าออกเกินจริง องค์พระจะแลดูแห้งเกินไป ส่องแล้วไม่นุ่มตา แต่หากใช้ความร้อนที่ต่ำ ค่อยๆอบ การอ้าก็จะดูเป็นธรรมชาติขึ้นมาหน่อย พระจะไม่แห้งจนเกินไป เวลาส่องจะนุ่มตาขึ้น ......
แต่ว่าถ้าพระ ที่เกิดจากการทำทั้งสองแบบนี้ ลองสังเกตที่เนื้อพระจะแห้งเท่าๆกันทั้งหมดทั่วทั้งองค์ ทั้งหน้าและหลังทั้งจุดสูง และจุดที่ต่ำ และสีพระก็จะแลดูชืดๆ ....
เพราะโดยปกติ ตามธรรมชาติของพระสมเด็จฯ จุดสูงกับจุดที่ต่ำจะแห้งไม่เท่ากัน จุดสูงคือเส้นซุ้มและองค์พระ ฐานพระ จุดต่ำก็คือพื้นผิว และซอกต่างๆขององค์พระ จุดสูงจะถูกสัมผัสบ่อยจะฉ่ำแลดูนุ่มตา จุดต่ำไม่ถูกสัมผัสจะแห้ง แต่ก็ดูนุ่มตาครับ ....
สรุปก็คือ ผมคิดว่าพระสมเด็จฯ องค์นี้น่าเก็บครับ แม้ว่า " สากล " เขาจะไม่นิยมก็ตามครับ ...... อิ อิ
ความคิดเห็นของผมไม่ถือเป็นข้อยุติน๊ะครับ เป็นเพียงแค่การเสนอแนะแนวทาง เหตและผลส่วนตัวในการศึกษาและสะสม และหวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้าง ไม่มากก็น้อยสำหรับเพื่อนๆและพี่ๆ ในการค้นหาความจริงกันต่อไปครับ .....
ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับ ......
ขอบคุณมากๆ ครับ คุณน้องแปดริ้วพระเครื่อง สำหรับข้อมูลดีๆ ที่เป็นประโยชน์ จะได้จดจำไว้ศึกษาต่อไปครับ
ด้านหลังครับ
ด้านหลังครับ
สวัสดียามบ่ายครับ พี่เจ้าของกระทู้ .....
ต่อจากเมื่อวานนี้น๊ะครับ เมื่อวานนี้ผมนำเสนอเกี่ยวกับ " องค์ประกอบโดยรวมขององค์พระ " และได้พูดเรื่อง " พิมพ์ " และ " เนื้อหามวลสาร " .....
วันนี้จะขอนำเสนอเกี่ยวกับองค์ประกอบอีกอย่าง ซึ่งจะว่าไปผมก็ว่าน่าจะมีส่วนสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้ามในการพิจารณาพระสมเด็จฯ ครับ ....
นั่นคือ " กลิ่น " ลองคิดตามหลักความเป็นจริงน๊ะครับ พระสมเด็จฯนั้นสร้างขึ้นมาก็ ร้อยกว่าปีเข้าไปแล้ว กลิ่นหอมของพระจะหลงเหลืออยู่มั้ย หรือจะเหลือแค่กลิ่นหืน .....
เริ่มแรกพระสมเด็จที่สร้างขึ้นมาใหม่ ย่อมมีกลิ่นที่หอม เช่น หอมกลิ่นน้ำมันตังอิ้ว กลิ่นปูน หรือเรียกง่ายๆว่า " กลิ่นพระใหม่ " นั่นเองครับ ......
แต่เมื่อเวลาผ่านมาร้อยกว่าปี กลิ่นเหล่านั้นก็ย่อมเจือจาง และจางหายไปตามกาลเวลา ยกตัวย่างน๊ะครับ ไม้เก่า กับไม้ใหม่ กลิ่นไม่เหมือนกันครับ ลองดู ..... อิ อิ
และถ้า พระเก่ามี " กลิ่นหอม " เหมือนพระใหม่ล่ะ น่าคิดมั้ยละครับ ..... ลองคิตามหลักความจริงดู ผมว่าไม่น่าจะเป็นไปได้เลย .......
แต่ก็จะมีคำถามตามมาว่า " ถ้าวางรวมกับพระใหม่ละ กลิ่นจะติดมั้ย " คำตอบ คือ ไม่ติดแน่นอน เพราะพระสมเด็จฯแห้งได้ที่แล้ว ยากที่จะมีสิ่งใดเข้าไปเจือปนครับ หรือต่อให้มีกลิ่นติดก็ไม่ยากครับ นำมาวางที่่ที่มีอากาศถ่ายเทดีๆ วางเดี่ยวไปเลย วางทิ้งไวไม่นานกลิ่นเหล่านั้นก็จะหายไปครับ ....
อย่างไรก็ตาม ความคิดเห็นของผมนี้ไม่ถือเป็นข้อยุติ ว่าพระองค์นั้นๆแท้หรือเก๊ เป็นแต่เพียงการนำเสนอในแง่มุมของผม ที่อาจจะมีประโยชน์ในการศึกษาและสะสมบ้างไม่มากก็น้อยครับ
ถ้าพี่เห็นว่า การนำเสนอของผมมีเหตผลอยู่บนหลักของความจริง ก็ลองนำไปพิจารณาพระสมเด็จองค์นี้ดูน๊ะครับ ......
ถ้าถามผม ดูตามภาพแล้วผมว่าน่าเก็บ แต่ก็อย่างที่ผมบอก รูปภาพไม่สามารถชี้ขาดได้ครับ ต้องดูองค์ประกอบของพระทั้งหมด แต่อย่าถึงขนาดหักพระดูน๊ะครับ ...... อิ อิ
สุดท้าย " อย่าเชื่อผมมากน๊ะครับ " พระสมเด็จฯ ในร้านผมยังโดนตีเก๊เลยครับ ...... ก็อย่างว่าครับ " สากล " เขาไม่นิยม .... อิ อิ
ลองสังเกตพระสมเด็จฯ สององค์นี้ดู " ความเหมือนที่แตกต่าง " เป็นพระของผมทั้งคู่ องค์ที่มีชื่อร้านเป็นพระ " แท้ " ส่วนอีกองค์เป็นของ " ก๊อป " ครับ .....
ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยด้วยครับ ........ รัช แปดริ้วพระเครื่อง .....
