
หัวข้อ: ประวัติ หลวงปู่หนู กนฺตสีโล วัดป่าศิริวัฒนา จ.อุดรธานี
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ
วัตถุมงคลรุ่นแรก หลวงปู่หนู กนฺตสีโล วัดป่าศิริวัฒนา จ.อุดรธานี
พระครูสันติธรรมญาณ เจ้าอาวาสวัดป่าศิริวัฒนา เจ้าคณะอำเภอหนองหาน-กู่แก้ว ตำบลคอนสาย อำเภอกู่แก้ว จังหวัดอุดรธานี หรือในนามที่ชาวบ้านโนนถั่วดินเรียกท่านว่า "หลวงปู่หนู"
นามเดิมชื่อ หนูจันทร์ รัตนขันแสง เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๗๕ ตรงกับวันขึ้น๑๕ค่ำ เดือน๙ ปีวอก ที่บ้านดอนกอก ตำบลบ้านจีต อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี โยมบิดามารดาชื่อ นายสิงห์-นางสิม รัตนขันแสง เรียนหนังสือจบชั้นป.๔ ที่โรงเรียนบ้านโนนถั่วดิน ต.คอนสาย อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี
ชีวิตสมณะของท่าน เริ่มต้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๘ อายุได้๑๓ปี บรรพชาเป็นสามเณรหนูจันทร์ ที่วัดโพธิ์ศรีบ้านจีต ต.บ้านจีต อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยมีหลวงปู่บุญมี เป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นพระอาจารย์องค์แรกของท่าน หลวงปู่บุญมี ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ในท้องถิ่นที่มีญาติโยมรู้จักกันดีในบุญบารมีของท่าน เวลาที่ชาวบ้านจะเดินไปไหน ไปทำธุระหรือติดต่อค้าขายก็จะไปให้หลวงปู่บุญมี ท่านรดน้ำมนต์ให้พร้อมทั้งขอพรจากท่าน ตลอดจนขอวัตถุมงคลของท่านมาบูชาติดตัวเสมอ สามเณรหนูจันทร์ ได้ศึกษาเล่าเรียนปริยัติธรรมจนจบ น.ธ.ตรี-โท-เอก ที่สำนักเรียนวัดโพธิ์ศรีบ้านจีตโดยมีพระอาจารย์มหาวันดี และพระอาจารย์สม เป็นครูสอน ตลอดจนได้ร่ำเรียนศึกษาวิชาจากพระอาจารย์หลวงปู่บุญมี เป็นเวลาอยู่๗ปี โยมบิดามารดาให้ลาสิกขามาช่วยทำมาหากิน สามเณรหนูจันทร์จึงขอลาสิกขาออกมาทำงานช่วยพ่อและแม่ตามประเพณี
จนกระทั่งในวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๑ ได้โกนหัวเข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่พัทธสีมาวัดอัมพวัน บ้านม่วง ต.คอนสาย อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี โดยมีพระครูประภัสสรศีลคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูสมุห์บุณนาค อุตฺตโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูอธิการบุญฤทธิ์ สุเมโธ เป็นพระอนุศาวนาจารย์
หลังครองผ้ากาสาวพัสตร์ หลวงปู่หนู ท่านได้มุ่งมั่น ค้นคว้า ศึกษา ในเรื่องปฏิบัติธรรมและได้บังเกิดศรัทธาในปฏิปทาของ พระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต จึงได้มุ่งมั่นศึกษาหาวิชาความรู้ในด้านปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานจากครูบาอาจารย์หลายท่านเช่น พระอาจารย์ฝั้ น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร, หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ากลองเพล จ.อุดรธานี, หลวงปู่ศรี อุจฺจโย ผู้สร้างวัดป่าศิริวัฒนา, และหลวงปู่อ่อน ญาณศิริ วัดนิโคธาราม บ้านหนองบัวบาน จ.อุดรธานี
หลวงปู่หนู ท่านเป็นพระผู้ที่เปี่ยมล้นด้วยความเมตตา ส่งเสริมพระพุทธศาสนา และการศึกษาพระปริยัติธรรม นักธรรมชั้นเอก ญาติโยมที่ไปพบ ไปขอให้ท่านช่วยแผ่เมตตาให้เมื่อยามมีปัญหา หลวงปู่หนู ท่านก็ไม่เคยขัดข้อง ทำให้โดยไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ทำให้ชื่อเสียงของท่านเป็นที่เคารพนับถือและศรัทธาในหมู่ลูกศิษย์ทุกระดับชั้น ตั้งแต่ชาวบ้าน ไปจนถึงข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และนักการเมืองท้องถิ่น
หลวงปู่หนู ท่านเป็นพระที่เรียบง่าย สมถะ ถือสันโดษ ไม่ชอบวุ่นวาย ชอบที่จะถ่อมตนอยู่เสมอ ใครที่ได้ไปกราบท่านจะรู้สึกถึงความเป็นเนื้อนาบุญแท้และบริสุทธิ์ของท่านได้ทันที ท่านมักจะกล่าวและเปรียบตัวท่านเองเสมอเหมือนตอใต้น้ำ มาระยะหลัง ชื่อเสียง เกียรติคุณและบารมีของท่านเริ่มโด่งดังและเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
หลวงปู่หนู ท่านมุ่งมั่น ศึกษาวิทยาคม ด้านการปฏิบัติด้วยการออกเดินธุดงค์ไปตามพื้นที่ป่าเขาลำเนาไพร ฝึกฝนวิชาวิทยาคมจากพระอาจารย์ชาวเขมร เอาไว้ป้องกันภยันตรายนานัปการ หลวงปู่หนู ท่านเป็นพระผู้คงแก่เรียนศึกษาปฏิบัติและรอบรู้ในสรรพวิชามากมายหลายแขนงรูปหนึ่งของภาคอีสาน
เครื่องรางของขลังที่ท่านปลุกเสก มีพุทธคุณโดดเด่นในหลายด้าน ซึ่งล้วนแล้วแต่มีอานุภาพพร้อมประสบการณ์อันเป็นที่ประจักษ์ต่อผู้ที่มีไว้บูชามาแล้วอย่างโชกโชนหลายเหตุการณ์ โดยเฉพาะ รกแมว มหาลาภ พุทธคุณเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี ค้าขายได้ผล กำไรดี ติดต่อเจรจาสัมฤทธิ์ผล ถั่วลิสงทองเหลือง พุทธคุณในด้านพกพาติดตัวเดินทาง แคล้วคลาดปลอดภัย และ น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เจ็บไข้ได้ป่วย รดน้ำมนต์ท่าน เป็นกำลังใจ หายได้ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ในปัจจุบันเป็นของขลังที่เป็นที่นิยมในหมู่ลูกศิษย์และได้รับความต้องการจากประชาชนชาวอีสานเป็นอย่างมาก
หลวงปู่หนู ท่านเป็นคนมักน้อย สันโดษ ไม่ชอบโอ้อวด ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง น้อยมากที่ท่านจะจัดทำวัตถุมงคลออกมาและไม่ให้ใครจัดทำได้ง่ายๆ ไม่เคยจัดสร้างวัตถุมงคลในรูปท่านเลยแม้ชิ้นเดียว แต่ในเรื่องงานพิธีพุทธาภิเษก หลวงปู่หนู ท่านไม่เคยปฎิเสธ ท่านจะรับนิมนต์นั่งปรกอธิษฐานจิตในทุกงาน ประสบการณ์ในการร่วมปลุกเสกพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่สำคัญๆต่างๆ อาทิเช่น พิธีพุทธาภิเษก พระกริ่งจักรพรรธิ์ วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ, พิธีพุทธาภิเษก พระพุทธชินราช หมื่นยันต์ วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ, พิธีพุทธาภิเษกเหรียญ อันเชิญพระพุทธโสธร ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และหลายพิธีพุทธาภิเษกสำคัญๆต่างๆอีกมากมาย ในวันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๙ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้วัดป่าศิริวัฒนา ตำบลคอนสาย อำเภอกู่แก้ว จังหวัดอุดรธานี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ตามเขตที่กำหนดไว้ สร้างความปลื้มปิติยินดีกับชาวบ้านโนนถั่วดินเป็นอย่างมาก และในเวลานี้ ทางวัดป่าศิริวัฒนา ได้ทำการก่อสร้างพระอุโบสถดังกล่าวเสร็จไปด้วยดี แต่ยังขาดจตุปัจจัยในการดำเนินการก่อสร้างเพิ่มเติมอีกเป็นจำนวนมาก
หลวงปู่หนู ท่านจึงได้อนุญาตให้จัดสร้างวัตถุมงคลในนามท่านเป็นครั้งแรก โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างในครั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมทำบุญนำปัจจัยรายได้มาปรับปรุงเสนาสนะบริเวรภายในวัด และร่วมสมทบทุนจัดงานพิธีฉลองโบสถ์พระราชทาน ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า
ใครที่อยากมีวัตถุมงคลรุ่นแรกของ หลวงปู่หนู ชุดนี้ไว้ในครอบครองคงต้องรีบกันหน่อยเพราะ ของดีๆ มีน้อย อนาคตหายาก เพราะว่าเป็นวัตถุมงคลที่ท่านอนุญาตให้จัดสร้างเป็นครั้งแรก กลายเป็นวัตถุมงคลอันล้ำค่าที่ใคร ๆ ก็อยากได้บูชาเป็นเจ้าของ แต่ถ้าไม่มีบุญวาสนาก็คงหมดสิทธิ์ ที่สำคัญรุ่นนี้หมดแล้วหมดเลย ไม่มีทำเสริม ในภายหลัง งานนี้ได้ทั้งร่วมกันสร้างบุญบารมีครั้งยิ่งใหญ่ ได้ทั้งของดี ... ปลุกเสก2วาระ ฤกษ์วันขึ้น ฤกษ์ดี กระทิงวัน ปีขาล ... สุดยอด เข้มขลัง พลังพุทธคุณ เปี่ยมล้นอย่างแน่นอน


คมชัดลึก พระเครื่อง
ชั่วโมงเซียน-เฑาะว์ฬ่อ-เฑาะว์รันโตกับ...ยันต์หลังเหรียญ"หลวงปู่หนู กนฺตสีโล"
คมชัดลึก : พระครูสันติธรรมญาณ หรือ หลวงปู่หนูจันทร์ กนฺตสีโล เจ้าอาวาสวัดป่าศิริวัฒนา เจ้าคณะอำเภอหนองหาน-กู่แก้ว ต.คอนสาย อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี หรือในนามที่ชาวบ้านโนนถั่วดินเรียกท่านว่า หลวงปู่หนู แม้ว่าท่านจะรับนิมนต์นั่งปรกอธิษฐานจิตวัตถุมงคลในทุกงาน แต่ในการจัดทำท่านจะจัดทำวัตถุมงคลออกมาและไม่ให้ใครจัดทำได้ง่ายๆ ไม่เคยจัดสร้างวัตถุมงคลในรูปท่านเลยแม้ชิ้นเดียว
ทั้งนี้เมื่อหลวงปู่หนูจัดสร้างวัคตถุมงคลรุ่นแรก ซึ่งประกอบด้วย เหรียญปั๊มรูปเหมือน รุ่นแรก เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ เนื้อทองแดง รวมทั้งรูปหล่อโบราณ ลอยองค์ รุ่นแรก และ พระพุทธรูปศิลปะ พระคันธราช รุ่นแรก จึงได้รับความนิยมจากลูกศิษย์อย่างล้นหลาม
ด้วยเหตุแห่งความนิยมของลูกศิษย์ จึงอยากนำยันต์บนเหรียญมาอธิบาย เพื่อให้การสะสมมีคุณค่ามายิ่งขึ้น แม้ว่าอักขระเลขยันที่ปรากฎบนหลังเหรียญรุ่นแรกมียันต์ไม่กี่ตัวแต่ก็มีพุทธที่เรียกว่า "ครอบจักรวาล หรือ ดีทุกด้าน" ซึ่งมียันต์ที่น่าสนใจดังนี้
ยันต์ในองค์พระ คือ นะ อะ สะ อุ มะ มาจาก แก้ว ๔ ดวง ที่ใช้หนุนธาตุให้คาถาตัวอื่นขลัง ส่วนใหญ่จะเพียง ๔ คือ นะ มะ อะ อุ การเติม สะ เข้าไปนั้นเข้าใจว่าเป็นคาถามหาอำนาจที่ว่า สัต ถา เท วะ มะนุส สา นัง แปลว่า พระพุทธเจ้าเป็นอาจารย์ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
นะ บริเวณเศียร อะ บริเวณ อก ส่วน มะ สะ อุ เขียนไว้ที่ บริเวณพระบาท(ขา)
คาถาบทนี้หลวงปู่ศุข แห่งวัดมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ท่านใช้ว่า สัต ถา เท วะ มะนุส สา นัง มะ อะ อุ อิ ติ มีพุทธคุณด้านป้องกันภัยแคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง อิ ติ ย่อมาจากคาอิติปิโสรัตนมาลา ซึ่งเป็นพุทธคาถารวม ๕๖ พระคาถา ที่ ว่า อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ
คำว่า อิ ย่อมาจาก อิฏโฐสัพพัญญุตะญานัง อิฏฐังธัมมังอะนุปปัตโต อิจฉันโตอาสะวักขะยังอิทธิมันตังนะมามิหัง โดยมีอุปเท่ห์การใช้ที่ว่า จงหมั่นภาวนา ป้องกันศาสตรา ห่อนต้องอินทรีย์ทั้งให้แคล้วคลาด นิราศไพรี ศิริย่อมมี แก่ผู้ภาวนา
ส่วน ติ ย่อมาจาก ติณโณโยวัฏฏะทุกขัมมา ติสโสภูมีอะติกกันโต ติณณังโลกานะมุตตะโมติณณังโอฆังนะมามิหัง โดยมีอุปเท่ห์การใช้ที่ว่า บทนี้ไซร้ หมั่นภาวนาไว้ กันภัยนานา ภูตผีปีศาจ มิอาจเข้ามา ทั้งปอบทั้งห่า ไม่มาหลอกหลอน
"นะ มะ อะ อุ" เป็นดวงแก้ว ๔ ดวง ที่หนุนให้คาถาตัวอื่นๆ มีความเข้มขลัง โดยแต่ละตัวมีความหมายดังนี้ "นะ" แทนแก้วใสสวยมณีโชติ สารพัดนึกกายสิทธิ์ฤทธิรวย "มะ" แทนแก้ว แก้วไพฑูรย์-หนุนความคิด ของขลังฤทธิ์ดีเด็ดคนเข็ดขาม "อะ" แทนแก้ว แก้ววิเชียร แก้วปัพชรน้ำเม็ดงาม หนักแน่นความจิตมั่นป้องกันภัย
"อุ" แทนแก้ว แก้วปัทมราชเสริมวาสนา การขายค้าหน้าที่ชมสมสมัย คาถานี้จะพบในเหรียญยันต์น้ำเต้าของ "พระครูรัตนรังษี" หรือ "หลวงพ่อพุ่ม จันทโชโต" วัดบางโคล่นอก เขตยานนาวา กทม.
ส่วนตัวเฑาะว์ (มีตัว ว. การันต์) ที่ใช้ประกอบวางอย่างระหว่างอุณาโลม บนเศียรพระ คือ เฑาะว์ฬ่อ โดยมีอุปเท่ห์การใช้ที่ว่า มีพุทธคุณด้านเมตตา มหานิยม โดยการเขียนตัว เฑาะว์ฬ่อ ในเหรียญหลวงปู่หนู เขียนเพียงครึ่งตัวเท่านั้น ทั้งนี้หากเป็น ยันต์เฑาะว์ ของ หลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม จ.สมุทรสงคราม หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ จ.อยุธยา จะเรียกว่า ยันต์เฑาะว์รันโต โดยระหว่างลงยันต์บนกระหม่อม หลวงพ่อจะภาวนา โดยเริ่มจากการตั้งนะโม ๓ จบก่อน จากนั้นก็จะบริกรรม ท้อรันโต ศีละสมาธิ ท้อรันโตตันติ นะมัตถุโน ท้อรันโต นะกัมมัถฐานัง ท้อพุทธา นะมามิหังฯ
ในขณะที่การเรียกสูตรเฑาะว์ตำราของ อ.เทพ สาริกบุตร ผู้รวมพระคัมภีร์รวมนะอักขระวิเศษต่างๆ และผู้ชำระตำราไสยศาสตร์ไทย จะใช้ว่า ท้อรันโต สิละสมาธิ ท้อรันติ มะละมัตตะโน ท้อรันโต กัมมะถานัง ท้อรันตันตัง นะมามิหัง นอกจากนี้แล้วก่อนที่จะเขียนอุณาโลมให้บริกรรมว่า ท้ออุณาโลมาเนาวะนาถัง ท้อทุเสสังสัมภะโว พุทธังสรณังคัจฉามิ ธัมมังสรณังคัจฉามิ สังฆังสรณังคัจฉามิ โดยมีอุปเท่ห์คือ ให้ลงใส่กระดานชนวนทำผงทาตัว เป็นมหาทรหดคงทน ให้ลงใส่ในใบพลูแล้วม้วนกิน เวลาจะกินให้เสกด้วยคาถานี้ ท้อฬ่อ กินเข้าไปเถิดอยู่คงดี
นอกจากนี้แล้วเมื่อมีการเขียนเส้น ล้อมรอบ หลายๆ ชั้น และ มีการใช้ยันต์ ตัวอื่นๆ มาเขียน ประกอบด้วย เช่น ของหลวงปู่ศุข แห่งวัดมะขามเฒ่า ทำให้มีการ เรียกชื่อตามตัวยันต์อื่นๆ ที่เป็นยันต์ประกอบ เช่น เฑาะว์หะวัง เฑาะว์พุทธคุณ เฑาะว์พระนิพพาน เฑาะว์พระรัตนไตร เฑาะว์อะระหัง ในขณะที่สำนักวัดกลางบางแก้ว นครปฐมมีเฑาะว์ ๒ ตัว ที่ปรากฏในวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง คือ "เฑาะว์มหาอุด" และ "เฑาะว์มหาพรหม"
ชาติภูมิหลวงปู่หนูจันทร์
"หนูจันทร์ รัตนขันแสง" เป็นชื่อและสกุลเดิมของ “หลวงปู่หนู” เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๗๕ ชีวิตสมณะของท่าน เริ่มต้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๘ อายุได้๑๓ปี บรรพชาเป็นสามเณรหนูจันทร์ ที่วัดโพธิ์ศรีบ้านจีต ต.บ้านจีต อ.หนองหาน จ.อุดรธานี โดยมีหลวงปู่บุญมี เป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นพระอาจารย์องค์แรกของท่าน
หลวงปู่หนู ท่านมุ่งมั่น ศึกษาวิทยาคม คงแก่เรียนศึกษาปฏิบัติและรอบรู้ในสรรพวิชามากมายหลายแขนงรูปหนึ่งของภาคอีสาน เครื่องรางของขลังที่ท่านปลุกเสก มีพุทธคุณโดดเด่นในหลายด้าน ซึ่งล้วนแล้วแต่มีอานุภาพพร้อมประสบการณ์อันเป็นที่ประจักษ์ต่อผู้ที่มีไว้บูชามาแล้วอย่างโชกโชนหลายเหตุการณ์ พระเครื่องและเครื่องรางของขลังของท่านปัจจุบันเป็นที่นิยมในหมู่ลูกศิษย์และได้รับความต้องการจากประชาชนชาวอีสานเป็นอย่างมาก
วัตถุมงคลที่จัดสร้างในนามหลวงปู่หนูเป็นครั้งแรก โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างในครั้งนี้เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมทำบุญนำปัจจัยรายได้มาปรับปรุงเสนาสนะบริเวรภายในวัด และร่วมสมทบทุนจัดงานพิธีฉลองโบสถ์พระราชทาน ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า พุทธศาสนิกชนร่วมบุญได้ที่วัดป่าศิริวัฒนา โทร. 080-840-9048, 081-139-2307 บูชาได้แล้ววันนี้
อ.โสภณ


รูปหล่อโบราณ ลอยองค์ รุ่นแรก
เนื้อเงิน สร้าง 100 องค์ เนื้อนวะโลหะ สร้าง 500 องค์ เนื้อทองระฆังเก่า สร้าง 1999 องค์

รูปหล่อพระพุทธ พระคันธราช รุ่นแรก
เนื้อเงิน สร้าง 50 องค์ เนื้อนวะโลหะ สร้าง 500 องค์ เนื้อทองระฆังเก่า 999 องค์
ตอกโค๊ต พร้อมตอกหมายเลขกำกับ ทุกองค์

สนใจหรือประสงค์ที่จะร่วมทำบุญ เชิญติดต่อได้ที่ สนง.วัดป่าศิริวัฒนา พระอาจารย์ ครูบาหรีด 087-222-4076 ประชาสัมพันธ์ 080-840-9048 หรือ 081-139-2307