หัวข้อ: ความเห็นเรื่อง..เงื่อนไขในการออกบัตรรับประกันพระแท้ เว็ป-พระ
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ
ลองมาช่วยกันออกความเห็นในมุมมองต่างๆของพี่ๆสมาชิกนะเจ้าคะเรื่องเงื่อนไขการออกบัตรรับประกันพระแท้ เว็ป - พระ
ในความเห็นของอิฉันเริ่มจาก
1.การเก็บค่าธรรมเนียมในการออกบัตรรับรองน่าจะอยู่ที่ 120 บาท ค่าใบรายงานผลพระ 30 บาท ค่าจัดส่งพระไม่เกิน 10 องค์ 70 บาท ในกรณีส่งพระออกบัตรและพระไม่แท้คิด 60 บาท + ใบรายงานผล 30 บาท ที่ต้องเก็บค่าธรรมเนียมพระไม่แท้นั้นเพื่อว่าก่อนจะนำพระส่งตรวจนั้นจะได้มีการคัดกรองกันก่อนเพื่อกันการส่งพระแบบไม่ได้คัดกรอง...
2.ส่วนในการประมูลถ้ามีผู้ชนะการประมูลในราคา 4000 บาทขึ้นไปและต้องการออกใบรับรองผู้ตั้งประมูลเป็นฝ่ายออกค่าใช้จ่ายในการออกบัตร ถ้าไม่ถึง 4000 บาทให้ผู้ชนะประมูลเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการร้องขอเพื่อส่งออกบัตรรับรอง..ในกรณีที่พระไม่ถึง 4000 บาท ถ้าผู้ชนะประมูลร้องขอให้ออกบัตรถ้าพระไม่แท้ก็ให้ผู้ตั้งประมูลรับผิดชอบในการส่งออกบัตรเอง...และเพื่อเป็นการป้องกันการเลี่ยงการส่งออกบัตรของผู้ชนะการประมูลเมื่อร้องขอให้ผู้ตั้งประมูลส่งออกบัตรให้ทางเว็ปออกกฏขึ้นมาเพื่อป้องกันพวกผู้ตั้งประมูลไม่ยอมส่งซื่งจะมีข้ออ้างต่างๆ ซึ่งให้ทางเว็ปพิจารณาตั้งกฏขึ้นมาเพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับผู้ซื้อและผู้ขายอย่างเป็นธรรม...
3.เพื่มกระทู้เพื่อรายงานผลการตรวจสอบรายการพระที่ผู้ตั้งประมูลส่งออกบัตรรับรองเพื่อให้ผู้ตั้งประมูลและผู้ร่วมประมูลสามารถตรวจสอบผลจากหน้าเว็ปได้โดยไม่ต้องรอผลจากทางเว็ปที่จะจัดส่งพระพร้อมบัตรหรือใบรายงานผลมาที่อยู่ของผู้ชนะประมูลหรือผู้ตั้งประมูล..ซึ่งจะเป็นการประหยัดเวลาได้มากและจะได้รับรู้ผลตรวจสอบด้วยกันทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อที่จะได้ดำเนินการกันต่อไป..
4.ข้อนี้สำคัญคืออยากให้ทางเว็ปแจ้งให้สมาชิกรับรู้ว่ามีพระประเภทใดบ้างที่ทางเว็ปไม่รับตรวจสอบเพื่อที่จะไม่มีปัญหาการคืนพระหรือเมื่อปิดประมูลได้แล้วมายกเลิกจากสาเหตุว่าเมื่อประมูลได้แล้วมาสอบถามทางเว็ปทีหลังว่าพระชนิดนี้รับตรวจสอบหรือไม่เมื่อทางเว็ปไม่รับตรวจสอบเดี๋ยวจะมีปัญหาระหว่าผู้ซื้อผู้ขายอีก...
5.พระที่ไม่สรุปผลขอให้ทางเว็ปพิจารณาเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานว่าเมื่อผลออกมาว่าไม่สรุปผลนั้นผู้ประมูลสามารถส่งคืนได้หรือไม่อย่างไรเพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมาเพราะเมื่อส่งตรวจสอบแล้วจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอย่างน้อยก็ 5 - 7 วัน ถ้าไม่มีข้อกำหนดตรงนี้อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นอีกเช่นว่า..อ้างว่าพระไม่สรุปผลไม่ได้หมายถึงพระแท้หรือไม่แท้แต่ทางผู้ขายยืนยันว่าแท้ก็จะยังไม่รับคืนอนกจากให้ผู้ซื้อหาหลักฐานมายืนยันว่าพระองค์นั้นไม่แท้..กลายเป็นปัญหาต้องมาตามแก้กันในภายหลัง
นี่คือความคิดเห็นในมุมองของอิฉันนะเจ้าคะ..พี่ๆสมาชิกท่านใดมีมุมมองที่แตกต่างและเป็นประโยชน์ลองมาช่วยกันออกความคิดเห็นกันนะเจ้าคะเพื่อที่ทางเว็ปมาสเตอร์เข้ามาดูแล้วจะได้รับบางส่วนที่เสนอนี้ไปพิจารณาเจ้าค่ะ..อามิตตพุทธ
เห็นด้วยกับหลักการครับ
สิ่งที่สำคัญอีกอย่าง คือ การคืนเงินสด ในกรณีพระไม่แท้
กรณีนี้พระไม่แท้ก็ช้ำใจกันมากพออยู่แล้ว ไม่ควรไปเอาเงินให้เค้าเดือดร้อนอีก หักแต่ค่าขนส่งค่า Pack ค่ากล่องไป
มีอยู่เวปนึงหักทุกอย่าง พระไม่แท้ก็หักเงิน พระที่ดูแล้วไม่รู้ แยกแยะพระแท้พระเก๊ต่างสภาพไม่ได้ ไม่คืนเงิน แต่คืนเป็นคูปองกระดาษมาให้ ซื้อของก็ไม่ได้...
ผมอยากให้ทุกอย่างอยู่แบบรับผิดชอบร่วมกัน เห็นใจกัน เราจะอยู่ด้วยกันได้นานครับ 
เห็นชอบด้วยครับว่าแต่ทางทีมงานทางเว็บพระพร้อมหรือยังแค่นั้นแหละ ด้วยความเคารพ
เห็นด้วยครับ สมาชิกท่านอื่นมีความเห็นอย่างไรก็ช่วยกันแสดงความเห็นหน่อย เพื่อเป็นแนวทางให้กับทางเว็บด้วย และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นผมอยากให้ทางเว็บเข้ามาร่วมแสดงความเห็นด้วยก็จะดีมากครับ เห็นบอกกำลังประชุมอยู่ผลเป็นอย่างไรนำข่าวมาแจ้งสมาชิกบ้าง จะได้ช่วยกันปรับปรุงให้เรื่องนี้สำเร็จเสียที สมาชิกรอมาพอสมควรแล้วครับ ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ +1 ครับ
2.ส่วนในการประมูลถ้ามีผู้ชนะการประมูลในราคา 4000 บาทขึ้นไปและต้องการออกใบรับรองผู้ตั้งประมูลเป็นฝ่ายออกค่าใช้จ่ายในการออก บัตร ถ้าไม่ถึง 4000 บาทให้ผู้ชนะประมูลเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการร้องขอเพื่อส่งออกบัตร รับรอง..ในกรณีที่พระไม่ถึง 4000 บาท ถ้าผู้ชนะประมูลร้องขอให้ออกบัตรถ้าพระไม่แท้ก็ให้ผู้ตั้งประมูลรับผิดชอบใน การส่งออกบัตรเอง...และเพื่อเป็นการป้องกันการเลี่ยงการส่งออกบัตรของผู้ชนะ การประมูลเมื่อร้องขอให้ผู้ตั้งประมูลส่งออกบัตรให้ทางเว็ปออกกฏขึ้นมาเพื่อ ป้องกันพวกผู้ตั้งประมูลไม่ยอมส่งซื่งจะมีข้ออ้างต่างๆ ซึ่งให้ทางเว็ปพิจารณาตั้งกฏขึ้นมาเพื่อรักษาผลประโยชน์ให้กับผู้ซื้อและผู้ ขายอย่างเป็นธรรม...
****************************************************************************
ข้อนี้ไม่ต้องกำหนดราคาอะไรหรอกครับ.............พระราคาเท่าไร เมื่ออยากได้บัตร ค่าบัตรก็ควรเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของบัตร
ซึ่งก็คือผู้ชนะประมูลนั่นเอง..........ซึ่งจะสะดวกต่อการดำเนินการในภาพรวมทั้งผู้ตั้งประมูลก็ไม่ต้องมาบวกราคาเพิ่ม ตั้งเท่าที่อยากขาย
ผู้ชนะประมูลอยากได้บัตรก็เพิ่มไป ง่ายสะดวกไม่ต้องมานั่งแยกราคา...........
ส่วนถ้าพระไม่แท้นั้น........ผู้ตั้งประมูลต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการออกบัตรอยู่แล้ว ไม่ว่าราคาเท่าไร
เดี๋ยวจะมาบอกอีก............กลับบ้านก่อน
++ข้อนี้ไม่ต้องกำหนดราคาอะไรหรอกครับ.............พระราคาเท่าไร เมื่ออยากได้บัตร ค่าบัตรก็ควรเป็นความรับผิดชอบของเจ้าของบัตร
ซึ่งก็คือผู้ชนะประมูลนั่นเอง..........ซึ่งจะสะดวกต่อการดำเนินการใน ภาพรวมทั้งผู้ตั้งประมูลก็ไม่ต้องมาบวกราคาเพิ่ม ตั้งเท่าที่อยากขาย
ผู้ชนะประมูลอยากได้บัตรก็เพิ่มไป ง่ายสะดวกไม่ต้องมานั่งแยกราคา...........++
---ที่ดิฉันว่าต้องมีเพดานการซื้อไว้ที่ 4000 บาทนั้นเพื่อให้ผู้ตั้งประมูลรับผิดชอบในส่วนนี้บ้าง..อย่าเป็นผู้ขายที่คิดแต่ได้กำไรอย่างเดียว..พระหลุดซื้อมา 200 บาท ชายได้ 5000 บาทกำไรเท่าไหร่เจ้าคะ นี่แค่ตัวอย่าง...พระที่ขายได้ขอถามว่ามีถึง10 เปอร์เซ็นต์ไหมเจ้าคะที่ขาดทุน มีแต่กำไรมากกำไรน้อยเท่านั้น ที่ขาดทุนแค่ส่วนน้อยมากๆเมื่อเทียบกับ กำไรแล้ว หักลบกันแล้วองค์นี้กำไร องค์นี้ขาดทุน หักลบกันยังเหลือกำไรอีกเลยเจ้าค่ะ แค่ยอมหักกำไรกับเงินแค่ไม่กี่บาทน่าจะยอมให้ลูกค้าที่เข้ามาซื้อพระบ้างนะเจ้าค่ะ..อามิตตพุทธ
ถ้าเริ่มต้นวิธีการด้วยการเอาตัวเงินเป็นเรื่องใหญ่....มักจะเป็นปัญหาที่ไม่มีข้อยุติ
อย่างที่ท่านนกเค้าแมวกล่าวไว้.......นั่นคือเอาจำนวนเงินมาเป็นประเด็นใหญ่ในการออกบัตร ไม่ได้เอาหลักการมาเป็นหลัก
อย่าเป็นผู้ขายที่คิดแต่ได้กำไรอย่างเดียว............แล้วทำไมไม่คิดกลับว่าอย่าเป็นผู้ซื้อที่เอาแต่ประโยชน์เพียงฝ่ายเดียว
พระหลุดซื้อมา 200 บาท ชายได้ 5000 บาทกำไรเท่าไร.........แล้วถ้าผมซื้อมา 10000 ขาย ขาย 5000 ขาดทุนเท่าไร
ยังต้องมาขาดทุนออกบัตรให้อีกหรือ..........อย่าคิดว่าเหตุการณืมันเป็นไปไม่ได้นะครับ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ
ถ้าเอาหลักการมาคิดประด็นนี้จะไม่มีปัญหาเลย...........หลักการในการทำธุรกรรมที่เป็นสากลก็คือ
ใครเป็นเจ้าของก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย จะมากหรือน้อยก้แล้วแต่ธุรกรรมนั้น ๆ
บัตรรับรองเป็นบัตรที่ใช้ชื่อของผู้ชนะประมูล............ผู้ชนะประมูลก็ควรต้องเป้นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบัตรนั้น ๆ ครับ
มันไม่ได้เกี่ยวกับจำนวนเงิน.............ผมไปทำบัตรเอทีเอ็มธนาคาร จะฝากงเินเท่าไร ค่าบัตรเอทีเอ็มก้เท่าเดิม
ธนาคารไม่เห็นออกให้เลย.........เพราะเป็นบัตรของผม ผมก็ต้องเสียค่าใช้จ่าย ธนาคารอำนวยความสะดวกให้
แถมฝากมากหรือน้อย จะ 500 หรือ 5 ล้าน...........ค่าบัตรก็เท่ากัน นี่คือหลักการครับ
หากใช้หลักการเป็นตัวตั้งในการคิดหรือดำเนินการ........จะแทบไม่มีปัญหาหรือเกิดปัญหาต่อมาน้อยมาก
เมื่อเทียบกับการดำเนินการต่าง ๆ ที่เอาเงินเป็นตัวตั้งในการคิด..........นี่คือความคิดของผม
ไม่ได้เกี่ยวกับการมีกำไรมากหรือน้อยครับ...........อย่าเอามารวมกัน จะทำให้เข้าใจผิดได้
หากเวลาเปลี่ยนไป ค่าเงินก็เปลี่ยน ราคาพระก็เปลี่ยน ราคาบัตรก็เปลี่ยน.................ก็ต้องมาเปลี่ยนแปลงระบบกันอีกไม่มีที่สิ้นสุด
แต่หากใช้หลักการเป็นหลักยึดไว้...........ภายภาคหน้าก้ไม่ต้องเปลี่ยนอะไร จะพระหลักร้อยหรือหลักล้าน
อยากได้บัตรก็เป้นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย.............มันก็จบ
และการออกบัตรไม่ได้เป็นการบังคับกันนะครับ...เป็นความสมัครใจของผู้ชนะประมูลที่เป็นฝ่ายร้องขอด้วยซ้ำ
จึงอยากเรียนให้ทราบถึงสิง่ที่ได้เขียนลงไป.............เพื่อจะได้ไม่เข้าใจอะไรผิดไป ขอบคุณครับ
อีก 5 ปี 10 ปี กล้องส่องพระคงขายไม่ออก เพราะยุคนั้นคงไม่ดูพระกันแล้ว ดูบัตรรัปประกันเอา 555
แซวเล่น ขำๆนะครับ
เรื่องการออกบัตรรับประกันพระแท้เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ส่วนในเรื่องข้อสองผมก็เห็นว่าใครอยากได้ก็ควรต้องจ่ายเองครับ ไม่จำเป็นต้องมีขั้นต่ำหรอกครับ และผมคิดว่าคนต้องการก็คิดคนชนะประมูลนั่นหล่ะครับ
ที่จริงอิฉันก็แค่เสนอแนวคิดและเพื่อให้พี่ๆสมาชิกมาร่วมแชร์มุมมองเท่านั้น..ส่วนทางเว็ปจะไปดำเนินการอย่างไรนั้นก็สุดแล้วแต่ดุลยพินิจของทางเว็ปเพราะยังเป็นแค่แนวคิดเผื่อมีบางอย่างที่พี่ๆช่วยกันเสนอแนวคิดนั้นจะมีบางส่วนที่ทางเว็ปเห็นว่ามีประโยชน์และนำไปเสริมหรือเพิ่มเติมเพื่อให้ดีที่สุดเท่านั้น...ส่วนพี่ๆท่านใดจะเสนอแนวคิดนั้นก็เป็นอิสระทางความคิด..จะเสนอแนวทางไหน..หรือมุมมองที่ต่างออกไป..ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล..แต่ที่อิฉันต้องออกมาโต็ตอบกับท่านพี่คีตะปันต์นั้นเนื่องจากพี่ได้ลากคำของอิฉันมาโต้แย้ง..อิฉันจึงต้องออกมาอธิบายในส่วนของดิฉัน.ถ้าพี่จะเสนอแนวคิดอะไรหรืออย่างไรถ้าไม่นำคำของอิฉันมาโต้แย้งอิฉันก็คงไม่ออกมาตอบโต้หรอกเจ้าค่ะ...ส่วนจะเรื่องบัตรหรือเรื่องอะไรที่พี่อ้างนั่นมันความเห็นของพี่..ซึ่งมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับอิฉันตรงไหนเจ้าค่ะ...จึงอธิบายมาให้เข้าใจเจ้าค่ะ..อามิตตพุทธ
พระเอกพระเครื่อง:
อีก 5 ปี 10 ปี กล้องส่องพระคงขายไม่ออก เพราะยุคนั้นคงไม่ดูพระกันแล้ว ดูบัตรรัปประกันเอา 555
แซวเล่น ขำๆนะครับ
ผมกลับไปคิดถึงว่าถ้าสักวันหนึ่่ง ถ้าพระเก๊ดีจนเซียนพระแยกไม่ออก วงการพระจะเป็นอย่างไรจะล่มสลายไหม แล้วพวกเราจะสะสมอะไรกันล่ะทีนี้
ผมเห็นด้วยกันท่านคีตะปันย์ที่ให้ผู้ซื้อเสียค่าออกบัตรเอง ผู้ขายก็ขายของไปตั้งราคาที่อยากขายโดยไม่ต้องสนใจเรื่องค่าใช้จ่ายในการขอออกบัตร ส่วนเรื่องการออกบัตรที่ให้ผู้ซื้อออกบัตรเองอาจใช้วิธีการแบบซื้อผ่านเวบ โดยให้ผู้ขายส่งพระพร้อมเงินค่าตรวจสอบ สมมุติค่าตรวสอบ 100บาท(ไม่รวมค่าออกบัตร) ผู้ขายก็ส่งพระพร้อมแนบเงิน100บาทไปที่เวบ ส่วนผู้ซื้อก็โอนเงินค่าพระ+ค่าธรรมเนียมผ่านเวบ พร้อมค่าตรวจสอบ100บาทและค่าออกบัตร200บาท ถ้าพระเกิดไม่แท้ทางเวบก็ส่งพระคืนผู้ขายแต่เก็บเงินค่าตรวจสอบไว้แลัวคืนเงินเต็มจำนวนให้ผู้ซื้อ แต่ถ้าพระแท้ก็โอนเงินค่าพระ+ค่าตรวจสอบคืนผู้ขาย แบบนี้คร่าวๆอาจมีค่าใช้จ่ายส่งพระคืนผู้ขายหรือผู้ซื้อเพิ่ม
ขอแบ่งบันความคิดเห็นด้วยคนนะครับ...ที่กล่าวมา ที่คิดมา ที่เสนอมา ล้วนแล้วแต่ให้ความก้าวหน้าในอาชีพกันทุกๆท่าน เรื่่องของเรื่อง เราๆท่านๆกำลังจุนเครื่องเข้าหากัน ความถี่ของคลื่นกำลังจะชัดเจนแล้วครับผม มีเพียงเนื้อหาปลีกย่อยเล็กๆน้อยๆเท่านั้นที่กำลังแก้ไขกัน ดีครับจะได้เป็นบรรทัดฐานในการกำหนดกฏระเบียบ.......สมมุตติ.มีพระเครื่อง 1 องค์ที่ประมูลได้จากเวป-พระ.comในกระดาน พระไม่ทราบที่ บังเอิญเป็นพระที่สวย แท้ ต่อมา พระองค์นี้ลงในร้านค้าอีกและระบุชื่อพระ จำนวนการสร้าง ปีที่สร้าง พิธีการสร้างครบสมบรูณ์ในรายละเอียด นำเข้าประมูลอีกครั้ง มีสมาชิกเคาะกระดานมากกว่า3ท่านขึ้นไป ราคามากกว่า1000บาท ถึงราคาขั้นต่ำ และได้ใบรับรองพระเครื่องชนะการประมูลที่ราคา2500บาท ต่อมามีการประกวดพระเครื่องในเวป-พระ.comเป็นครั้งแรกในเมืองไทย พระองค์นี้ส่งเข้าประกวดผ่านการตรวจสอบและเข้ารอบ ผลการตัดสินพระองค์นี้ไม่ติดอันดับ แต่ได้รับใบรับรองพระเครื่องผ่านการประกวดในเวป-พระ.com พระองค์นี้ได้รับเกียรติ์บัตรรับรองมาแล้ว 2 ใบ เจ้าของเอาลงประมูลพร้อมกับใบรับรอง 2 ใบ เพื่อการันตีในองค์พระ มีการประมูลถึงขั้นต่ำอีกคราวนี้ราคามากกว่าเดิมอีกเพราะราคาเก่าที่กำกับไว้ในใบรับรองพระเครื่องชนะการประมูลที่2500บาทพวงท้ายด้วยใบรับรองพระเครื่องผ่านการประกวดในเวป-พระ.comอีกใบ คุณภาพคับแก้วแบบนี้ผู้ที่กำลังเซาะหา ไม่ลังเลใจเคาะสู้ใจขาดเป็นแน่แท้......นี่แหละอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นในวงการพระเครื่อง........ผมยังมีเรื่องราวประติดประต่ออีกหลายตอนนะครับ......united
เพิ่งจะอ่านความเห็นของท่านอื่นๆ ผมขอยืนยันตามคุณนกเค้าแมวครับ ว่าเป็นหลักเกณฑ์ที่เว๊บใหญ่ทั่วไปใช้อยู่ จะต่างกันบ้างก็แค่นิดหน่อยในส่วนปลีกย่อยของแต่ล่ะเว็บ ซึ่งถ้ามันไม่ดีไม่ถูกไม่ต้องเขาคงไม่ทำตามกันมาทุกเว็บหรอกครับ ถ้าเลยเกณฑ์ขั้นต่ำทุกเว็บเขาให้สิทธิ์ผู้ชนะประมูล ร้องขอให้ผู้ตั้งประมูลส่งออกบัตรได้ทั้งนั้น แล้วของเราจะให้ผู้ชนะประมูลเป็นคนออกบัตรเอง ก็คงไม่ต้องไปแข่งกับเว็บไหนแล้วล่ะครับ เขาไปเคาะเว็บอื่นไม่ดีกว่าเหรอ ตกลงเราจะพัฒนากระดานประมูลของเราให้เทียบเท่าเว็บอื่นกันหรือเปล่าครับ ผมขอยกบางส่วนของคุณ PU ที่ว่า มีอยู่เวปนึงหักทุกอย่าง พระไม่แท้ก็หักเงิน พระที่ดูแล้วไม่รู้ แยกแยะพระแท้พระเก๊ต่างสภาพไม่ได้ ไม่คืนเงิน แต่คืนเป็นคูปองกระดาษมาให้ ซื้อของก็ไม่ได้... ซึ่งผมก็เห็นด้วยว่าเว็บนี้เอาแต่เงิน แต่ในทางกลับกันที่ต้องยอมรับก็คือ ค่าใช้จ่ายผู้ตั้งประมูลเขาสูงก็จริง แต่สมาชิกเขากลับมีมาก แล้วก็เป็นพวกที่มีกำลังซื้อด้วย ทำไมและเพราะอะไรตอบได้ง่ายๆครับเพราะเขาให้ความสำคัญกับผู้ซื้อ ผู้ซื้อเป็นใหญ่ผู้ขายเป็นรองผู้ขายต้องจ่ายและรับผิดชอบทุกอย่าง แต่ทำไมผู้ขายเขายังเยอะล่ะ ตอบง่ายๆครับกำลังซื้อมหาศาลของผู้ซื้อไงครับ ย้อนถามกลับมาทางเราตกลงจะพัฒนาไหมครับ
1431jojo:
พระเอกพระเครื่อง:
อีก 5 ปี 10 ปี กล้องส่องพระคงขายไม่ออก เพราะยุคนั้นคงไม่ดูพระกันแล้ว ดูบัตรรัปประกันเอา 555
แซวเล่น ขำๆนะครับ
ผมกลับไปคิดถึงว่าถ้าสักวันหนึ่่ง ถ้าพระเก๊ดีจนเซียนพระแยกไม่ออก วงการพระจะเป็นอย่างไรจะล่มสลายไหม แล้วพวกเราจะสะสมอะไรกันล่ะทีนี้
สมัยก่อน... คนเก่ง.....เกิดจากพรสวรรค์.....และพรแสวง....
พรสวรรค์.... มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด....
พรแสวง.... เกิดมาแล้วต้องเรียนรู้... ต้องท่องจำ.... ต้องปฏิบัติ... ต้องฝึกฝน... จนชำนาญ.... ภาคภูมิใจไหมครับ?
สมัยนี้...ยุค สำเร็จรูป.... เสื้อผ้า... อาหาร... การเรียน... ยารักษาโรค... ที่อยู่อาศัย...
สำเร็จรูป คือ เขาหาให้.... ทำให้.... คิดให้....ชี้ทางให้.... และตัดสินให้....มันไม่ได้มาจาก..พรแสวงของตัวเราเอง(......ไหมครับ?)
ไม่ค้าน!... เรื่องบัตรรับรองพระแท้ แต่ อย่าเอาบัตรรับรองมาเป็น "บัตรสำเร็จรูปนะครับ" ควรเอามาเป็นบัตร "นักสร้างพรแสวง"
จะพูดถึงราคาขายของพระ ในพระรุ่นเดียวกัน เนื้อเดียวกันแต่เวบข้างบ้านเขาจะตั้งราคาขายต่ำกว่าในเวบนี้หลายร้อยบาท เหตุผลคือหลังจากพระแดงแล้วยังมีคนมาไล่ใส่ราคาสู้กันเพิ่มจากราคาปิดอีกหลายร้อยบาทส่วนเวบพระถ้าตั้งให้ราคาปิดเท่าเวบข้างบ้านถึงแดงแล้วก็ไม่มีคนมาไล่ใส่ราคาเพิ่มให้ถึงจะมีก็แค่1-2เคาะเองครับ ส่วนใหญ่ที่ผมดูจะมีแต่คนตั้งขายแพงกว่าเวบข้างบ้านทั้งนั้น แล้วถ้าให้ผู้ขายมาเสียค่าออกบัตรอีกเขาก็จะต้องบวกเพิ่มจากราคาขายมันก็แพงขึ้นยิ่งขึ้นไปอีก ราคาคือจุดเปลี่ยนของแต่ละเวบที่จะทำให้มีคนเข้ามาเยอะหรือไม่ บางคนอาจบอกว่าไม่ซีเรีสเท่าไรถ้าจะซื้อแพงขึ้นแต่ได้ความสบายใจและของถูกใจ แล้วมันคือส่วนน้อยหรือส่วนใหญ่ละครับ ถ้าเป็นส่วนน้อยก็ไม่มีผลต่อเวบเท่าไรแต่ถ้าเป็นส่วนใหญ่ป่านี้เวบนี้คงคึกคักกว่านี้แล้วครับ ถ้าจะตั้งกติกาหรือวางกฎในการขออกบัตรจริงๆอยากให้ผู้เสนอไม่ต้องมองว่าเวบไหนเป็นแบบไหน ทำอย่างไร อยากให้มองในฐานะคนขายหรือคนซื้อแล้วมาเสนอกันโดยมองทางภาพรวม ความเป็นไปได้ พร้อมทั้งไม่ต้องเป็นภาระของเวบมากด้วยให้เวบมีรายได้บ้างแต่ไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป มองในสิ่งที่เป็นจริง กำหนดว่าออกบัตรได้หมดทั้งพระเก่าใหม่ หรือเฉพาะบางชนิด
สมัยก่อน... คนเก่ง.....เกิดจากพรสวรรค์.....และ พรแสวง....
พรสวรรค์.... มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด....
พรแสวง.... เกิดมาแล้วต้องเรียนรู้... ต้องท่องจำ.... ต้องปฏิบัติ... ต้องฝึกฝน... จนชำนาญ.... ภาคภูมิใจไหมครับ?
สมัยนี้...ยุค สำเร็จรูป.... เสื้อผ้า... อาหาร... การเรียน... ยารักษาโรค... ที่อยู่อาศัย...
สำเร็จรูป คือ เขาหาให้.... ทำให้.... คิดให้....ชี้ทางให้.... และตัดสินให้....มันไม่ได้มาจาก..พรแสวงของตัวเราเอง(......ไหมครับ?)
ไม่ค้าน!... เรื่องบัตรรับรองพระแท้ แต่ อย่าเอาบัตรรับรองมาเป็น "บัตรสำเร็จรูปนะครับ" ควรเอามาเป็นบัตร "นักสร้างพรแสวง"
ขอต่ออีกนิดนึง ก่อนที่บัตรฯ จะมาไม่ว่าช้าหรือเร็ว แต่มีแน่ๆ
ผมคิดในมุมของ คนสะสม แทนที่เราจะมาเน้นเรื่องบัตรฯ เรามาสนับสนุนการให้ความรู้-การขอความรู้ จากคนมาตรฐาน,จากเวปฯมาตรฐาน แห่งนี้ ดีกว่าไหม?
เริ่มจาก 1. ภาพที่นำมาโพส
กระดานประมูล-ร้านค้า เวปฯเขาให้ไว้ 5 ช่อง ถ้าใส่ภาพ หน้า-หลัง-ขอบข้าง ทุกมุม 5ช่องก็ไม่พอแล้ว เหลือไว้ทำไม? 3ช่อง
การใส่ภาพทุกมุมมองมีประโยชน์ คือ เราแสดงความจริงใจ คนที่ไม่รู้-ไม่เป็นก็ได้ศึกษา คนที่ชำนาญ-แม่นยำ ได้เข้ามาตรวจตรา จะได้บอกกันว่า แท้-ไม่แท้ เพราะเหตุใด จะได้นำความรู้นั้นๆ ไปบอกคนรุ่นหลังต่อๆไป (เป็นการส่งต่อความรู้ จากรุ่น-สู่-รุ่น)
มาคิดกันแบบ ธรรมชาติ,ง่ายๆสิครับ เช่น.เรารู้ได้ยังไง! ว่า ธนบัตร-เงินเหรียญ(แบงค์-เหรียญบาท)ใบนั้น-อันนั้นมันเป็นของเก๊ -ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฏหมาย ก็เพราะ ความรู้-ความชำนาญของเราใช่ไหมครับ
ในกระทู้ เรื่อง ก้าวเล็กๆ ของผม ผมมีเหรียญ สรงน้ำ 3 เหรียญ 2 เหรียญนั้นแท้แน่นอน อีกหนึ่งเหรียญ ไม่มั่นใจ มันสะดุดตาเวลาเข้ากล้อง-พิจารณา ทำไม?ผมจึงเอาเหรียญที่ไม่แน่ใจ ถามไป? ไม่เอาเหรียญที่มั่นใจถามหล่ะ ก็เพราะผมไม่สามารถ ขึ้นชั้นจาก ดูเป็น สู่ชั้นขั้น ดูขาด-ตัดสินเก๊-แท้ด้วยตัวเอง ตามมาตรฐานได้ การเอาเหรียญแท้ไปถาม ก็จะได้คำตอบว่าแท้ครับ แต่ไม่รู้ว่าว่าแท้ยังไง! ดูที่ไหนมันถึงแท้! ยอมโดนสบประมาท หน้าชา เพื่ออะไร? เสร็จแล้วผมก็รอเวลาเพื่อจะนำเหรียญทั้ง3ไปพิสูจน์ความจริง จากสถานที่จริง ที่ๆมีคนมีหลักการฯแนวคิดเดียวกันมารวมตัวกัน ผลออกมาที่เห็นนั่นแหละของเก๊..มันก็เก๊วันยังค่ำ...และผมก็พร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้นั้นให้กับคนรุ่นต่อๆไป.
สรุป! ผมไม่ค้าน เรื่องบัตรฯ ถึงเวลา เวปฯ-พระ นำมาใช้ประกาศเป็นกฏ-ระเบียบ ก็พร้อมปฏิบัติ อยู่แล้วครับผม.
ครับ เอาไงเอากัน ทุกคนมีสมอง ทุกคนมีความคิด ผมเคารพในความคิดของแต่ละบุคคล เอาเป็นว่าพี่ทุกคนสุดยอด...ครับ อย่าให้เฮียพลายชุมพล999 มาโผล่อีกคนนะครับ...อิอิ วงแตก !
+++++ กระผม สมาชิกตัวน้อยๆ ขอเฝ้าสังเกตุการณ์ ครับท่าน +++++
มีรายการพระเครื่องหรือเครื่องรางที่รับออกบัตรรับรอง หากไม่มีในรายการออกบัตรรับรองผู้ซื้อต้องรับผิดชอบความเสี่ยงเองหากจะประมูล
ใครอยากได้บัตรรับรอง ออกเงินเอง คนขายปฏิเสธการออกบัตรรับรองมิได้ ผลออกมาเก๊ คนขายออกค่าใช้จ่ายแทน หลักๆ เอาเท่านี้ ปลีกย่อยค่อยว่ากันครับ
เป็นทางเลือกให้มือใหม่ สร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อ จริงๆผมว่ามันยากมากๆ หากจะทำบัตรรับรองให้ดีและน่าเชื่อถือ ก็รู้ๆกับอยู่ว่าคนเก่งและดีมีคุณธรรมมันไม่ค่อยมี ถึงมี ก็ไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์ยุ่งยากที่พวกมากลากกันไปครับ
ทุกความคิดเห็นมีประโยชน์ครับ
อะไรที่เป็นครั้งแรกก็ต้องลำบากเป็นธรรมดาครับ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีการเริ่มต้นครับ
ช่วยกันคนละไม้ คนละมือเดี๋ยวก็เจอกันครับ หาข้อดี-มองข้อเสีย,เจอจุดแข็ง-มีจุดอ่อน
หลอมมันเข้าด้วยกัน แล้วลองดู ปรับจูนกันไปเรื่อยๆ ทั้งหมดนี้ผมเชื่อว่าไม่มีใครทำมันเพื่อ
ตัวเองหรอกครับ ทำเพื่อสังคมโดยรวม เพื่อบ้านหลังนี้ 




