หัวข้อ: หลวงพ่อผอง แห่งวัดพรหมยาม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ได้มรณภาพแล้ว
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ
แจ้งข่าวจากเวปเพื่อนบ้าน
หลวงพ่อผอง แห่งวัดพรหมยาม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ได้มรณภาพแล้วอย่างสงบ ในเวลา 04.45 น.ของวันนี้
ก่อนที่ท่านจะมาโรงพยาบาล ท่านบอกกับทุกคนว่า ท่านจะไม่กลับวัดอีก.
ขอแสดงความอาลัยครับ
ร่วมใว้อาลัยต่อการจากไปครับ...และขอแสดงความเสียใจกับลูกศิษย์หลวงพ่อผองด้วยครับ
กราบนมัสการ ด้วยความอาลัยยิ่งครับ
ขอกราบนมัสการด้วยความอาลัยเช่นกันครับ ยังเศร้าใจกับการละสังขารของหลวงปู่อั๊บอยู่เลย มีพระดีเกจิยังมรณะภาพในเวลาไล่เลี่ยกันเลยนะครับ
...ขอกราบนมัสการ.ด้วยความอาลัย....
...................หลวงพ่อผอง ธมฺมธีโร แห่งวัดพรหมยาม จ.เพชรบูรณ์..
กราบนมัสการ หลวงปู่ด้วยครับ
..ด้วยความอาลัย..หลวงพ่อผอง ธมฺมธีโร..
ตามลิ้งค์ จาก.ข่าวสดออนไลน์...
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME56QXhNalEyT1E9PQ==&subcatid
แข็งแรงขนาดนี้ ใครจะเชื่อว่าจะละสังขารไวขนาดนี้
ขอกราบนมัสการด้วยความอาลัยยิ่ง ด้วยคนครับ
ข่าวสารลานบุญสงบสันติ
ญาติธรรมสายบึงสามพัน(โรงพยาบาลบึงสามพัน)
ข่าวหลวงพ่อผอง ละสังขารที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 6 ก.ย. ผู้สื่อข่าวลานบุญ สงบ สันติ รับแจ้งว่า พระครูธีรพัชโรภาส หรือ หลวงพ่อผอง ธัมมธีโร เจ้าอาวาสวัดพรหมยาม ต.สามแยก อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ พระเกจิชื่อvอาพาธหนัก อย่างกะทันหันอยู่ที่ห้องไอซียู ร.พ.เพชรบูรณ์ จึงไปตรวจสอบ พบศิษยานุศิษย์รอกราบศพของหลวงพ่อผอง อยู่บริเวณหน้าห้องไอซียูเป็นจำนวนมาก ทุกคนล้วนอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจกับการมรณภาพอย่างกะทันหันของหลวงพ่อ
นายถนอม จันดา อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.สามแยก อ.วิเชียรบุรี ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อผอง เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา หลวงพ่อผองมีอาการอาพาธปวดท้อง อ่อนเพลีย ลูกศิษย์จึงพานำส่งรักษาที่ร.พ.วิเชียรบุรีโดยประสานงานกับนพ.วิสัน เทียนรุ่งโรจน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิเชียรบุรีและคณะแพทย์ พยาบาล แพทย์ตรวจพบว่าชีพจรเต้นช้ามากและความดันต่ำมากก่อนหัวใจหยุดเต้นไปในที่สุด แพทย์จึงปั๊มหัวใจจนฟื้นขึ้นมา และรีบนำส่งรักษาต่อที่ห้องไอซียู ร.พ.เพชรบูรณ์ นายถนอมกล่าวว่า แต่อาการหลวงพ่อยังไม่ดีขึ้น กระทั่งเวลา 04.45 น. หลวงพ่อจึงมรณภาพด้วยอาการอันสงบ แพทย์ลงความเห็นว่าเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โดยเมื่อเวลา 24.00 น. พระรุ่ง ผาสุกกาโม พระผู้ดูแลได้มอบหมายให้จ่าอึ่ง บึงสามพัน ประสานงานโรงพยาบาลกรุงเทพฯ เพื่อนำเฮลิคอปเตอร์มารับไปรักษาที่ศูนย์โรคหัวใจกับแพทย์เฉพาะทาง แต่เนื่องจากอาการไม่คงที่จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางเคลื่อนย้ายได้ จึงรอประเมินอีกครั้งตอนหกโมงเช้า แต่ท่านก็ละสังขารไปก่อน ทำให้บรรดาศิษยานุศิษย์ต่างเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก นายถนอมกล่าวอีกว่า หลวงพ่อผอง ท่านเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง แต่เมื่อถ้าหากท่านไม่ป่วยหรือไม่สบายก็จะไม่ค่อยบอกใคร จึงทำให้ไม่ทราบว่าหลวงพ่อท่านมีอาการป่วยมาตั้งแต่เมื่อใด ประกอบกับมีพุทธศาสนิกชนได้นิมนต์ท่านไปพุทธาภิเษกวัตถุมงคลโดยตลอด จึงอาจทำให้ท่านพักผ่อนไม่เพียงพอ จนเป็นเหตุให้มรณภาพดังกล่าว สำหรับศพของหลวงพ่อผองจะตั้งสวดบำเพ็ญกุศลที่ศาลาวัดพรหมยาม ต.สามแยก อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์
