
หัวข้อ: เบาๆ..กับ.. ทฤษฎี... ๒สูง กับ พอเพืยง!
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ
ผมอยู่บ้านนอก...ครับ. ที่นี่เป็นแหล่งการเกษตรฯ ปลูกข้าว(คงเคยได้ยินข้าวขาว "หนองบัว" กันนะครับ) ปลูกผัก ปลูกพืชไร่ เลี้ยงสัตว์ มีแหล่งฯอาหาร อุดมสมบรูณ์ เหลือเฟือ! สำหรับคนในชุมชนฯ และ สามารถส่งออกไปนอกชุมชนฯ โดยที่คนในชุมชนไม่เดือดร้อนได้...
แต่..สิ่งที่ผมมองเห็น..และประสพพบพานก็คือ.. คนในชุมชนนี้ ซื้อ..จับจ่าย..ข้าวของที่ตนเองผลิตได้เอง..ในราคาที่แพง..ซึ่งอาจจะแพงกว่าคนในเมืองใหญ่ๆซะอีก!
ที่นี่..มีโรงสีข้าว..ทั้งขนาดใหญ่..และ..เครื่องสีข้าวชุมชนฯ .. ข้าวเปลือกที่เขาปลูกเอง นำไปขาย..โรงสี ในราคาที่ถูก..(โดนกดราคาทั้งค่าความชื้น..ค่าน้ำหนักข้าวเปลือกที่ไม่ตรง.. พันธ์ข้าวที่โรงสีบอกว่าตลาดไม่ต้องการ ฯลฯ ) แล้วไปซื้อข้าวสารฯที่ตนเองปลูกมากับมือ จากร้านขายข้าวสารฯ ในราคาที่เจ้าของร้านตั้งราคาที่แพง ทั้งๆที่โรงสีกับร้านค้าข้าว ห่างกันไม่เกิน ๑๐ กิโลฯ(ข้างกระสอบข้าวก็เขียนไว้ชัดเจนฯ..ข้าวขาวหนองบัว)
มีคนระดับ เจ้าสัวในบ้านเมืองเรา.. เคยบอกว่า บ้านเรา-เมืองเรา ต้องใช้ ทฤษฎีฯ ๒ สูง คือ.. ค่าแรงสูงเท่านั้น ถึงจะสู้กับ ค่าครองชีพฯ(เครื่องอุปโภค - บริโภค)สูง ประชาชนถึงจะอยู่ได้
แต่..ถ้าเป็นทฤษฎีฯ แบบพอเพียงหล่ะ.. คนในชาติ..บริโภค อาหาร และสิ่งทีผลิตได้เอง ในราคาที่ถูก คุณภาพฯดี เหลือจากทีคนในชาติกิน-ใช้กันแล้ว.. ค่อยส่งออก.. โดยแยกผลิตฯ และ คัดเลือกของที่จะส่งออก ให้มีมาตรฐานฯที่ต่างชาติต้องการ ในราคาตลาดโลกนำรายได้เข้าประเทศ จะดีกว่าไหม?
ค่าครองชีพฯต่ำ..กิน-ใช้ของที่เราผลิตได้เอง..ในราคาที่ต่ำ..ก็ไม่ต้องสรรหา ปุ๋ย - ยาฆ่าแมลง จากต่างประเทศ ทำเอง-หมักเอง-ใช้ธรรมชาติจัดการฯกันเอง ใช้วัว-ควาย มาช่วยงานลดการใช้น้ำมัน ควายเหล็กไม่มีน้ำมันให้มันกิน มันก็เศษเหล็กดีๆแหล่ะ
การจัดการของระบบการค้า ก็ใช้ ระบบ สหกรณ์ ซะ รวมตัวกันซื้อ รวมตัวกันขาย(ในนามสหกรณ์) รวมตัวกันให้มากๆ จะได้มีเสียง ไม่ใช่ตัวใครฯ-ตัวมัน โดนพ่อค้ากดหัวเราจนโงหัวไม่ขึ้น
คนไทย.. แปลกอย่างครับ. ไม่ชอบทำอะไร?เป็นทีม(ทำเป็นทีมไม่เป็น) ชอบบินเดี่ยว เก่งคนเดียวกลัวคนอื่นรู้ว่าเราทำยังไง?ถึงได้ผลดี ไม่ชอบแบ่งปันความรู้..พอมีใคร? มาบอกให้ทำอย่างนั้น-อย่างนี้ ก็มักจะต่อต้าน ไม่ยอมรับ ก็เลยโดนนายทุนเล่นงานเอา..
ไม่รู้นะ..ว่าเพื่อนคิดกันยังไง? แต่ผมว่า ..ประเทศไทยของเรา มีภูมิอากาศ - พื้นที - น้ำ - ดิน - ทีท่องเที่ยว - มีทางออกทะเลทั้ง๒ข้าง ที่สมบรูณ์พร้อม จะทำอะไร? ทำได้หมด ไม่มีอะไร? มาเป็นข้อจำกัด เราใช้-ทำ-กิน ให้พอก่อนแล้วค่อยส่งออก ไม่ใช่ส่งออกไปขายชาวโลก แต่ชนในชาติยังอยู่-ยังใช้ ของทีเราผลิตได้ในราคาแพง เท่าตลาดโลกที่เราขายไป แล้วเมื่อไหร่เราจะหาย " จน " หล่ะครับ.

เลิกโง่เมื่อไหร่ ก็เลิกจนเมื่อนั้นครับ
แต่คงอีกนานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

เรื่องนี้มองยังไงก็ไม่เบาครับ
ทฤษฎี ๒ สูง ที่ว่ามานั้น คุณคิดว่าใครได้ผลประโยชน์ ???
จริงครับ คนไทยไม่ควรกินของแพง จากผลิตผลที่ทำเองมามือ
ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม แต่กลับส่งเสริมอุตสาหกรรม อ้างว่าสร้างงาน พัฒนาประเทศ แต่กลับสร้างมลภาวะแวดล้อมที่เลวลงทุกวัน
- คุณคิดอย่างไร? กับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง? แต่ปิดข่าว? ชาวบ้านดั้งเดิม ได้อะไร?
- คุณคิดอย่างไร? ตอนเกิดน้ำท่วมเขตอุตสาหกรรม คนไม่มีงานทำมหาศาล?
- ตุณติดอย่างไร? กับปัญหาสังคมที่เพิ่มขึ้นมากในปัจจุบัน?
การจัดการเรียนการสอนของบ้านเรา ได้มุ่งเน้นให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพ คนรวยยิ่งรวย คนจนยิ่งเป็นหนี้
การรวมกลุ่มกันของเกษตรกร เค้าก็ทำได้ครับ บางชุมชนก็เป็นตัวอย่างที่เข้มแข็ง แต่ส่วนใหญ่จะตกเป็นเหยื่อของนายทุนเงินหนา
ถ้าใครคิดว่าเจ๋ง ก็ลองไปทำดู ว่าอาชีพเกษตรกรนี่มันยากแค่ไหน?
ในนี้พูดมากไม่ได้ มันจะเลยเถิดครับ

* การจัดการเรียนการสอนของบ้านเรา ไม่ได้ มุ่งเน้นให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพ

2 สูงอ่ะ คนพูดได้ประโยชน์เต็มๆ พูดเอาแต่ได้
เกษตรกรไทยจะลืมตาอ้าบอกได้ก็ต่อเมื่อ คนอย่าง ไอ้คนพูด(พ่อค้าคนกลาง) มันศูนย์พันธ์
เมื่อนั้น ประเทศจะเจริญ โชติช่วงชัลวาลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล

ปัญหาความยากจนของเกษตรกร เห็นรัฐบาลแก้ไขมาไม่รู้กี่สมัยแล้ว ผลลัพธ์เกษตรกรยังยากจนและมีหนี้สินเหมือนเดิม เกษตรกรที่ฉลาดทำการเกษตรแบบมีกลยุทธ์มีทิศทางมีการวางแผนไม่ค่อยจะมีปัญหาเท่าไหร่หรอก ส่วนเกษตรกรที่ยังมีปัญหาให้ลงลึกศึกษาชีวิตและวิธีการทำงานของเขาดูจะทำให้เข้าใจได้ดีถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แล้วมาคิดว่าจะแก้ไขอย่างไรดี

ครอบครัวผมสอนว่ารายได้ไม่สำคัญเท่ารายจ่าย อันนี้ใช้ได้จริงครับ คนเรารายได้มากน้อยเท่าไรถ้าควบคุมรายจ่ายได้ก็พออยู่รอดได้ครับ ถ้าเทียบกับที่ผมเป็นอยู่ไม่มีเงินก็ขอแค่มีข้าวสารติดบ้านก็พอครับ ยังไปหาปลาเก็บผักมาทานได้ คนเราถ้ารู้จักหากิน อยู่ในแผ่นดินนี้ไม่อดตายหรอกครับพี่หนุ่ย ส่วนเรื่องจะให้รวยน่ะ สำหรับผมแทบไม่จำเป็นเลยผมขอแค่ให้ทุกคนรู้จักพอ ก็พอแล้วครับ เท่านี้ไม่จำเป็นต้องรวย ชีวิตก็มีความสุขแล้วครับพี่ ส่วนเรื่องสหกรณ์ นั่นเป็นแนวคิดที่ดีมากครับ แต่คงไม่มีคนสนับสนุนมากนักครับเพราะ มันทำให้พ่อค้าได้รายได้น้อยลง เมื่อพ่อค้าเห็นว่าได้กำไรน้อย ใครจะมาลงทุนครับ นั่นก็ส่วนหนึง อีกอย่างการรวมกลุ่มนั้นก็เหมือนที่พี่หนุยว่าครับ ไม่มีทางเป็นแนวเดียวกันได้ครับ การรวมตัวเป็นสหกรณ์จึงทำได้ยากครับพี่ ทุกวันนี้ผมก็อยู่แบบพอเพียงครับ (ภาคบังคับ)
"พอเมื่อไร รวยเมื่อนั้น"....คำสอนของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
เมื่อพอเพียง ก็ย่อมเพียงพอ.......ก่อสุขทุกสถานครับผม
อีก3ปีต่อจากนี้เป็นต้นไปสังคมอาเซียนต้องเริ่มต้นนับหนี่งใหม่ การไปมาหาสู่ ธุรกิจการค้า การทำมาหากินจะต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วยไม่มากก็น้อย สังคมของเราก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลง 10 ประเทศที่เป็นอิสระในการทำธุรกรรมกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว เขาจะเอาอะไรมาขายให้เรา เรามีดีอะไรที่ต้องเสนอแนะในการขายสินค้าที่แปลกไม่เหมือนใคร ในโลกนี้เรามีอยู่อย่าง ที่ทั่วโลกไม่มีคือพระเครื่อง จะนำเสนออย่างไรของมีอยู่ในมือ ........สังคมพระเครื่อง...
เกษตรกรส่วนมากปรับเปลี่ยนเรียนรู้ อัฟเกรดตัวเองขยับขยายเป็นเกษตรกรรมก็มาก(ปลูกเอง ผลิตเอง แปรรูปเอง ขายเอง)อีกอย่างรัฐบาลคอยช่วยเหลือ
ชาวนา เกษตรกรมีพื้นที่ดินทำกิน มีบ้าน เรียกสวนไร่นาพร้อมที่จะทำกิน แต่กับมองข้ามอาชีพตนเอง หลงวัตถุนิยม ฟุ้งเฟื้อกับสังคมยุคใหม่ แปรสภาพที่ดินทำกินเป็นเงินเพื่อเอาไปสนองกับสิ่งที่ตนเองปรารถนา ประกาศขายที่ดินตามราคาประเมิน กว่าจะได้ขาย ไม่ทันใจ จัดการเสนอนายหน้าขายที่ดิน วิธีเดียวที่จะได้เงินไวๆคือขายฝาก สุดท้ายไม่ไปไถ่ถอน นายทุนก็ยึดที่ดิน เมื่อไม่มีที่ดินทำกิน หันเหชีวิตมาเป็นคนเมืองปากกัดตีนถีบ บ้านเช่าข้าวซื้อ ต่างคนต่างดิ้นรนขนขวายหาอยู่หากิน ไม่มีเวลาเป็นของตนเอง จะนั่งงอมืองอเท้าก็ไม่ได้ ค่าใช้จ่ายแต่ละวันแต่ละเดือนก็ตามมาติดๆ คิดจะรวยทางลัด(หวย มวย ไก่ชน บอล ไฟ่ บ่อนการพนัน บาคาร่า ไฮโลฯลฯ)นี่คือเหตุผล เหตุการณ์อย่างหนึ่งของการดำเนินชีวิตในปัจจุบันของสังคมมนุษย์
สินค้าคัดเกรด คุณภาพดี นำส่งนอกหมด เหลือแต่กากไว้ให้ประชาชนตาดำๆ ยิ่งผลไม้ทำไมยิ่งปลูกคุณภาพยิ่งแย่ลงทุกที
ทุกความคิดเห็นมีประโยชน์ทั้งหมดครับ ผมบวกหนึ่งให้ทุกท่านไม่เว้นใคร...? เลยนะครับ เพราะสังคมนี้เป็นของทุกท่าน ต้องช่วยกันครับเริ่มที่ตัวเรา - ครอบครัวเรา - มีสติ - พักผ่อนบ้าง! (พัก!การผ่อน..) แล้วมันจะไปสู่ส่วนรวมเองครับ.
ผมนั่งดู " โฆษณา TV. ที่เด็กๆ ออกความคิด-เห็น เรื่อง.. ถ้าพลังงาน..มันหมดไป ตามความคิด..!ของเด็กๆ... จะทำกันอย่างไร? " นั่นแหล่ะ..ความคิดของเรา.. เมือตอนที่.. อายุเท่าเขา
มีคนเคยบอกผมว่า.. " ถ้าอยากมีรายได้..หลักหมื่น หลักแสน..ให้คุยกับคนที่เขามีรายได้ หลักหมื่น หลักแสน.. อยากทำธุรกิจฯ กิจการฯ ร้านค้า ก็ให้คุยกับคนที่ทำด้านนั้นๆ จะไปปรึกษาฯ หารือ กับคนในครอบครัวที่ทำงานกินเงินเดือนไม่ได้..เพราะเขาไม่รู้หรอก...สิ่งที่พวกเขาจะให้ได้ ก็ กำลังใจ หรือ เงินทุนที่พอจะให้ได้ และความคิดเห็น! ที่เขาคิดว่า... เท่านั้น ส่วนประสพการณ์ตรง ต้องไปหาจากผู้ที่อยู่ในวงการนั้นๆเท่านั้น..
สิ่งที่ผมมองเห็นทุกวันนี้.. ก็คือ ทุกคนเชื่อมั่น-ฝังใจ กับความคิดของตัวเอง
เกษตรกร...
ก็คิดเพียงแค่ว่า.. จะทำอย่างไร? ให้ได้ผลผลิตมากที่สุด เพื่อ..จะเอารายได้นั้นไป ส่งเสียบุตรฯหลานให้ได้รับการศึกษาที่สูงๆ ปลดหนี้!..จ่ายค่าปุ๋ยเคมี-ยาฆ่าหญ้า,ฆ่าแมลงศัตรูพืช. ค่าผ่อนรถไถที่ได้รับการยัดเยียดจาก ธกส.เอาที่ไปค้ำ,จำนอง แล้วจ่าย..เป็นรายปี เก็บรายได้เข้ารัฐ ทำยอดกำไรให้กับสาขา
พ่อค้า...
ก็คิดว่า..จะทำอย่างไร? ให้เกษตรกรซื้อ ผลิตภัณฑ์ ที่ตนเองเป็นตัวแทนฯ ให้มากที่สุด จัดให้มีการชิงโชค ตั้งแต่ รถกระบะ รถไถ ตู้เย็น ทีวี ยันไอติม!
เจ้าหน้าที่ของรัฐ...
ก็ออกประกาศ.. ขอความร่วมมือ..ให้ตรึงราคาไว้ก่อน..ยังไม่ให้ขึ้นราคา แต่..ไม่เคยออกมาสำรวจตามท้องถิ่นเลย ว่า ราคาที่ท่านประกาศมันมีจริงหรือ (ชาวบ้านหาน้ำตาลทราย,หาเนื้อหมู ราคาควบคุมได้หรือเปล่า)
ผมเคยไปซื้อไม้บ้านเก่า จากคนที่ เลี้ยงไก่พันธุ์เนื้อ ส่งบริษัทอาหารยักษ์ใหญ่ เขาบอกว่า " ไม่รู้เป็นยังไง? ลูกไก่ที่ส่งมา ดีเยี่ยมโตไวแข็งแรง ๑ รอบ , ปานกลางเลี้ยงแล้วจับขาย ได้เสมอทุน ๒ รอบ , ขาดทุนยับเยิน แทบอยากเลิก ๑ รอบ แล้วจะกลับมาดีเยี่ยม..ในรอบต่อมา.. ( อ่านแล้ว.. ท่านเข้าใจไหม?ครับ. ว่ามันคืออะไร?) แต่เดี๋ยวนี้เกษตรกรท่านนั้นเข้าใจแล้ว.. และ เลิกเลี้ยงไก่ฟาร์มไปแล้ว
ทฤษฎี..เศรษฐกิจฯพอเพียง ของพระองค์ท่านฯ
ให้เราอยู่ กิน ใช้ ทำ อย่างสมดุลฯ ไม่มากไป - ไม่น้อยไป ใช้เท่าทีมี มีรถเก่ายังใช้งานได้ดีผ่อนหมดแล้ว..ก็เก็บเงินเอาไว้สำหรับของที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต.. ทำนาในที่นา..ทีพอกับแรงที่ตนเองทำไหว ดูแลได้ ไม่ต้องไปจ้างเขา.. ทำเยอะทำเองไม่ไหว ต้องจ้างเขา ตั้งแต่..ไถที่เตรียมดิน-หว่านเมล็ดพันธุ์-ใส่ปุ๋ยเคมี-พ่นยาฆ่าแมลง,ปราบศัตรูพืช-จ้างรถเกี่ยวข้าว-แล้วจะเอากำไรมาจากไหนละครับ. ทุกอย่างจ้างเขาหมด เพราะเราทำมันเกินกำลังของเรา .. รับเงินค่าข้าวเปลือก เป็นแสนๆ แต่ก็จ่าย..เป็นแสนๆเหมือนกัน แล้วช่วงเวลาที่ยังไม่ได้ผลผลิตหล่ะ.. เอาเงินที่ไหนกินใช้ ก็กู้เขามากิน-ใช้ ถึงเป็นหนี้ไม่สิ้นสุด
สหกรณ์...
ถ้ารู้หลักการที่ถูกต้อง!ไม่ยากครับ แต่ ก็ไม่ง่าย ชุมชนเข้มแข็ง สมาชิกฯได้ประโยชน์แน่นอน แต่ต้องมี " วิสัยทัศน์ " ที่กว้างไกลเป็นไปได้ กำหนด ระยะเริ่มต้น จะได้อะไร? เสียอะไร? จะเริ่มเห็นผลระยะไหน? ให้เขาเห็นว่าเขาเข้ามาแล้ว..เขาจะได้อะไร?
หลักการฯ ง่ายๆ กำหนดบทบาทรูปแบบ ของแต่ละสหกรณ์เอาเอง เช่น.จะระดมทุนจากอะไร? ขายหุ้น! ราคาต่อหุ้น! การแบ่งปันผลกำไรต่อหุ้น , จะปลูกข้าวปลอดสารฯ ปลูกผักเกษตรอินทรีย์ เกษตรกรสมาชิกฯ รับหน้าที่นี้ไป ปลูกแล้วนำมาขาย ให้กับสหกรณ์
ส่วนเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ ก็จัดจ้าง!คนที่มีความรู้ - ความสามารถในด้านต่างๆ (ก็ลูกหลานของเกษตรกรสมาชิกฯ นั่นแหล่ะ.. เรียนมาจบมาทางด้านไหน? ก็ทำงานด้านนั้น มีเงินเดือนให้เขาด้วยนะ)
- การตลาด ก็จัดหา-ติดต่อที่ที่จะส่งขายผลผลิตของสมาชิกฯ , จัดหา-จัดซื้อ ปุ๋ย มาขายให้กับสมาชิกฯ (อันนี้..ต้องจ้างมืออาชีพฯ ที่เก่งจริงๆ ให้เขามารับผิดชอบหน้าที่สำคัญนี้)
การจะทำอะไร?ให้สัมฤทธิ์ผล และเกิดขึ้นได้ ต้องปราศจาก อคติ ไม่ใช้อภิสิทธิ์ เห็นแก่ได้ ..โชติช่วงชัชวาล...แน่ครับ.(ตื่นๆๆ...มีเรื่องแล้ว..)

พลังงาน ไม่มีวันหมดครับ พี่หนุ่ย
ทุกวันนี้ มีพลังงานทางเลือกหลายอย่าง
แต่
วันนี้ ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องนำพลังงานเหล่านั้นมาใช้
เพราะ
เดี๋ยวน้ำมัน จะขายไม่ออก
ผู้บริดภคอย่างเราๆ ไม่ต้องกังวลหรอกครับ ไอ้เรืองพลังงานหมด มันเป็นเริ่องของการตลาด
เกษตรกรไทยต้องจนต่อไป จนกว่าจะจับไอ้พวกนายทุนมาตัดคอ แล้วแล่เอาเนื้อทิ้ง ให้แมลงวันมาไข่ ให้หนอนขึ้นให้หมดประเทศ 555