คุยกันสนุกครับ เรื่องหวงวิชา - webpra

หัวข้อ: คุยกันสนุกครับ เรื่องหวงวิชา

กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ

คุยกันสนุกครับ เรื่องหวงวิชา
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 1
ramin_sukimm
ตั้ง: 30 ตอบ: 148
คะแนน: 62
รายละเอียด

  พอดีว่าตั้งแต่ย้ายมาเพิ่งว่างพอไปสนุกกับชาวบ้านได้บ้าง  ว่าแล้ววันนี้(เสาร์)ก็จัดแจงเดินลงเขาไปเล็กน้อย  ยังอยู่ที่เดิมกิจกรรมยามว่างของชาวบ้าน  กัดปลากัด  ได้คุยนั่งเล่นสนุกดีแท้  แย่นิดหน่อยตอนจ่ายเงิน(เสียไม่พัก)  พอดีว่ามีโอกาสได้เจอลุงอยู่ท่านนึง  ท่านจำได้ว่าผมพอดูพระได้บ้าง  จึงได้คุยสนทนากันและท้ายที่สุดก็ไปส่องพระกันที่บ้าน  นั่งรถลงเขากันไปสักครู่ก็ถึง  พูดคุยกันอย่างสนุก  โดยมีลูกชายของลุงมาร่วมวงด้วย  จนกระทั่งลูกของลุงถามผมขึ้นมาว่า  จ่าเป็นเซียนพระจริงๆหรอ  เพราะผมเห็นแต่พวกเซียนพระมัน  ชอบหวงวิชา  ไม่ค่อยพูดอะไร  ชอบว่าพระคนอื่นแล้วกดราคากัน  พวกผม(ชาวบ้าน)แถวนี้ไม่มีใครชอบและไม่เอามันแล้ว  ผมจึงตอบกลับไปว่า  ผมก็แค่คนที่ชอบและสะสมเท่านั้นครับ  เพราะเราเป็นทหารมันก็ต้องมีของดีติดตัวไว้บ้าง(เมื่อก่อนดันเอาไปขายแลกเหล้าไว้มาก  พอมีลูกชายเพิ่งรู้สำนึกว่ามันหาไม่ได้แล้ว)  และอีกอย่างคุยกันมันก็แลกเปลี่ยนความรู้  ผมเองก็ใช่รู้จักพระทุกองค์ครับ   เมื่อตอบกลับไป  ลูกชายลุง  จึงพูดกลับมาว่า  มิน่าหล่ะไม่หวงความรู้เลย  ผมจึงได้คุยต่อว่า  ครั้งนึงคำถามนี้ผมก็เคยถามครูของผม  ที่ท่านเมตตาสอนเรื่องพระให้ว่า  ครูสอนให้ขนาดนี้ไม่เก็บไว้บ้างหรอครับ  ถ้าสักวันนึงมีลูกศิษย์เก่งกว่าจะทำอย่างไง  ครูท่านยิ้ม  แต่แทนที่จะตอบมาตรง ๆ ท่านกลับเล่านิทานให้ฟังแทน  อยากฟังไหม   ลูกของลุงตอบว่าอยากฟัง  

           ในสมัยก่อน  ที่เมืองจีน  มีอาเหลียงกับอาเฟยเป็นเพื่อนกัน  เขาทั้งคู่ได้ไปเรียนที่เดียวกัน  อาเหลียงเป็นคนที่หวงวิชามาก  เนื่องด้วยเขากลัวว่าถ้าหากอธิบายความรู้ที่เรียนมาจากอาจารย์  ให้เพื่อน ๆ ที่ไม่เข้าใจ  ให้เข้าใจ ไม่แน่ในอนาคตคนผู้นั้นจะเก่งกว่าตนก็ได้   อาเหลียงจึงไม่คุยและพยายามที่จะหลีกเลี่ยงเมื่อเพื่อน ๆ มาถาม   ผิดกับอาเฟย  เขากลับอธิบายสิ่งที่อาจารย์สอน  จนเพื่อน ๆ เข้าใจโดยไม่ปิดบังสิ่งใดเลย   และในบางครั้งอาเฟยก็ชวนเพื่อน ๆ ศึกษาและถกปัญหาต่าง ๆ ด้วย  และคำถามที่ยกมาถามนั้นอาเฟยก็มักจะเป็นคนแรกที่ตอบได้ด้วย  อาเฟยก็ไม่มีความคิดที่จะปิดบังสิ่งใด  เขายังอธิบายให้เพื่อน ๆ ทุกคนเข้าใจด้วย  เรื่องนี้สร้างความงุนงงให้กับอาเหลียงมาก  อยู่มาวันนึง  ทั้งคู่ได้มีโอกาสคุยกัน  อาเหลียงจึงได้ถามอาเฟยว่า  อีกไม่นานก็จะสอบจงหงวนแล้ว   นายไปสอนคนอื่นเขาอย่างนี้ไม่กลัวว่าเขาจะเก่งกว่าหรือเพราะตอนสอบทุกคนที่นี่ก็คือคู่แข่งทั้งนั้น   อาเฟยได้แต่ยิ้มแล้วไม่ว่าอะไร   จนเมื่อสอบจงหงวนแล้วประกาศผลมา   อาเฟยก็สอบได้ที่หนึ่งโดยมาอาเหลียงเป็นที่สอง  แต่คะแนนกลับห่างกันลิบลับ   อาเหลียงจึงไปถามอาเฟยว่าทำได้อย่างไง  เพราะเขาเห็นแต่อาเฟยคอยแต่สอนและอธิบายให้กับเพื่อน ๆ ในห้องที่ไม่เข้าใจเท่านั้น   อาเฟยก็ตอบคำตอบมาที่เรียบง่ายที่สุด  ก็ตอนที่ฉันสอนและอธบายให้เพื่อน ๆ ฟังไง  นั่นหล่ะคือตอนที่ฉันทบทวนตำรา  เพราะว่าถ้าเราไม่เข้าใจเรื่องนั้น ๆ อย่างถ่องแท้แล้ว  เราก็ไม่สามารถอธิบายเขาให้เข้าใจได้  ด้วยเหตุนี้การที่ฉันได้อธิบายความรู้นั้น ๆ ให้เพื่อน ๆ จนเข้าใจ  จึงไม่ต่างอะไรกับการทบทวนตำราและทำความเข้าใจในสิ่งที่เรียนมาพร้อม ๆ กัน  

             ครูท่านจบเรื่องเล่าเท่านี้แล้วหันมาคุยกับผมต่อ  เข้าใจไหมหล่ะ  คนเราน่ะมันต้องศึกษาหาความรู้ไว้ตลอด  การที่เราไม่หวงความรู้แล้วแลกเปลี่ยนกัน  มันไม่ใช่แค่ทำให้เราได้รู้จักคนเพิ่มเท่านั้น  เราก็ได้ความรู้จากคนที่เราคุยด้วยเช่นกัน   เพราะบางครั้งการศึกษาพระในสายที่เราไม่ถนัดเราก็พลาดได้เหมือนกัน  การที่เราไม่หวงความรู้ในสิ่งที่เรารู้  คนที่คุยด้วยเขาก็ไม่หวงที่จะบอกสิ่งที่เขารู้เหมือนกัน   จึงเหมือนกับการทบทวนและแลกเปลี่ยนความรู้กัน  จงจำไว้นะ  ถ้าไม่รู้ก็อย่าอวดรู้   ถ้ารู้ก็อย่าหวงวิชล้วความรู้จะมาเองขอเพียงแค่พูดคุยเท่านั้นเอง  

              หลังจากเล่าเรื่องนี้เสร็จแล้วผมก็ได้คุยกับทั้งคู้ต่อจนเย็นแล้วจึงกลับขึ้นเขาครับ   การพักผ่อนของผมเมื่อวานนี้ทำให้นึกเรื่องดี ๆ นี้ได้  จึงขอเอามาแบ่งปันนะครับ   แล้วก็ตอนที่จะจบตอนก็นึกถึงเรื่องเก่าไม่มากได้อีกเรื่องนึง  จึงขอเล่าไว้เป็นอุธาหรณ์นะครับ  เป็นบทเรียนสำหรับผู้ที่อวดว่าเก่งเป็นเซียนพระนะครับ  

              เมื่อสองสามเดือนที่แล้วผมได้พบกับ  คน ๆ นึงที่หาพระจากบ้านไปปล่อยให้คนอื่น  บางทีก็เอาไปปล่อยที่สนาม(ถ้าจำไม่ผิดลักษณะนี้น่าจะเรียกว่าผีสนาม)  ผมกับหัวหน้าได้เดินทางไปที่วัดแห่งนึงเพื่อพักผ่อนและพูดคุยเรื่องพระ(วัดนี้มีพระที่ชอบพระเครื่องอยู่เยอะครับ) โดยนั่งกันอยู่หลายคนและมีพระวางอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนเพื่อศึกษาและเปลี่ยนความรู้กัน  อยู่ ๆ คนนี้ก็เดินเข้ามา    มาส่องพระและสวดพระเสียยับทีเดียว  เรื่องนี้ผมก็ดูไม่พอใจแต่หัวหน้าผมยังยิ้มเฉย ๆ อยู่  ผมจึงไม่พูดอะไรมา  เพราะพระที่วางส่วนใหญเป็นของหัวหน้า  เขาไม่พูดผมจึงพูดไม่ได้  หลังจากเขาสวดเสร็จก็เริ่มการโฆษณาเสนอพระของเขาทันที  เรื่องมันก็เกิดขึ้นเมื่อตอนเอาพระ  หลวงพ่อล้าน  วัดขนาย  ออกมา(ขอไม่บอกรู่นนะครับ) มาคุยว่าเป็นรุ่นกรรมการสร้างน้อย  พร้อมกล่องติดจีวรมาด้วย  และอะไรอีกต่าง ๆ   ผมฟังแล้วสะดุ้ง  ก็จะตอบกลับไปว่ามันเก๊ร้อยเปอร์เซ็น  แต่ไม่ทันเสียแล้ว  หัวหน้าผมที่ยิ้มอยู่ตลอดพูดมาคำว่ารุ่นนี้มันไม่มีสร้างมาแบบนี้  พอได้ยินหัวหน้าผมพูดเช่นนี้เข้า แทนที่จะรับฟังบ้างกลับมากล่าวหาวาหัวหน้าผมไม่รู้จริง  มันมี.......(ว่าไปตามเรื่อง)   หัวหน้าผมก็ปฏิเสธว่ามันไม่มีจริง ๆ ที่สร้างมาแบบนี้  อีกอย่างรุ่นกรรมการก็สร้างมาแค่  19 ชุดเท่านั้น(ถ้าจำไม่ผิดนะครับ  พอดีจำไม่ค่อยได้) มีการตอกโค๊ตชัดเจน  คน ๆ นี้ก็ยังดื้อเถียงต่อว่ามันมี  จนเริ่มมีปากเสียงกันหนักขึ้น  จนในที่สุดเรื่องก็จบลงในคำพูดที่ว่า ผมจะไม่รู้ได้ยังไงว่ามันมีสร้างมาแบบไหนบ้าง  ก็ในเมื่อรุ่นนี้ผมเป็นกรรมการการจัดสร้างเอง  และเป็นคนหาวัตถุดิบเอง  โค๊ตที่ตอกผมก็เป็นคนคุมทหารไปตอกเอง ผมจะจำได้ได้เลยหรือไงว่าสร้างอะไรออกมาบ้าง  หลังจากที่ได้คุยกันในวันนั้น  ผมก็ไม่ได้เห็นคน ๆ นี้ที่วัดอีกเลย  (ดันไปเถียงกับสายตรงหลวงพ่อ  เลยโดนตอกกลับ)   นี่เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับท่านที่ศึกษาเรื่องพระให้รับฟังไว้นะครับ  การแลกเปลี่ยนความรู้มันมีความสำคัญ  อย่าเถียงว่าของข้ามันแท้เพียงอย่างเดียว  แต่ควรรับฟังผู้อื่นบ้าง  วันนี้ขอคุยเท่านี้นะครั  ขอบคุณครับ

โพสต์เมื่อ อา. - 04 พ.ย. 2555 - 11:38.17
ความคิดเห็นที่ 1:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
หนุ่มเหนือ
ตั้ง: 49 ตอบ: 990
คะแนน: 275
ร้านค้า:
รายละเอียด

เยี่ยมครับ เขียนได้ยาวแต่อ่านลื่นใหลมาก เหมือนหนังจีนกำลังภายใน มีทั้งบุ๊นทั้งบู๊ 

แต่สวนตัว ถ้าผมเจอคนแบบที่ท่านเล่า ผมจะไม่เถียงนะ จะปล่อยให้มันรู้แบบผิดๆ ตอกฝาโลงไปจนวันตายเลย 555

โพสต์เมื่อ อา. - 04 พ.ย. 2555 - 14:09.34
ความคิดเห็นที่ 2:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
นกเค้าแมว
ตั้ง: 103 ตอบ: 498
คะแนน: 23
รายละเอียด

เอวังฯ...ด้วยประการฉะนี้....อิฉันเคยพูดไว้ในกระทู้เก่าๆว่า..." บนโลกใบนี้ไม่มีเซียนที่มีลมหายใจ " มีแค่รู้มากหรือรู้น้อยเท่านั้น...และที่เจอส่วนใหญ่ตามสนามพระขนาดเล็กๆ จะมีผู้รู้น้อยที่ชอบทำเป็นรู้มากซะเยอะ...และที่สำคัญ..ดันไปแนะนำคนที่ไม่รู้พากันออกทะเลด้วยกัน.บางครั้งได้ยินเค้าคุยกันมันอยากจะเข้าไปร่วมวงคุยด้วยเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กัน...แต่ติดที่เป็นผู้หญิงเดี๋ยวเขาจะว่าเอาเหมือนที่เคยโดนมา..เป็นผู้หญิงนี่...เล่นพระมากี่ปี..เคยเห็นเคยรู้หรือเปล่า...แล้วก็มองแบบว่า...ข้านะรู้..ดูขาด...นับแต่นั้นก็ไม่เคยเป็นผู้พูดอีกเลย..ฟังเค้าคุยกันอย่างเดียว..นอกจากคนที่รู้จักหรือยอมรับว่าผู้หญิงก็ดูพระเป็น.............เฮ้อ...เห็นแล้วเหนื่อย

 

โพสต์เมื่อ อา. - 04 พ.ย. 2555 - 19:10.21
ความคิดเห็นที่ 3:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
พระเอกพระเครื่อง
ตั้ง: 38 ตอบ: 1896
คะแนน: 63
รายละเอียด

วิชา ความรู้ บางอย่าง บางระดับ ต้องเลือกครับ ว่าผู้รับสมควร หรือพร้อมที่จะรับมันรึยัง

โพสต์เมื่อ จ. - 05 พ.ย. 2555 - 16:12.43
ความคิดเห็นที่ 4:
คะแนน ความคิดเห็นที่มีประโยชน์: 0
united
ตั้ง: 160 ตอบ: 556
คะแนน: 106
รายละเอียด

เห็นเพื่อนๆห้วยพระ(สายร่ม สแตนเลส สายหนังฯลฯ)สังเกตุมองดูแล้วเท่ ชายชาตรี โอ๊ย!ที่หิ้งพระที่บ้านน่าจะมี กลับมาค้นหาบนหิ้งพระ

ผ้าเช็ดหน้ามัดห่อไว้ยกขึ้นหนักอึ้ง(พ่อเก็บสะสมไว้)เปิดผ้าเช็ดหน้าที่ห่อไว้แล้วเลือกหาองค์ที่ชอบ มีทั้งพระผง พระเหรียญ ด้วยความที่ยังไร้เดียงสา

ก็หยิบเอาองค์เหรียญที่มีหู มีห่วงมาห้วยคอ สายสร้อยสายร่ม เอาแบบเพื่อนเพื่อเข้ากลุ่มได้.....ขอพ่อ....

    หลวงพ่อผางพ่อข้าบอก(อวดเพื่อน)

สมัยก่อนการห้วยพระไม่ค่อยอัดกรอบพระ มายังไงก็ใส่แบบนั้นเลย บางทีเหงื่อออกคราบสนิมเขียวติดหน้าอก กว่าจะล้างออกต้องใช้เวลาเหมือนกัน

ที่สำคัญพระเหรียญที่ห้อย จากที่เห็นหน้าเป็นรูปเป็นร่าง ก็เลือนลางสึกกร่อนเหมือนสภาพพระที่ใช้งานมาแล้ว(ราคาตกตามสภาพ)

ปัจจุบันนี้ พระเครื่องเป็นวัตถุมีค่า จึงเกิดการเลียนแบบ(วิธีหาเงิน)ของแท้ ของเทียมก็เลยเป็นปรากฏการณ์เล่าขานกันมาพร้อมกับพุทธคุณปาฏิหารย์

ที่เจ้าของพระมีประสบการณ์มาราคาซื้อหายิ่งเพิ่มมูลค่า หายากยิ่งแพง

  แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นของแท้? เกิดปรากฏการณ์ผู้รู้ที่เรียกว่าเซียนพระ   มีการพิมพ์หนังสือ นิตยสารพระเครื่องออกสู่ท้องตลาดเล่มแล้วเล่มเล่า

ติมตามตอนต่อไปเร็วๆนี้

       

โพสต์เมื่อ ศ. - 09 พ.ย. 2555 - 12:12.05
Top