
หัวข้อ: ฮวงจุ้ย...ใครว่าไม่สำคัญ
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ
อันคำว่า"ฮวงจุ้ย"นั้นเป็นที่รู้จักกันมานาน แต่นำมาใช้และพูดถึงกันไม่น่าจะเกิน 10 ปีสำหรับเมืองไทย โดยเฉพาะตึกธุรกิจสำคัญโดยเฉพาะสถาบันการเงินเช่นธนาคารทหารไทยสำนักงานใหญ่สร้างใหม่ก็ปรับฮวงจุ้ยบนรูปตึกและที่ตั้ง บนถนนพหลโยธิน สำหรับการสร้างบ้านด้านหน้าเป็นสระน้ำ ด้านหลังอิงภูเขา ก็เป็นสูตรในการปรับฮวงจุ้ย ผมเคยไปสิงคโปร์ประเทศที่เจริญในด้านตลาดการเงินเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไกด์พาเที่ยวพาชมสถานที่ต่างๆโดยเฉพาะตึกหรือสิ่งก่อสร้างใหญ่ๆหนีไม่พ้นเรื่องฮวงจุ้ยทั้งสิ้นเช่น สิงคโปร์ฟลายเออร์เป็นรูปเหมือนกังหันก็เป็นการพัดพาสิ่งดีๆเข้าประเทศ ตึกกาสิโน 2 ตึกที่เป็นรูปเรือริมทะเลก็เป็นการขนส่งสินค้า การค้าขายสู่ประเทศ ย่านกลางใจเมืองมีน้ำตกที่ไหลตลอดทั้งปี เขาก็ถือว่าเศรษกิจการค้าขายไม่มีวันหลับสำหรับประเทศเขา และคนสิงคโปร์ถือว่าเป็นการเปลี่ยนชีวิตใหม่ของประเทศเขานั่นคือเจ้าแม่กวนอิมที่อัญเชิญเสด็จมาอยู่ประเทศเขาหลังแยกออกจากมาเลเซีย ทำให้ประเทศเขาร่ำรวย ไม่น่าเชื่อที่จะมีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่บินไปสิงคโปร์เพื่อไปไหว้ขอพรเสด็จแม่กวนอิมเพราะเชื่อว่าจะสำเร็จดังประสงค์
ในเกาหลีใต้ฮวงจุ้ยที่สำคัญของประเทศเขาเป็นภูเขารูปสิงห์โตนอนหันหลังกลับมามองดูพระราชวังโบราณ ได้ถ่ายรูปมาให้ชมภูเขาหลังรูปปั้นทางขวามือจะมีตา 2 ตา และจมูกสิงห์อยู่ตรงกลางลักษณะเหลียวหลังมองดู ทางข้างล่างปัจจุบันเป็นที่พำนักของประธานาธิบดีมาหลายสมัยแล้วเรียกว่า"บ้านสีน้ำเงิน" ก็ถ่ายรูปมาให้ดูกันเต็มตา ถัดเข้ามาเป็นพระราชวังโบราณซึ่งยังอนุรักษ์ไว้อย่างดีรวมทั้งสร้างพิพิธภัณฑ์เพิ่มเติมด้วยได้แสดงขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของเกาหลียุคโบราณเป็นอย่างดี
ส่วนฮวงจุ้ยที่ได้สร้างเพิ่มเติมเป็นนกฟินิกซ์ นกที่ไม่มีวันตาย เป็นนกที่คนเกาหลีถือว่าเป็นตัวแทนของคนเกาหลี ในอดีตเกาหลีถูกจีนครอบครองดังเห็นจากภาษาจีนยังมีใช้ในเกาหลี หลุดจากจีนก็เป็นญี่ปุ่นได้เข้ามาครอบครองกดขี่ข่มเหงล้มราชวงค์เกาหลีจนสิ้น ญี่ปุ่นแพ้สงครามต่อพันธมิตร ดินแดนเกาหลีได้โดนแบ่งเป็น 2 ดินแดนเป็นเหนือและใต้โดยเส้นขนานที่ 38 โดยเกาหลีเหนือมีรัสเซียเป็นผู้ดูแล เกาหลีใต้มีอเมริกาเป็นพี่ใหญ่ และก็จับ 2 ประเทศนี้รบกัน ฆ่ากันเอง โดยมีลัทธิจักรวรรดิ์นิยมและลัทธิคอมมิวนิสต์แปะไว้ที่หน้าผากคนละฟากฝั่ง มีหลักฐานที่ยังหลงเหลือในปัจจุบันคือคนเฒ่าคนแก่ในเกาหลีใต้ยังหลงไหลกลิ่นข้าวหอมมะลิไทยที่หอมกรุ่น ที่ยังมีชีวิตอยู่ในช่วงรบพุ่ง คนไทยในยุคปัจจุบันยังได้อานิสงฆ์เข้าเกาหลีไม่ต้องขอวีซ่าถ้าอยู่ไม่เกิน 90 วัน ในขณะเพื่อนบ้านต้องขอและเข้ายากและเคร่งครัดมากเหตุเพราะยังมีสายลับเข้ามาจารกรรมอยู่ เพื่อเป็นการตอบแทนคนไทยที่ส่งทหารไปช่วยรบและส่งข้าวสารไปให้ สำหรับของคนไทยก็มีหลักฐานอยู่เหมือนกันคือเพลง"อารีดัง" หลังสงครามโลกเขาถึงต้องต่อสู้มีการทำอุตสาหกรรมผ้า เรียกว่า"ผ้าเกาหลี"รุ่นคนเก่าคงทราบดี เขาล้มลุกคลุกคลานจนมาเป็น 1ใน 5 เสือแห่งเอเชีย เขาจึงเปรียบตัวเขาเองดั่งนกฟินิกซ์ที่ไม่มีวันตาย
แถมก่อนจบมีรูปปั้นพ่อแม่ลูก 3 คน อันหมายถึงมีลูกมากจะยากจนขอมีลูกเพียงคนเดียวพอไม่เช่นนั้นหาไม่พอใช้ จากรูปเพียง 2 รูปได้บรรยายความเป็นมาและเป็นไปจากอดีตถึงปัจจุบัน แต่ข้อมูลคงไม่ครบถ้วนอาจมีประวัติศาสตร์บางตอนหล่นหายไปหรือเพิ่มเติมขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ยังสงสารทหารยุคที่เข้าไปช่วยรบช่วงนั้นเพราะอากาศหนาวสุดๆ ช่วงที่ผมไปประมาณ 2-5 องศา เดือนธันวาคมจะเริ่มติดลบและมีหิมะตก และการเดินทางน่าจะเป้นทางเรือต้องสอบถามยุคเก่าดู เพราะนั่งเครื่องก็ตก 5 ชม.แล้ว ท่านใดมีข้อมูลดีๆมาช่วยหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมน่าจะเป้นประโยชน์กับเพื่อนสมาชิกชาวเวปพระครับ


ขอแถมอีกนิดสำหรับรูปนกฟินิกซ์ใครมีโอกาสขยายติดไว้ที่บ้านหรือติดตัว จะมีโชคอย่างไม่คาดฝัน ไม่หวงลิขสิทธิ์ครับ ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่นะ...จะบอกให้

ขอบคุณมากๆครับสำหรับข้อมูลดีๆ

เหรียญโชว์