หัวข้อ: ไปตักบาตรพระอุปคุตเถระหลังเที่ยงคืน ที่วัดบึงกระดาน ในวันลอยกระทง

 วัดบึงกระดาน ตั้งอยู่หมู่ 3 ต.บ้านป่า อ.เมือง จ.พิษณุโลก เป็นวัดเก่าแก่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นสถานที่ฝึกซ้อมรบสมัยโบราณ ยังมีบึงองค์ดำ และบึงองค์ขาวเป็นหลักฐานและเจดีย์โบราณหลงเหลืออยู่ เจ้าอาวาสได้จัดสร้างพระอุปคุตข

นาดหน้าตัก 29 นิ้วในวันจักรีที่ผ่านมา และกำลังรวบรวมทุนสร้างเจดีย์กลางน้ำไว้เพื่อประดิษฐานพระอุปคุต

   อันพระอุปคุตเถระนี้เกิดในพุทธศักราช 300 สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช มีบทบาทตอนปราบพระยามารทำให้ท่านเป็นที่รู้จัก

อย่างกว้างขวาง ท่านเบื่อมนุษย์จึงต้องไปจำศิลที่สะดือทะเล พอถึงวันพุธคืนวันเพ็ญ ท่านจะลงมาบิณฑบาตรเพื่อโปรดญาติ โยมซึ่งปีนี้พิเศษหลายอย่างมาตรงกับวันลอยกระทงด้วย ใครได้ตักบาตรกับพระอุปคุตรจะได้ตามสมปราถนา แต่ต้องหลังเที่ยงคืน

  จากรูปเป็นขบวนแห่พระอุปคุต มีแตรสังข์เป่าตลอดเส้นทางเดิน และมีบาตรขนาดใหญ่ไว้เป็นภาชนะสำหรับอาหาร

 ระหว่างที่ขบวนแห่มาถึงหน้าศาลา พระจันทร์ได้เกิดทรงกรด เป็นที่น่าอัศจรรย์

 ตอนหัวค่ำฝนตก ลมแรงมากในจังหวัดพิษณุโลก เป็นช่วงพุทธาภิเษกด้วย แต่ตอนไปเสร็จแล้ว คงเหลือแต่ความสวยงามของพระอุปคุต ลอยกระทงปีนี้กร่อย คงมีแต่ความคึกคักหลังเที่ยงคืนที่วัดบึงกระดานนี่เอง(คนรุ่นใหม่อาจเถียงว่าหลังเที่ยงคืนเป็นวันพฤหัสแล้ว) แต่นั่นแบบฝรั่งของไทยยังตีให้เป็นวันพุธถึง ตีห้า 59 นาที

 มายลโฉมพระอุปคุตหน้าตัก 29 นิ้ว ที่หล่อในวันจักรี(6 เม.ย.2555) ที่รอพลังศรัทธาจากประชาชนเพื่อสร้างศาลากลางน้ำมูลค่า 2 ล้านบาทเพื่อประดิษฐานองค์ท่าน สังเกตุได้ว่าพระอุปคุตห่างน้ำไม่ได้ ดังนั้นใครบูชาพระอุปคุตควรมีน้ำถวายอย่าให้ขาด ทั้งน้ำดื่มและน้ำที่ตั้งใส่ขวดไว้เฉยๆ เราก็สามารถตักบาตรพระอุปคุตหลังเที่ยงคืนได้โดยตรวจจากปฏิทิน วันพุธขึ้น 15 ค่ำ ตอนเช้าลาพระและนำอาหารมารับประทานเห็นคนแก่บอกว่าเป็นยาอย่างดี ใครมีความศรัทธาหรือผ่านไปมีเหรียญ รูปหล่อ พระบูชามีหลายขนาดให้บูชาเป็นศิริมงคล ดูจากโบชัวร์ติดต่อได้ทีพระครูเกษมวาปีพิสัย เจ้าอาวาสวัดบึงกระดาน โทร 081-9732012  พระครูใจดีมากครับ ผมไหว้พระแล้วลืมกุญแจรถหลวงพ่อเก็บไว้ให้อย่างดี และท่านเมตตาประพรมน้ำมนต์ให้ด้วย รายการวัตถุมงคลเรียกว่าพระอุปคุต(พระอรหันต์แห่งโชคลาภ)"ปางเรียกลาภปราบศรัตรู รุ่น 1" ผมก็เพิ่งไปครั้งแรกเดี๋ยวเข้าใจผิดว่าเป็นมักคนายกหรือผู้สร้างเหรียญ ขากลับยังขับรถหลงเนื่องจากเป็นเวลากลางคืนตาไม่ดี แต่ปาฎิหารย์ขี่หลงมาทางใหญ่ใช้เวลานิดเดียว ประหยัดน้ำมันตั้งเยอะ ไหว้พระอุปคุตแล้วจิตใจฮึกเหิมดีครับ

ขอร่วมอนุโมทนา สาธุ

                                                                                                ประวัติพระอุปคุตเถระ

     พระอุปคุตเถระ เป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญามีอิทธิฤทธิ์มากและผู้มักน้อยสันโดษ ท่านจะเข้าญานสมาบัติในประสาทแก้ว ที่สะดือทะเลและจะเหาะขึ้นมาบิณฑบาตรในโลกมนุษย์ ในวันพุธเพ็ญกลางเดือนเท่านั้น ประมาณปีพุทธศักราช 300 พระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์แห่งนครปาตลีบุตร ทรงเลื่อมใสในพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ได้ทรงสร้างพระเจดีย์ แปดหมื่นสี่พันองค์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อเสร็จแล้วจะให้มีการฉลอง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน แตกัวอันตรายจะเกิดขึ้นจึงเสด็จเข้าไปตรัสถามพระสงฆ์ให้ช่วยจัดการอารักขาให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยพระอรหันต์เจ้าทั้งหลาย ทราบด้วยญาณวิถี ว่าจะมีพญาวัสสวัสตีมารมาก่อกวนเป็นแน่ และพระสงฆ์อยู่ ณ ที่นี่ไม่สามารถต้านทานกำลังมารได้ อนึ่ง มีพุทธพยากรณ์ว่า ในอนาคตจะมีจะมีพระกีสนาคอุปคุตเถระจะเป็นผู้ปราบพญามารให้สิ้นพยศ หมดทิฐิและปรารถนาพุทธภูมิ พระเถระเจ้าจึงมอบหมายให้พระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญา 2 รูป ไปอารธนาให้พระให้พระอุปคุตมา พระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญารับบัญชา แล้วก็เหาะแหวกมหาสมุทรไปพบพระอุปคุตเถระเจ้า แจ้งความประสงค์ทุกประการ พระเถระก็รับคำพลางกล่าวว่า ท่านทั้งสองจงไปล่วงหน้า เดี๋ยวเราจะตามไป พระเถระผู้ทรงฤทธานุภาพอภิญญามหาศาล ก็อันตรธานไปปรากฏท่ามกลางสงฆ์ก่อนพระอรหันต์ทั้ง 2 รูป  ยังความอัศจรรย์ให้ปรากฏเป็นที่แปลกใจ

      พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงทราบเรื่อง จึงเสด็จไปทรงนมัสการเห็นพระเถระเจ้าผู้แก่ชราผอมแห้งจึงแคลงพระทัยว่า พระเถระผู้นี้มีฤทธานุภาพมากจริงหรือ จึงทรงนิมนต์ให้ไปรับบิณฑบาต ในวันรุ่งขึ้นเพื่อจะทรงทดลองฤทธิ์ ได้ทรงปล่อยพญาช้างวิ่ง้เข้าใส่หมายจะทำร้าย พระเถระเจ้าเหลียวหลังมอง ทันใดนั้นพญาคชสาร ที่กำล้งวิ่งมาหยุดอยู่กับที่ ไม่ไหวติงประดุจช้างที่สลักด้วยศิลา พระเจ้าอโศกมหาราชได้ทรงเห็นปาฏิหารย์ จึงเสด็จมาขอขมาและทรงเลื่อมใสยิ่งนัก ฝ่ายพญามาร ก็เข้ามาก่อกวนงานพิธีแต่ก็พ่ายฤทธิ์ของพระอุปคุตทุกครั้งจึงในที่สุดพระอุปคุตเถระจึงเนรมิตรร่างหมาเน่า คล้องคอพญามารไว้ทำอย่างไรก็ไม่สามารถแก้ได้ พญามารอ้อนวอนให้ช่วยเอาซากหมาเน่าออกจากคอให้แล้วจะไม่มารบกวน พระอุปคุตเถระก็อนุโลมตามแต่ยังไม่ไว้ใจ จึงใช้ประคตเอวผูกพญามารไว้กับภูเขาศิลาจนกว่าจะเสร็จพิธีฉลองจึงจะปล่อย การจัดงานสมโภชจึงสำเร็จไปด้วยดี พระอุปคุตเถระจึงกลับมาหาพญามารโดยแอบอยู่ห่างๆ พญามารเองก็ละพยศร้ายในสันดาน ปราถนาโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต พระอุปคุตเจ้าได้ฟังดังนั้นแล้วรู้ว่าพญามารหมดทิฐิแล้วจึงได้ปล่อยพญามารไป นับตั้งแต่นั้นมาชื่อเสียงและเกียรติคุณของพระเถระเจ้าก็ขจรขจายไปจวบจนถึงปัจจุบัน และพุทธศาสนิกชนมีความเชื่อว่า ถ้าผู้ใดกราบสักการะและมีไว้บูชา จะทำให้ผู้นั้นปราศจากอุปสรรค อันตราย แคล้วคลาดปลอดภัย ไร้ศัตรูหมู่ภัยพาล สมบูรณ์ด้วยลาภยศชื่อเสียงดังเช่นพระอุปคุตเถระเจ้านั่นเอง

           (ข้อมูลจากบอร์ดประวัติพระอุปคุตเถระ วัดบึงกระดาน และเหรียญรุ่นแรก ปางเรียกลาภปราบศรัตรูรุ่น 1 โชว์หน้า- หลัง)