
หัวข้อ: สนามพระ กับ พระสนาม
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ
เพิ่งเข้าวงการ อยากทราบว่า มีส่วนไหนที่เหมือนและไม่เหมือนกันอย่างไร ผมหมายถึงองค์พระ ถ้าเป็นพระที่ได้จากสนามพระแบกะดินทั่ว ๆไปเขาเรียกพระสนามหรือครับ คำว่า "พระสนาม" เป็นพระเก๊ทุกองค์หรือครับ และคำว่า "กูรู" มีที่มาอย่างไรครับ ขอความรู้จากเพื่อนสมาชิกด้วยครับ

พระสนาม หมายถึงพระเก๊ระดับอนุบาล ที่สามารถพบได้ดาษดื่นทั่วๆไป หรือมักจะพบเจออยู่ตามหิ้งพระตามบ้าน โดยมักจะอ้างว่า มีมาตั้งแต่สมัยคุณปู่

พระสนาม ไม่จำเป็นต้องเก้ทุกองค์ แต่อาจเป็นองค์ที่ ออกที่วัดอื่น ไม่มีชื่อ หรือเป็นพระที่ เขาเหมามาจากท่าพระจันทร์ นำไปแจก ตามวัดต่างจังหวัด ในงานกริฐ ผ้าป่า เป็นต้น
ส่วน กูรู พวกนี้ ที่มาจากภาษาอังกฤษครับ ซึ่งรากศัพท์มาจาก คำว่า คุรุ ในภาษาอินเดีย หรือ ที่คนไทย ออกเสียงว่าครู แต่ฝรั่งจะออกเสียงเป็นกูรู ครับ
ขอบคุณครับ แล้วพระเก๊ตามแผงที่วางขายในงานประกวดพระเครื่องระดับประเทศในห้องแอร์ จัดเป็น "พระสนาม " ระดับใดครับ เห็นพวกผมที่ว่าเล่นพระมานานยังโดนบ่อย ๆ หรือที่เพื่อนว่า "ปาดคอเซียน" นั้นเป็นอย่างไรครับหมายถึง "ตกควาย" หริอเปล่า ใครทราบช่วยอธิบายทีครับ ขอบคุณล่วงหน้าผู้ที่กรุณามาก ๆ

พระสนาม = พระเก๊ดูง่าย พบเห็นได้ง่ายแบบดาษดื่น
ปาดคอเซียน = พระเก๊แต่เซียนดูเป็นพระแท้
ตกควาย = ขายพระต่ำกว่าราคากลางมาก
สำหรับผม กลับมองว่า พระเก๊ ก็คือพระไม่แท้ ไม่มีระดับใหนทั้งสิ้นครับ ขึ้นอยู่กับตัวเราว่ามี ประสบการณ์ หรือติดตามพระองค์นั้น รุ่นนั้น มาตลอดหรือเปล่ามากกว่าครับ จึงจะเห็นพัฒนาการ ของการทำเลียนแบบ พระเก๊ ระดับธรรมดา เราก็อาจจะโดนง่ายๆได้เหมือนกัน เพราะการห่างสนาม ไม่ติดตามข่าวสาร นานๆเข้าสนาม ไม่ค้นคว้าหาข้อมูลก่อนเช่า ทุกวันนี้สะดวกสบายครับ เข้า google แล้วพิมพ์เข้าไปเลย เช่น ชี้ตำหนิ เหรียญ โน่น นี่ นั่น ยังไงแผงพระเก๊ กินเงินเรายากครับ
เนี่ยก็ว่าจะไปหาซื้อ แท๊บเลต ตัวละ 2-3 พัน สักตัวเอาไว้เดินสนาม เพราะผมเห็นหลายคนแล้ว ทั้งแผงพระและคนซื้อ เข้าอินเตอร์เนต หาข้อมูลพระที่จะเช่ากันจะจะ ต่อหน้าต่อตา ทุกวันนี้มันต้องอย่างนี้แล้วครับผม รู้เขา รู้เรา
ปล. พก แท็บเลต แล้วเราจะไม่เสร็จพระเก๊ ครับผม หุๆๆ


ถูกต้องครับ ต้องติดตามฝีมือพระเก๊ด้วยปฐวีคงคา:
สำหรับผม กลับมองว่า พระเก๊ ก็คือพระไม่แท้ ไม่มีระดับใหนทั้งสิ้นครับ ขึ้นอยู่กับตัวเราว่ามี ประสบการณ์ หรือติดตามพระองค์นั้น รุ่นนั้น มาตลอดหรือเปล่ามากกว่าครับ จึงจะเห็นพัฒนาการ ของการทำเลียนแบบ พระเก๊ ระดับธรรมดา เราก็อาจจะโดนง่ายๆได้เหมือนกัน เพราะการห่างสนาม ไม่ติดตามข่าวสาร นานๆเข้าสนาม ไม่ค้นคว้าหาข้อมูลก่อนเช่า ทุกวันนี้สะดวกสบายครับ เข้า google แล้วพิมพ์เข้าไปเลย เช่น ชี้ตำหนิ เหรียญ โน่น นี่ นั่น ยังไงแผงพระเก๊ กินเงินเรายากครับ
เนี่ยก็ว่าจะไปหาซื้อ แท๊บเลต ตัวละ 2-3 พัน สักตัวเอาไว้เดินสนาม เพราะผมเห็นหลายคนแล้ว ทั้งแผงพระและคนซื้อ เข้าอินเตอร์เนต หาข้อมูลพระที่จะเช่ากันจะจะ ต่อหน้าต่อตา ทุกวันนี้มันต้องอย่างนี้แล้วครับผม รู้เขา รู้เรา
ปล. พก แท็บเลต แล้วเราจะไม่เสร็จพระเก๊ ครับผม หุๆๆ
ถ้าจะให้เนียนไม่ต้องถึง Tablet ครับ ใช้ Smartphone ดีๆ สักเครื่องก็ลุยได้เลยครับ ไม่โจ่งแจ้งด้วยครับ

เห็นด้วยครับท่าน เมื่อก่อนเจอของถูกใจต้องวัดดวง จับมาก่อนแล้วมาค้น ในเว็บ
เดี๊ยวนี้ใช้ มือถือคู่กายหน่ะแหล่ะครับ ช่วยเช็คราคา แต่ไม่ได้โจ่งแจ้งนะครับ ดูจากแผงแล้วแอบๆ เดินไปเช็คใกลๆ หน่อยแล้วค่อยกลับมาเก็บครับ
ชอบคุณทุกความเห็นและให้ความรู้ที่มีประโยชน์ครับ สำหรับผมที่เพิ่งเข้าวงการคงยังต้องศึกษาและเสียเงินลงทุนอีกมากกว่าจะได้พระแท้ (ที่ชอบ) สักองค์ ปัจจุบันเช่า "พระสนาม" มาหมดไป 3 - 4 แสนบาทแล้วเพราะชอบ (ไม่รวมองค์พ่อจตุคาม 2 - 3 แสน) วันก่อนเอาพระไปขายให้พวกขายพระที่เปิดแผง 8 องค์ (ทุนเช่ามาเกือบสามพัน) เขาเหมาให้ราคาสองร้อยบาท แต่ไม่ได้เงิน เขาให้เลือกพระในแผงเขาในราคาสองร้อยมาหนึ่งองค์ ปรากฏว่าเก๊อีกตามเคย...ไม่ท้อครับจะสู้ต่อไป หวังว่าสักวัน...คงเป็นของเราบ้างนะครับ

ก็ชอบคำตอบของคุณบอยพิจตร และ คุณปฐวีคงคาครับ ขอLike 1 งามๆครับ
ตอบเอามัน, เอาความรู้ได้เลย...
ตอนนี้ผู้ถามคงทราบแล้วว่าพระสนามสรุปง่ายๆว่าคือ พระปลอม
แต่พระที่ซื้อในสนามพระหรือตามแผงต่างๆ ไม่ใช่พระปลอมเสมอไป
พระแท้ ซื้อราคาแท้ ในสนามก็มีเยอะ แล้วเอามาเบียดกินกำไรกันไป
พระแท้ที่ซื้อได้ในราคาพระสนามก็มีอยู่บ่อยๆ ข้อนี้ต้องขึ้นอยู่กับสายตาและความรู้ครับ
แต่พระหลักๆไม่ต้องไปหวังฟลุ๊ค ยากครับ แต่อย่ามองข้าม
ถ้าอยู่แปดริ้ว ผ่านมาทางพนมสารคามแวะทักทายกันบ้างก็ได้ครับ เผื่อผมจะได้สอบถามข้อมูลในเรื่องพระเพิ่มเติม..

"พระสนาม" ในความหมายที่เห็นกันบ่อยๆ ทางกระดาน ถาม ตอบ ในความเห็นของผม เป็นพระที่สร้างขึ้นใหม่ซึ่งเป็นพระที่เลียนแบบของแท้ พูดง่ายๆก็คือ "พระเก๊" นั่นเอง พระเหล่านี้มักจะสร้างออกมาจำนวนมาก เป็นร้อยๆ พันๆ องค์ และส่วนใหญ่จะมีวางขายบนแผงขายพระใหม่ในตลาดพระทั่วๆไป แต่แหล่งใหญ่ที่สุดก็คือ "สนามพระตลาดท่าพระจันทร์" ซึ่งก็มีมาตั้งนานนมแล้ว ทุกๆวันก็จะมีพวกแผงที่ให้เช่า (ขาย) ทั้งพระใหม่และเก่ามาเดินเลือกดู เลือกซื้อกันให้ขวักไขว่ เพื่อนำไปจำหน่ายต่อ มีแทบทุกชนิดครับ ทั้งเหรียญพระอาจารย์ที่กำลังดัง หรือรุ่นยอดฮิตมีหมด พระเนื้อผงประเภทพระสมเด็จ พระกรุเนื้อชิน อย่าดูถูกว่าเป็นของเก๊นะครับ ฝีมือเก๊รุ่นใหม่ๆเฉียบขาดจริงๆ ถ้านักสะสมที่ไม่ชำนาญหรือไม่เคยเห็นของแท้ ไปเจอวางในแผงข้างนอก รับรองว่าเสร็จเขา ต้องหมั่นเดินดูบ่อยๆครับ ถึงจะตามทัน ว่า อาทิตย์นี้ มีพระอะไร "เก๊" ออกมาใหม่ รู้เขารู้เรา ปลอดภัยเอาไว้ดีกว่า ครับ .......
พระสนาม ในนิยามของผมจะแยกเป็น ๒ กลุ่มครับ
๑. พระโรงงาน เป็นพระที่สร้างออกมาจากโรงงาน ทำออกมาหลายรูปแบบ หลายเนื้อ ขายจำนวนมากๆ ราคาไม่แพง.. เจตนาก็เพื่อ...ให้คนที่ซื้อเอาไปใช้ประโยชน์ในทางที่ดี เช่น. ตอบแทนผู้ที่จะมาทำบุญ กฐิน - ผ้าป่า จัดเป็นกลุ่มที่เจตนาดี
พระกลุ่มนี้ จะมีลักษณะ ที่คล้ายๆกับพระกรุ..แต่ไม่เหมือน - ไม่ปราณีต! บรรจง ไม่ตบแต่งทำคราบกรุ เวลาผมได้พระเหล่านี้จากการทำบุญ.. ผมจะเก็บแยกไว้ต่างหากแล้วจะเขียนไว้ที่ซองว่า " มาจากงานอะไร? " คนรุ่นหลังๆก็จะรู้ว่า " เป็นพระสนาม-งานกฐิน..ผ้าป่า มีพุทธคุณแต่..ขายไม่ได้..จะถูกตีเก๊ "
๒. พระมือผี - ฝีมือเปรต! เป็นพระที่เลียนแบบพระของแท้. มีทั้งฝีมือโหลยโท่ย..พื้นๆราคาถูก (ที่เขาเรียกว่า เก๊สนาม ) ไปจนถึงเก๊เฉียบ!..ใกล้เคียง(ปาด..คอเซียน) แต่เซียน!ตายยาก..แค่บาดเจ็บ! พอหายบาดเจ็บ ก็ถึงคราวตายของลูกค้า! (โดนกันที..ล้มหาย-ตายจาก-ร่ำลา-สาปส่ง วงการฯไปเลย)
แล้วยังมีพระประเภท พระกรุแตก เก๊ยัดกรุ โดยใช้พระโรงงานมายัดกรุ หลอกขายคนที่หลงเชื่อ! ก็จะตกแต่งทำคราบกรุเสริมให้สมจริง ก็จัดอยู่ในกลุ่มพระสนามเหมือนกัน.
ถ้าตัดความโลภ... ออกจากใจได้ แล้วใช้ สมาธิ-ความรู้ที่ท่านมี แยกเเยะ ความจริง! ความเป็นไปได้ว่า " พระที่ได้จากกฐิน-ผ้าป่า เป็นพระทั่วๆไป เป็นพระที่ทางเจ้าภาพใช้ตอบแทน มีค่าทางใจ แต่..ขายไม่ได้ " กับ พระเก๊สนาม - เก๊ยัดกรุ เป็นพระคนละเจตนากัน เราๆท่านๆก็จะมีความสุข รอดพ้นจากภัย!ของเปรตครับ.
"พระสนาม"....ในความหมายเดิมก็คือพระแท้ครับ ที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายในปริมาณมาก ๆ เพื่อให้วัด พระสงฆ์หรือพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย
นำไปจ่ายแจก ในวาระและโอกาสหรืองานบุญต่าง ๆ ซึ่งอาจจะผ่านการปลุกเสกมาหรือไม่ก็ได้ เพียงแต่ไม่เป็นทางการ
ซึ่งพระจำพวกนี้จะสามารถหาได้ในสนามพระ ได้แก่ ท่าพระจันทร์ วัดราชนัดดา เป็นต้น........ซึ่งเป็นพระที่นักเลงพระสมัยก่อน
ไม่นิยมเล่นหาสะสม ซึ่งก็คือไม่มีราคานั่นเอง.........
ในปัจจุบัน"พระสนาม"มีความหมายโดยสรุปของวงการก็คือ"พระเก๊" ทั้งพระที่โรงงานผลิตในความหมายเดิมและพระที่ปลอมเลียนแบบพระที่นิยม
โดยนักทำพระปลอมที่ส่วนใหญ่จะมีจำนวนมากและฝีมือห่วย จะถูกรวมเรียกว่า"พระสนาม"
แต่หากพระที่ทำปลอมขึ้นมามีความเฉียบขาด........จะไม่เรียก"พระสนาม" แต่จะเรียกว่า"พระฝีมือ" แต่ก็มีอยู่ในสนามเช่นกัน
"กูรู".......มาจากคำว่า "guru" ซึ่งมีที่มาจากคำว่า "คุรุ" ในภาษาอินเดียซึ่งก็คือ ครู หรือ ผู้รู้ ผู้เชียวชาญ
"ปาดคอเซียน"...พระเก๊ที่ทำมาได้เหมือนของแท้มากจนขนาดเซียนพระยังดูเป็นพระแท้และหลงเช่ามา
"ตกควาย"....การปล่อยพระให้ผู้อื่นเช่าในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก เช่น พระราคาหลักหมื่นปล่อยไปในราคาหลักพัน เป็นต้น
บทสรุปเบื้องต้น คำว่า "พระสนาม" เป็นได้ทั้ง พระแท้ ในความหมายเดิมที่เขาไม่นิยมซื้อขายกันซึ่งส่วนใหญ่ผลิตจากโรงงานและ พระไม่แท้ พระเก๊เลียนแบบหรือพระปลอมกับพระที่ไม่เลียนแบบ พระยัดกรุ พระมือผี พระฝีมือ พระผีเปรต ฝีมือโหลยโท่ย ฝีมือเฉียบขาด ทั้งที่ขายได้และขายไม่ได้
คำว่า "สนามพระ" น่าจะหมายถึง สนามพระท่าพระจันทร์ ที่เป็นสถานที่ขายพระมาแต่เดิม
คำว่า "กูรู" หมายถึงครู (เดิมผมเข้าใจว่าเป็นศัพท์วิบัติที่เพี้ยนมาจาก "กูรู้" )
คำว่า "ปาดคอเซียน" เป็นคำที่นักนิยมพระเครื่องหรือเซียนพระไม่อยากเจอ แต่เมื่อโดนกับตัวเองแล้ว(บางคน)มักแก้แค้นกับลูกค้า
คำว่า "ตกควาย" น่าจะเป็นได้เฉพาะผู้เข้าวงการพระใหม่ ๆ
ขอขอบพระคุณท่านผู้รู้ทั้งหลายทุก ๆ ท่าน ที่ได้เสียสละเวลามาให้สิ่งที่ดีมีประโยชน์และให้ความกระจ่างแก่สมาขิกในกระดานนี้และทุก ๆ กระดาน ขอคารวะด้วยใจจริง
ปล. สำหรับท่าน "ปลายทาง" ผมอยู่แปดริ้วครับ แต่ปัจจุบันอยู่อิสานกลับบ้านที่แปดริ้วเดือนละครั้ง คาดว่าเดือนนี้ 21 - 24 มค.นี้จะกลับ ยินดีแวะเยี่ยมครับ

"พระสนาม" พระสนามเป็นพระประเภทที่ เซียน(เสี้ยน) ที่รู้อยู่แล้วว่าเก๊แต่ก็ยังมาเช่าไปในราคาถูกๆ เพื่อเอาไปปล่อยต่อหรือแลกเปลี่ยนในสนามพระ ดังนั้นสนามพระก็เปรียบได้กับลานต่อสู้กัน ของพวกเขี้ยวลากดินครับ ตาดีได้ตาร้ายเสีย
"สนามพระ" ส่วนตัวผมว่าไม่ได้หมายถึง ท่าพระจันทร์ที่เดียวนะครับ ควรจะเป็นสนามหลวง หรือตลาดพระอื่่นๆ ด้วยครับ
"ตกควาย" นี้มีทั้ง นักเลงเก่าใหม่ ต้องเคยโดนกันหมดครับ ใช้ได้ทั้งกรณี ที่ซื้อผิดราคา และ ปล่อยผิดราคา ครับ

ฮ่าๆๆ พระสนามลองดูในกระดาน ประมูลไม่รู้ที่ไม่ทราบวัดของเว็บเราก็ได้ครับ แต่ดีหน่อยที่มีเว้บและเพื่อนๆช่วยกรองกันบ้าง ของแท้หลุดๆก็มีครับ วัดสายตาดีแต่รวมๆหลายๆองค์ก็เช่าพระหลักได้เหมือนกัน แต่ทำงัยได้ตามันมักซุกซนเสมอ เฮ้อ! อดเข้าไม่ได้ซักที
ผมก็เคย โดน ไปบ้างเหมือนกันครับ ที่ ได้ ก็มีแม่น้องบัว:
ฮ่าๆๆ พระสนามลองดูในกระดาน ประมูลไม่รู้ที่ไม่ทราบวัดของเว็บเราก็ได้ครับ แต่ดีหน่อยที่มีเว้บและเพื่อนๆช่วยกรองกันบ้าง ของแท้หลุดๆก็มีครับ วัดสายตาดีแต่รวมๆหลายๆองค์ก็เช่าพระหลักได้เหมือนกัน แต่ทำงัยได้ตามันมักซุกซนเสมอ เฮ้อ! อดเข้าไม่ได้ซักที
ที่โดน ไม่คืนครับ เอาไปเล่นในสนามต่อ
ที่ฟลุ๊ค หักลบแล้ว คุ้ม กว่า โดน หลายเท่าครับ
เวลาได้ของฟลุ๊ค ก็ดีอกดีใจ แล้วเวลาโดนจะตีอกชกหัวไปทำไม
มีนักเล่นคนนึงบอกว่า " การเล่นพระมันสนุกตรงที่มีการ วัดดวง ถ้าคุณมีเงินสองหมื่นเข้าไปร้านทองแล้วซื้อทองออกมา ok คุณได้ทองแท้ แต่มันไม่สนุก ใครมีเงินก็ซื้อพระแท้รับประกันได้ แต่ถ้าคุณเข้าไปในสนามพระคุณสามารถใช้เงินจำนวนน้อยเข้าไปซื้อของแท้ได้ ถ้าซื้อได้ของไม่แท้ แต่คุณก็ได้ประสบการณ์ความรู้ แล้วพระนั้นก็ยังอยู่ ยังสามารถ ออกตัว เล่นแลกได้ในโอกาสต่อไป ถ้าเป็นล๊อตเตอรี่ คุณก็ต้องขยำมันทิ้งถังขยะไป"
แค่แง่คิดของคนๆหนึ่งนะครับ อาจไม่ใช่หลักการหรือทฤษฎีที่ถูกต้องเสมอไป
ถ้าเราโดน "พระสนาม" มาในราคาที่คิดว่าฟลุ๊ค แต่ไม่ใช่ เมื่อรู้แล้วเอาไปเล่นต่อ (ขายหรือแลกเปลี่ยน) ในสนามหรือแก่คนอื่่นโดยไม่ได้บอกความจริงให้ทราบ และไม่รับประกัน ถ้าผู้ต้องการได้สอบถามเราบอกว่าไม่ทราบดูเอาเอง ไม่รับประกัน (ในมูลค่า "พระสนาม") เราจะมีความผิดในด้านกฎหมายหรือด้านศีลธรรมหรือเปล่าครับ
ในสนามพระ การซื้อขายแลกเปลี่ยน โดยไม่มีการรับประกัน ถือว่าไม่มีข้อผิดข้องหมองใจต่อกันครับ จบแล้วจบเลย
ส่วนมากแล้วก็จะบอกอย่างคุณว่าครับ คือ ไม่ทราบ ดูเอาเอง ไม่รับประกัน
อีกประการ การซื้อขายโดยไม่มีการรับประกันนั้น ส่วนมากแล้วราคาจะ่ำต่ำกว่าความเป็นจริง เช่นพระสมเด็จวัดระฆังราคาหลักล้าน ก็ขายหลักหมื่นกันบ่อยๆโดยไม่ต้องรับประกัน ยิ่งราคาหลักร้อยแล้วถือว่า วัดดวง ครับ
การซื้อขายแลกเปลี่ยน ในมูลค่าราคาพระสนาม โดยส่วนตัวผมคิดว่าไม่ผิดอะไรใดๆครับ นักเล่นก็ยอมรับได้ เพราะวัดดวง มันได้ความมัน ความสนุก ดังกล่าวครับ

ในสนาม จะงัดอะไรมาใช้ มีลูกเล่นอะไร งัดไปเถอะครับ มันเป็นสนามประลองยุทธ์สำหรับ ผู้ที่คิดว่าตนเป็นเซียนอยู่แล้ว
และเวลาโดนก็ไม่ควรร้อง เพราะมันน่าอาย มันเป็นการประจานตัวเอง ว่ายังอ่อนด้อยยิ่งนัก
ถ้าเป็นการวัดดวงที่ว่า จบแล้วจบเลย นั้น ของผมก็จบอย่างข้องใจ คือ มีนักค้าขายพระ(ซื้อมาขายไป)เพื่อนแนะนำมา ได้ชอบพระผมสององค์ซึ่งผมหักหนี้มา(ต้นทุน)ในราคา 15,000 กับ 5,000 บาท(ไม่ทราบว่าพระแท้หรือเก๊) พระสององค์นี้ผมเห็นตามหนังสือทั่ว ๆ ไป(รู้ภายหลัง) สภาพพอ ๆ กันเขาซื้อขายกันในราคาประมาณ 5 - 6 หมื่นกับ 7- 8 พันบาท เขาต่อราคาผมเหลือ 10,000 กับ 3,500 บาท(ผมขาดทุนแต่ก็ให้เพราะเดือดร้อนอย่างมากซึ่งคนซื้อก็รู้ว่าผมเดือดร้อนและคิดว่าได้คืนมาบ้างดีกว่าหนี้สูญ) เมื่อขายไปแล้วก็เสียดายและไม่สบายใจที่ขายพระกิน(คิดในขณะนั้น)เพราะมีแต่ชอบซื้อเก็บสะสม เวลาผ่านไปเกือบเดือนเขาเอาพระองค์ราคา 10,000 บาทมาคืนพร้อมขอรับเงินคืนด้วยอ้างว่าขายไม่ได้ พระเก๊ พร้อมอ้างมารยาท ธรรมเนียมวงการพระต่าง ๆ นานา ผมไม่อยากเดือดร้อนจึงกู้เงินให้เขาไปแต่หาได้แค่ 8,000 บาท ซึ่งดู ๆ ท่าทางเขาไม่ค่อยพอใจนักแต่ก็ยอม สงสัยอยู่ในใจแต่ไม่กล้าถามว่าอีกองค์เขาได้กำไรเท่าไร ซื้อขายพระแบบนี้มีแต่ได้ใช่ใหมครับ เพราะถ้าเก๊ก็เอามาคืนได้เต็มจำนวนในราคาต่ำ ๆ ถ้าแท้ก็ได้กำไรมหาศาล มันไม่จบแล้วจบเลยหรือว่าผมไม่ใช่ "สนามพระ"

ประสบการณ์ครับ บางครั้งเจ็บตัวเลือดออกบ้างจะได้รู้ว่าเจ็บเป็นอย่างไร ที่สำคัญเมื่อเจ็บแล้วต้องหาความรู้ใส่ตัวครับจะได้ไม่เจ็บอีก ในวงการนี้คนเขี้ยวลากดินมีเยอะครับ จ้องเอาเปรียบก็แยะ อย่าท้อครับนั่งศึกษาพระที่มีกับตำราที่พอหาได้จะได้ไม่โดนขยันหาดูราคาอัพเดตบ่อยๆ ถ้าไม่ร้อนเงินต้องใจเย็นๆถ้าเค้าอยากได้เดี๋ยวก็เวียนมาบ่อย ถ้าเซียนมาซื้อเราคนขายอย่ารับประกันครับยิ่งพวกเอาไปขายต่อนี้เค้าต้องรู้เอง แต่หากคนไม่เป็นถ้าพระนั้นเราชัวร์ว่าแท้เอาเงินแท้มาแลก ก็ควรรับประกันเค้า ส่วนตัวผมเองพระหลักร้อยก็รับประกัน ถ้าคืนมาผมเองก็สะสมต่อ ไม่ซีเรียสตั้งหน้าตั้งตาขายออกอย่างเดียว สู้ๆครับถ้าใจรักอย่าท้อ อยู่แปดริ้วสะสมเฉพาะหลวงพ่อโสธรกับเกจิแปดริ้วก็มีให้เล่นเยอะครับ ที่ราคาทำกำไรได้ก็มี
เสน่ห์ของวงการพระเครื่องต้องยอมรับเลยว่าที่ทุกท่านเข้าสู่วงการ เพราะ มันเป็นแบบนี้แหละครับสารพัดรูปแบบจริงๆ
ไม่มีกฏหมาย ไม่รู้จะพึ่งใคร ข้อมูลสะเปะสะปะหาจุดหลักจุดยืนไม่เจอ ศึกษาหาข้อมูลไปเรื่อย เช่าซื้อไปเรื่อย เก๊บ้าง แท้บ้าง
องค์ที่ฟันธงว่าเก๊ ขายราคาถูก พอไปอยู่ในมือเซียนปั่นราคา เช็คพระกับเซียนผู้ชำนาญฟันธงว่าแท้พร้อมออกใบรับประกัน
"ตกควายแล้วเรา"ขายไปหลัก100 เซียนเอาไปปั่นขายหลัก10000..........
ทุกวันนี้ ปัจจุบันนี้มีเวปที่เชื่อถือได้ ซื้อจริง ขายจริง โอนเงินจริง มีหลักมีแหล่งมีหลักฐานครบสมบรูณ์ ทั้งที่ไม่เคยเจอ ไม่รู้หน้าตา
แต่มีหลักฐานปรากฏในเวปที่เชื่อถือได้ มีระเบียบ มีกติกา คาดผิดเอาโทษผู้ไม่ปฏิบัติตามกฏ ข้อห้ามต่างๆ
จึงเป็นแหล่งซื้อขาย เกิดการยอมรับของวงการพระเครื่อง หนึ่งในนั้นไม่อื่นไกลครับwww.web-pra.comทุกๆท่านเข้ามาถูกที่ถูกจังหวะแล้วครับ.........united

ครับจะจำไว้เป็นบทเรียน เคยเช่าพระในเนตมาบ้างเหมือนกัน ส่วนใหญ่เป็นจตุคามฯ ช่วงหลังห่างเหินว่างเว้นไปนาน เพราะภารกิจและเงินทุน แต่ไม่เคยขายพระในเวป ต่อไปคงต้องรบกวนท่านทั้งหลายที่อยู่ในวงการช่วยอนุเคราะห์ชี้ทางเดินสายนี้ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง และนับว่าเป็นความโชคดีของผมที่ได้เป็นสมาชิกเวปที่ดี ๆ อย่างเวป PRA.COM ครับ
- พระเหรียญชองท่าน United สวยมากครับ ยินดีด้วยครับที่ได้ครอบครองของสวย ๆ
- ขอบพระคุณทุก ๆ ท่าน ที่กรุณาให้ความรู้และข้อคิดที่เป็นประโยชน์อย่างมากครับ
พระสนามต้องอย่างนี้ครับ เสร็จขั้นตอนนี้ลบเหลี่ยมแต่งตะไบ ศัลยกรรมผิวอีกนิดก็เข้าสู่"สนามพระ" ตามที่เพื่อนๆนิยามไว้จะแบกับพื้น หรือแต่งตัวดีก็เข้าห้องแอร์ก็ไม่ว่ากัน บางคนก็ยอมโดนยิงเพื่อไว้ยิงต่อ อย่างนี้พื้นๆเห็นบอกว่าเนื้อเงินก็ทำ เนื้อทองคำก็เคยรับจ้างทำ เอาไว้ยิงคนกระเป๋าหนัก วันไหนว่างๆจะฉายกันเต็มๆตั้งแต่เริ่มถ่ายทำจนถึงรับตุีกตาทอง ตามสไตล์ muinter ครับ (พิมพ์พระก็แล้วแต่จะสั่ง บางทีเอาพระหลักแสนหลักล้านมาถอดพิมพ์ น่ากลัวตรงองค์ถอด 1-10 ครับ ขนาดเกือบเท่าของจริงเลย) น่าสนใจนะครับสำหรับหนังตัวอย่าง



muinter:
พระสนามต้องอย่างนี้ครับ เสร็จขั้นตอนนี้ลบเหลี่ยมแต่งตะไบ ศัลยกรรมผิวอีกนิดก็เข้าสู่"สนามพระ" ตามที่เพื่อนๆนิยามไว้จะแบกับพื้น หรือแต่งตัวดีก็เข้าห้องแอร์ก็ไม่ว่ากัน บางคนก็ยอมโดนยิงเพื่อไว้ยิงต่อ อย่างนี้พื้นๆเห็นบอกว่าเนื้อเงินก็ทำ เนื้อทองคำก็เคยรับจ้างทำ เอาไว้ยิงคนกระเป๋าหนัก วันไหนว่างๆจะฉายกันเต็มๆตั้งแต่เริ่มถ่ายทำจนถึงรับตุีกตาทอง ตามสไตล์ muinter ครับ (พิมพ์พระก็แล้วแต่จะสั่ง บางทีเอาพระหลักแสนหลักล้านมาถอดพิมพ์ น่ากลัวตรงองค์ถอด 1-10 ครับ ขนาดเกือบเท่าของจริงเลย) น่าสนใจนะครับสำหรับหนังตัวอย่าง
ชอบครับพี่ครับ....ปูเสื่อรอครับผม.....ถูกใจเอาไป+1
เล่นหา-ซื้อ-ขาย " พระสนาม " ไม่มีคำว่าฟลุ๊ค!ครับ. มีแต่..ขายได้เพื่อให้อยู่รอดไปวันๆเท่านั้น. ซึ่งหนทางข้างหน้าจะมีแต่ตีบตัน!
คำว่า ฟลุ๊ค จะใช้ได้กับคนที่มีความรู้ มีเป้าหมายในการหาพระแท้ที่เขาต้องการฯตาม " สนามพระ " จากเจ้าของพระฯในราคาที่ต่ำกว่าปรกติเท่านั้น! ด้วยกลเม็ด-เคล็ดลับ! ต่างๆของเขา
พระสนาม น่าจะเป็นเพียง ก้าวแรกที่ผู้เข้าสู่ยุทธจักรฯของคนใต้เลนส์ต้องเจอ!
หลายคน.. ก็ผ่านไปอย่างสบายๆ เพื่อ..จะได้ไปเจอ! กับ พระฝีมือ แต่หลายท่าน.. ก็ไม่สามารถก้าวผ่านมันไปได้.. ติดกับ-หลงทาง-มัวเมาอยู่กับมัน!
การที่จะก้าวผ่านไปได้หรือไม่? ต้องเรียนรู้ ต้องใช้สติ เอาความเป็นจริงมาใช้ " พระแท้! ของแท้! มีอยู่เท่าไร? มีคนเล่นหา-สะสมเท่าไร? พระที่เราถืออยู่ในมือ..ผ่านตาคนมาแล้วกี่คน แล้วเราเก่งกว่าคนเหล่านั้นหรือไม่ " แต่ถ้าเราแม่นจริง-ชำนาญจริง แน่ใจมั่นใจ ก็ต่อ-รองราคาเช่าหากันเลย "
หลายท่านชอบคิดว่า..เจ้าของพระที่นำมาขาย ในราคาต่ำกว่าทั่วไป เป็นของฟลุ๊ค เพราะเขาไม่รู้ เราต่างหากที่ไม่รู้.. ไม่รู้แม้กระทั่งว่า ของชิ้นนั้นๆมาจากแหล่งใด? รับฟังแต่..นิทาน!(หลอกเด็ก!) ที่เจ้าของพระฯเล่าให้ฟัง
คนที่มีความรู้ เขาจะไม่เชื่อนิทานเหล่านั้นหรอกครับ(ฟังๆไปอย่างนั้นเอง) เขาใช้ตา ความรู้ และความจำที่ถูกต้อง ที่เขาได้ศึกษามาเป็นหลักฯ
ต้องยอมรับกันนะครับว่า ทุกคนที่ก้าวเข้ามา ก็อยากขึ้นสู่จุดสูงสุดทั้งนั้น แต่..น้อยคนนักที่จะไปสู่จุดนั้น...
ผมว่า วงการนี้ เป็นที่รวมของนักสู้ครับ - สู้เพื่อเอาชนะ ใจตัวเอง , ความโลภ , ความเห็นแก่ตัว สู้เพื่อจะเอาชนะ ของเทียม - เลียนแบบ , เป็นที่รวมตัวของคนหลายๆประเภทฯ มารวมกัน คนที่ท่าน piak8riw เขียนถึง.. ก็เป็นอีกหนึ่งประเภทฯในวงการนี้ครับ. ผมก็เคยเจอ!
ปล. เสน่ห์ของวงการนี้.. ผมว่า มันอยู่ที่ การสื่อสารฯกัน , ความคิด และการแปลฯความหมายกันเองครับ. ไม่ค่อยจะพูดกันตรงๆ เช่น. เช่ามา-รับเช่า-ให้เช่า ชอบ-ไม่ชอบ ฝิ่น บาทเดียว! สองใบครึ่ง โป้ว!แป่ะตังเพิ่ม ไม่รู้-ดูเอาเอง ไม่เป็น ฯลฯ นี่แหล่ะครับ.ภาษาคนใต้เลนส์
จากนิยามต่าง ๆ ที่เพื่อน ๆ ให้ความเห็นมา
website ,block ,facebook หรือ สื่อต่าง ๆ ใน social network ที่มีการซื้อขาย แลกเปลี่ยนพระ ก็น่าจะเป็น "สนามพระ" ที่ใหญ่มาก ๆ
และสิ่งที่ตามมาก็คือ น่าจะมี "พระสนาม" อยู่ในนี้เต็มไปหมด
ยิ่งมีการใช้โปรแกรมต่าง ๆ แต่งภาพ ยิ่งทำให้"พระสนาม"เหล่านี้พร้อมที่จะ "ปาดคอเซียน" ได้ทุกเมื่อเช่นกันครับ
ยุทธจักรนี้ช่างเต็มไปด้วย "การต่อสู้" เพื่อเอาชนะกันในทุก ๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องของวงการ ทั้งกับ "ตัวเอง" และ "ผู้อื่น" เพื่อผลประโยชน์ แต่ผมเชื่อว่า ในโลกนี้ยังมีคนดี ๆ และพร้อมที่จะเสียสละอีกมากที่จะช่วยกันจรรโลงให้วงการเจริญก้าวหน้าต่อไป ขอบคุณมากครับ