
หัวข้อ: จะแขวนกล้องฯเมื่ออายุเท่าไรดี ?
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ

มีความสงสัยอยู่เหมือนกันว่า การเป็นนักสะสมพระเครื่อง หรืออาชีพค้าขายพระเครื่อง จะมีการเกษียณอายุไหม หรือเป็นความพอใจ ความเหมาะสม ของตนเอง หรือต้องรอให้ลูกหลานมันมาไล่ให้เลิก ถึงจะเลิก
ครับ....สำหรับตัวผมเองก็กำหนดตัวเองเอาไว้แล้วว่า ซัก 70 เป็นไง (ไม่รู้อยู่ถึงหรือเปล่า) เลิกแน่ (ถึงไม่เลิกยมบาลท่านก็มาเตือนให้เลิกอยู่ดี..หุ..หุ..) นี่ก็ใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว เกษียณจากงานหลักมาได้ 4-5 ปีแล้ว ก็มาเดินอยู่สนามไซเบอร์ ซึ่งความจริงมันก็เพลินดีเหมือนกัน เจอะเจอเพื่อนฝูงเยอะแยะ แต่ไม่เคยเห็นหน้าหรือเห็นตัวจริงเลยซักคน
ถ้าจะถามว่าสนามจริง กับสนามไซเบอร์ ต่างกันไหม ก็ต้องขอความเห็นจากเพื่อนๆสมาชิกให้ความเห็นกันหน่อย ส่วนตัวผมว่ามันต่างกันตรงที่สด กับไม่สด (ไม่ใช่กุ้ง หรือปลานะครับ) ผมหมายถึง ได้พูดได้คุยกันสดๆ กับเพื่อนๆ กับ คนขาย หรือ คนซื้อในสนามจริง แต่ในสนามไซเบอร์ การพูดคุยเหมือนอยู่ในจินตนาการ นึกคนเดียว พูดคนเดียว (ในใจ) คล้ายคนจิตเสีย ว่า..มะ....
ถ้าแขวนกล้องฯ แล้วจะทำอะไรต่อไป ของที่มีอยู่ เหลืออยู่ จะทำอย่างไร (หมายถึงพระเครื่อง) เอาไปด้วยก็ไม่ได้ ลูกหลานมันก็เล่นไม่เป็นกันเสียด้วย และมันก็ไม่สนใจอีกต่างหาก สิ่งเหล่านี้มันก็ทำให้กังวลได้เหมือนกัน แต่ก็เตรียมพร้อมที่จะเจอะเจอ เพราะรู้สึกว่าเวลาในปัจจุบันมันช่างเร็วเหลือเกิน
เผลอแป๊ปเดียวปาเข้าไป 40 กว่าปี เข้าไปแล้ว วนเวียน ว่ายตายเกิดอยู่ในวงการพระเครื่อง หัดเล่นพระตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยม (มศ.3 ประมาณปี 06) เลิกเรียนก็ไปขลุกอยู่กับบรรดาเซียนพระตามแผง อยากให้เขาดูพระให้ก็ต้องยอมให้เขาใช้สอยบ้าง ซื้อโอเลี้ยง ซื้อบุหรีบ้าง มีสตางค์หน่อยก็อุดหนุนซื้อพระเขาบ้าง จนเขาไว้เนื้อเชื่อใจ สั่งสอนวิชาต่างๆให้ ก็เลยฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับอาจารย์ต่างๆไปเลย
ก็ได้อาศัยวิชาความรู้ที่ครูบาอาจารย์ท่านต่างๆเหล่านั้นสั่งสอนให้ ทำมาหารับประทานเป็นอาชีพเสริมบ้าง บางครั้งก็เป็นอาชีพหลักบ้าง แล้วแต่โอกาสและเวลา ก็ยังสำนึกถึงบญคุณของท่านเหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา ทั้งๆที่ท่านได้จากโลกไปหมดแล้ว ก็คงอีกไม่นานลูกศิษย์ก็คงตามอาจารย์ทั้งหลายไปส่องพระกันบนสวรรค์ด้วยคน
ก็ร่ายมาให้เพื่อนสมาชิกอ่านกันเพลินๆ เพราะเห็นปัจจุบันนี้ไม่ค่อยมีกระทู้ที่อ่านแล้วมันๆให้เห็นกันเลย ไม่รู้เพื่อนๆที่เป็นนักเขียน จะหมดมุข หรือหมดอารมณ์ที่เขียนกันไปหมดแล้ว หรือขายไม่ดี ซือไม่ได้ หรือไง ครับ เลยไม่มีอารมณ์ที่จะกดแป้นพิมพ์...หุ..หุ..
ตอนนี้ยังตาดีอยู่ ต้องซื้อตุนเอาไว้ขายตอนแก่ครับ อิอิ
ผมเดินทั้ง2สนามครับ แต่สนามจริงสัปดาห์ละ2-3วัน
การอยู่สนามจริงนั้นทำให้ได้รับความรู้จากของจริง คนจริง
ในไซเบอร์ก็ดีครับ ผมได้เพื่อนที่ดีหลายๆคนครับ

พอแก่แล้ว ก็เอาพระมาวางขายริมฟุตบาทมั่ง ใต้ต้นมะขามมั่ง ก็อาจจะเป็นไปได้...ก็ลูกหลานมันทิ้งอ่ะ...คิดว่านะ....ครับ

ตอนนี้ผม 30 ต้นๆ ครับคิดว่าจะสะสมไปเรื่อยพอ ถึง แซยิด 60 ค่อยเอามาแจก ลูกหลานครับ
คาดว่าพระย่อยในวันนี้คงจะกลายเป็นพระหลักกับเขา บ้างไม่มากก็น้อยครับ

เมื่อก่อนก็เดินบ่อยๆ..สนาม...แต่เวลาผ่านมา หลายสิบปีก็ไม่ค่อยได้เดินสนามแล้ว...ก็มีพรรคพวก ส่งให้หรือไม่ก็สั่งเลย...
เนื่องมาจากงานประจำเป็นหลัก...ของรักเป็นรอง...ก็เป็นพักๆครับ...ชีวิตคนเราบางครั้งหน้าที่ก็เหนือสิ่งอื่นครับ....
ช่วงพักนี้ก็เหมือนกันครับ...งานประจำกำลังรุ่ง งานโปรเจ็คเข้ามาก..ของรักก็รองๆลงมา..ยังหาเวลาว่างไปอัฟเดทหน้าร้านไม่ได้เลยครับช่วงนี้...
...อาจารย์ onepeer ใชัช่วงเวลาหลังเกษียณ มาใช้เวลาว่างในโลกไซเบอร์..แสดงว่าไม่ทิ้งเทคโนโลยี่..ยังทันสมัยอยู่นะครับ...
ก็ยังเคยคิดเล่นๆอยู่เลยว่า...หลังเกษียณเราจะเป็นยังไงหว่า...อิอิอิ (ยังไม่อยากคิดเลย)

แรกๆ หัดดูพระ ด้วยกล่อง
วันนี้ หัดดูพระ ตาเปล่า
อนาคต หัดดูพระ จากภาพถ่ายครับ

สวัสดีทุกท่านครับ
ผมบอยครับ เปลี่ยนชื่อร้านจากเดิม ร้าน ตำนานเมืองชาละวัน
ปัจจุบันอายุ 27 ปี สนใจพระเครื่องมาตั้งแต่อายุ 17 ปี
แต่ก็ไม่เคยได้ศึกษาอย่างจริงจัง เพราะเรียนหนังสือมาตลอด เรียนจบมาก็ทำงานเลย จะมีเวลาว่างเต็มที่ก็ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ครับ
ปัจจุบันก็ยังทำงานบริษัทฯ อยู่.....
สำหรับผมตอนนี้ได้แต่คิดว่า จะเป็นผู้รู้จริงในสายพระเครื่องที่ชอบได้เมื่อใด?
ผมอยากไปถึงจุดนั้น ด้วยอารมณ์ประมาณว่า พร้อมลุยค้นหาพระในสายที่เราดูขาด มากี่องค์เราก็ชี้ขาดได้ เป็นศาสตร์ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องครับ
การแขวนกล้อง จึงยังไม่มีแผนรับในตอนนี้ครับ
แต่สุดท้ายที่ทำเป็นประจำ คือ การเดินดูพระในสนามด้วยตาเปล่า แล้วถามราคาผู้ขาย หลังจากนั้นหากราคาซื้อได้ค่อยหยิบกล้องมาส่องครับ
อยากเป็นผู้รู้จริงครับ พยายามอยู่ครับ
คิดการยาวเลยนะคับ พี่ๆๆ ผมขอแบบว่า หมดแรงถือกล้องตอนไหน ก็เลิกตอนนั้นแหล่ะคับ
...ขอแนะนำพระบ้านผมหน่อยนะ พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ ฝากด้วยนะคับคน สารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธ์และใกล้เคียง

มอบความรักให้ซึ่งกันและกัน

วางกล้องได้ปีกว่าๆครับ ภาระมากทั้งงานประจำ เลี้ยงลูกน้อย ๒ คน ถ้าชอบองค์ไหนก็ขอกล้องคนขายครับ เราดูไม่เก่ง เลยไม่เน้น ซื้อได้ทุกสาย เก่า ใหม่ แต่แค่ร้อยต้น (ราคาขายคนละราคานะครับ) เป็นเซียนใหญ่ รู้มาก ซื้อได้แพง
น่าคิดครับครับ เราควรแขวนกล้องเื่มื่อไร ......... เมื่อคุณเบื่อ ครับ
ผมมีความคิดเหมือนคุณคือ พระเราหล่ะจะทำอย่างไร แจกลูกหลานน่าจะดีครับ เพราะอีกสิบปี ยี่สิบปี พระเราคงกลายเป็นพระเก่า ....

ไม่ต้องแขวนหรอกครับ ส่องเพื่อความสุขดีกว่า เก็บไว้ให้ลูกหลานครับ เพราะอย่างน้อยเราให้คนอื่นไปเราก็ควรหาอย่างอื่นกลับเข้ากรุบ้างอยู่ดีครับ