
หัวข้อ: สำหรับผม แค่พิมพ์เดียวก็..จะแย่อยู่แล้ว!
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ
ที่สุดแห่ง.. พระเครื่องฯในเมืองไทย ต้องยกให้ พระสมเด็จฯ ของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรมรังสี
วงการสากลฯยอมรับ ก็มี วัดระฆังฯ , วัดใหม่อมตรส(บางขุนพรหม) , วัดไชโย วรมหาวิหารฯ
ครูบาอาจารย์ นักสะสม ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า " เล่นพระ ต้อง แม่นพิมพ์ ชำนาญเนื้อ และ คุ้นเคยธรรมชาติ "
พิมพ์พระ สำคัญที่สุดครับ. ผิดพิมพ์ ก็คือ..ไม่ใช่! ไม่ต้องไปพิจารณาอะไร?ต่อ เพราะ.. คนในวงการเขายึดถือ " พิมพ์ " เป็นอันดับแรก
พิมพ์พระ แบ่งออกเป็น พิมพ์บอกลักษณะ นิยมเรียกว่า " พิมพ์ทรง " เช่น. พิมพ์พระประธาน (พิมพ์ใหญ่) , พิมพ์เจดีย์ ฯลฯ เป็นต้น
แต่ละพิมพ์ทรง ก็แยกย่อย ลึก ออกไปอีก เรียกว่า " บล็อค "
พิมพ์ทรง ของพระพิมพ์ ไม่ได้มีเพียง.. บล็อคเดียว! มีหลายบล็อค ถ้าเราสามารถแยกบล็อค และ รู้จำนวนบล็อค (ที่เป็นมาตรฐานฯสากล วงการยอมรับ) ย่อมได้เปรียบ.. ใช่มั๊ย!
มีตำรา..เก่าๆ จัดทำโดย.. กลุ่มนักเล่นระดับแถวหน้าของวงการฯ(ปัจจุบันก็ยังเป็นแถวหน้าอยู่เหมือนเดิม) ได้แยก บล็อคของพระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์พระประธาน(พิมพ์ใหญ่) ไว้ ๔ บล็อค ๔ พิมพ์ ครับ.
พิมพ์พระประธาน(พิมพ์ใหญ่) พิมพ์ที่ ๑
พิมพ์นี้มีน้อยมาก มีพุทธลักษณะ
๑. เศียรพระ และ ส่วนที่แสดงเป็นลำองค์พระ ตลอดจนเส้นแขนและเส้นฐานทุกเส้น จะใหญ่กว่าพิมพ์ที ๒ ที่ ๓ และ ที่๔
๒. วงแขนทั้งสองข้างเกือบจะเป็นเส้นตรงแล่นลงมา(หรือสอบขนานกับองค์พระ)
๓. ระหว่างพระเพลา(ขาตัก) กับฐานด้านบนสุดจะมีเส้นแซม(พิมพ์อื่นไม่มี)
๔. จะมีเส้นสังฆาฏิ แต่ค่อนข้างเล็ก
พิมพ์พระประธาน(พิมพ์ใหญ่) พิมพ์ที่ ๒
เป็นพิมพ์ที่มีจำนวนมากที่สุด มีพุทธลักษณะ
๑. ระหว่างพระเพลา(ขาตัก) กับวงแขน จะมีเนื้อนูนแสดงเป็นพระเพลา(ขาตัก) อย่างชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากหัวเข่าวิ่งขึ้นไปชนวงแขนชัดเจนมาก
๒. วงแขนทั้งสองข้างจะกางออกมากกว่าพิมพ์ที่๑
๓. พระเกศจะยาวกว่าพิมพ์ที่๑
๔. ฐานชั้นบนสุดจะยาวกว่าพิมพ์ที่๑
พิมพ์พระประธาน(พิมพ์ใหญ่) พิมพ์ที่ ๓
พระพิมพ์ที ๓ จะมีตำหนิของพิมพ์อยู่ ๓ แห่งคือ
๑. ลำองค์พระจะเป็นรูปทรงกระบอก(ไม่เป็นรูปตัววี " V " เหมือนพิมพ์อื่น
๒. หัวฐานชั้นที่ ๒ (ฐานสิงห์) จะเป็นเส้นนูนบางกว่าทุกพิมพ์
๓. เส้นลำองค์พระ เส้นวงแขน ตลอดจนเส้นฐาน จะบางและคมชัดกว่าทุกพิมพ์
พิมพ์พระประธาน(พิมพ์ใหญ่) พิมพ์ที่ ๔
เอกลักษณ์ ตำหนิของพิมพ์ที่ ๔ คือ
๑. พระเกศทะลุซุ้ม
๒. ลำองค์พระเป็นรูปตัววี แต่ส่วนล่างสุดของลำองค์พระจะผายออกเข้าหาวงแขน
๓. เส้นชายจีวรจะวิ่งลงมาหาหัวเข่าอย่างคมชัด
๔. หัวเข่าด้าขวาขององค์พระจะมนกลม และ ลาดเข้าหาวงแขน
๕. หัวฐานสิงห์ด้านซ้าย จะวิ่งหักเข้าหาด้านใน
๖. หัวฐานสิงห์ด้าขวาจะเป็นเส้นนดิ่งลงมา
ตำหนิแม่พิมพ์ของพระสมเด็จวัดระฆังโฆสิตาราม นอกจากด้านหน้าแล้ว ด้านหลังขององค์พระ ตลอดจนขอบข้างขององค์พระทั้ง ๔ ด้าน ล้วนแต่เป็นตำหนิที่สำคัญ! ต่อการดู ว่าแท้หรือไม่
เป็นยังไง? บ้างครับ. แค่เพียง..พิมพ์พระประธาน(พิมพ์ใหญ่) พิมพ์เดียว.. ๔ บล็อค(ด้านหน้า) ก็จำแทบไม่ใหวแล้วใช่ไหม?ครับ
เล่นพระฯ สะสมพระฯ ต้องมองและแยกศิลปะพิมพ์ทรง ให้ได้ด้วยนะครับ.


ใครบอกสมเด็จเสร็จทุกรายอย่าไปเชื่อ เล่นพระอย่ามองข้ามสมเด็จ(ปลอมๆ) เอาไว้ขายพวกนักผจญภัยในสนามพระ
เรื่องซื้อพระสมเด็จหลักร้อยขายหลักล้าน มีไว้สร้างจินตนาการนักผจญภัย

เห็นด้วยกับท่าน วัง ทุกประการ
ทุกวันนี้ของแบ่กะดินของอยู่ในเข่งอยู่ในลังในกาละมังก็ยังขายได้อยู่ทุกวันไม่มีวันหมดและไม่มีวันที่จะขายไม่ได้
เพราะยังมีนักผจญภัยที่หวังว่าจะซื้อพระหลักร้อยแล้วจะได้หลักล้าน ไว้ครอบครอง
พบแล้วววววว พระไตรปิฏก......ท่านวังเข้าใจชีวิตจริงๆเอาวิกฤตเป็นโอกาศ 555.....

ไม่แปลกหรอครับ ที่พระสมเด็จ จะราคา ค่านิยมเป็น ล้าน เพราะของเก๊ มีมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า แถมยังพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ
ดังนั้นของแท้ ที่เป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานสากลย่อม จะแพงเป็นธรรมดา
แต่ของอย่างงี้อยู่ที่ศรัทธาครับ ขอให้มีศรัทธาซักวันท่านจะ เจอกับของแท้แบกะดินเองครับแต่เมื่อไหร่นั้น อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ 55

แวะมาคุยมาเล่าเจ้าค่ะ..เรื่องพระสมเด็จเคยคุยกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบนพันทิพย์เมื่อหลายปีก่อน..ก็แล้วแต่ความคิดความเห็นแล้วกันว่าพอเชื่อถือได้หรือไม่........
คือว่าท่านพูกให้ฟังว่าจริงๆแล้วสมเด็จวัดระฆังนั้นจะว่าหายากก็ยาก..ว่าไม่ยากก็ไม่ยาก..บางทีพีะอาจอยู่บนบ้านใครก็ได้..แต่ทำไมดูเหมือนว่ามันหายากซะจนแทบเป็นความฝันเลยก็ว่าได้..ท่านบอกเนื่องจากพระสมเด็จเปลี่ยนจากความศรัทธาของคนบางกลุ่มกลายเป็นสินค้าที่มีราคาเนื่องเพราะมีการทำให้เชื่อว่าพระมีน้อยมากๆและหายากมากๆนั่นเองจึงมีการจำกัดปริมาณพระที่มีอยู่เพื่อเป็นการเพิ่มราคา...และพระที่มีอยู่ล้วนอยู่ในความครอบครองของคนจำนวนไม่กี่คนที่หมุนเวียนเปลี่ยนมือเพื่ออัพราคาพระจนกลายเป็นพระในฝันของคนที่มีเงินน้อย..ท่านเล่าต่ออีกว่าเคยเห็นพระวัดระฆังแท้ๆมีคนเอามาขายที่พันทิพย์..ท่านก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยท่านดูว่าพระแท้แน่นอน..แต่พระที่คนเอามาขายนั้นโดนสวดว่าไม่ถึงยุครับซื้อเพียงหลักร้อย..พอเจ้าของพระโดนสวดว่าไม่ถึงยุตเลยขายได้เงินไปไม่กี่ร้อย..ท่านจึงบอกว่าพระแท้ๆต้องดูผู้ถือครองด้วยว่าเป็นใคร..ถ้าไม่ใช่คนมีชื่อเสียงเป็นชาวบ้านธรรมดาถือไป..มันอาจเป็นพระที่ใช่แต่ไม่ใช่ก็ได้..เหมือนดั่งเมื่อก่อนนั้น.เหรียญหลวงพ่อกลั่นวัดพระญาติรุ่นแรก..หวกผู้รู้ทั้งหลายเมื่อได้มายังต้องเอาพระไปให้ผู้รู้ที่อยุธยาดูอีกทีเลยเพราะผู้รู้ทางอยุธยาไม่ยอมบอกตำหนิจุดตายต่างๆให้..ทำให้บางทีก็โดนผู้รู้ที่อยุธยาทุบเอาก็มี..นี่เป็นคำบอกเล่าของผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่อิฉันรู้จัก..เชื่อถือหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพี่ๆเองเจ้าค่ะ
คงจะสงสัยกันว่าทำไม?.. ผมจึงเอากระทู้นี้มาตั้งในกระดานนี้ แทนที่จะไปตั้งที่กระดานข้อมูล-ข่าวสาร
ก็เพราะ.. ผมอยากให้มีการแสดงความคิดเห็นในมุมที่แตกต่างกัน ในเบื้องต้น ก็ได้มาหลายมุมมอง(ทีสนุกๆ)ด้วยครับ. จะได้ไม่ซีเรียส!
พระสมเด็จฯ ที่เป็นพิมพ์มาตรฐาน วงการให้ความยอมรับ (ที่มีราคาสูงลิบ..) นับตั้งแต่มีการจัดชุด พระเบญจภาคี ของท่านตรียัมปวาย เป็นต้นมาจนถึงบัดนี้ มีพระสมเด็จฯ (บางวัด) ที่ลดจำนวนพิมพ์ทรง และ บางวัดก็เพิ่ม..จำนวนพิมพ์ทรง (ยอมรับว่ามีจริง)
ยกตัวอย่าง.. พระสมเด็จฯ วัดระฆังฯ แต่เดิม มี ๕ พิมพ์ทรง
พิมพ์พระประธาน , พิมพ์เจดีย์ , พิมพ์ฐานแซม , พิมพ์เกศบัวตูม และ พิมพ์ปรกโพธิ์
แต่ในปัจจุบัน!.. เหลือพิมพ์ทรง ที่ให้การยอมรับ เพียง ๔ พิมพ์ทรง " พิมพ์ปรกโพธิ์ " โดน..ตัดทอนออกไป เนื่องจากหาของที่เข้าตามหลักพิจารณา ตามหลักการฯ ที่ได้กำหนดเอาไว้ได้... ไม่ว่าจะเป็นสกุลช่าง , เนื้อหา และ ธรรมชาติของอายุ ( ก็มีบ้าง..แต่ก็ยอมรับกันในวงแคบๆ )
การที่เราเรียนรู้.. เรื่อง พิมพ์ จำนวนของแม่พิมพ์ ที่เป็นมาตรฐานวงการให้การยอมรับ จึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ!
การ..รู้จัก!..เรียนรู้ ศิลปะ สกุลช่าง การแกะแม่พิมพ์ของช่างสิบหมู่(ช่างหลวง) ที่ทำงานในวัง แล้วนำมาถวายสมเด็จฯ โต ไว้ใช้ในการพิมพ์พระเครื่องฯ เป็นเรื่องที่ควรเรียนรู้ไม่ใช่หรือ?
เมื่อเรารู้จัก และ รับรู้ ถึงศิลปะ ของสกุลช่าง ที่เป็นมาตรฐานแล้ว ก็ใช้ความรู้ที่เป็นมาตรฐานนั้น มาใช้ในการดู มาตัดสิน
ความศรัทธา กับ ความรู้ ต้องมาคู่กันครับ. เมื่อเกิดความศรัทธา ก็ต้องแสวงหา.. แต่ถ้า แสวงหาโดยปราศจากความรู้ที่เป็นมาตรฐานฯ ความเป็นจริงที่วงการเขายอมรับและเล่นหากันในวงกว้าง แล้วมาเสาะแสวงหาแต่สิ่งที่เห็นว่า.. มันเก่า - เนื้อจัด - มวลสารฯมาก(ส่องเพลิน..) - มีกลิ่นหอม - เคล้า..เสียงขับกล่อมฯ(ของเจ้าของพระฯ) ให้เคลิบเคลิ้ม.. ในใจก็คิดว่า เป็นบุญวาสนาที่ได้ครอบครองฯ ในราคาไม่แพงมาก จะปล่อยออกก็กำไร? ไม่รู้เท่าไร
" ตามหลักความจริง..ผู้รู้ที่อยู่ในวงการระดับแถวหน้า เขาก็ไม่ได้เก่งไปหมดทุกพิมพ์ ทุกวัดหรอก
แต่ท่านเหล่านั้นจะมีความชำนาญเป็นพิเศษฯ เฉพาะวัด เฉพาะพิมพ์ๆไป เมื่อมีของเข้ามือมา เป็นพิมพ์ที่เขาชำนาญก็ติดสินใจได้เลย (อาจจะรับซื้อราคาดีด้วย)
แต่ถ้าเป็นพิมพ์ เป็นวัด ที่ไม่ชำนาญฯ ท่านผู้รู้ก็จะใช้หลักฯพิจารณาที่เป็นสากล อาจจะซื้อเข้าในราคาพอสมควร ถ้าดูง่ายไม่ขัดสายตา หรือ อาจจะให้เพื่อนๆที่มีความชำนาญกว่ามาดูให้อีกที "
เขาจะไม่ซื้อเข้าโดยใช้ความโลภมาครอบงำ เพราะโอกาสเจ็บตัวสูง..
เพราะเหตุนี้.. จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ ที่ว่า รู้จัก และ เรียนรู้ แค่พิมพ์เดียว! วัดเดียว! ให้มันแม่นยำ-ชำนาญฯไปเลย ดีกว่าไม๊ เมื่อแม่นยำ-ชำนาญแล้วค่อยเรียนรู้ พิมพ์ทรงอื่นๆต่อไป..
และเมื่อ บุญพา-วาสนาส่ง บวกกับ มีสตางค์พอ มีคนยื่นพระสมเด็จฯให้เราจะได้ไม่เสีย " โอกาสเพชร " นั้นไป..ท่านอาจจะได้ครอบครอง!พระสมเด็จฯแท้ๆ ในราคาหลักร้อยก็ได้.. ใครจะไปรู้(แต่ผมไม่เคยได้มาครอบครองหรอก.. แต่ก็ไม่เสียสตางค์ก็เก็บสตางค์เอาไว้อยู่..รอ มาโปรดเหมือนกัน)
ปล. สำหรับความคิดเห็นของ น้องนกเค้าแมว เรื่อง..เอาพระวัดระฆังแท้ๆมาขายที่พันธ์ทิพย์ ได้เพียงหลักฯร้อย... นึกๆดูก็น่าสงสาร
อุส่าห์..พกไปขายในที่..ที่มีการซื้อ-ขายติดอันดับ(...) หวัง!ว่าถ้าแท้! จะได้เงินมาในการดำรงชีพฯมั่ง แต่... ก็เพราะอะไรหล่ะ..
๑. ไม่รู้ เล่ห์เหลี่ยมของเซียน..(ซึ่งมีอยู่เพียบ) เพียงแค่..สะกิดเบาๆ ก็เป๋..เสียแล้ว
๒. เจอเซียนไม่มีคุณธรรม (อาจไม่ใช่เซียนแต่เป็น(...) ในคราบเซียน)
๓. ไม่ทำการบ้านมาก่อน (ฉงฉัย! จะไม่เคยรับข้อมูล-ข่าวสารด้วย)
๔. ต้องรู้จักคำว่า " ไม่ "( juse say no! ) พูดไปก่อนเลย..ว่า " ยังไม่ขายครับ-ค่ะ " รอดูสักพัก! เดี๋ยว!ก็มีปฏิกริยากัน วิ่งกันให้วุ่น(พล่าน) จะไม่วุ่นได้ยังไง? " พระสมเด็จฯ ไม่ได้แวะ!เข้ามา.. ให้บิณฑบาตทุกวันนะจ๊ะ "
นี่ถ้าท่านเจ้าของพระสมเด็จฯท่านนั้น ไปขายที่อื่น..อาจจะได้ราคาดีกว่านี้ก็เป็นไปได้..เน๊าะ! ขนาดสมเด็จฯเก๊ๆเก่าๆเขรอะๆ สังคมฯวงนอก ยังขายได้ตั้งหลายหมื่นฯ..
องค์นี้เป็นอย่างไรครับท่าน