หัวข้อ: ไปทำบุญอุทิศให้แม่

เขียนเรื่องไปวัดแล้วได้อะไร?.. กลับมาบ้าง! ทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์ที่ผมได้รับจากการทำบุญ(ให้มารดาผู้ล่วงลับ)ครั้งหนึ่ง...ในจำนวนหลายๆครั้ง

 ... เมื่อตอนเช้าของเดือน กย.ปีที่แล้ว ผมกับคู่ชีวิตจะตักบาตร และ ถวายเครื่องสังฆทานพร้อมกับซองปัจจัย กับพระภิกษุสงฆ์ ที่ออกมารับบิณฑบาตรผ่านหน้าบ้านทุกวัน. เพื่ออุทิศฯ ส่วนกุศลไปให้กับมารดาของผม แต่วันนั้น! พระไม่มาครับ (มาทราบตอนหลังว่า ติดรับกิจนิมนต์) เลยต้องเปลี่ยนโปรแกรมฯ  "บุก.." ไปทำบุญที่วัดเลย..

 ... พอไปถึงวัด เงียบกริบ! ไม่มีพระสงฆ์อยู่เลย (มารู้อีกที.. เจ้าภาพเขานิมนต์พระ ๔รูป พระเกลี้ยง!..หมดวัดเลย...ฮ่าๆๆๆ) ตู..จะทำไง?ดีหล่ะ! พระไม่มี.. หันรี-หันขวาง!เหลือบไปเจอแม่ชีกำลังกวาดลานวัดอยู่ไกลๆ เลยเข้าไปหา แม่ชีก็ถามว่ามาทำอะไร? ก็ตอบไปตามตรง แล้วถามว่าจะทำบุญกับแม่ชีได้ไหม? แม่ชีบอกว่าได้ แล้วนำผมกับคู่ชีวิตไปที่ศาลาสวดมนต์ที่อยู่ด้านใน

 *** ลืมบอกไปว่า.. วัดที่ผมไปเป็นลักษณะวัดป่า.. แต่ด้านในของวัดลึกเข้าไปอีก จะเป็นที่ตั้งของ สำนักฯปฏิบัติธรรม ของแม่ชี ซึ่งอยู่ในพระบรมราชินูปถัมภ์ของสมเด็จฯนางเจ้าพระราชินีนาถฯ ซึ่งที่ดินที่ตั้งของสำนักฯ ไม่ได้เกี่ยวข้อง!..กับทางวัดแต่อย่างใด? แต่ก็เข้าร่วมทำสังฆกรรมกับทางวัดเสมอมา ***

  นั่งรอสักครู่ ก็มีคณะแม่ชี 6-7องค์ ออกมารับประเคน ทุกอย่างก็เป็นไปตามปรกติ! แต่..ตอน รับพรฯจากคณะแม่ชีสิ! ทำให้ผมรู้สึกถึงความแตกต่างครับ.

 คณะแม่ชี ให้พรฯ ด้วย " ยถา-สัพพี " แต่.. มีคำแปลฯความหมายในแต่ละประโยค ให้เรารับฟังด้วย  ทำให้ผม" มีความซาบซึ้ง เข้าใจในคำให้พรฯ นั้น" ซึ่งพระสงฆ์จะให้พรเป็นภาษาบาลี.. เราท่านก็ได้ยินทุกครั้ง แต่.. เข้าใจหรือเปล่า?? ว่าที่ได้ฟังหน่ะ พรที่ให้มานั้นมันหมายความว่าอย่างไร?

  ผมจึงอยากจะนำเอาคำแปลฯของพรฯจาก " บทยถา-สัพพี " มาบอกต่อเพื่อที่เหล่าฯพุทธศาสนิกชน จะได้รับรู้และซาบซึ้ง กับพรฯบทนี้ครับ.

อนุโมทนารัมคาถา แปล 

ยะถา วาริวะหา ปูรา ปะริปูเรนติ สาคะรัง ห้วงน้ำที่เต็มยังสมุทรสาครให้บริบูรณ์ได้ฉันใด 
เอวะเมวะ อิโต ทินนัง เปตานัง อุปะกัปปะติ ทานที่ท่านอุทิศให้แล้วในโลกนี้ ย่อมสำเร็จประโยชน์แก่ผู้ที่ละโลกนี้ไปแล้วได้ ฉันนั้น 
อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง ขออิฏฐผลที่ท่านปราถนาแล้ว ตั้งใจแล้ว 
ขิปปะเมวะ สะมิชฌะตุ จงสำเร็จโดยฉับพลัน 
สัพเพ ปูเรนตุ สังกัปปา ขอดำริทั้งปวงจงเต็มที่ 
จันโท ปัณณะระโส ยะถา เหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ 
มะณิ โชติระโส ยะถา เหมือนดังแก้วมณีอันสว่างไสวควรยินดี

สามัญญานุโมทนาคาถา แปล 

สัพพีติโย วิวัชชันตุ ความจัญไรทั้งปวง จงบำราศไป 
สัพพะโรโค วินัสสะตุ โรคทั้งปวง (ของท่าน) จงหาย 
มา เต ภะวัตวันตะราโย อันตรายอย่ามีแก่ท่าน 
สุขี ทีฆายุโก ภะวะ ท่านจงเป็นผู้มีความสุข มีอายุยืน 
อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฑฒาปะจายิโน 
จัตตาโร ธัมมา วัฑฒันติ 
อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง 
ธรรมสี่ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้มีปกติกราบไหว้ มีปกติอ่อนน้อม (ต่อผู้ใหญ่) เป็นนิตย์ฯ

*** รูปประกอบบทความเป็นรูปที่..เสถียรธรรมสถานนะครับ. ***

ขอบคุณที่นำมาเผยแพร่ครับพี่ เป็นประโยชน์มากมายครับ ขออนุญาตคัดลอกบทความไปแบ่งปันให้เพื่อนๆ นะครับพี่

ขอบคุณครับ

ขอบคุณมากครับพี่

ด้วยความเคารพ

ดีมากครับเป็มความรู้จริงๆ

เข้ามารับฟังพรด้วยเจ้าค่ะพี่หนุ่ย....สาธุ...อามิตตพุทธ

อนุโมทนา บุญด้วยครับ

ยอมรับโดยดีครับว่าเด็กรุ่นใหม่แบบผมไม่รู้ความหมายเลย

แต่ได้อ่าน ได้เข้าใจ แล้วก็รู้สึกได้ดังทีท่านบอกครับ

ขอบคุณกระทู้ ดีดี แบบ นี้ครับ

สาธุ.......

ตอนเป็นครูผมก็ริเริ่ม นำคำแปลให้เด็กนักเรียนว่าตามหลังคำสวดมนต์ทุกเช้าเหมือนกันครับ ครูใหญ่และครูท่านอื่นๆก็เห็นด้วยที่จะให้เด็กรู้ว่า บาลีที่สวดนั้นหมายถึงอะไร ไม่ใช่สวดกันเรื่อยไปโดยไม่รู้ความหมายเลย

อรหัง สัมมา สัมพุทโธ ภควา พุทธัง ภควันตัง อภิวาเทมิ

พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง ข้าพเจ้าขอไหว้พระพุทธเจ้า

สวากขาโต ภควาตา ธัมโม ธัมมัง นมะสามิ

พระธรรมที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ดีแล้ว ข้าพเจ้าขอไหว้พระธรรม

สุปฏิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ สังฆัง นะมามิ

พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า ปฎิบัติดีแล้ว ข้าพเจ้าขอไหว้พระสงฆ์

ที่ว่า ข้าพเจ้าขอไหว้ อาจแปลไม่ตรงเป๊ะ แต่เน้นความหมายให้เด็กเข้าใจง่ายครับ

บ้านพระดี:

ขอบคุณที่นำมาเผยแพร่ครับพี่ เป็นประโยชน์มากมายครับ ขออนุญาตคัดลอกบทความไปแบ่งปันให้เพื่อนๆ นะครับพี่

ขอบคุณครับ

โดยปกติแล้ว ทุกความคิด-เห็นของผม ไม่เคยสงวนลิขสิทธิ์ครับ ถ้าเพื่อนๆเห็นว่าอันไหนมีประโยชน์ เห็นว่าสมควรนำไปแบ่งปันต่อ ผมก็ยินดีครับ.

 คำบาลี-สัณษกฤษ(ถ้าผมเขียนผิด!ต้องขออภัย) เป็นภาษาที่พระพุทธเจ้าทรงใช้ ดังนั้น ผู้ใด?..ที่หวังไปพบ-ไปเฝ้าพระพุทธองค์ จึงต้องร่ำเรียน ท่องบ่น ให้ขึ้นใจ และ เข้าใจความหมาย

 แต่สำหรับ เราๆท่านๆ ร้อยทั้งร้อย ฟังไม่เข้าใจหรอก จะร่ำเรียนไปในชีวิตประจำวันก็ไม่ได้ใช้ ตายไป..ก็ไม่รู้จะได้เห็นประตูสวรรค์หรือเปล่า? ก็เลยพนมมือฟังไปแบบแกนๆ

 แต่ถ้าผู้เป็นศิษย์พระคถาคต เพิ่มเวลาไปอีกสักหน่อย! ให้พรฯไป แปลไป คนทีไม่รู้ก็จะรู้ คนที่รู้แล้วก็จะยิ่งซาบซึ้งอิ่มเอมใจ เด็กรุ่นใหม่เริ่มเข้าใจก็จะไม่ห่างไกลวัด ห่างไกลพระพุทธศาสนา 

 สอนกันด้วยภาษาง่ายๆ เข้าใจง่ายๆนะครับ เวลาออกจากวัดไปแล้วก็จะได้อะไร? กลับไปบ้าง! อย่างน้อยก็รู้ว่าพระท่าน ได้ให้พรฯอะไรมา ไม่ใช่ออกมาอย่างงงๆ เหมือนทุกวันนี้.

   ขอขอบคุณทุกคะแนนที่มอบให้ครับ. จากใจจริง.