
หัวข้อ: หาของ.............
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ

กระทู้นี้ก็เอาเรื่องเบาๆมาให้เพื่อนสมาชิกได้อ่านกันเพลินๆ จะตั้งปุจฉา หรือจะวิสัชนาด้วย ก็แล้วแต่สะดวกครับ ก็เป็นเรื่องของเสี้ยวหนึ่งในชีวิตที่อยู่ในแวดวงทำมาหากินเกี่ยวกับพระเครื่องบ้าง ของเก่า (บ่ใช่..ภรรเมียเก่าๆ ที่แก่ง่ายตายยาก นะขอรับ) ของลายครามบ้าง ที่ผ่านมาในอดีต เอามาเล่าสู่กันฟัง หรือถ้าเพื่อนสมาชิกท่านใดที่มีประสบการณ์การหาของเก่ามาขาย หรือสะสม ที่อาจจะเป็นเรื่องสนุกๆ ตื่นเต้น หรือมีการผจญภัยอะไร ก็เชิญเลยนะครับ คิดซะว่าเอามาถ่ายทอด บอกกล่าวถึงเรื่องราวต่างๆ ที่อาจจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย
ก็เชื่อว่าเกือบทุกท่านคงผ่านประสบการณ์การหาของ (พระเครื่อง) มาบ้างแล้ว ผมเองเริ่มมาตั้งแต่รุ่นๆ ประมาณซักปี สองพันห้าร้อยสิบกว่าๆ ก็ยังเป็นมือใหม่ในการหาของ ดังนั้นจึงตามพวกรุ่นพี่ รุ่นอาจารย์ไปด้วย เพื่อเป็นการเรียนรู้ประสบการณ์ไปในตัว ส่วนใหญ่จะตระเวนหาของกันตามบ้านนอก ซึ่งไม่ไกลจากรุงเทพฯมากนัก เช่น อยุธยา อ่างทอง แม่กลอง มหาชัย ใกล้ๆแบบเช้าไปเย็นกลับ เจออะไร เอาหมดทุกอย่าง โต๊ะ โตก ตุ่ม ไห โอ่งมังกร โอ่งเขียว ถ้วยชาม ฯลฯ แม้กระทั่งฝาบ้าน
ฝาบ้านจริงๆครับ ใครรู้จักฝาเฟี้ยมบ้าง ฝาประตูบ้านหรือฝาบ้านที่เป็นแบบที่พับได้ หรือติดตาย ซึ่งส่วนใหญ่จะทำมาจากไม้สัก ซึ่งบางบ้านเก่าจริง ตั้งแต่สมัยอยุธยา หรือต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เคยเหมาซื้อชนิดที่เจ้าของบ้านงัดขายกันเดี๋ยวนั้นเลย เกือบ 20 บาน ลายแกะสลักเป็นลายเครือเถาว์บ้าง ลายจีนบ้าง ตกราวๆแผ่นละประมาณ 4,000 บาท ในสมัยนั้นก็ไม่ใช่ถูกๆนะครับ ก็เอามาตกแต่งขายต่อก็มีกำไรกันพอประมาณ ส่วนเจ้าของบ้านหลังจากที่งัดฝาบ้านไม้ขายแล้ว ก็ไปซื้อผ้าพลาสติกมาปิดแทน สบายไป
ในยุคนั้น ปี พ.ศ. 2510 ต้นๆ จะดีอยู่อย่างหนึ่ง คือ ของเก๊น้อยมาก ถ้าเป็นของเก๊ก็จะดูง่าย คือต่างจากของแท้สุดกู่ ยิ่งของจากตามชนบทส่วนใหญ่จะแท้ทั้งนั้น พระเล็ก พระใหญ๋ (พระพุทธรูป) มีทั้งนั้น กลุ่มผู้ไปด้วยกัน ก็แบ่งสรรปันส่วนกัน ใครถนัดพระเครื่อง พระบูชา ของเก่า ของลายคราม ก็แบ่งกันไป พระเครื่องหลักๆ พวกรุ่นพี่ รุ่นอาจารย์ก็เล่นหัวคิวก่อน ส่วนรุ่นเล็กแบบผมก็เล่นพระย่อย พระหลักที่ไม่ค่อยสวย ที่รุ่นใหญ่เขาเมตตาแบ่งให้ ก็ดีครับ ถูกตังค์ดี ออกไปทีนึงกลับมาได้ของติดไม้ ติดมือเอามาขาย ก็อู้ฟู่ ดีพอสมควร
มาเลิกหาของกันก็เมื่อวัตถุดิบเริ่มน้อยลงแล้วครับ โดนเจาะจนพรุนไปหมด หลายพวก หลายสาย ตระเวณเข้าไปเจาะกันจนไม่เหลือหลอ ท้ายสุดก็โดนดี เข้าจนได้ พรรคพวกวงการเราๆนี่แหละครับ ยัดของเก๊เอาไว้ตามบ้านที่พวกเราจะไปเจาะกันเพียบเลย ของแท้โปรยไว้ล่อตานิดๆหน่อยๆ แต่ของเก๊ของฝีมือบานตะเกียง ซึ่งบางกลุ่มที่ไปเจาะก็โดนเข้าไปหลายอัฐเหมือนกัน ส่วนกลุ่มผมอาศัยว่าตาถึงเพราะผ่านมาเยอะหน่อยก็รอดตัวไป แต่ก็ต้องเลิกเพราะได้ของไม่คุ้มค่าใช้จ่าย
ก็ยังมีเรื่องที่จะเล่าให้อ่านกันอีกเยอะครับสำหรับการไปหาของเก่านี่ มีทั้งเรื่องโดนหมาไล่กัด ควายไล่ขวิด หนีกระเจิดเจิง ตกน้ำ ตกท่า เรือแพล่ม แทบจะเอาชีวิตไม่รอดก็มี การจะไปหาซื้อของ ก็ต้องมีคนรู้จัก กับคนพื้นที่บ้าง ครับ ชนิดที่เดินกันดุ่มๆไป ไม่รู้จักใครเลย เดี๋ยวก็เจอเจ้าของบ้านคว้า"ตราควาย" มาไล่ยิงเอา เพราะนึกว่าจะมาปล้นบ้านเขา ก็สนุกดี และได้ตังค์ ได้ประสบการณ์วิชาความรู้ด้วยครับ เอามาใช้ทำมาหากินจนกระทั่งปัจจุบันนี้ เพื่อนๆสมาชิกท่านใด มีเรื่องราวการหาของเก่า ที่สนุกๆมาแบ่งปันเล่าสู่กันฟังก็เชิญเลยนะครับ....ขอบคุณครับ ที่อ่านจนจบ.....
ปัจจุบัน คงเหลือแต่ นางพญาแก่ๆ ส่วนนางพญาสาวๆ ขืนไปจีบเข้า คงโดน ลูกซองวัลโวเข้าให้ เตลิดหนีกลับมาแคะลูกปรายแทบไม่ทันครับ

+ชอบครับเล่าเรื่องเก่าๆแบบนี้ +1 ครับ

ชอบมากครับพี่ อ่านแล้วคิดถึงบ้านเลย สมัยยังมีลูกซองแฝดไว้เฝ้าบ้าน ผมยังจำได้สมัยเด็ก ๆ ผู้ใหญ่เขาไม่ให้จับเลย เวลาไปยิงสัตว์อนุญาตให้เอาไปแต่ปืนแก๊บ รุ่นใส่กระสุนแล้วเอาเหล็กกระทุ้ง มันยิงนกได้ดี แต่หมูป่านี่ต้องแม่นจริง ๆ ชีวิตสมัยนั้นสนุกมาก ยามปกติ ก็เฝ้าบ่อปลากัน อยากกินเหล้าก็แอบไปลักไก่ชาวบ้านกัน วันไหนเมาจัดลืมว่าบาปมีจริงก็เล่นไก่วัดกันเลย พอหน้านาก็รวมกลุ่มกันเอาความมารวมกันแล้วผลัดกันเฝ้าควายกันถูกขโมย ถ้าพี่มาแถวบ้านผมในสมัยนั้นแบบสุ่ม ๆ ไปหล่ะก็ตกกลางคืนจะสนุกมากครับ เพราะแค่เขาไปถามทางคนในบ้านเห็นแต่ไม่แน่ใจว่าใครเท่านั้นหล่ะ เขาจะยิงปืนขึ้นฟ้าก่อนนัดนึง แล้วถามว่านั่นใคร ทำจนแทบจะเป็นธรรมเนียมเลย เหมือนกับบอกว่าข้ามีปืน สนุกมากมากเลยครับ

....ฮาๆๆๆ...สนุกดีครับ เข้ามาดู "คนเก่าๆ..เล่าความหลังกัน"....เน้น...คนเก่าๆครับไม่ใช่...น่า ( ...) ครับ. เดียวคนเก่าๆ หลายท่านในที่นี้จะเคืองผมเอา....อิอิอิ

ความสุขของคนเก่าที่เริ่มแก่ ก็คงจะไม่มีอะไรมากไปกว่า การที่ได้รื้อฟื้นเรื่องราวในอดีตมาเล่าสู่กันฟัง ก็เชื่อแน่ว่าน่าจะเป็นกับทุกคนเมื่ออายุถึงจุดๆนั้น ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อเจอะเจอเพื่อนเก่าๆที่มีอายุรุ่นราวคราวเริ่มแย้มฝาโลงเดียวกัน หรือเป็นศิษย์เก่าร่วมโรงเรียนเดียวกัน ยิ่งถ้าได้ร่ำสุราด้วยกันแล้วละก็ ก็คงจะไม่มีอะไรมากไปกว่า งัดเรื่องราวต่างๆในอดีตของแต่ละบุคคลมาแซวกันบ้าง ล้อเลียนชื่อบิดากันบ้าง ขุดเอาจุดบอดหรือด่างพร้อยมาเล่าสู่กันฟังบ้าง ก็เป็นที่ฮาเฮมีความสุขกันถ้วนหน้า
สิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติของมนุษย์เราจริงๆครับ จะเห็นได้ว่าในสังคมชนบท หรือแถบชานเมือง ถ้ามีคนเก่าคนแก่อยู่ในชุมชนนั้นๆ ก็จะเห็นว่ามีการรวมกลุ่มกัน ไม่ว่าจะเป็นตอนเช้าๆตามร้านกาแฟอาเฮีย หรือ อาโก ที่ยังเป็นคนเก่าแก่หลงเหลืออยู่เหมือนกัน ก็ตั้งเป็นก๊วนผู้เฒ่าเล่าเรื่องราวในอดีตแต่หนหลังสู่กันฟัง ส่องพระเครื่องกันบ้าง โขกหมากรุกกันบ้าง หรือวิจารณ์เรื่องการบ้าน การเมือง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน พอตกสายๆถึงจะแยกย้ายกลับบ้านใคร บ้านมัน ก็เป็นความสุขของคนที่เริ่ม (แก่) มีอายุน่ะแหละครับ
สำหรับคุณ dorn80 ก็เถอะ ตอนนี้ยังหนุ่มอยู่ก็ยิ้มย่องผ่องใสทำเป็นแซวคนแก่ไปเหอะ อีกหน่อยพอได้อายุก็คงหนีพฤติกรรมแบบนี้ไม่พ้นหรอก..หุ..หุ.. ขอบคุณทุกๆท่าน ครับ ที่เข้ามาร่วมแจม...
"ชอบของขม ชมสาวสวย รวยความหลัง ฟังเครื่องสาย"......ผมเป็นแบบนี้ แก่หรือยังครับพี่ ๆ ทุกท่าน

ยังไม่แก่ครับท่าน 555

+1 ครับ ฟังแล้วคิดตามได้ความรู้สนุกดีครับ
ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ครับผม