
หัวข้อ: ขอเชิญร่วมงานบุญ หลวงพ่อสุนทร (วัดบ้านมะเกลือ) ช่วยๆกันครับงานบุญบ้านเรา
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ

หลวงพ่อพระครูนิวาสธรรมสุนทร มีนามเดิมว่า สุนทร นามสกุล ทัศนัย กำเนิด ณ บ้านสันพิง ตำบลแควใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ . ศ . ๒๔๗๘ ตรงกับวันจันทร์ แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๖ ปีชวด โยมบิดาชื่อ เทียบ ทัศนัย โยมมารดาชื่อ ทัน ทัศนัย มีพี่น้องร่วมอุทร ๑๐ คน เป็นชาย ๗ คน หญิง ๓ คน หลวงพ่อเป็นบุตรชายคนที่ ๑
เมื่อวัยเยาว์ หลวงพ่อได้ติดตามโยมบิดามารดาไปประกอบอาชีพ ทำนา ทำไร่ และเลี้ยงดูน้อง ๆ โดยตลอด เนื่องจากโยมบิดาเป็นชาวอำเภอโพธิ์ทอง จ . อ่างทอง จึงมีเหตุให้ต้องย้ายครอบครัวไปอยู่ที่ จ . อ่างทอง ระยะหนึ่ง จากนั้นได้ย้ายมาอยู่ ณ บ้านกัลยารัตน์ ตำบลหนองเต่า อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ จนถึงปี พ . ศ . ๒๔๘๕ ได้ย้ายมารประกอบอาชีพ ณ บ้านดงสระบาป ( ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบ้านสระงาม ) ต . บ้านมะเกลือ อ . เมือง จังหวัดนครสวรรค์ และได้ตั้งถิ่นฐานครอบครัวอยู่ ณ นี้นี้มาโดยตลอด
พ . ศ . ๒๔๘๙ พระอาจารย์ เจ้าอาวาสวัดนิเวศวุฒาราม ( วัดคลองน้ำโจน ) ได้มาพบ เด็กชายสุนทร ทัศนัย ซึ่งขณะนั้นอายุ ๑๑ ปี แล้วแต่ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะเนื่องจากฐานะทางบ้านยากจน จึงต้องติดตามบิดามารดาไปประกอบอาชีพโดยตลอด พระอาจารย์ทาเกิดเมตตาสงสารเด็กชายสุนทร เห็นว่ามีแววเฉลียวฉลาดจึงออกปากขอเด็กชายสุนทรไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน วัดคลองน้ำโจน ( วัดนิเวศวุฒาราม ) ตำบลบางม่วง อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งโยมบิดามารดา เด็กชายสุนทรได้เข้าเรียนเมื่อ ๑๑ ปี โดยได้พำนักเป็นศิษย์อยู่ ณ วัดคลองน้ำโจน จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ พ . ศ . ๒๔๙๒ ซึ่งถือว่าสูงสุดในย่านนั้น มีความรู้แตกฉานภาษาไทย ใฝ่ในใจในเรื่องประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ต้องพักการศึกษาไว้เท่านั้น กลับไปช่วยบิดามารดาประกอบสัมมาชีพ ดูแลน้อง ๆ ต่อไป
อุปสมบทและการศึกษาทางธรรม
หลังจากจบชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๔ แล้ว ได้ลากลับไปช่วยบิดามารดาประกอบสัมมาชีพ จนอายุครบ ๒๐ ปี ตรงกับ พ . ศ . ๒๔๙๙ ได้เข้าอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดท่าพระเจริญพรต ( วัดบ้านมะเกลือ ) ตำบลบ้านมะเกลือ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม พ . ศ . ๒๔๙๙ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๘ ปีวอก โดยมีพระครูนิจิตรธรรมประวุฒิ วัดเขาดินเหนือ อำเภอเก้าเลี้ยว เป็นประอุปัชฌาย์ พระสมุห์ชื้น วัดเขาดินเหนือ เป็นพระกรรมวาจารย์ พระอธิการบุญช่วย ฉน ? ทสาโน วัดท่าพระเจริญพรต เป็นพระอนุสาวนาจารย์
พอ อุปสมบทเสร็จก็ได้จำพรรษาอยู่ ณ วัดท่าพระเจริญพรตนี้เองด้วยความเป็นผู้มีจิตฝักใฝ่ต่อการศึกษามาแต่เยาวว์ วัย หลวงพ่อหรือพระภิกษุสุนทร ในสมัยนั้น จึงได้เริ่มค้นคว้าหาตำรับตำราซึ่งหาได้ยากเหลือเกินในขณะนั้น ศึกษาและสอบถามจากท่านผู้รู้ที่พอจะหาได้
พรรษาที่ ๒ ญาติโยมที่อุปการะพระภิกษุสุนทร ได้เห็นความตั้งใจจริงของท่านที่จะศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยจึงพาไปฝาก เรียน ณ วัดโพธาราม อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครสวรรค์ แต่จะด้วยวาสนาน้อยหรือประการใดมิอาจทราบ เจ้าอาวาสวัดโพธารามได้ปฏิเสธที่จะรับพระภิกษุสุนทร โดยท่านอ้างว่า “ เป็นพระแล้ง อายุมากแล้ว นักธรรมตรีก็ยังไม่ได้ ไม่ค่อยได้ความ ” จึงเป็นอันแคล้วคลาดจากวัดโพธาราม แต่ด้วยใจที่ใคร่ต่อการศึกษายิ่งนัก ถึงการฝากเรียนของโยมอุปการะคราวนี้ไม่สำเร็จ พระภิกษุสุนทรก็ยังตั้งความหวังไว้ในใจที่จะเรียนบาลีเอาดีเป็นมหากับเขาให้ ได้ ต่อจากนั้นมาไม่นานได้เดินทางไปขอเรียนที่วัดตลิ่งชัน ( ปัจจุบันชื่อวัดพรหมจริยวาส ) อำเภอเมือง ฯ จังหวัดนครสวรรค์ ครั้งนี้เดินทางมาด้วยตนเอง แต่ก็ต้องผิดหวังเช่นเคยกลับจากวัดตลิ่งชันได้มุ่งมั่นศึกษาด้วยตนเอง และได้เข้าสิบนักธรรมชั้นตรีเป็นครั้งแรก ผลปรากฎว่า สอบไม่ผ่าน แต่พระภิกษุสุนทรก็มิเคยท้อใจ
พรรษาที่ ๓ คงจะเป็นด้วยบุญกุศลที่เคยสร้างสมไว้แต่ปรางก่อน ได้มีพระภิกษุสองรูปเดินทางมาจำพรรษา ณ วัดท่าพระเจริญพรต ตคือ พระมหาแก่นจันทร์ ป . ธ . ๕ ชาวมหาสารคาม และพระอาจารย์น้อย ฉิน ? นาลโย น . ธ . เอก พระภิกษุสุนทรจึงขอมอบตัวเป็นศิษย์ ขอคำแนะนำสั่งสอนจากอาจารย์ทั้งสองท่าน ผลปรากฎเป็นที่น่าพอใจ พระภิกษุสุนทรสอบนักธรรมจากอาจารย์ทั้งสองท่าน ผลปรากฎเป็นที่น่า พระภิกษุสุนทรสอบนักธรรมตรีได้ แต่อาจารย์ทั้งสองมีเหตุจำเป็นต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา
พรรษาที่ ๔ พระภิกษุสุนทร ได้รับทราบข่าวอันเป็นมงคลจากเพื่อนพระภิกษุว่า “ มีสำนักเรียนแห่งหนึ่งที่จังหวัดพิษณุโลก เปิดสอนนักธรรมบาลี ไม่รังเกียจว่าเป็นพระหรือเณร รับทั้งหมด ” จึงความปีติใจเป็นอย่างยิ่งแก่พระภิกษุสุนทรที่จะได้เรียนบาลีสมดังใจปอง จึงได้ตระเตรียมบริขารบอกลาญาติโยมมุ่งหน้าสู่วัดสันติวาส อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลกโดยรถไฟมีพระใหม่ แบะสามเณรติดตามไปด้วยรวมเป็นสามรูป แต่เหตุการณ์มิได้เป็นดังคาดไว้ เพราะวัดสันติกาวาสไม่มีเรียนบาลี มีแต่นักธรรมอย่างเดียว พระภิกษุสุนทรรู้สึกผิดหวังมาก ด้วยมุ่งหมายจะเรียนบาลีเป็นมหาเปรียญกับเขาบ้างอุตส่าห์รอนแรมมาจากบ้าน เกิดเมืองนอน แต่มาพลาดหวังอีก นอกจากนี้พระภิกษุสุนทรยังได้รับคำดูหมิ่นว่า “ พระองค์ไหนมาก็พูดอย่างงี้ว่า อยากเรียน ๆ แต่มากี่ราย ๆ ไม่เห็นจริงสักรายเลย ” จึงเป็นเหตุให้ท่านมานะจะเรียนเพื่อลบคำสบประมาทให้ได้ อีกทั้งก็ลาญาติโยมมาแล้ว ถึงจะไม่ได้เรียนบาลี ก็ขอเรียนนักธรรมอย่างเต็มที่ ซึ่งวิธีการเรียนของพระภิกษุสุนทรมีวิธีที่น่าสนใจ คือ ในสมัยนั้นไฟฟ้ายังไม่แพร่หลาย พระภิกษุสุนทรจะท่องหนังสือนักธรรมชั้นโท โดยใช้เทียนไขจุดดูในเวลากลางคืน ท่องทุกตัวอักษรไม่เคยเว้น ก่อนท่องจะอธิษฐานท่องหนังสือจนกว่าจะหมดเทียนไขขนาด ๑ คืบ พอเทียนหมดจะหยุดทีนที ถึงแม้จะอยากดูอีกก็จะเลิกทันที แต่ถ้าหากวันไหนอ่อนเพลียหรือว่ารำคาญอย่างไรก็ต้องอดทนท่องหนังสือจนเทียน หมดเล่ม ความเพียรไม่เคยลืมจะให้ผลแก่ผู้ขยัน พระภิกษุสุนทรสอบนักธรรมชั้นโทได้ในปีนั้นเอง และภายหลังจากนั้นได้เดินทางกลับมาวัดท่าพระเจริญพรตรับภาระเป็นเจ้าอาวาส เปิดสำนักศาสนศึกษาวัดท่าพระเจริญพรตครั้งแรกเมื่อปี พ . ศ . ๒๕๐๓ เป็นผู้ทำการสอนเองและระหว่างนี้ก็ได้ศึกษานักธรรมชั้นเอกด้วยตนเอง เป็นเวลาหลายปีจึงสอบได้นักธรรมชั้นเอกรวมระยะเวลาที่พระภิกษุเรียนนักธรรม ชั้นตรีถึงชั้นเอก ๙ ปีพอดี
ภารกิจทางคณะสงฆ์
ในด้านการคณะสงฆ์ หลวงพ่อพระครูนิวาสธรรมสุนทร ได้ดูแลกวดขันวัตรปฏิบัติของภิกษุสามเณร ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามพระธรรมวินัย และพระราชบัญญัติคณะสงฆ์อย่างเคร่งครัด และรับสนองงานตามคำสั่งของมหาเถรสมาคมที่สั่งการมามิให้ขาดตกบกพร่อง
กิจกรรมเกี่ยวกับการเผยแผ่
- มีการแสดงธรรมสั่งสอนประชาชนทุกวันพระ
- จัดอบรมประชาชนและเด็กนักเรียนในวันสำคัญต่าง ๆ เช่น วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นต้น
- จัดส่งพระภิกษุสามเณรผู้ทรงคุณวุฒิ ไปสอนศีลธรรมในโรงเรียนต่าง ๆ เป็นประจำ
- จัดเผยแผ่ธรรมะทางอากาศ ในตอนเช้าเป็นประจำ
- จัดบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน และอบรมศีลธรรมแก่เด็ก ๆ เป็นประจำทุกปี ในเดือนเมษายน
- ดำเนินโครงการอุทยานการศึกษาในวัด จัดทำโครงการ ต้นไม้พูดได้ โดยจัดทำป้ายคติธรรม คติชีวิต ติดตามต้นไม้ในบริเวณวัด ให้ประชาชนได้ศึกษาและนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
- จัดงานฉลองพระภิกษุสามเณรผู้สอบเปรียญได้ ทุกปีเพื่อเป็นการยกย่องผู้ตั่งใจศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม และประกาศกิจกรรมของคณะสงฆ์ด้วย
- จัดงานมอบประกาศนียบัตรโรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
- จัดตั้งศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัด



เพิ่มเติม



เพิ่มเติม
