
หัวข้อ: ชำระ.."ใจ" ใช้เวลานิดเดียว
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ
ไม่ต้องมากครับ.. เพียง!..วันละหน่อยก็พอ
ถ้าไม่มี " ใจ " ก็ไม่มีอะไรต้องชำระอีกต่อไป ครับ
วังเทวี:
ถ้าไม่มี " ใจ " ก็ไม่มีอะไรต้องชำระอีกต่อไป ครับ
ต้องค่อยๆเป็น.. ค่อยๆไป.. เดี๋ยว " ใจ " ก็มีเอง ครับ.
คำว่าไม่มี ใจ ในความหมายคือ ไม่มีตัวตน
เมื่อเข้าถึงความไม่มีตัวตน ก็ไม่มีสิ่งใด เกาะยึดเหนียวรั้ง ให้มัวหมองได้อีก
นี่เป็นคำสอนอันกล่าวโดยสรุปของท่านพุทธทาสภิกขุ และท่านปัญญานันทภิกขุ
อันมาจากคำสอนในพุทธศาสนาที่ว่า...
...กล้าวโดยสรุป ร่างกายและจิตใจ ไม่ใข่ตัวตน และไม่ใช่ของๆตน
วังเทวี:
คำว่าไม่มี ใจ ในความหมายคือ ไม่มีตัวตน
เมื่อเข้าถึงความไม่มีตัวตน ก็ไม่มีสิ่งใด เกาะยึดเหนียวรั้ง ให้มัวหมองได้อีก
นี่เป็นคำสอนอันกล่าวโดยสรุปของท่านพุทธทาสภิกขุ และท่านปัญญานันทภิกขุ
ใช่ครับ นี่เป็นคำสอนขั้นสูงของท่านพุทธทาสภิกขุ และ ท่านปัญญานันทภิกขุ ที่ท่านวังเทวีเข้าใจ และ เข้าถึง
แต่ ใจ ในความหมายของผมคือ ความไม่ยินดี-ยินร้าย , การไม่สนใจกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเขา (ถ้าสิ่งเหล่านั้นมันไม่มีผลกระทบกับเขา) เช่น.
- ชาวนาฆ่าตัวตาย เพราะ พิษฯของนโยบายฯ ก็ตายไป
- แก๊สหุงต้ม(ภาคครัวเรือน) ขณะนี้ราคาต่อลิตร สูงกว่าภาคขนส่ง-ภาคอุตสาหกรรม
- ค่าครองชีพฯที่สูงขึ้น จนรายได้ประจำที่มีอยู่ ไม่พอกับรายจ่าย
- การเอารัด-เอาเปรียบกัน , แย่งชิงจังหวะกัน ในเส้นทางการจราจรที่ต้องใช้ร่วมกัน
- การไม่เป็นผู้ให้ - เสียสละ ฯลฯ
สิ่งที่หยิบยกมานี้ มันก็มาจากการที่คนเรายุ่งเสียจนไม่มีเวลา เข้าวัดทำบุญ ฟังเทศน์-ฟังธรรม หรือ สนทนาธรรม เพื่อชำระล้างจิตใจ.. นานวันเข้า.. ใจก็ฉก-กะ-ปก ยากต่อการชะล้าง
* คริสศาสนิกชนฯ ไปโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ เพื่อไป สารภาพบาปที่ตนได้กระทำไปในสัปดาห์ที่ผ่านมา กับบาทหลวง * แต่..พุทธศาสนิกชนฯหล่ะ..
ที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพราะ ผมได้เข้ากทม.ครั้งแรกในรอบ4ปี ยอมรับครับว่า.. สังคมฯคนกรุงเปลี่ยนแปลงไปมาก(ทั้งๆที่ผมเป็นคนกรุงเทพฯมาตั้งแต่เกิด) จึงเกิดความคิดว่า น่าจะเอาคติธรรมเล็กๆ-น้อยๆ ที่ใช้เวลาไม่นาน(ไม่ถึง 1นาที) มาถ่ายทอด-เผยแผ่..(ส่วนจะได้ผลหรือไม่? ไม่ใช่ปัญหา? แต่ผมก็ได้ทำลงไปตามที่ผมตั้งใจใว้แล้ว) ถ้าจะนำคติธรรมที่พูดนานมากๆ.. ก็เบื่อที่จะฟัง! , จะคัดลอกบทมาให้อ่านมากๆ.. ก็ไม่อยากอ่าน มันก็จะไม่ได้ประโยชน์
ปล. ต้องขอขอบคุณท่านวังเทวีมากครับ.ที่สนใจและเอาใจใส่กระทู้นี้ครับ

ความคิดเห็นของคุณบอย เป็นสิ่งดี ควรน้อมไปปฏิบัติ เนื่องจาก ทำประโยชน์ได้จริง
คำสอนในพุทธศาสนามีอีกประการหนึ่งที่สำคัญ คือ ประโยชน์ และ ไม่ใช่ประโยชน์
ตัวอย่างเช่น เมื่อผมกล่าวถึง ความไม่มีตัวตน แล้วคุณหนุ่ยมาเตะตูดผมสักป๊าป ผมก็เลยโมโหคุณหนุ่ย แบบนี้ ความไม่มีตัวตนของผม ก็หาประโยชน์อะไรไม่ได้
มีพระที่เป็นลูกศิษย์ บอกกับพระอาจารย์ว่า ผมเข้าใจหมดแล้ว ความโลภ โกรธ หลง เป็นกิเลส ฯลฯ... พระอาจารย์ได้ฟังดังนั้น จึงหยิบไม้ตะพดฟาดที่กบาลลูกศิษย์อย่างแรง พระลูกศิษย์นั้นร้องด้วยความเจ๊บปวด ต่อว่าอาจารย์ว่า ตีหัวผมทำไม อาจารย์เลยบอกว่า ก็ไหนเอ็งว่า เข้าใจความโลภ โกรธ หลง แล้วไง
ส่วนเรื่องสิ่งต่างๆมีจริงหรือไม่ ยังไม่รู้ เมื่อติดตามฟัง ธรรมะ ของท่านพุทธทาสและท่านปัญญาแล้ว ต่อไปจะมีความเข้าใจได้ครับ

สาธุ...สาธุ...สาธุ....

ขอความช่วยเหลือหน่อยครับ.
จะเป็นพระคุณอย่างสูง ถ้าเพื่อนๆที่รู้.. ช่วยแนะนำวิธีลงลิ๊งค์ไฟล์ VDO แบบกระทู้นี้ ในฟร้อนใหม่ของเว็บ-พระ ด้วยครับ.