
หัวข้อ: ใครยังไม่เคยทำ...ลองดูครับ
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ
วันก่อนของใช้ประจำวันในห้องน้ำหมด ว่าจะไปซื้อก็ไม่ว่างสักที ทนรีดทนแคะเอาของเก่าใช้ไปวัน ๆ จนเจ็บมือและเซ็ง ๆ ...พอได้ใช้ตอนเช้าแล้วก็ลืมอีกไม่ได้ไปซื้อ.. ตกกลางคืนเจออีกต้องพยายามจนเจ็บมืออีก ดึกแล้วจะไปหาซื้อที่ไหน รีดจนแบนมันก็ยังได้ไม่พอจึงเอามีดมาตัดดู ปรากฏว่าของที่ต้องการยังตกค้างอยู่ในหลอดอีกมาก ใช้ได้ตั้งหลายวัน ลองดูครับ อย่ารีบทิ้งแม้ว่าจะประหยัดได้ไม่มากแต่ก็ช่วยแก้ปัญหาได้ชั่วคราวครับ ทั้งยาสีฟัน โฟมล้างหน้าหรือสบู่เหลว...(แก่แล้วขี้เหนียวน่ะ..ฮิ ฮิ..)


ถ้าทำจนเป็นนิสัย ผมว่าปีๆนึง ประหยัดได้เป็นพันเลยนะครับ
ครับท่าน "บางพุทรา" เพราะสินค้าแต่ละอย่างราคาแพงมาก ลองคิดดูนะครับ แค่ยาสีฟันที่ผมใช้ยี่ห้อนี้ขนาดหลอดละ 200 กรัม ราคา 245 บาท รีดจนแบนนึกว่าหมดแล้วจะทิ้ง แต่ผ่าออกมายังมีเหลือตรงใกล้ ๆ ปากหลอดให้ใชัอีกประมาณ 20 - 30 กรัม ส่วนโฟมล้างหน้าเหลือมากกว่าอีกแม้ราคาจะไม่ถึง 200 บาทต่อหลอดก็ตามครับ ภาชนะที่ใช้บรรจุก็ผ่าออกง่ายครับ เราใช้ในห้องน้ำส่วนตัวไม่ต้องอายใครครับ
ปัจจุบันค่าครองชีพฯในสังคมบ้านเราค่อนข้างสูง ซึ่งไม่สัมพันธ์กันกับรายได้(เอาซะเลย..)
หลายท่านใช้วิธี.. ทำให้เงินในกระเป๋ามีจำนวนมากขึ้น (เพิ่มรายได้) ด้วยการ
- เพิ่มเวลาทำงาน(ทำ OT) , อาชีพเสริมฯ (พาร์ทไทม์)
หลายท่านใช้วิธี.. ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง (ลดรายจ่าย) ด้วยการ..
- ซื้อเท่าที่จำเป็น
- ซื้อของที่มีปริมาณต่อหน่วยมากกว่า(ขนาดใหญ่ราคาต่อกรัมจะถูกกว่า)
- ยืดระยะเวลาที่จะซื้อใหม่
- ซื้อของลดราคา หรือ เลือกซื้อจากร้าน..ที่เปรียบเทียบราคาต่อหน่วยแล้วถูกกว่าร้านอื่น.
- ใช้ซ้ำ!.. นำกลับมาใช้ใหม่! (รียูส.. รีไซเคิล..)
สิ่งที่ผมเห็นว่าน่าจะสำคัญคือ... ใน 1วัน.. 1เดือน.. เราจ่ายอะไร?ไปบ้าง!
- อุปโภค.. ค่าน้ำ-ค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าเดินทาง ค่าเช่าบ้าน เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม
- บริโภค.. ค่าอาหาร(หลักและเสริม) ค่าน้ำดื่ม(หลักและเสริม) ค่ารักษาพยาบาล บางท่าน..รวมค่าเครื่องประทินความงาม เสริมหล่อ-สวย-ขาว-ผอม
- ค่าเช่าซื้อ.. ค่าผ่อนบ้าน-ผ่อนรถ(ค่าน้ำมัน-แก๊สสำหรับเติมรถ)
- สินเชื่อส่วนบุคคล.. บัตรเครดิตฯ เงินกู้นอกระบบ
- เครื่องใช้ไฟฟ้าตลอดจนอุปกรณ์ทางอิเลคโทรนิคส์
- ค่าอินเตอร์เน็ต และ ค่าบริการของอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ติดติดตามตัวแบบไร้สาย (มือถือ)
- หวย...รายวัน!..รายปักษ์..
- ฯลฯ
ก็ลองดูกันแล้วกันว่า " สิ่งไหน?..ที่เราสามารถปรับลดรายจ่ายได้บ้าง รวมทั้งหาช่องทางเพิ่มรายได้ เข้ามาอีก คงจะสามารถดำรงชีวิตได้อย่างไม่ลำบากนัก ในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนะครับ."
ประมาณปึ 2514 ตอนนั้นผมทำงานเป็นลูกจ้างกระทรวงเกษตรใหม่ ๆ ที่ทำงานรับน้ำดื่มโพลาลิส ขวดพลาสติกสีเขียวอ่อน ๆ เป็นถัง ๆ ละ 2 บาท (20 ลิตร) น่าจะเท่ากับน้ำมันเบนซิน 1 ลิตร (ถ้าจำไม่ผิด) ผมว่าคนลงทุนทำน้ำขายในเมืองไทยคิดผิด เพราะน้ำที่ไหน ๆ ก็หาดื่มได้ไม่ยากโดยเฉพาะน้ำฝนสะอาด ๆ แต่ผมคิดผิดถนัดเพราะหลังจากนั้นไม่กี่ปี พอโซดาขึ้นราคาขวดละ 2 บาท ผมแอนตี้ไม่ยอมกินหันไปใช้น้ำฝนผสมเหล้าแทน แต่ที่ไหนได้ในบาร์ ในไนท์คลับน้ำขนาด 600 ซีซี กับโซดาดันราคาเดียวกันขวดละ 20 บาท แพงกว่าน้ำมันเบนซินที่ขายลิตรละ 2 บาทเสียอีก ยังนึกเสียใจอยู่เลยว่าเราไม่น่าแอนตี้โซดาเลย เพราะโซดาลงทุนมากกว่าน่าจะคุ้มราคากว่าน้ำเปล่า ทั้งยังสะอาดกว่าน้ำกรองที่ไม่ได้มาตรฐานขายกันเกลื่อนตลาดเวลานี้ ท่านคิดว่าทำไมทุกวันนี้น้ำดื่มบ้านเราจึงแพงกว่าน้ำมันครับ (แต่น้ำมันบ้านเราแพงที่สุดในโลก)


นั่นสิครับเห็นด้วยแชร์กันเยอะ+1 หม้อข้าวใบนี้แตะยาก
ขอบพระคุณครับ พลังงาน คือ ต้นทุนทางสังคม ที่มีผลกระทบต่อทุก ๆ คนมากที่สุด
เรื่องพลังงานน้ำมันนี้.. จัดเป็นมหากาพย์แห่งปัญญาครับ. เป็นความรู้ที่คนในวงการฯเขาจะฝังอยู่ในความมืดดำ.. ซึ่งผมเชื่อว่า "น้อยคนนักที่จะเข้าใจอย่างถ่องแท้"
การที่จะคุยกันรู้เรื่อง..ต้องเข้าไปทำความรู้จัก
ผมมีหลักสูตรฯเรียนลัด แบบ..ปฐมบท(จุดเริ่มต้น)
สนใจ!..ก็เข้าไปฟังเอาก็แล้วกัน แล้วท่านจะฟังและคุยกับเขารู้เรื่อง
http://www.youtube.com/watch?v=Nsa51O6sJqs#t=118