
หัวข้อ: บ่นกันสนุกครับ
กระทู้ และ ความคิดเห็นต่างๆ

บ่นกันวันนี้มากันแปลก ๆ สักนิดนะครับ...เพราะมันเหมือนท้าวความหลังแบบคนมีอายุยังไงก็ไม่รู้ เนื่องจากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา....ได้มีโอกาสไปเยี่ยมบ้านแฟน....ว่าแล้วเราก็เดินทางจากเกาะสมุย...ไปหนองบัวลำพูทันที.....ต้องยอมรับว่าทางนั้นยังมีความเป็นชนบทกัน ช่างคิดถึงวัยเด็กที่ไปเล่นตามท้องนาจริงเชียว
ว่าแล้ว่านว่าที่พ่อตาท่านก็เมตตานำพระในหิ้งมาให้ชมเป็นขวัญตา...ถึงแม้จะมีไม่กี่องค์ตามประสาชาวบ้าน....เก๊บ้างแท้บ้างตามประสา...แต่ส่วนใหญ่ก็แท้...ว่าแล้วท่านพ่อตาก็เปิดประเด็นมาว่า...บ่อยครั้งที่มีคนแถวบ้านมาขอแลกพระกัน.....ครั้งล่าสุดเขาก็เอาขุนแผนทางใต้มาแลก....พูดแล้วก็ยื่นมาให้ดู พระขุนแผนที่มีชายอุ้มสาวซ้ายขวา ข้างหลังมีเหมือนหัวกะโหลกเด็ก ไม่ต้องส่องก็บอกได้ว่าเก๊ชัด ๆ ....แต่ด้วยว่าไม่แน่ใจว่าคนมาแลกนั้นเป็นญาติหรือป่าวจึงต้องรักษามารยาทไว้....ถามเลียบ ๆ เคียง ๆ ไป ว่า แล้วพ่อเอาองค์ไหนไปแลกหล่ะครับ....ท่านตอบกลับมาว่าหลวงปู่หมุนน่ะ รับมาเองกับมือเลยนะ.....โอ้ววววว......ไอ้คนที่เอามาแลกนี่มันช่าง.............
แต่ก็ใช่ว่าจะมีคนเห็นแต่ตัวทุกคน....ผมส่องรูปหล่อรุ่นแรกหลวงปู่เผือกวัดกิ่งแก้ว...แท้ด้วยแฮะ พ่อท่านก็บอกมาด้วยรอยยิ้มว่าอันนั้นเขาก็เอามาแลก ผมก็ถามต่อว่าแลกอะไรหรอครับ ท่านก็บอกว่าแลกกับหลวงปู่ขาวรุ่นแรก ผมส่องไปด้วยความเคารพในใจนักเลงของคน ๆ นี้จริง ๆ พร้อมกับบอกกับตัวเองว่า...นักเลงพระยังไม่สูญพันธ์จริง ๆ
พูดถึงการหลอกแลกพระก็ชวนให้นึกถึงสมัยหนุ่ม ๆ (เออ......ตอนนี้ก็ยังไม่แก่นี่หว่าเพิ่งสามสิบต้น ๆ เอง) สมัยที่ยังทำตัวเป็นผีสนามหาพระตามบ้านอยู่ ผมมีเพื่อนร่วมอาชีพที่ออกงานเจอกันบ่อยมาก เขาก็ใช้วิธีตีสนิทผู้เฒ่าตามบ้านแล้วก็แลกพระทั่ว ๆ ไปกับพระมีราคา...จนบางครั้งผมก็ต้องเตือน....ได้รับคำสวนกลับมาก็อึ้งเหมือนกัน.....
“แล้วทีเองไปเหมาเขามาหล่ะ...มันต่างกับข้าตรงไหน”
ไอ้เราได้ฟังก็ต้องกลับมานั่งคิดอยู่ มันก็ต่างกันเยอะนะ...ในสมัยนั้นผมจะไปตามบ้านหลังจากพูดคุยจนสนิทกันผมก็เริ่มเจรจาขอดูพระเพื่อเช่าบูชา ผมมักจะใช้วิธีส่องแค่องค์สององค์แล้วประเมินราคาเหมาทั้งหมดเลย....ได้บ้างไม่ได้บ้างตามประสา(ส่วนใหญ่มักจะได้...ถ้าใครยังจำตอนผมบ่นเรื่องพระที่ลพบุรีมันก็ได้มาแบบนี้เหมือนกันครับ) ถ้าถามว่าทำถึงเหมาหมด คำตอบง่ายมากครับ มันจะถูกลงทันตาเห็นเลยที่เดียวถ้ามันเจอพระที่มีราคาสักสองสามองค์ บางที่ถ้าโชคดีพอ...องค์เดียวก็หลุดทุนแล้วครับ....ที่เหลือก็กำไรล้วน ๆ ครับ...จะปล่อยยังไงราคาเบา ๆ เพื่อความเร็วไม่ต้องให้อยู่กับก๋งก็ได้....หรือบางทีก็ใช้พระลูกย่อย สักสามสี่องค์ไปแลกพระที่มีราคาสักนิดก็ไม่ขาดทุนครับ...ซึ่งผมมักจะใช้แลกพระลูกย่อยตามแผงพระเป็นหลัก....เพราะเขามีแผงปล่อยได้ช้าสักนิดมันก็ปล่อยได้ผิดกับคนที่ไม่มีแผง
ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้จะผ่านมาร่วมสิบปีแล้ว...ผมก็ยังคิดไม่ตกว่าสิ่งที่เราทำมันเป็นการหลอกเขาจริงหรือเปล่า....แต่ก็ช่างเถอะ...เพราะเดี๋ยวนี้เราก็ไม่ได้ทำมานานแล้ว...นาน ๆ ไปตลาดพระสักที.....เอาพระเก๊กลับบ้าน....(T_T)
ย้อนกลับไปสักนิด....รอบนี้ผมขอรบกวนพี่ ๆ ที่มีความรู้ช่วยบอกเล่าเก้าสิบสักนิดนะครับ....ตอนที่ผมกับท่านว่าที่พ่อตาส่องพระกันนั้น....ท่านได้ภูมิใจเสนอพระสมเด็จก้างปลาหลวงปู่นาค....ถึงแม้ผมจะแปลกใจ....แต่ก็นำมาส่องดู....ประสบการณ์สายนี้ผมมีน้อยมาก...แต่ก็ต้องยอมรับว่าเนื้อดีมากทีเดียว...เพียงแต่สมองมันเตือนเสมอ ๆ ว่ามันมีที่ไหน.....แต่ผู้ใหญ่ท่านรักและศรัทธามากถึงขนาดบูชาติดตัวทุกครั้งที่ออกจากบ้าน....ผมก็เลยไม่กล้าพูดอะไร....แม้ท้ายที่สุดเมื่อผมได้สอบถามรุ่นพี่ที่เป็นสายตรงหลวงปู่นาค หลวงปู่หิน คำตอบก็ค่อนข้างกำกวม....แต่พี่ท่านก็เมตตายืนยันว่ามันไม่มีประวัติการสร้างว่าสร้างเท่าไรเมื่อไร....มันจึงเป็นเหมือนกับตำนานเท่านั้นเอง.....ถ้าเจอก็ควรระวัง....แต่ก็มีคนเล่นหาเฉพาะกลุ่มเหมือนกัน...มันคล้าย ๆ กับกรุวังหน้านั่นหล่ะ....มันช่างเป็นคำตอบที่คิดไม่ตกทีเดียว



อันนี้แถมครับ



ชอบครับ.....เรื่องเหมาพระตามบ้าน.....ตกลง...เราหลอกเขามั้ยครับ

ขอโทษครับ พี่พอจะดูหลวงพ่อทวดเป็นใหมครับ น้องเขาฝากถามมา ว่าดีหรือเปล่า ...
อิอิ ขำๆนะครับ


เออ.....พี่หนุ่มเหนือครับ ภาพมันไม่ชัดครับ....คราวหน้ารบกวนซูมสักนิดนะครับ...(เอาขำ ๆ นะครับ)
แต่ที่ไม่ขำแน่ คือผมก๊อบมาไม่หมด ขออนุญาตลงที่เหลือต่ออีกนิดนะครับ
"ท้ายที่สุดนี้ผมก็ต้องบอกว่าเอาพระเก๊เข้าบ้านอีกแล้วครับพี่น้อง.....ดีหน่อยที่เอามาห้าแท้องค์นึง....รอบนี้ตาดีขึ้นหน่อยแล้ว....แต่ก็.....เจ็บใจโว้ยยยยยยยยย......ผมฝากภาพไว้ให้ด้วยนะครับไว้ปลอบใจตัวเอง สวัสดีครับ"
ตามเข้ามาอ่านาความรู้ ตั้งแต่กระทู้ที่แล้ว ชอบจ้า
เรื่องเหมาพระตามบ้าน ไม่ใช่เรื่องการหลอกลวงกันหรอกจ้า
เพราะเป็นมูลค่าของความพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย
คนให้เช่าก็พอใจ (เงินอยู่ในกระเป๋าแล้วแน่นอน) คนรับเช่ามาก็พอใจ (เงินอยู่ตรงหน้าเห็นๆ )
Win Win ด้วยกันทั้งคู่ งานนี้จบแบบ Happy Ending จ้า
แต่มูลค่าเช่าหาที่เห็นกันอยู่ในสนามหรือในวงการนั้น ไม่ใช่มูลค่าที่แท้จริงของพระองค์นั้นนะ
แต่เป็นมูลค่าของความเชื่อถือ และชื่อเสียงของผู้ครอบครองต่างหาก
น่าเสียดายที่นักเล่นนักสะสมสมัยนี้ ส่วนใหญ่รู้จักแต่มูลค่าของพระ แต่ไม่รู้จักคุณค่าที่แท้จริงของพระกันเลยจ้า

ท่านหนุ่มครับ ผมดูเป็นสมเด็จนางพญาอกนูนเนื้อขาว แท้ครับ ไม่ใช่หลวงพ่อทวดแน่นอน
