ผ้ายันต์เมตตามหานิยม หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี-อัปสรา อมิวเลท - webpra
VIP
  • พระฯแท้ในราคาไม่แรง
    ขายตามราคาที่ลงไว้ ถ้าเห็นว่าไม่ใช่ราคาที่รับได้
    ผ่านเลยครับท่าน จะได้ไม่เสียเวลาทั้งสองฝ่าย
  • ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือนครับ
    *** พระฯมาใหม่จะลงไว้ช่วงหน้าต้นๆ
    *** ค้นหาพระฯเฉพาะ เข้าดูตามหมวดหรือพิมพ์ชื่อที่ช่องค้นหา
  • Page 1
  • Page 2
ซื่อตรง คุณภาพ รับประกัน

หมวด พระเกจิสายสุพรรณ

ผ้ายันต์เมตตามหานิยม หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี

ผ้ายันต์เมตตามหานิยม หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี - 1ผ้ายันต์เมตตามหานิยม หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี - 2ผ้ายันต์เมตตามหานิยม หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี - 3
ชื่อร้านค้า อัปสรา อมิวเลท - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง ผ้ายันต์เมตตามหานิยม หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ พระเกจิสายสุพรรณ
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ tociii2003@yahoo.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พฤ. - 07 เม.ย. 2559 - 17:39.20
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ อ. - 28 มิ.ย. 2559 - 20:49.29
รายละเอียด
+ ขนาดโดยประมาณ ขนาดกว้าง 8.4 นิ้ว, ยาว 11.4 นิ้ว
+++ การติดต่อ +++
โทร. : 089-7673123
line id : apsara888
facebook : พระเครื่อง ร้านอัปสรา อมิวเลท
e-mail : tociii2003@yahoo.com
(14.2.9)

++ คัดลอกประวัติของท่านมาจาก http://watphraloy.com/index.php/resume/8-resume
ขออนุญาตและขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย

"อริยะโลกที่6 จากอดีต นักเลงกลับเนื้อกลับตัวมาบวช และเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวบ้านเคารพนับถือมากรูปหนึ่ง พระครูประภัศร์ ธรรมาภรณ์ หรือ หลวงพ่อแต้ม ปุญญ สุวัณโณ วัดพระลอย ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
เกิดเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2434 บ้านด้านทิศใต้วัดพระลอย เป็นบุตรคนโตของพ่อแย้ม แม่อ่ำ นารถพลายพันธ์ ท่านเป็นคนร่างเล็ก ครอบครัวยากจน ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ พอแตกหนุ่มเกิดคบเพื่อนอันธพาลนักเลงรุ่นเดียวกัน ชอบตีรันฟันแทง แม้จะมีร่างเล็ก แต่เล็กพริกขี้หนู ใจถึงน่าดูไม่กลัวใคร ท่านเป็นหัวหน้านักเลงขึ้นชื่อ คุมท้องถิ่นแถวบ้านวัดพระลอย และมีเพื่อนอีกคนหนึ่งที่รู้จักชอบคอกันดีเป็นหัวหน้านักเลงอยู่ที่ศรีประ จันต์ ชื่อ ปุย (ภายหลัง คือ หลวงพ่อปุย วัดเกาะนั่นเอง) เป็นนักเลงคุมแถวลุ่มน้ำบ้านคอย

วันหนึ่งบิดามารดาเห็นว่าหลวงพ่อ แต้มอายุครบบวชจึงอยากให้บวช เลยไปตามหลวงพ่อแต้ม ซึ่งตอนนั้นไปอยู่ที่อ่างทอง ตามตัวพบแล้วจึงพามาบวชที่วัดสำปะซิว โดยหลวงปู่โต๊ะ วัดลาดตาล ซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าอาวาสวัดสำปะซิว อบรมบ่มนิสัยหลวงพ่อแต้มก่อนบวช โดยแรกเริ่มหลวงพ่อแต้มไม่รู้หนังสือแม้แต่ตัวเดียว แต่ก็สามารถท่องเจ็ดตำนานได้ภายในเจ็ดวัน หลวงปู่โต๊ะชอบใจมาก เพราะหลวงพ่อแต้มหัวไว

หลังจากนั้นจึงอุปสมบทให้หลวงพ่อแต้ม เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2455 ณ พัทธสีมาวัดสำปะซิว มี หลวงพ่อปลื้ม วัดพร้าว เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อปลื้ม (อีกรูปหนึ่ง) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่โต๊ะ วัดสำปะซิว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา "ปุญญสุวัณโณ"

หลังจากบวชแล้ว เกิดจิตฟุ้งซ่าน หลวงปู่โต๊ะจึงพาไปเล่นกระดูกผีในป่าช้า และสอนกรรมฐานให้ด้วย และสอนหนังสือทั้งไทยและขอมจนอ่านออกเขียนได้ และหลวงพ่อแต้มยังได้ศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ กับช่างไม้ช่างก่อสร้างจากหลวงปู่โต๊ะอีกด้วย จนมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้มาก ต่อมาย้ายมาอยู่วัดพระลอยจึงลาสิกขาออกมาปี 2463 สรุปแล้วท่านบวชครั้งแรกอยู่ 8 พรรษา ใช้ชีวิตทางโลกอยู่พักหนึ่งเกิด เบื่อหน่ายทางโลก จึงอุปสมบทครั้งที่ 2 โดยมี หลวงพ่อสอน วัดป่าเลไลยก์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อพร วัดป่าเลไลยก์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อคำ วัดพระรูป เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังจากอุปสมบทครั้งสองแล้ว จำพรรษาอยู่วัดลาวทอง จวบจนปี พ.ศ.2466 จึงไปศึกษาวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงพ่อซัว วัดสาลี บางปลาม้า จวบจนถึงปี พ.ศ. 2468 และไปเรียนต่อจากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา สำเร็จวิชายันต์เกราะเพชร ท่านเคยได้เขียนยันต์เกราะเพชรให้เจ้าอาวาสวัดท่าทอง ขณะนี้ยังอยู่ สวยงามมากและวิชาหมอตาทิพย์ วิชาแพทย์แผนโบราณช่วยคน และกลับมาอยู่วัดลาวทองต่อ

ปีพ.ศ.2483 คณะสงฆ์แต่งตั้งให้หลวงพ่อแต้มมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระลอย ซึ่งใกล้จะร้าง ให้มีสภาพดีขึ้น ท่านพัฒนาวัดจนเจริญ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจขึ้นชื่ออีกแห่งของเมืองสุพรรณ จวบจนมรณภาพปีพ.ศ.2514 สิริอายุ 80 ปี

หลวงพ่อแต้มมรณภาพมีเจ้าภาพ ที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจองคิวสวดพระอภิธรรมจำนวนมากคนละวันก็เป็นปีๆ ทางวัดจึงได้พิจารณาจะสวดพระอภิธรรมแค่ 100 วัน และจะได้รับพระราชทานเพลิงศพ เมื่อครบ 100 วัน เปิดโรงศพท่านดูก็ต้องพบกับเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ เมื่อศพของหลวงพ่อไม่เน่าเปื่อย เหมือนกับคนนอนนิ่งธรรมดา ทางวัดจึงเก็บศพหลวงพ่อไว้ถึงปัจจุบันนี้ และเปิดให้ประชาชนกราบสักการะศพของท่านได้ทุกวัน

สมดังปัจฉิมวาจา ก่อนมรณภาพที่หลวงพ่อให้ไว้ว่า "ถ้าข้าตาย ก็ให้เก็บศพไว้อย่าไปเผา สังขารข้าอยู่ วิชาอาคมของข้าก็อยู่ช่วยพวกเอ็งไปตลอด เดือดร้อนอะไรให้มากราบพระลอย และมาหาข้า เหตุร้ายเดือดร้อนจะหายไป ข้าจะลงวิชาเกราะเพชรให้แก่ทุกคนจำไว้ นะไอ้หนู"

หลวงพ่อแต้ม เริ่มสร้างวัตถุมงคลรุ่นแรก ตั้งแต่ปีพ.ศ.2495 พระเนื้อดินเผาสีดำ เป็นพระซุ้มกอ และพิมพ์นาคปรก หรือปางพญามหาชมพู และอีกหลายพิมพ์ เป็นเนื้อดิน เป็นต้น เมื่อปีพ.ศ.2511 สร้างเหรียญรุ่นแรกเป็นเหรียญรูปอาร์ม เนื้อทองแดงรมดำ และเหรียญรุ่น 2 ปี 2512 รุ่น3 ปี 2523 ช่วงเวลานั้นท่านได้สร้างพระกริ่ง เป็นกริ่งนาคปรก เนื้อโลหะผสม นับเป็นกริ่งรุ่นแรกรุ่นเดียวของหลวงพ่อแต้ม

ด้วย หลวงพ่อแต้มสำเร็จวิชายันต์เกราะเพชรหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ท่านจึงได้สร้างเหรียญยันต์เกราะเพชรเหรียญแรกของแผ่นดิน ตั้งแต่ปี 2511 ฝากไว้เป็นสมบัติชั่วลูกชั่วหลาน ว่ากันว่าก่อนปี 2511 ยังไม่มีพระเกจิอาจารย์รูปใดสร้างเหรียญยันต์เกราะเพชรเลย"

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top