พระพุทธเจ้าปางประสูติ (พระสิทธัตถะมหาโพธิสัตว์) ปี 2549 รุ่นแม่พระธรณี หลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน-บูชาครู - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

บูชาครู

ธรรมะ และ วัตถุมงคล คือของขวัญที่มอบไว้แทนความห่วงใยจากครู...ครูสิทธิ์ ครูธงค์ องอาจไม่ประมาทครู

หมวด หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม - หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก - หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี - หลวงปู่เจียม วัดอินทราสุการาม

พระพุทธเจ้าปางประสูติ (พระสิทธัตถะมหาโพธิสัตว์) ปี 2549 รุ่นแม่พระธรณี หลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน

พระพุทธเจ้าปางประสูติ (พระสิทธัตถะมหาโพธิสัตว์) ปี 2549 รุ่นแม่พระธรณี หลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน - 3

ชื่อร้านค้า	บูชาครู - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	ยอดชาย (661)
ชื่อพระเครื่อง	พระพุทธเจ้าปางประสูติ (พระสิทธัตถะมหาโพธิสัตว์) ปี 2549 รุ่นแม่พระธรณี หลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน
อายุพระเครื่อง	19 ปี
หมวดพระ	หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม - หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก - หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี - หลวงปู่เจียม วัดอินทราสุการาม
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	0888822123
อีเมล์ติดต่อ	buchakru@gmail.com
สถานะ	คลิ๊กที่นี่เพื่อดูรายการประมูล
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พ. - 22 พ.ย. 2566 - 12:31.49
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ศ. - 09 พ.ค. 2568 - 19:04.53

รายละเอียด
*** ค่าบูชา 12,000 บาท *** ✓__ค่าบูชาวันนี้ / ลดเหลือ 9,000 บาท ### สร้างเพียงครั้งเดียวจากชนวนมงคลสำริดโบราณพันปีและชนวนมงคลประจำสุสานทุ่งมนหล่อหลอมสำเร็จเป็น "เนื้อสำริดโบราณ" และสร้างเพียงแบบเดียวคือขนาดบูชา ฐานประมาณ 4 เซนกว่า สูงประมาณ 14 เซน เป็นชนวนโบราณมากด้วยคุณวิเศษประจำบารมีหลวงปู่ที่นำมาผสมหล่อหลอมสร้างสืบทอดต่อกันมา กระแสผิวจะงดงามอาจมีความโดดเด่นไม่ซ้ำกันขึ้นกับว่าแก่ชนวนส่วนใด ใต้ฐานอุดด้วยพระปฐวีธาตุฝังตะกรุดและของสรรพมงคลอื่นๆ หลวงปู่อธิษฐานจิตให้ไว้อย่างดี สมตามชื่อรุ่นแม่พระธรณี พระอริยเทวีพระอาจารย์ใหญ่ของท่าน พิธีพุทธาภิเษก-เททองพระแม่ธรณี-ครอบครูจักรวาล วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2549 เวลา 18:19 น. ณ สุสานทุ่งมน จังหวัดสุรินทร์ ปัจจัยสร้างปราสาทเพชรพิพิธภัณฑ์ ธรรมสถานปริวาสกรรม ### พิธีครั้งนี้มีหลวงปู่หงษ์กับหลวงป๋า (พระราชญาณวิสิฏฐ์) วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ร่วมเททองทั้งพระกริ่งโปร่งฟ้าชัยวรมันขนาดบูชาและพระพุทธเจ้าปางประสูตินำฤกษ์ หลังจากนั้นก็ดำเนินการเททองต่อไปจนครบ โดยมีหลวงปู่จุดเทียนชัยมณฑลพิธีขอมโบราณ แล้วเจริญสมาธิภาวนาอธิษฐานจิตปรกในพิธีจนแล้วเสร็จนานกว่า 3 ชั่วโมง ในพิธีเททองอาจารย์ยุทธนันท์ได้นำแผ่นทองคำเข้าถวาย หลวงปู่ได้เขียนผ้ายันต์พระคาถาเต็มทั้งแผ่น นำมาจบจรดเหนือหน้าผาก เพื่อใส่รองไหนเบ้าทอง ก็ได้ปรากฏลำแสงสีม่วงพุ่งลงสูงเบ้า บางภาพปรากฏดวงเทพร่องรอยเป็นดวงใหญ่เหนือเบ้าพิมพ์แล้วดิ่งหายเข้าไปในเบ้า ทั้งยังมีลำแสงสีขาวทอดจากองค์หลวงปู่และหลวงป๋าลงสู่เบ้าหุ่น บางภาพยังติดดาวเทวดานางฟ้านั่งพับเพียบพนมมือไหว้อยู่ด้านหน้า ซึ่งตามหลักความเป็นจริงห้ามมิให้บุคคลใดมายืนขวางทางด้านหน้าของหลวงปู่อยู่แล้ว หลังจากเสร็จพิธีดับเทียนชัย หลวงปู่ได้เล่านิมิตให้ลูกหลานทุกคนได้ฟังว่า "หลวงปู่อิ่มใจมากที่แม่ (แม่ธรณี) มาช่วยเททองให้เอง เทพเทวดามาช่วยกันเต็มไปหมด ตาฤาษีมาครบทุกองค์ พระเจ้าชัยวรมันก็เสด็จมา งูหรือพญานาคไม่รู้มาจากไหนเยอะมาก..." สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการสนับสนุนให้เห็นจริงว่าหลวงปู่ท่านเมตตามากที่ได้เล่าเรื่องราวต่างๆในพิธีจากสมาธิธรรมทั้งๆที่เป็นเรื่องที่อ่อนไหวสำหรับผู้ที่ไม่มีศรัทธา แต่ก็เป็นเรื่องที่เจริญศรัทธาเป็นอย่างมากกับผู้ที่เชื่อมั่นในบารมีของหลวงปู่ มีผู้ล้างภาพในพิธีเพิ่มนำมาแสดงให้เห็นว่าไม่ใช่เฉพาะพญานาคที่เข้าร่วมพิธีอย่างมากมายแต่กุมารไม่ทราบมาจากไหนมามากกว่าคนที่ร่วมในพิธีเสียอีก พระพุทธรูปปางประสูติเป็นปางที่เกิดขึ้นจากเมื่อครั้งที่พระบรมโพธิสัตว์จุติจากดุสิต เทวโลก ประสูติในอิริยาบถยืนหันพระพักตร์ไปทางเหนือ เสด็จย่างพระบาทไป 7 ก้าว มีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับ 7 ดอก แล้วทรงกล่าว อาสภิวาจา ว่า "...เราเป็นผู้เลิศที่สุดในโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้การเกิดใหม่มิได้มี..." ตามข้อมูลของทางกองทุนปลูกป่าหลวงปู่หงษ์ ได้เผยแพร่ตามดำริหลวงปู่ตั้งแต่ให้จัดสร้างขึ้นไว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคล เพราะถึงเวลาตามนิมิตรหมายครูบาอาจารย์อนุญาตบอกกล่าวไว้ ผู้ใดหวังเป็นผู้ชนะต่ออุปสรรค มีความสำเร็จ เป็นที่หนึ่ง เป็นผู้ประเสริฐตาม ต้องมีไว้บูชา ชี้ให้เห็นสัจธรรม เพื่อให้พ้นจากวัฏจักร (วัฏสงสาร) การเวียนว่าย ตาย เกิด กล่าวคือ เมื่อพระองค์ประสูติ มีดอกบัวมารองรับ พระหัตถ์ขวาชี้ขึ้นฟ้า กล่าวคือ เราจะเป็นผู้เลิศ ผู้ที่ดีที่สุด ประเสริฐที่สุดในโลก พระหัตถ์ซ้ายชี้ลงพื้นธรณี กล่าวคือ การเกิดของเราครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปเราจะไม่เกิดอีก ....พระพุทธเจ้าปางประสูตินี้..นำไปให้ลูก ๆ ของตนสรงน้ำนำมาล้างหน้าขอพร ก่อนออกไปโรงเรียน เด็กจะฉลาดขึ้น มีความกตัญญูมากขึ้นเพราะรับบารมีจากองค์พระ ส่วนพ่อค้าแม่ขาย ก็บอกว่า บูชาองค์นี้ไป ทำให้ทำมาค้าขึ้น ค้าขายดี วิธีบูชา ท่านให้บูชาด้วยดอกบัวขาว 7 ดอก แช่น้ำใส่ขันเงินหรือพานก็ได้แล้วแต่จะสะดวกผู้ใดบูชามักจะพบแต่ความสำเร็จในหน้าที่การงานและธุรกิจเพื่อให้ได้ผลดี ควรบูชาทุกวันพระ ด้วยดอกบัว 7 ดอก หรือทำการสักการะตามที่เห็นสมควรด้วยจิตมั่น และหมั่นสร้างบุญกุศลประกอบกรรมดีอยู่เสมอๆ (ขอขอบคุณข้อมูลจากคอลัมน์หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ในนิตยสารนะโม โดยฝ่ายงานกองทุนปลูกป่าหลวงปู่หงษ์ไว้ด้วยครับ)

รายละเอียด

***** ค่าบูชา 12,000 บาท *****

✓__ค่าบูชาวันนี้ / ลดเหลือ 9,000 บาท

### สร้างเพียงครั้งเดียวจากชนวนมงคลสำริดโบราณพันปีและชนวนมงคลประจำสุสานทุ่งมนหล่อหลอมสำเร็จเป็น "เนื้อสำริดโบราณ" และสร้างเพียงแบบเดียวคือขนาดบูชา ฐานประมาณ 4 เซนกว่า สูงประมาณ 14 เซน เป็นชนวนโบราณมากด้วยคุณวิเศษประจำบารมีหลวงปู่ที่นำมาผสมหล่อหลอมสร้างสืบทอดต่อกันมา กระแสผิวจะงดงามอาจมีความโดดเด่นไม่ซ้ำกันขึ้นกับว่าแก่ชนวนส่วนใด ใต้ฐานอุดด้วยพระปฐวีธาตุฝังตะกรุดและของสรรพมงคลอื่นๆ หลวงปู่อธิษฐานจิตให้ไว้อย่างดี สมตามชื่อรุ่นแม่พระธรณี พระอริยเทวีพระอาจารย์ใหญ่ของท่าน พิธีพุทธาภิเษก-เททองพระแม่ธรณี-ครอบครูจักรวาล วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2549 เวลา 18:19 น. ณ สุสานทุ่งมน จังหวัดสุรินทร์ ปัจจัยสร้างปราสาทเพชรพิพิธภัณฑ์ ธรรมสถานปริวาสกรรม ###

พิธีครั้งนี้มีหลวงปู่หงษ์กับหลวงป๋า (พระราชญาณวิสิฏฐ์) วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ร่วมเททองทั้งพระกริ่งโปร่งฟ้าชัยวรมันขนาดบูชาและพระพุทธเจ้าปางประสูตินำฤกษ์ หลังจากนั้นก็ดำเนินการเททองต่อไปจนครบ โดยมีหลวงปู่จุดเทียนชัยมณฑลพิธีขอมโบราณ แล้วเจริญสมาธิภาวนาอธิษฐานจิตปรกในพิธีจนแล้วเสร็จนานกว่า 3 ชั่วโมง ในพิธีเททองอาจารย์ยุทธนันท์ได้นำแผ่นทองคำเข้าถวาย หลวงปู่ได้เขียนผ้ายันต์พระคาถาเต็มทั้งแผ่น นำมาจบจรดเหนือหน้าผาก เพื่อใส่รองไหนเบ้าทอง ก็ได้ปรากฏลำแสงสีม่วงพุ่งลงสูงเบ้า บางภาพปรากฏดวงเทพร่องรอยเป็นดวงใหญ่เหนือเบ้าพิมพ์แล้วดิ่งหายเข้าไปในเบ้า ทั้งยังมีลำแสงสีขาวทอดจากองค์หลวงปู่และหลวงป๋าลงสู่เบ้าหุ่น บางภาพยังติดดาวเทวดานางฟ้านั่งพับเพียบพนมมือไหว้อยู่ด้านหน้า ซึ่งตามหลักความเป็นจริงห้ามมิให้บุคคลใดมายืนขวางทางด้านหน้าของหลวงปู่อยู่แล้ว หลังจากเสร็จพิธีดับเทียนชัย หลวงปู่ได้เล่านิมิตให้ลูกหลานทุกคนได้ฟังว่า "หลวงปู่อิ่มใจมากที่แม่ (แม่ธรณี) มาช่วยเททองให้เอง เทพเทวดามาช่วยกันเต็มไปหมด ตาฤาษีมาครบทุกองค์ พระเจ้าชัยวรมันก็เสด็จมา งูหรือพญานาคไม่รู้มาจากไหนเยอะมาก..." สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการสนับสนุนให้เห็นจริงว่าหลวงปู่ท่านเมตตามากที่ได้เล่าเรื่องราวต่างๆในพิธีจากสมาธิธรรมทั้งๆที่เป็นเรื่องที่อ่อนไหวสำหรับผู้ที่ไม่มีศรัทธา แต่ก็เป็นเรื่องที่เจริญศรัทธาเป็นอย่างมากกับผู้ที่เชื่อมั่นในบารมีของหลวงปู่ มีผู้ล้างภาพในพิธีเพิ่มนำมาแสดงให้เห็นว่าไม่ใช่เฉพาะพญานาคที่เข้าร่วมพิธีอย่างมากมายแต่กุมารไม่ทราบมาจากไหนมามากกว่าคนที่ร่วมในพิธีเสียอีก

พระพุทธรูปปางประสูติเป็นปางที่เกิดขึ้นจากเมื่อครั้งที่พระบรมโพธิสัตว์จุติจากดุสิต เทวโลก ประสูติในอิริยาบถยืนหันพระพักตร์ไปทางเหนือ เสด็จย่างพระบาทไป 7 ก้าว มีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับ 7 ดอก แล้วทรงกล่าว อาสภิวาจา ว่า "...เราเป็นผู้เลิศที่สุดในโลก เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้การเกิดใหม่มิได้มี..." ตามข้อมูลของทางกองทุนปลูกป่าหลวงปู่หงษ์ ได้เผยแพร่ตามดำริหลวงปู่ตั้งแต่ให้จัดสร้างขึ้นไว้บูชาเพื่อเป็นสิริมงคล เพราะถึงเวลาตามนิมิตรหมายครูบาอาจารย์อนุญาตบอกกล่าวไว้ ผู้ใดหวังเป็นผู้ชนะต่ออุปสรรค มีความสำเร็จ เป็นที่หนึ่ง เป็นผู้ประเสริฐตาม ต้องมีไว้บูชา ชี้ให้เห็นสัจธรรม เพื่อให้พ้นจากวัฏจักร (วัฏสงสาร) การเวียนว่าย ตาย เกิด กล่าวคือ เมื่อพระองค์ประสูติ มีดอกบัวมารองรับ พระหัตถ์ขวาชี้ขึ้นฟ้า กล่าวคือ เราจะเป็นผู้เลิศ ผู้ที่ดีที่สุด ประเสริฐที่สุดในโลก พระหัตถ์ซ้ายชี้ลงพื้นธรณี กล่าวคือ การเกิดของเราครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปเราจะไม่เกิดอีก ....พระพุทธเจ้าปางประสูตินี้..นำไปให้ลูก ๆ ของตนสรงน้ำนำมาล้างหน้าขอพร ก่อนออกไปโรงเรียน เด็กจะฉลาดขึ้น มีความกตัญญูมากขึ้นเพราะรับบารมีจากองค์พระ ส่วนพ่อค้าแม่ขาย ก็บอกว่า บูชาองค์นี้ไป ทำให้ทำมาค้าขึ้น ค้าขายดี วิธีบูชา ท่านให้บูชาด้วยดอกบัวขาว 7 ดอก แช่น้ำใส่ขันเงินหรือพานก็ได้แล้วแต่จะสะดวกผู้ใดบูชามักจะพบแต่ความสำเร็จในหน้าที่การงานและธุรกิจเพื่อให้ได้ผลดี ควรบูชาทุกวันพระ ด้วยดอกบัว 7 ดอก หรือทำการสักการะตามที่เห็นสมควรด้วยจิตมั่น และหมั่นสร้างบุญกุศลประกอบกรรมดีอยู่เสมอๆ

(ขอขอบคุณข้อมูลจากคอลัมน์หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ในนิตยสารนะโม โดยฝ่ายงานกองทุนปลูกป่าหลวงปู่หงษ์ไว้ด้วยครับ)