เข็มกลัดเนื้อเงินลงยาเจ้าพ่อเสือบางแคร์ปี2495-อิฐ สงขลา - webpra
VIP
พระแท้ดูง่าย สวยตาเปล่า

หมวด เหรียญปั๊ม ก่อนปี 2520

เข็มกลัดเนื้อเงินลงยาเจ้าพ่อเสือบางแคร์ปี2495

เข็มกลัดเนื้อเงินลงยาเจ้าพ่อเสือบางแคร์ปี2495 - 1เข็มกลัดเนื้อเงินลงยาเจ้าพ่อเสือบางแคร์ปี2495 - 2เข็มกลัดเนื้อเงินลงยาเจ้าพ่อเสือบางแคร์ปี2495 - 3เข็มกลัดเนื้อเงินลงยาเจ้าพ่อเสือบางแคร์ปี2495 - 4เข็มกลัดเนื้อเงินลงยาเจ้าพ่อเสือบางแคร์ปี2495 - 5
ชื่อร้านค้า อิฐ สงขลา - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เข็มกลัดเนื้อเงินลงยาเจ้าพ่อเสือบางแคร์ปี2495
อายุพระเครื่อง 69 ปี
หมวดพระ เหรียญปั๊ม ก่อนปี 2520
ราคาเช่า 8,500 บาท
เบอร์โทรติดต่อ 081-346-6638,081854-8799
อีเมล์ติดต่อ itsda99@gmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ พร้อมเช่า
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ จ. - 26 ม.ค. 2558 - 15:31.25
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ ศ. - 03 มี.ค. 2566 - 23:53.22
รายละเอียด
เข็มกลัดเนื้อเงินลงยาเจ้าพ่อเสือบางแคร์ปี2495 สภาพ 100% น้ำทองกระจาย ผู้มีวิชาร่วมทำพิธีทั่วฟ้าเมืองไทยพุทธคุณครอบจักรวาล
เจ้าพ่อเสือบางแครเป็นที่ร่ำลือกันถึงความศักดิ์สิทธิ์ ใครที่ได้ไปขอโชคลาภก็มักสำเร็จสมใจปราถนา กันแทบทุกราย ศาลเจ้าแห่งนี้ ตั้งอยู่ซอยเฟชรเกษม 46 ตั้งอยู่ริมถนน สถานที่นี้ คือ "ศาลขุนด่าน...เจ้าพ่อเสือ" ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของคนในละแวกนั้นเป็นอย่างมาก จนท่านได้รับการขนานนามว่า "เทพเจ้าแห่งความเมตตา"เพราะยามชาวบ้านตกทุกข์ได้ยากก็จะมาพึ่งพาอาศัยอยู่เป็นประจำ...ศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือแห่งนี้บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก มีผู้คนเข้ามากราบไหว้ ขอโชคลาภกันอย่างไม่ขาดสาย
ประวัติความเป็นมาของศาลขุนด่าน...เจ้าพ่อเสือ
เส้นทางมุ่งสู่บางแค เส้นทางนี้เป็นถนนที่มีประวัติหลายเรื่องด้วยกันในอดีตจัดเป็นถนนที่สวยงาม และทันสมัยมากยุคก่อนนั้น เมื่อทุกท่านมีอาชีพด้านการขับรถอยู่เป็นประจำจะทราบว่าจะมีศาลอยู่ศาลหนึ่งที่เรื่องนาม และเป็นศาลที่มีทั้งชาวไทย และชาวจีนให้ความเคารพนับถือมากเป็นที่สุด มีความเชื่อว่าเป็นศาลที่มีความศักดิ์สิทธิ์มากที่สุด เพราะรถทุกคันที่วิ่งผ่านจะต้องกดแตรรถเพื่อขอผ่านหน้าศาลเสมอ ศาลที่ว่านั้นก็ คือ ศาลขุนด่านเจ้าพ่อเสือ ศาลที่กล่าวมาในละแวกนั้นให้ฉายาว่า "เทพเจ้าแห่งความเมตตา" เพราะยามชาวบ้านตกทุกข์ได้ยากก็จะมาพึ่งพาอาศัยอยู่เป็นประจำณ บริเวณศาลแห่งนี้จะมีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งมีนามว่า คุณลุงประเสริฐ ธรรมมา เป็นผู้ก่อตั้งและเป็นผู้ดูแลศาลแห่งนี้ และยังจัดจำหน่ายดอกไม้ธูปเทียน และเป็นคนถ่ายทอดเรื่องราวให้ฟังว่า ในสมัย จอมพล สฤษดิ์ ธนรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีในยุคนั้นเป็นยุคของการปราบปรามโจรผู้ร้าย และยุคเริ่มพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทางต่างๆ หลายสายจะต้องถูกตัด อย่างเช่นสายเพชรเกษมที่เริ่มต้นที่สามแยกท่าพระ ตรงไปทางบางแค และถนนสายนี้ต้องตัดผ่านศาลนี้พอดี ซึ่งในสมัยนั้นยังคงเป็นศาลธรรมดาเท่านั้นเอง ปลูกสร้างบนกองดินบริเวณกลางถนนเพชรเกษมทางด้านหลังศาลจะมีต้นพุทธาขึ้นอยู่ต้นหนึ่ง เวลาเจ้าหน้าที่ตัดถนนก็ไม่ได้สนใจศาลนี้เท่าไร เพราะเป็นศาลเล็กๆ จึงได้ตักดินไปทับศาลจนหมด ลุงเล่าต่อไปว่า.. ในคืนวันนั้นขณะที่หลับก็ฝันว่ามีชายแต่งกายคล้ายนักรบมาบอกให้นำศาลที่อยู่บนดินขึ้นมาแล้วให้นำไปปลูกไว้ฝั่งถนนอีกด้านหนึ่ง ชายคนนั้นกวักมือเรียกให้เข้าไปหาเดินสัก 5-6 ก้าวเท่านั้น ท่านก็สั่งให้คลานเข้าหา แล้วพูดว่า...กูนะ..ใหญ่กว่ามึงมากนัก ต่อจากนั้นก็บอกว่า กูจะมาอยู่กับมึงด้วย ผมได้โต้เถียงไปว่า จะอยู่กับผมได้อย่างไร บ้านเรือนผมยังต้องอาศัยเค้าอยู่เลย สักครู่หนึ่งท่านกล่าวขึ้นมาว่า...กูนะดูทุกคนในตำบลนี้ทั้งตำบลแล้วก็เห็นมีมึงคนเดียวเท่านั้นที่กุจะอยู่ด้วยได้ ถ้าให้กูอยู่กูก็จะอยู่ ถ้าไม่ให้อยู่กูก็จะไปอยู่ที่อื่น... และผมจึงย้อนถามท่านว่า ท่านอยู่ที่ไหน ท่านบอกว่า...กูอยู่ใต้ต้นพุทธานี่ไง...จากคำตอบทำให้ทราบว่า ท่านต้องเป็นเจ้าพ่อศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอนต่อมาเมื่อสร้างถนนเสร็จแล้ว ตรงบริเวณนั้นมักจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อย ไม่ชนกันก็วิ่งตกข้างทาง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากมาย หรือเดือนหนึ่งๆ นั้นหลายศพเลยทีเดียว และคงเป็นเพราะว่าทางได้การ ได้ถมที่ดินทับศาลจนเกิดการผุพัง ท่านคงอยากให้ผมช่วยสร้างศาลใหม่ ท่านจึงมาเข้าฝัน พร้อมกับสร้างมโนภาพความฝันให้เห็นเมื่อผมตื่นขึ้นมากก็ได้เริ่มหาไม้พอที่ใช้สร้างศาลให้ท่าน และผมก็ได้บอกกล่าวท่านว่า "กระผมเป็นข้าที่ต่ำต้อยมากนักจึงสร้างถวายให้ได้เพียงเท่านี้ ขอเชิญท่านมาประทับและสิงสถิตยอยู่เถิด" และตั้งแต่นั้นมาก็เป็นศาลสืบเนื่องมา และได้มีการปรับปรุงต่อเติมมาหลายครั้ง และคุณบรรหาร และคุณแจ่มใส ศิลปะอาชา ได้มีจิตศรัทธาบริจาคเงิน 35,000 บาท นับว่ามากในสมัยนั้น และเงินจำนวนนี้เองได้นำไปทำการก่อสร้างเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กตั้งแต่นั้นมาตัวอาคารก็ได้พัฒนามาจนทุกวันนี้ โดยองค์ประธานของศาลมีอยู่ 2 องค์ องค์แรก คือ "เจ้าพ่อขุนด่าน" แต่งกายคล้ายนักรบของไทย สันนิษฐานว่า เป็นเจ้าเมืองหน้าด่านในสมัยกรุงธนบุรี นั่งพนมมืออยู่ตรงกลางของศาล ส่วนองค์ที่สองจะเป็นองค์ตั่วเหล่าเอี๊ย ซึ่งคนไทยเชื้อสายจีนจะเรียนท่านว่าเจ้าพ่อเสือ จะแต่งกายคล้ายกับนักรบจีน มือขวาถือดาบ มือซ้ายทรงประทานพร และงานประจำปีของท่านจะเรียกว่า "ยี่ เหว่ย จับ ซา" ประมาณเดือนมีนาคม ของทุกปี จนกระทั่งทุกวันนี้มีผู้คนจากทั่วสารทิศมากราบนมัสการ บางคนก็มาขอกินการงาน และโชคลาภจากท่าน
พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยพุทธคุณจึงแรงมากๆๆๆ และมีประสบการณ์สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือ ผู้ที่มีใจใฝ่ทางด้านการเสี่ยงโชคลาภทุกชนิด ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกประเภท มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง
พุทธคุณแรงเกินราคา คุ้มค่ามากๆๆๆ กับความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การมีชื่อเสียง ตำแหน่งที่สูงขึ้น การมีโชคลาภขั้นสูง มหาเสน่ห์ มหานิยมที่รุนแรงต่อ การชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย ฯลฯ เป็นต้น

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top