หมวด หลวงปู่ทวด วัดช้างให้

ตะกรุด ทิดหมอนเนื้อทองคำ อ. ทิม วัดช้างให้ปัตตานี

ตะกรุด ทิดหมอนเนื้อทองคำ อ. ทิม วัดช้างให้ปัตตานี - 3

ตะกรุด ทิดหมอนเนื้อทองคำ อ. ทิม วัดช้างให้ปัตตานี - 4

ตะกรุด ทิดหมอนเนื้อทองคำ อ. ทิม วัดช้างให้ปัตตานี - 5

ชื่อร้านค้า	อิฐ สงขลา - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	อิฐ_สงขลา (27)
ชื่อพระเครื่อง	ตะกรุด ทิดหมอนเนื้อทองคำ อ. ทิม วัดช้างให้ปัตตานี
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	หลวงปู่ทวด วัดช้างให้
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	itsda99@gmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พฤ. - 09 เม.ย. 2563 - 10:45.28
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ศ. - 04 ก.ค. 2568 - 11:20.35

รายละเอียด
ตะกรุด ทิดหมอนเนื้อทองคำ พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี ปฐมบทแรกเริ่มเดิมที ที่พระอาจารย์ทิมได้มาอยู่วัดช้างให้ไม่นานก็เกิดสงครามโลกครั้งที่2(พระอาจารย์ทิมเข้ามา อยู่วัดช้างให้ได้เพียง4เดือนก็เกิดสงครามโลกครั้งที่2) กองกำลังทหารญี่ปุ่นใช้ประเทศไทยเป็นฐานที่ตั้งกองทัพ และได้บุกยึดรถไฟสายใต้ ซึ่งวิ่งจากหาดใหญ่ไปสุไหงโกลก เพื่อขนกำลังทหารและสัมภาระต่างๆ โดยใช้เส้นทางที่วิ่งผ่านหน้าวัดช้างให้เป็นหลัก ส่งผลให้ชาวบ้านในละแวกนั้เกิดความตื่นตระหนกตกใจและหวาดกลัว พระอาจารย์ทิมอยู่ช่วยเหลือดูแลประชาชนที่เดือดร้อนจากภัยสงคราม เป็นที่พึ่งพาและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธในยามนี้ ด้วยความที่เป็นพระที่ไม่ยึดติดกับวัตถุและใช้ชีวิตอย่างสมถะ สิ่งที่ชาวพุทธทุกคนที่ได้รับจากการมากราบเจ้าอาวาสวัดช้างให้แห่งนี้ นั่นคือ "ธรรมะ" เพื่อนำไปเป็น "หลักคิด"เพื่อ "ดำเนินชีวิต" อย่างรู้เท่าทัน และเป็นขวัญกำลังใจของชาวบ้านพระอาจารย์ทิมได้ถ่ายถอดวิชาอาคม เลขยันต์ ในเรื่องของการสักยันต์ให้แก่ อาจารย์แย้ม พุฒยอด ซึ่งถือเป็นศิษย์ฆาราวาสของ พระอาจารย์ทิม อาจารย์แย้ม พุฒยอด เป็นชาวบ้านซึ่งมีบ้านและสวนยางอยู่เยื้องๆกับวัดช้างให้ เพื่อสักยันต์ป้องกันภัยให้กับชาวบ้านทั่วไป ปัจจุบัน หลวงพล บุตรชายของท่าน อาจารย์แย้ม พุฒยอด ก็ยังคงรับหน้าที่สักยันต์ครู(พระอาจารย์ทิม) อยู่จนทุกวันนี้ ตะกรุด ทิดหมอน พระอาจารย์ทิมท่านได้สร้างไว้เพื่อแจกจ่ายให้ชาวบ้านทั่วไป และผู้มีอุปการะคุณช่วยเหลือบูรณวัดช้างให้ในโอกาสต่างๆ วิธีสร้างตะกรุดทิดหมอนของพระครูวิสัยโสภณ" หรือ "พระอาจารย์ทิม" แห่งวัดช้างให้ท่านสร้างตามแบบฉบับตำรับพิธีสมัยโบราณ โดยท่านจะเริ่มต้นตั้งแต่นำชนวนมวลสารวิเศษที่ท่านเก็บรวบรวมไว้รวมถึงที่ญาติโยมนำมาให้โดยนำมาหลอมเป็นแท่งแล้วจารอักขระโดยรอบนำไปหลอมอีกครั้งแล้วรีดเป็นแผ่นนำมาจารลงเลขยันต์ในตัวยันต์ที่เขียนนั้นจะต้องมียันต์สำคัญของอาจารย์ท่าน เช่น ยันต์เกราะเพชร เลขยันต์ต่างๆที่ท่านร่ำเรียนถ่ายทอดมา เป็นต้น เข้าพิธีพุทธาภิเษกโดยพระครูวิสัยโสภณ" หรือ "พระอาจารย์ทิม" แห่งวัดช้างให้ เจ้าตำรับผู้เปิดสรรพวิชาสายหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ อันโด่งดัง ก่อนที่ท่าน พระอาจารย์ทิมจะได้มีดำหริสร้างพระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน2497 อันโด่งดังลือลั่นไปทั่ว ประเทศ ท่านได้สร้างตะกรุดทิดหมอนซึ่งเป็นสุดยอดของเครื่องรางของขลัง ซึ่งในปัจจุบันหายากมาก มีดีทางเมตตามหานิยมแคล้วคาดอยู่ยงคงกระพันชาตรี เคยมีชาวบ้านที่ได้รับไปทดลองตีรันฟันแทงกันด้วยมีดพร้ามีคม ปรากฏว่าฟันแทงไม่เข้าทำให้เป็นที่น่าอัศจรรย์ เมื่อ พระอาจารย์ทิม ท่านได้ทราบเรื่องดังกล่าวจึงสั่งห้ามมิให้มีการทดลองกันอีก ตะกรุด ทิดหมอน ที่สร้างมี 1 เนื้อทองคำ 2 เนื้อทองสำริด 3 เนื้อทองแดงเถื่อน 4 เนื้อตะกั่ว ตะกรุดทิดหมอน พระอาจารย์ทิมวัดช้างให้อธิษฐานจิตครั้งใหญ่ก่อนที่จะมอบให้กับญาติโยม ตลอดทั้งศิษยานุศิษย์ทุกท่าน เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นสุดยอดเครื่องรางของขลังเป็นที่สุดแห่งโชคลาภและที่พิเศษสุดคือพระอาจารย์ทิมตั้งใจปลุกเสกกำกับคาถาเรียกทรัพย์ เสริมทรัพย์ เสริมเพิ่มบารมีในยุคที่เศรษฐกิจไม่ดี ค้าขายไม่คล่องพระอาจารย์ทิม ได้ประจุคาถาพุทธาคา สูตรลับ ตำรับวัดช้างให้โดยพระอาจารย์ทิมได้กล่าวว่า “ถ้าไม่ถึงยุคยากเข็ญใจจริง จะไม่นำพระคาถามหามนต์มาเสก” ดังนั้นพระอาจารย์ทิมได้เล็งเห็นว่า ถึงยุคข้าวยากหมากแพงและท่านก็ตั้งใจจัดสร้าง จึงได้นำตำรับตำรามหามนต์เรียกทรัพย์ บันดาลสุข อัดพลังพุทธาคม พลังมหาเวทย์ พลังคาถาที่ได้ร่ำเรียนมาทั้งหมด เสกตะกรุดทิดหมอนอย่างเข้มขลังให้โดดเด่นเรื่อง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ บันดาลโชคใช้แล้วร่ำรวยเงินทอง ทำมาค้าขายขึ้น ดุจแม่น้ำคงคาไม่ขาดสาย สมหวังดังใจผู้ใช้ปราถนา เพราะสร้างด้วยจิตเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ เมตตาสูงสุด(ประสบการณ์โชคลาภ ไม่เป็นรองใคร ) ดีเด่นทางด้านนิรันตรายทั่วทั้งแปดทิศ สุดยอดมวลสารพิธีปลุกเสกอย่างเข้มขลังยิ่งใหญ่ เป็นมหาโภคทรัพย์ สวดทิพยมนต์ เสกคาถา ยกฐานะที่ตกต่ำให้กลับสูง ดีเด่นในเรื่องเจริญก้าวหน้าในการงาน นิรันตรายทั่วทั้ง8ทิศ ทำมาหากินอะไรก็เจริญรุ่งเรือง มั่งคั่ง มั่นคง “เหลือกิน เหลือเก็บ เหลือใช้” ด้านพุทธคุณพระครูวิสัยโสภณ" หรือ "พระอาจารย์ทิม" แห่งวัดช้างให้ กล่าวไว้ว่า ผู้ใดบูชา”ตะกรุดทิดหมอน“ จะเป็นผู้ที่จำเริญด้วย สวัสดิมงคลหาที่สุดมิได้ มีประการต่าง ๆ อาทิ ”จะเป็นผู้เลิศล้ำปราศจากภยันตรายทั้งปวง ทั้งภัยภายใน คือ โรคภัยไข้เจ็บอันเกิดจากสังขารร่างกาย และภัยภายนอก คือ อุบัติเหตุอุบัติภัยทั้งหลาย จากอุตุ จากดิน น้ำ ลม ไฟ จากมนุษย์ จากผีกระทำ ภัยใดที่เกิดแล้วก็จักช่วยระงับดับไป ภัยใดยังไม่เกิดก็จักแคล้วคลาดทุกประการ “จะเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยลาภ คือ สิ่งที่ได้มาโดยไม่คาดคิด จักประดังมาดุจสายธาร ไม่มีสิ้นสูญสุดเลย ”จะเป็นผู้เจริญด้วยยศ คือ เป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งหลาย ด้วยเป็น “เมื่อเข้ารณรงค์สงครามแม้ลูกปืนจะมาเป็นห่าฝนมิอาจจะระคายผิวผู้นั้นเลย ”จะเป็นผู้มีชัย คือ ศัตรูหมู่มารทั้งหลายไม่กล้ำกลาย กำราบศัตรูผู้จะมาทำอันตราย ศัตรูนั้นมิอาจคิดร้ายเราได้เลย ทั้งยังจะกลับกลายเป็นมิตรคอยช่วยเหลือในกิจทั้งปวง “จะเป็นผู้มีเสน่ห์ มิว่าจะเป็นอินทร์พรหม ยมยักษ์ ก็ล้วนแล้วแต่ เมตตา เสน่หา ถ้าเข้าหาเจ้านายให้อธิษฐานให้จงดี แล้วไปเถิด เจ้านายเห็นหน้าแล้วเกิด เมตตา ยิ่งนัก พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยพุทธคุณจึงแรงมากๆและมีประสบการณ์สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือ ผู้ที่มีใจใฝ่ทางด้านการเสี่ยงโชคลาภทุกชนิด ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกประเภท มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง คาถาบูชา หลวงพ่อทวด ตั้งมะโม (3จบ) “นะโม โพธิปัญโญ มหาลาโภ ปะริมิตตา นะโม โพธิสัตโตอาคันติมายะ อิติภะคะวา“

รายละเอียด

ตะกรุด ทิดหมอนเนื้อทองคำ พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ จังหวัดปัตตานี ปฐมบทแรกเริ่มเดิมที ที่พระอาจารย์ทิมได้มาอยู่วัดช้างให้ไม่นานก็เกิดสงครามโลกครั้งที่2(พระอาจารย์ทิมเข้ามา อยู่วัดช้างให้ได้เพียง4เดือนก็เกิดสงครามโลกครั้งที่2) กองกำลังทหารญี่ปุ่นใช้ประเทศไทยเป็นฐานที่ตั้งกองทัพ และได้บุกยึดรถไฟสายใต้ ซึ่งวิ่งจากหาดใหญ่ไปสุไหงโกลก เพื่อขนกำลังทหารและสัมภาระต่างๆ โดยใช้เส้นทางที่วิ่งผ่านหน้าวัดช้างให้เป็นหลัก ส่งผลให้ชาวบ้านในละแวกนั้เกิดความตื่นตระหนกตกใจและหวาดกลัว พระอาจารย์ทิมอยู่ช่วยเหลือดูแลประชาชนที่เดือดร้อนจากภัยสงคราม เป็นที่พึ่งพาและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพุทธในยามนี้ ด้วยความที่เป็นพระที่ไม่ยึดติดกับวัตถุและใช้ชีวิตอย่างสมถะ สิ่งที่ชาวพุทธทุกคนที่ได้รับจากการมากราบเจ้าอาวาสวัดช้างให้แห่งนี้ นั่นคือ "ธรรมะ" เพื่อนำไปเป็น "หลักคิด"เพื่อ "ดำเนินชีวิต" อย่างรู้เท่าทัน และเป็นขวัญกำลังใจของชาวบ้านพระอาจารย์ทิมได้ถ่ายถอดวิชาอาคม เลขยันต์ ในเรื่องของการสักยันต์ให้แก่ อาจารย์แย้ม พุฒยอด ซึ่งถือเป็นศิษย์ฆาราวาสของ พระอาจารย์ทิม อาจารย์แย้ม พุฒยอด เป็นชาวบ้านซึ่งมีบ้านและสวนยางอยู่เยื้องๆกับวัดช้างให้ เพื่อสักยันต์ป้องกันภัยให้กับชาวบ้านทั่วไป ปัจจุบัน หลวงพล บุตรชายของท่าน อาจารย์แย้ม พุฒยอด ก็ยังคงรับหน้าที่สักยันต์ครู(พระอาจารย์ทิม) อยู่จนทุกวันนี้
ตะกรุด ทิดหมอน พระอาจารย์ทิมท่านได้สร้างไว้เพื่อแจกจ่ายให้ชาวบ้านทั่วไป และผู้มีอุปการะคุณช่วยเหลือบูรณวัดช้างให้ในโอกาสต่างๆ

วิธีสร้างตะกรุดทิดหมอนของพระครูวิสัยโสภณ" หรือ "พระอาจารย์ทิม" แห่งวัดช้างให้ท่านสร้างตามแบบฉบับตำรับพิธีสมัยโบราณ โดยท่านจะเริ่มต้นตั้งแต่นำชนวนมวลสารวิเศษที่ท่านเก็บรวบรวมไว้รวมถึงที่ญาติโยมนำมาให้โดยนำมาหลอมเป็นแท่งแล้วจารอักขระโดยรอบนำไปหลอมอีกครั้งแล้วรีดเป็นแผ่นนำมาจารลงเลขยันต์ในตัวยันต์ที่เขียนนั้นจะต้องมียันต์สำคัญของอาจารย์ท่าน เช่น ยันต์เกราะเพชร เลขยันต์ต่างๆที่ท่านร่ำเรียนถ่ายทอดมา เป็นต้น เข้าพิธีพุทธาภิเษกโดยพระครูวิสัยโสภณ" หรือ "พระอาจารย์ทิม" แห่งวัดช้างให้ เจ้าตำรับผู้เปิดสรรพวิชาสายหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ อันโด่งดัง ก่อนที่ท่าน พระอาจารย์ทิมจะได้มีดำหริสร้างพระหลวงพ่อทวดเนื้อว่าน2497 อันโด่งดังลือลั่นไปทั่ว ประเทศ ท่านได้สร้างตะกรุดทิดหมอนซึ่งเป็นสุดยอดของเครื่องรางของขลัง ซึ่งในปัจจุบันหายากมาก มีดีทางเมตตามหานิยมแคล้วคาดอยู่ยงคงกระพันชาตรี เคยมีชาวบ้านที่ได้รับไปทดลองตีรันฟันแทงกันด้วยมีดพร้ามีคม ปรากฏว่าฟันแทงไม่เข้าทำให้เป็นที่น่าอัศจรรย์ เมื่อ พระอาจารย์ทิม ท่านได้ทราบเรื่องดังกล่าวจึงสั่งห้ามมิให้มีการทดลองกันอีก ตะกรุด ทิดหมอน ที่สร้างมี 1 เนื้อทองคำ 2 เนื้อทองสำริด 3 เนื้อทองแดงเถื่อน 4 เนื้อตะกั่ว

ตะกรุดทิดหมอน พระอาจารย์ทิมวัดช้างให้อธิษฐานจิตครั้งใหญ่ก่อนที่จะมอบให้กับญาติโยม ตลอดทั้งศิษยานุศิษย์ทุกท่าน เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นสุดยอดเครื่องรางของขลังเป็นที่สุดแห่งโชคลาภและที่พิเศษสุดคือพระอาจารย์ทิมตั้งใจปลุกเสกกำกับคาถาเรียกทรัพย์ เสริมทรัพย์ เสริมเพิ่มบารมีในยุคที่เศรษฐกิจไม่ดี ค้าขายไม่คล่องพระอาจารย์ทิม ได้ประจุคาถาพุทธาคา สูตรลับ ตำรับวัดช้างให้โดยพระอาจารย์ทิมได้กล่าวว่า “ถ้าไม่ถึงยุคยากเข็ญใจจริง จะไม่นำพระคาถามหามนต์มาเสก” ดังนั้นพระอาจารย์ทิมได้เล็งเห็นว่า ถึงยุคข้าวยากหมากแพงและท่านก็ตั้งใจจัดสร้าง จึงได้นำตำรับตำรามหามนต์เรียกทรัพย์ บันดาลสุข อัดพลังพุทธาคม พลังมหาเวทย์ พลังคาถาที่ได้ร่ำเรียนมาทั้งหมด เสกตะกรุดทิดหมอนอย่างเข้มขลังให้โดดเด่นเรื่อง เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ บันดาลโชคใช้แล้วร่ำรวยเงินทอง ทำมาค้าขายขึ้น ดุจแม่น้ำคงคาไม่ขาดสาย สมหวังดังใจผู้ใช้ปราถนา เพราะสร้างด้วยจิตเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ เมตตาสูงสุด(ประสบการณ์โชคลาภ ไม่เป็นรองใคร ) ดีเด่นทางด้านนิรันตรายทั่วทั้งแปดทิศ

สุดยอดมวลสารพิธีปลุกเสกอย่างเข้มขลังยิ่งใหญ่ เป็นมหาโภคทรัพย์ สวดทิพยมนต์ เสกคาถา ยกฐานะที่ตกต่ำให้กลับสูง ดีเด่นในเรื่องเจริญก้าวหน้าในการงาน นิรันตรายทั่วทั้ง8ทิศ ทำมาหากินอะไรก็เจริญรุ่งเรือง มั่งคั่ง มั่นคง “เหลือกิน เหลือเก็บ เหลือใช้”

ด้านพุทธคุณพระครูวิสัยโสภณ" หรือ "พระอาจารย์ทิม" แห่งวัดช้างให้ กล่าวไว้ว่า ผู้ใดบูชา”ตะกรุดทิดหมอน“ จะเป็นผู้ที่จำเริญด้วย
สวัสดิมงคลหาที่สุดมิได้ มีประการต่าง ๆ อาทิ
”จะเป็นผู้เลิศล้ำปราศจากภยันตรายทั้งปวง ทั้งภัยภายใน คือ โรคภัยไข้เจ็บอันเกิดจากสังขารร่างกาย และภัยภายนอก คือ อุบัติเหตุอุบัติภัยทั้งหลาย จากอุตุ จากดิน น้ำ ลม ไฟ จากมนุษย์ จากผีกระทำ ภัยใดที่เกิดแล้วก็จักช่วยระงับดับไป ภัยใดยังไม่เกิดก็จักแคล้วคลาดทุกประการ
“จะเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยลาภ คือ สิ่งที่ได้มาโดยไม่คาดคิด จักประดังมาดุจสายธาร ไม่มีสิ้นสูญสุดเลย
”จะเป็นผู้เจริญด้วยยศ คือ เป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งหลาย ด้วยเป็น
“เมื่อเข้ารณรงค์สงครามแม้ลูกปืนจะมาเป็นห่าฝนมิอาจจะระคายผิวผู้นั้นเลย
”จะเป็นผู้มีชัย คือ ศัตรูหมู่มารทั้งหลายไม่กล้ำกลาย กำราบศัตรูผู้จะมาทำอันตราย ศัตรูนั้นมิอาจคิดร้ายเราได้เลย ทั้งยังจะกลับกลายเป็นมิตรคอยช่วยเหลือในกิจทั้งปวง
“จะเป็นผู้มีเสน่ห์ มิว่าจะเป็นอินทร์พรหม ยมยักษ์ ก็ล้วนแล้วแต่ เมตตา เสน่หา ถ้าเข้าหาเจ้านายให้อธิษฐานให้จงดี แล้วไปเถิด เจ้านายเห็นหน้าแล้วเกิด เมตตา ยิ่งนัก

พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยพุทธคุณจึงแรงมากๆและมีประสบการณ์สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า หรือ ผู้ที่มีใจใฝ่ทางด้านการเสี่ยงโชคลาภทุกชนิด ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกประเภท มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง

คาถาบูชา หลวงพ่อทวด
ตั้งมะโม (3จบ)
“นะโม โพธิปัญโญ มหาลาโภ ปะริมิตตา
นะโม โพธิสัตโตอาคันติมายะ อิติภะคะวา“