
หมวด จตุคามรามเทพ พ.ศ. 2530 ถึง 2549
พิมพ์หลวงปู่ทวดเนื้อผงยาวาสนามหาจินดามณีปัดทอง เนื้อผงยาวาสนามหาจินดามณีปัดทอง





ชื่อร้านค้า | อิฐ สงขลา - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พิมพ์หลวงปู่ทวดเนื้อผงยาวาสนามหาจินดามณีปัดทอง เนื้อผงยาวาสนามหาจินดามณีปัดทอง |
อายุพระเครื่อง | 19 ปี |
หมวดพระ | จตุคามรามเทพ พ.ศ. 2530 ถึง 2549 |
ราคาเช่า | 4,000 บาท |
เบอร์โทรติดต่อ | 081-346-6638,081854-8799 |
อีเมล์ติดต่อ | itsda99@gmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ส. - 23 พ.ค. 2563 - 15:50.12 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | จ. - 26 พ.ค. 2568 - 17:35.29 |
รายละเอียด | |
---|---|
หลักเมืองรุ่นพิเศษ9 รอบ 9 พิธี 108 ปี ท่านขุนพันธ์ พระผงสุริยันจันทรา ท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพ ขนาด 5 ซ.ม. พิมพ์หลวงปู่ทวด เนื้อมหาว่านดำปัดทอง วัดหน้าพระธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ปี2549 รูปแบบพิมพ์ทรง กล่าวได้ว่าในการจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อกุศลเจตนาโดยคุณ ณสรรค์ พันธรักษ์ราชเดช ทุกครั้งทุกรุ่นจะได้รับการยกย่องกล่าวขานในด้านศิลปะอันงดงามและในรุ่น 9 รอบ 9 พิธี 108 ปี ท่านขุนพันธ์ (หลักเมืองรุ่นพิเศษ) ก็เช่นกันที่ได้สรรค์สร้างอย่างงดงามยิ่งทุกแบบทุกพิมพ์มีความละเอียดลออประณีตพิถีพิถันทุกสรรพสิ่งที่ปรากฏในองค์วัตถุมงคล การนำรูป จำลองศาลหลักเมืองประทับไว้เพื่อบ่งบอกถึงคุณค่าความเป็นวัตถุมงคล หลักเมืองรุ่นพิเศษ อย่างสมบูรณ์ ชนวนมวลสาร หัวใจสำคัญในการจัดสร้างวัตถุมงคงให้บังเกิดความเลิศล้ำ สิ่งที่ไม่อาจละเลยมองข้ามได้ก็คือการแสวงหามวลสารศักดิ์สิทธิ์มาผสมผสานลงในเนื้อหาดังเช่นรุ่น 9 รอบ 9 พิธี 108 ปี ท่านขุนพันธ์ (หลักเมืองรุ่นพิเศษ นี้ได้มีความวิริยะอุตสาหะแสวงหามวลสารมากมายมาเป็นนส่วนผสม นอกเหนือจากมวลสารหลักคือผง มวลสารว่าศักดิ์สิทธิ์นับร้อยนับพันชนิดของ ท่าน ขุนพันธรักษ์ราชเดช ซึ่งต่อมาได้บังเกิดเป็นมวลสาร ของวัตถุมงคลหลายรุ่นผ่านพิธีประจุพุทธาคม ทับถมกันครั้งแล้วครั้งเล่า จนทุกวันนี้ อาทิรุ่น ขุนพันธ์พุทธาคมเขาอ้อ รุ่นมงคลจักรวาล พุทธาคมเขาอ้อ รุ่นเจ้าสัวเบตง รุ่นบูรณะหลักเมืองนครศรีฯ 2547 รุ่นพุทธศิลป์ย้อนยุค วันนาสน รุ่นไตรภาคีศรีนคร วัดนางตรา รุ่นพุทธามหาเวท วัดศาลาไพ รุ่นพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง วัดหน้าพระบรมธาตุ ซึ่งล้วนแล้วแต่นำมวลสารมาผสมในรุ่นนี้ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังได้แสวงหามวลสาระสำคัญย้อนรอยตำนานหลวงพ่อทวด หลายแห่ง ที่มีความเกี่ยวพันกับท่านอันมีมวลสารจากวัดช้างให้ วัดพะโค๊ะ วัดดีหลวง วัดสีหยัง วัดโพธิเจติยาราม มาเลเซีย สำนักสงฆ์ต้นเลียบ นาเปล ศาลาหลวงพ่อทวดท่าแพ วัดเสมเมือง วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร วัดหัวลำภูใหญ่ ศาลาหลวงพ่อทวดบ้านโกฏ วัดเขาอ้อ วัดแค อยุธยา และที่เลิศล้ำสำคัญยิ่ง คือมวลสารพระผงพระพุทธชินราช ภ.ป.ร. ซึ่งมีส่วนผสมของผงพระเบญจภาคี และผงในหลวงพระราชทาน คือ ผงจิตรลดา พิธีกรรมมหามงคล นับเป็นความยิ่งใหญ่อลังการซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ในประวัติศาสตร์การจัดสร้างวัตถุมงคลในเมืองนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะองค์ท้าวจตุคาม และท้าวรามเทพ แม้กระทั่ววัตถุมงคลหลวงพ่อทวด ซึ่งในการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่น 9 รอบ 9 พิธี 108 ปี ท่านขุนพันธ์ (หลักเมืองรุ่นเศษ) อันทรงคุณค่าครั้งนี้ได้มุ่งมั่นประกอบพิธีรวม 9 วาระมหามงคล เพื่อให้บังเกิดความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ชนิดมิอาจประมาณได้ นอกจากเนื้อหาภายในจะมีความศักดิ์สิทธิ์ทุกอนูเนื้อ ภายนอกยังได้เคลือบทัพ พลังพุทธาคมอย่างเข้มขลัง ทรงพลังหลายวาระ ซึ่งจะส่งผลให้วัตถุมงคล รุ่น 9 รอบ 9 พิธี 108 ปี ท่านขุนพันธ์ (หลักเมือง รุ่นพิเศษ) นี้บรรลุถึงความเป็นวัตถุมงคล กฤตยาคมแฝด ซึ่งโบราณจารย์เรียกขานกันว่าดีตั้งแต่เนื้อในยันผิวนอก เข้มขลังไม่มีวันเสื่อม วาระที่ 1 ได้ประกอบพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณหลวงพ่อทวด เมื่อวันที่ กุมภาพันธ์ 2549 เวลา 08.19 น. ณ ศาลาหลวงพ่อทวด วัดท่าแพ (สถานที่ซึ่งหลวงพ่อทวดผูกแพกลางน้ำเพื่ออุปสมบท) วาระที่ 2 ได้ประกอบพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณหลวงพ่อทวด เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา 13.19 น. ณ ศาลาหลวงพ่อทวด วัดเสมาเมือง (สถานที่ซึ่งหลวงพ่อทวด เมื่อครั้งเป็นสามเณร ได้มาศึกษาพระธรรมวินัย) วาระที่ 3 ได้ประกอบพิธีบวงสรวงขออนุญาติ หน้าสถูปเจดีย์ ณ วัดช้างให้ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2547 วาระที่ 4 ประกอบพิธีบวงสรวงปลุกเสกปรุงยาวาสนามหาจินดามณีต่อหน้าเบื้องพระพักตร์องค์พระพุทธปฏิมาโดยพระอาจารย์สมพงษ์ วัดท่าเสา จ.สมุทรสาคร เป็นเจ้าพิธีกรรมฝ่ายสงฆ์ และอาจารย์ เอกวิทย์ ยอดระบำ ศิษย์เอก ท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นเจ้าพิธีกรรมฝ่ายฆราวาส ณ วิหารหลวงวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ในวันที่ 20 มีนาคม 2549 วาระที่ 5 ประกอบพิธีบวงสรวงเทพยดา เปิดพิมพ์พระผงยาวาสนามหาจินดามณีนำฤกษ์ และเททอง รูปเหมือนหลวงพ่อทวดนำฤกษ์ รวมทั้งเททองโลหะชนวนทุกเนื้อคือ ทอง นาก เงิน นวโลหะ ฝ่าบาตร ทองแดง เพื่อนำชนวนเนี้อไปจัดสร้างเหรียญ ทุกแบบพิมพ์ (เป็นการปลุกเสกเนื้อใน) ณ วัดหน้าพระบรมธาตุ ในวันที่ 23 มีนาคม 2549 วาระที่ 6ประกอบพิธีพุทธาภิเษกเป็นปฐมฤกษ์ ณ ศาลหลักเมือง จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2549 วาระที่ 7 ประกอบพิธีปลุกเสกกลางทะเล ที่ปากน้ำชุมพร สถานที่ซึ่งหลวงพ่อทวดจุ่มเท้าเหยียบ น้ำทะเลจืด ในวันที่ 4 มิถุนายน 2549 วาระที่ 8 ประกอบพิธีบวงสรวงพุทธาภิเษก ณ สำนักวัดเขาอ้อ ในวันที่ 8 มิถุนายน 2549 วาระที่ 9 ประกอบพิธีบวงสรวงสมโภชพุทธาภิเษกกลางหาว รับแสงสุริยันจันทรา ณ วัดหน้าพระบรมธาตุ ในวันที่ 10 มิถุนายน 2549 วัตถุมงคลทรงคุณค่า รุ่น 9 รอบ 9 พิธี 108 ท่านขุนพันธ์ (หลักเมืองรุ่นพิเศษ) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญประการนี้จึงได้จัดสร้างย้อนตำนานวัตถุมงคลสามพระโพธิสัตว์ผู้มากด้วยบุญญาบารมี ด้วยความพิถีพิถันให้ทรงคุณค่าเปี่ยมไปด้วยความเลิศล้ำเข้มขลัง ทรงอิทธิอานุภาพ อันจะนำพาไปบูชาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลได้อย่างสนิทใจ พระโพธิสัตว์หลวงพ่อทวด นับเป็นเรื่องแปลกแต่จริง ที่เรื่องราวตำนานของพระโพธิสัตว์พังพะกาฬ และพระโพธิสัตว์หลวงพ่อทวด ซึ่งห้วยระยะเวลาห่างกันราวสี่ร้อยปีจะมีความคล้ายคลึงกันอย่างยิ่ง ในสมัยเป็นเด็กทารกนอนเปลที่มีงูจงอางพันรอบเปลแล้วคายแก้ววิเศษให้ หลวงพ่อทวดมีนามเดิมว่าปู พ่อแม่ฐานะยากจน เมื่อคลอดทารกน้อยก็ได้นำรกไปฝังไว้โคนต้นเลียบ ต่อมาจึงได้นำบุตรชายมาฝากไว้ให้ สมภารจวง วัดดีหลวง อบรมสอนสั่งสอนจนกระทั่งได้บวชเป็นสามเณรจากนั้นสมภารจวงก็ได้นำสามเณรปูไผฝากไว้กับพระครูสัทธรรมรังสี วัดสีหยัง เพื่อเรียนมูลกิจจายน์ สามเณรปูมีความเฉลียวฉลาด จึงเรียนได้รุดหน้าจนจบหลักสูตรของสำนัก แต่ด้วยความมุ่งมั่นสามเณรปู จึงได้กราบลาพ่อแม่ครูบาอาจารย์เพื่อเดินทางมาศึกษาต่อที่สำนักพระครูกาเดิมวัดเสมาเมือง จ.นครศรีธรรมราช จนกระทั่งอายุครบบวชก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุด้วยการนำเรือมาดตะเคียนหนึ่งลำ เรือมาดพะยอมหนึ่งลำ เรือมาดยางหนึ่งลำ มาขนานผูกทำเป็นแพเพื่อทำญัติในคลองหน้าท่าเรือ (ปัจจุบันเรียกว่าคลองท่าแพ) เมื่ออุปสมบทแล้วได้ฉายาสามีราโมหรือเจ้าสามิราม และยังศึกษาร่ำเรียนต่อจนจบหลักสูตรจึงได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมคือเมืองสทิงพระ วัตถุมงคลทรงคุณค่า รุ่น 9 รอบ 9 พิธี 108 ปี ท่านขุนพันธ์ (หลักเมืองรุ่นพิเศษ) ได้จัดสร้างองค์ พระโพธิ์สัตว์หลวงพ่อทวด ขึ้นหลายพิมพ์ อาทิพิมพ์กลมสุริยันจันทราที่สร้างสรรค์แบบพิมพ์ได้อย่างประณีตสวยงามยิ่งนักทุกสรรพสิ่งปรากฏความหมายเกี่ยวกับ องค์ท่านครบถ้วน จัดสร้างเป็นเนื้อผงขนาด 5 ซ.ม. และเหรียญ ขนาด 3.2 ซ.ม. ผสมผสานมวลสารย้อนตำนานหลวงพ่อทวด ทุกแห่งที่กล่าวถึงในข้อความที่ผ่านมา นอกจากพิมพ์ทรงกลมที่สวยงานเลิศล้ำยิ่งได้สร้างพิมพ์เตารีด ทั้งเนื้อผงยาวาสนามหาจินดามณี เนื้อผงดินว่านมวลสารย้อนตำนาน และเนื้อโลหะรูปเหมือนลอยองค์ บัวรอบ รูปเหมือนขนาดบูชา 9 นิ้ว และ 5 นิ้ว ทั้งเนิ้อสัมฤทธิ์ ซึ่งจะประกอบพิธีเททองนำฤกษ์ ณ วันหน้าพระบรมธาตุ ทั้งหมดครบทุกองค์ในพิธี และเนื้อทองเหลืองรมดำมันปู ดังที่กล่าวมาแล้วนี้ย่อมเป็นหลักยืนยันได้ว่าวัตถุมงคลรุ่น 9รวม 9 พิธี 108 ปี ท่านพันธ์ (หลักเมืองรุ่นพิเศษ) เป็นวัตถุมงคล ทรงคุณค่ายิ่งบรรลุถึงคำว่า สุดยอดแห่งวัตถุมงคล อันควรค่าแก่การบูชาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว โดย เฉพาะอย่างยิ่งเป็นวัตถุมงคลหลวงพ่อทวดรุ่นแรก ที่ไดประกอบพิธีพุทธา ภิเษกในศาลหลักเมือง นครศรีธรรมราช พระผงสุริยันจันทราพิมพ์หลวงพ่อทวด เนื้อมหาว่านดำปัดทอง หลักเมืองรุ่นพิเศษ 9 รอบ 9 พิธี 108 ปี ท่านขุนพันธ์ ปี 2549 โดยปลุกเสกพร้อมกับองค์พ่อจตุคามรามเทพ จำนวนพิธีปลุกเสกถึง 9 พิธี พุทธคุณหลักเมืองรุ่นพิเศษ9 รอบ 9 พิธี 108 ปี ท่านขุนพันธ์ พระผงสุริยันจันทรา ท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพ ขนาด 5 ซ.ม. พิมพ์หลวงปู่ทวด เนื้อมหาว่านดำปัดทอ ปี2549 มีคุณวิเศษมีมากนัก ความว่า “หมื่นเทวดาก็มารักษาทุกค่ำเช้า แคล้วคลาด ปลอดภัย สำเร็จรวยเร็วทันใจ ค้ำคูณหาที่สุดมิได้ ” • หมื่นเทวดามารักษา คือ เป็นที่รักของเทวดาทั้งหลาย ทั้งอินทร์ พรหม ยม ยักษ์ มนุษย์ ล้วนมีความสิเหน่หาเมตตา ช่วยอำนวยช่วยอุปถัมภ์ในทุกประการ • แคล้วคลาด ปลอดภัย คือ ภัยทั้งหลายอันเป็นโทษ ไม่อาจกล้ำกลายได้ด้วยบารมีแห่งพระพระผงสุริยันจันทรา ท้าวจตุคาม ท้าวรามเทพ ขนาด 5 ซ.ม. พิมพ์หลวงปู่ทวด เนื้อมหาว่านดำปัดทอ • ช่วยอำนวยชัยในทุกประการ คือ มิว่าจะทำกิจการงานใดย่อมสำเร็จทุกประการ หันหน้าไปทิศใด ศัตรูหมู่มารย่อมสะท้านเกรงกลัว • ค้ำคูณหาที่สุดมิได้ คือ ส่งเสริมโชคลาภวาสนานานาประการ ทรัพย์อันใดมีแล้วก็จักเพิ่มพูน ทรัพย์อันใดที่พึงจะมีก็จักหลั่งไหลมาไม่ติดขัด การอันใดที่ข้องขัดติดตัน ก็จะราบรื่นสิ้นทุกอัน |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...










อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments