
หมวด พระเกจิภาคเหนือ
เหรียญรุ่นสร้างอนามัยพร้าว ของ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง ปี2517





ชื่อร้านค้า | อิฐ สงขลา - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | เหรียญรุ่นสร้างอนามัยพร้าว ของ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง ปี2517 |
อายุพระเครื่อง | 51 ปี |
หมวดพระ | พระเกจิภาคเหนือ |
ราคาเช่า | 4,500 บาท |
เบอร์โทรติดต่อ | 081-346-6638,081854-8799 |
อีเมล์ติดต่อ | itsda99@gmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ส. - 13 ก.พ. 2564 - 17:46.48 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อา. - 13 ก.ค. 2568 - 11:48.50 |
รายละเอียด | |
---|---|
เหรียญรุ่นสร้างอนามัยพร้าว ของ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ วัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ปี2517 บล๊อคนิยม ออขีด เนื้อทองแดง ด้านหน้าตอกโค้ตเป็นรูปตราสัญลักษณ์สาธารณสุขไว้ที่สังฆาฏิ จัดสร้างใน ปี พ.ศ.2517 เพื่อหาทุนจัดสร้างอาคารสถานีอนามัยอำเภอพร้าวหลังใหม่ แทนอาคารหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม ว่ากันว่าเหรียญรุ่นี้มีพิธีปลุกเสกใหญ่ หลวงปู่แหวนปลุกเสกให้โดยตรง ปลุกเสกนานกว่าเหรียญรุ่นก่อนๆ โดยปกติเหรียญทั่วๆไปท่านมักจะใช้มือแตะที่ลังบรรจุเหรียญและแผ่เมตตาครู่เดียวก็เสร็จ หลวงปู่แหวนท่านมีพระเวทย์วิทยาคมที่กล้าแกร่ง มีวิชาอาคมสุดเข้มขลัง วัตถุมงคลที่หลวงปู่แหวน ทำการปลุกเสกนั้น เป็นที่ทราบกันดีในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและผู้ที่ศรัทธาหลวงปู่แหวน ว่าเป็นสุดยอดของดี เป็นสุดยอดแห่งวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นเพื่อหวังผลทางด้านพุทธคุณ ชนิดที่แรงมาก เห็นผล และหวังพึ่งพุทธคุณได้แน่นอน ผู้ที่ใช้บูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่แหวน ต่างมีประสบการณ์ให้เห็นกันทุกคน เป็นที่เล่าขานกันถึงความศักดิ์สิทธิ์ในมหาพุทธานุภาพ ที่หลวงปู่แหวนปลุกเสกไว้ในวัตถุมงคล ให้เป็นสมบัติแก่ลูกหลานสืบไป มวลสารโบราณ จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แผ่นยันต์ แผ่นจาร โลหะธาตุที่เป็นมงคล แผ่นยันต์เกจิอาจารย์ทั่วประเทศและมวลสารที่้เกจิอาจารย์ปลุกเสกไว้ ”เหรียญเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ เงินเหรียญเก่า ทองคำ ทองสัมฤทธิ์ พระทองเหลือง พระพุทธรูปเก่า ทองคำเก่าและอีกมากมายไม่สามารถบรรยายได้หมดที่ผู้มีจิตศัทธานำมามอบให้ทางวัดหล่อสร้างเหรียญหลวงปู่แหวน รุ่นสร้างอนามัยพร้าว โดยทางวัดได้นำชนวนมวลสารทั้งหมดมาหล่อหลอมแล้วรีดโดยนำไปให้เกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นผลัดกันจารอักขระหลายครั้ง จากนั้นนำมาสร้างเป็น “เหรียญหลวงปู่แหวน รุ่นสร้างอนามัยพร้าว” พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยพุทธคุณจึงแรงมากๆ และมีประสบการณ์สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น นักทำมาหากินทุกประเภท มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง เหรียญรุ่นนี้มีประสบการณ์ทางด้านคุ้มครองภัยอันตรายในด้านต่างๆสูงมาก ว่ากันว่า "ยังไม่เคยเห็นใครตายเมื่อแขวนเหรียญรุ่นนี้เลย"ผิวพรรณเดิมๆทั้งด้านหน้าและด้านหลังต่อไปพลิกแผ่นดินหาก็ไม่เจอเหมาะสำหรับผู้ทำธุรกิจ ค้าขาย เสริมบารมี รุ่งเรือง เมตตา เข้าหาผู้ใหญ่ เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง พุทธคุณ เมตตา ค้าขาย เจริญรุ่งเรือง หลีกเลี่ยงสิ่งที่ร้ายให้กลับกลายเป็นดีพุทธคุณ เห็นฤทธิ์ ทางเมตตามหานิยม เจ้านายรัก ติดต่อการงานดี เห็นฤทธิ์ ด้านโชคลาภ ค้าขาย ขายของดี ขายคล่อง เงินมาไม่ขาดสายเรื่องความปลอดภัยทางรถยนต์ แคล้วคลาด ไม่มีตายโหง คงกระพันชาตรี ไว้ใจได้เห็นอภินิหารบ่อยๆ เสริมดวง หนุนดวงชะตา ด้านพุทธคุณ ผู้ใดบูชา”เหรียญหลวงปู่แหวน รุ่นสร้างอนามัยพร้าว“ จะเป็นผู้ที่จำเริญด้วย สวัสดิมงคลหาที่สุดมิได้ มีประการต่าง ๆ อาทิ ”จะเป็นผู้เลิศล้ำปราศจากภยันตรายทั้งปวง อุบัติเหตุอุบัติภัยทั้งหลาย ภัยใดที่เกิดแล้วก็จักช่วยระงับดับไป ภัยใดยังไม่เกิดก็จักแคล้วคลาดทุกประการ “จะเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยลาภ คือ สิ่งที่ได้มาโดยไม่คาดคิด จักประดังมาดุจสายธาร ไม่มีสิ้นสูญสุดเลย ”จะเป็นผู้เจริญด้วย ยศ คือ เป็นที่เคารพนับถือของคนทั้งหลาย “เมื่อเข้ารณรงค์สงครามแม้ลูกปืนจะมาเป็นห่าฝนมิอาจจะระคายผิวผู้นั้นเลย สุดยอดมวลสารพิธีปลุกเสกอย่างเข้มขลังยิ่งใหญ่ เป็นมหาโภคทรัพย์ สวดทิพยมนต์ เสกคาถา ดีเด่นในเรื่องเจริญก้าวหน้าในการงาน นิรันตรายทั่วทั้ง8ทิศ ทำมาหากินอะไรก็เจริญรุ่งเรือง หลวงปู่แหวน สุจิณโณ เกิดในตระกูลของช่างตีเหล็ก เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2430 ตรงกับวันจันทร์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือนยี่ ปีกุน ณ บ้านนาโป่ง ตำบลหนองใน(ปัจจุบันเป็นตำบลนาโป่ง) อำเภอเมือง จังหวัดเลย โดยเป็นบุตรของนายใสกับนางแก้ว รามสิริ โดยมีน้องสาวร่วมบิดา- มารดาอีกหนึ่งคนคือ นางเบ็ง ราชอักษร และบิดามารดาของท่านได้ ตั้งชื่อว่า ญาณ ซึ่งแปลว่า ปรีชา กำหนดรู้ พอท่านมีอายุ ได้ประมาณ 5 ขวบเศษ โยมมารดาของท่านก็ล้มป่วย แม้จะได้รับการดูแลเยียวยารักษาเป็นอย่างดีจากสามี แต่อาการของท่านก็มีแต่ทรงกับทรุด ในที่สุดเมื่อท่านรู้ตัวว่า คงจะไม่รอดชีวิตไปได้แน่แล้วท่านจึงได้เรียกหลวงปู่แหวน เข้าไปใกล้ แล้วกล่าวความฝากฝังเอาไว้ว่า ลูกเอํย...แม่ยินดีต่อลูก สมบัติใด ๆ ในโลกนี้ล้วน กี่โกฎก็ตามแม่ไม่ยินดี แม่จะยินดีมากถ้าลูกจะบวชให้แม่ เมื่อลูกบวชแล้วก็ให้ตายกับผ้าเหลือง ไม่ต้องสึกออกมา มีลูกมีเมียนะ... หลวงปู่แหวนพยักหน้า รับคำเท่านั้น ดวงวิญญาณของท่านก็ออกจากร่างไป มาอีกไม่นาน ดึกสงัดของค่ำคืนวันหนึ่งขณะที่คุณยายของหลวงปู่แหวนกำลังนอนหลับสนิทก็เกิดฝันประหลาด อันเป็นมงคลนิมิตหมายที่ดีงาม ท่านจึงได้นำเอาความฝันมาเล่าสู่ลูกหลานและหลวงปู่แหวนฟัง ในวันรุ่งขึ้นว่า เมื่อคืนนี้ ยายนอนหลับและได้ฝันประหลาดมาก ฝันว่าเจ้าไปนอนอยู่ในดงขมิ้น จนกระทั่งเนื้อตัวของเจ้าเหลือง อร่ามไปหมด ดูแล้วน่ารักน่าเอ็นดูยิ่งนัก ยายเห็นว่า เจ้านี้จะมีอุปนิสัยวาสนาในทางบวช ฉะนั้นยายขอให้เจ้าบวชตลอดชีวิต และขอให้ตายกับผ้าเหลือง ไม่ต้องสึกออกมามีลูกมีเมียเจ้าจะทำได้ไหม บรรพชา จากนั้น วันเวลาผ่านมาจนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2439 ท่านมีอายุได้ 9 ขวบ คุณยายของท่านที่ได้เลี้ยงดูแลเอาใจใส่มาอย่างทะนุถนอม ได้เรียกท่านพร้อมกับ หลานชายอีกคนหนึ่ง ที่เป็นญาติสนิทรุ่นราวคราวเดียวกัน เข้าไปหาแล้วพูดว่า ยายจะให้เจ้าทั้งสองบวชเป็น สามเณร เมื่อบวชแล้วไมต้องสึก เจ้าจะบวชได้ไหม ท่านหันมามองหลวงปู่แหวนอย่างตั้งใจฟังคำตอบ หลวงปู่แหวนก็พยักหน้ารับ พอใกล้เข้าพรรษา คุณยายของท่านจึงได้ตระเตรียมเครี่องบริขาร จนครบเรียบร้อยแล้ว จึงได้พาเด็กชายทั้งสองเข้าถวายตัวต่อพระอุปัชฌาย์ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้า เข้าพรรษาเป็นสามเณร ณ วัดโพธิ์ชัย พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็นเด็กชาย ญาณ เป็นสามเณร แหวนนับแต่นั้นมา ตลอดพรรษาที่ได้บรรพชา เป็นสามเณรนั้น หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ได้แต่ทำวัตร สวดมนต์ต์บ้างตามโอกาส เท่าที่พระภิกษุและ สามเณร ภายในวัดจะร่วมกันทำสังฆกรรม นอกจากนั้นก็จะใช้เวลา ไปในทางเล่นซุกซนตามประสาเด็ก ในที่สุดพระอาจารย์อ้วน ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของท่าน มองเห็นว่าหากปล่อยให้เป็นไปเช่นนี้ จะทำให้สามเณรน้อยไม่มีความรู้ จึงพาไปฝากฝังถวาย เป็นศิษย์ของท่านพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม (ที่จริงน่าจะเป็นพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโลมากกว่า เพราะหลวงปู่แหวนเกิด 16 มกราคม 2430 ส่วนพระอาจารย์สิงห์เกิด 27 มกราคม 2432 พระอาจารย์สิงห์อ่อนกว่าหลวงปู่แหวน 2 ปี ) ณ วัดบ้านสร้างถ่อ อำเภอกษมสีมา จังหวัดอุบลราชธานี เป็นที่น่าอัศจรรย์ ขณะที่พระอาจารย์อ้วนกำลังพาสามเณรน้อย เดินฝ่าเปลวแดดสีทองมุ่งหน้าเข้าสู่บริเวณวัดในยามบ่ายนั้น พระอาจารย์สิงห์ขนัง ศิษย์สำคัญสูงสุดของพระอาจารย์ใหญ่ ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานคือ พระมั่น ภูริทัตโต กำลังมองที่ร่างสามเณรน้อย พลันก็บังเกิดฤทธิ์อำนาจ แห่งอภิญญาณทำให้ท่านเห็นรัศมีเป็นแสงสว่างโอภาส เปล่งประกายออกมาจากร่างของสามเณรน้อยผู้นี้ เป็นผู้ที่มีบุญญาธิการมาเกิด ดั้งนั้นพระอาจารย์สิงห์ จึงได้ถ่ายทอดความรู้ตลอดจนข้อวัตรปฏิบัติทั้งหมดให้ การออกจาริกแสวงบุญ ปี พ.ศ. 2464 ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาธรรมกับพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) ปี พ.ศ. 2478 ได้เข้าพบ ท่านเจ้า คุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ ที่วัดเจดีย์หลวงเชียงใหม่ ในครั้งนี้ได้เปลี่ยนจากมหานิกายเป็น ธรรมยุติ และได้รับฉายาว่า สุจิณโณ จากนั้นได้ออกจาริกแสวงบุญต่อ ขณะที่ศึกษาธรรมกับพระอาจารย์มั่นฯ ที่ดงมะไฟ บ้านค้อ จังหวัดอุบลราชธานี มีศิษย์พระอาจารย์มั่นฯ ที่มีอัธยาศัย ที่ตรงกัน 2 ท่านคือ พระขาว อนาลโย และ พระตื้อ อจลธัมโม เช่นเดียวกับคราวที่ จากท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ ก็ได้ พระขาว จาริกแสวงธรรมเป็นเพื่อนจนถึงเมืองหลวงพระบาง ปีพ.ศ. 2489 หลวงปู่แหวนจำพรรษาที่วัดป่าบ้านปง อ.แม่แตง ในพรรษานั้นท่านอาพาธเป็นแผลที่ขาอักเสบต้องผ่าตัด โดยมีพระหนู สุจิตโต ซึ่งเดินทางมาจากดอยแม่ปั๋งพยายามอยู่ใกล้ๆ เมื่อครบ 7 วัน ต้องกลับไปดอยแม่ปั๋ง เพราะอยู่ระหว่างพรรษา จนกระทั่งเดือนเมษายนในปีต่อมา อาการอาพาธจึงดีขึ้นแต่ก็ยังไม่หายสนิทยังเดินไปไหนไกลๆ ไม่ได้ นับแต่นั้นมาพระหนูได้พยายามอยู่ใกล้ๆ เพื่อดูแลหลวงปู่แหวน ต่อมาพระหนูได้ดำริว่า ปัจจุบันหลวงปู่แหวนมีอายุมากแล้ว ไม่มีพระภิกษุสามเณรอยู่ด้วย เพื่อเป็นอุปัฏฐาก ถ้านิมนต์มาอยู่ที่ดอยแม่ปั๋งก็จะได้ถวายการดูแลได้โดยง่ายไม่ต้องไปๆ มาๆ อยู่อย่างนี้ แต่ก็ต้องเป็นเพียงความคิดของพระหนูเท่านั้น เพราะในเวลาดังกล่าว ดอยแม่ปั๋งยังไม่มีอะไรพร้อมแม้แต่กุฏิก็ยังไม่มีปีพ.ศ. 2505 ขณะที่หลวงปู่แหวนมีอายุ 75 ปี คืนวันหนึ่งพระหนูนั่งภาวนาอยู่เกิดเป็นเสียงหลวงปู่แหวนดังขึ้นมาที่หูว่า จะมาอยู่ด้วยคนนะ หลังจากวันที่ได้ยินเสียงหลวงปู่แหวนอีกสามวัน พระอาจารย์หนูได้ถูกนิมนต์ไปที่วัดบ้านปงสถานที่ที่หลวงปู่แหวนอยู่ และถือโอกาสนิมนต์หลวงปู่แหวนมาที่วัดดอยแม่ปั๋งด้วยเมื่อหลวงปู่แหวนได้มาอยู่ที่วัดดอยแม่ปั๋งแล้ว ครั้งแรกท่านพักอยู่ที่กุฏิหลังเล็กๆ หลังหนึ่ง การมาอยู่ที่วัดดอยแม่ปั๋งนี้ ท่านได้มีข้อตกลงกับพระอาจารย์หนูว่า หน้าที่ต่างๆ และกิจทุกอย่างที่มีขึ้นในวัด ให้ตกเป็นภาระของพระอาจารย์หนูแต่เพียงผู้เดียว ส่วนท่านจะอยู่ในฐานะพระผู้เฒ่าผู้ปฏิบัติธรรมจะไม่มีภาระใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนั้นหลวงปู่แหวนจะไม่รับนิมนต์โดยเด็ดขาด แม้ที่สุดถึงจะเกิดอาพาธหนักเพียงใดก็ตาม ท่านไม่ยอมนอนรักษาที่โรงพยาบาล ถึงธาตุขันธ์จะทรงอยู่ต่อไปไม่ได้ก็จะให้สิ้นไปในป่าอันเป็นที่อยู่ ตามอริยโคตรอริยวงศ์ ซึ่งบูรพาจารย์ท่านเคยปฏิบัติมาแล้วในกาลก่อนนับตั้งแต่หลวงปู่แหวนได้ขึ้นไปทางเหนือ ท่านไม่เคยไปจำพรรษาที่ภาคอื่นเลย เพราะอากาศทางภาคเหนือสัปปายะสำหรับท่าน หลวงปู่แหวนได้มรณภาพลงที่วัดดอยแม่ปั๋งแห่งนี้ เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2528 สิริอายุ 98 ปี |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...










อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments