หมวด พระเกจิภาคเหนือ

ลูกอมจีวรไม่ไหม้ไฟหลวงปู่จี๋แห่งวัดพระบาทมิ่งเมือง จ.แพร่

ชื่อร้านค้า	อิฐ สงขลา - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	อิฐ_สงขลา (27)
ชื่อพระเครื่อง	ลูกอมจีวรไม่ไหม้ไฟหลวงปู่จี๋แห่งวัดพระบาทมิ่งเมือง จ.แพร่
อายุพระเครื่อง	10 ปี
หมวดพระ	พระเกจิภาคเหนือ
ราคาเช่า	1,000 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	081-346-6638,081854-8799
อีเมล์ติดต่อ	itsda99@gmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	ศ. - 21 มี.ค. 2557 - 13:27.39
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ศ. - 21 มี.ค. 2557 - 13:31.26

รายละเอียด
ประวัติพระมหาโพธิวงศาจารย์ (สุจี กตสารมหาเถร) หรือ “หลวงปู่จี๋” ของพุทศานิกชนจังหวัดแพร่ นามเดิมว่า สุจี ขรวงศ์ เป็นบุตรนายฉลาดและนางผัน ขรวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2460 ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 4 ค่ำ ปีมะเส็ง ที่บ้านหมู่ที่ 6 ตำบลนาจักร อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ เข้าสู่สมณเพศด้วยการบรรพชา เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2475 ณ วัดกาญจนาราม ตำบลนาจักร อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ และอุปสมบท เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2481 ณ วัดเดียวกัน พระมหาโพธิวงศาจารย์ ได้เริ่มการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดนาจักร จนสำเร็จชั้นประถมปีที่ 5 อันเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียน และหลังจากบรรพชาแล้ว ได้ศึกษาทางธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นเอกเปรียญธรรม 3 ประโยค สำนักเรียนวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ได้รับปริญญาพุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ การบริหารการศึกษา จากสถาบันราชภัฎอุตรดิตถ์ นอกจากนั้นท่านยังมีความชำนาญในการเทศนา อ่านและเขียนภาษาล้านนาเป็นพิเศษ พระมหาโพธิวงศาจารย์ เป็นพระเถระผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่ง มีผลงานด้านการปกครองดูแล ทำนุบำรุงส่งเสริมและพัฒนาการศึกษา ศาสนา สาธารณูปการและบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่างๆ จนไม่สามารถกล่าวได้หมดทำให้ท่านได้รับเกียรติคุณยกย่องจากหลายหน่วยงาน เช่น วัดพัฒนาดีเด่น ของกรมศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ เสาเสมาธรรมจักร ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม สาขาบริหารการศึกษา เกียรติบัตรจากกรมราชทัณฑ์ ผู้บำเพ็ญประโยชน์ด้านการพัฒนาจิตใจแก่ผู้ต้องขังอย่างต่อเนื่อง เกียรติบัตรจากสภาวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ เป็นผู้ให้การสนับสนุน และส่งเสริมงานด้านวัฒนธรรมของจังหวัดแพร่ ท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์ตามลำดับตั้งแต่พระครู สัญญาบัตรชั้นพิเศษที่พระครูธรรมสารสุจิต รองเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดพระบาทมิ่งเมืองฯ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระภัทรสารมุนี พระราชาคณะชั้นราช ที่พระราชรัตนมุนี พระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพวิริยาภรณ์ พระราชาคณะชั้นธรรม ที่พระธรรมรัตนากร และพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏที่พระมหาโพธิวงศาจารย์ พระมหาโพธิวงศาจารย์เป็นพระเถระที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ใฝ่ใจในการศึกษาและทรงคุณธรรมสูงยิ่ง มีความวิริยะอุตสาหะ มุ่งมั่นในการทำงาน มีน้ำใจเมตตากรุณา เสียสละกำลังทรัพย์ กำลังกาย กำลังความคิด เพื่อพัฒนาท้องถิ่นให้ก้าวหน้า มีความซื่อสัตย์ สุจริตต่อตนเองและหมู่คณะ มีมนุษยสัมพันธ์ดี เข้าถึงจิตใจของประชาชน และเป็นที่ยอมรับของประชาชนสูง จึงควรที่คนรุ่นหลังจะได้ยึดถือเป็นแบบอย่างและรำลึกถึงท่านด้วยความเคารพ

รายละเอียด

ประวัติพระมหาโพธิวงศาจารย์ (สุจี กตสารมหาเถร) หรือ “หลวงปู่จี๋” ของพุทศานิกชนจังหวัดแพร่ นามเดิมว่า สุจี ขรวงศ์ เป็นบุตรนายฉลาดและนางผัน ขรวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2460 ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 4 ค่ำ ปีมะเส็ง ที่บ้านหมู่ที่ 6 ตำบลนาจักร อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ เข้าสู่สมณเพศด้วยการบรรพชา เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2475 ณ วัดกาญจนาราม ตำบลนาจักร อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ และอุปสมบท เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2481 ณ วัดเดียวกัน

พระมหาโพธิวงศาจารย์ ได้เริ่มการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดนาจักร จนสำเร็จชั้นประถมปีที่ 5 อันเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียน และหลังจากบรรพชาแล้ว ได้ศึกษาทางธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นเอกเปรียญธรรม 3 ประโยค สำนักเรียนวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ได้รับปริญญาพุทธศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ การบริหารการศึกษา จากสถาบันราชภัฎอุตรดิตถ์ นอกจากนั้นท่านยังมีความชำนาญในการเทศนา อ่านและเขียนภาษาล้านนาเป็นพิเศษ

พระมหาโพธิวงศาจารย์ เป็นพระเถระผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่ง มีผลงานด้านการปกครองดูแล ทำนุบำรุงส่งเสริมและพัฒนาการศึกษา ศาสนา สาธารณูปการและบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ต่างๆ จนไม่สามารถกล่าวได้หมดทำให้ท่านได้รับเกียรติคุณยกย่องจากหลายหน่วยงาน เช่น วัดพัฒนาดีเด่น ของกรมศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ เสาเสมาธรรมจักร ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม สาขาบริหารการศึกษา เกียรติบัตรจากกรมราชทัณฑ์ ผู้บำเพ็ญประโยชน์ด้านการพัฒนาจิตใจแก่ผู้ต้องขังอย่างต่อเนื่อง เกียรติบัตรจากสภาวัฒนธรรมจังหวัดแพร่ เป็นผู้ให้การสนับสนุน และส่งเสริมงานด้านวัฒนธรรมของจังหวัดแพร่

ท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์ตามลำดับตั้งแต่พระครู สัญญาบัตรชั้นพิเศษที่พระครูธรรมสารสุจิต รองเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดพระบาทมิ่งเมืองฯ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ พระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระภัทรสารมุนี พระราชาคณะชั้นราช ที่พระราชรัตนมุนี พระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพวิริยาภรณ์ พระราชาคณะชั้นธรรม ที่พระธรรมรัตนากร และพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏที่พระมหาโพธิวงศาจารย์

พระมหาโพธิวงศาจารย์เป็นพระเถระที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ใฝ่ใจในการศึกษาและทรงคุณธรรมสูงยิ่ง มีความวิริยะอุตสาหะ มุ่งมั่นในการทำงาน มีน้ำใจเมตตากรุณา เสียสละกำลังทรัพย์ กำลังกาย กำลังความคิด เพื่อพัฒนาท้องถิ่นให้ก้าวหน้า มีความซื่อสัตย์ สุจริตต่อตนเองและหมู่คณะ มีมนุษยสัมพันธ์ดี เข้าถึงจิตใจของประชาชน และเป็นที่ยอมรับของประชาชนสูง จึงควรที่คนรุ่นหลังจะได้ยึดถือเป็นแบบอย่างและรำลึกถึงท่านด้วยความเคารพ