หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525

พระกสิณ หลวงพ่อเผือก วัดพระโยค จ.สุราษฎร์ธานี ปี 2470

พระกสิณ หลวงพ่อเผือก วัดพระโยค จ.สุราษฎร์ธานี ปี 2470 - 3

พระกสิณ หลวงพ่อเผือก วัดพระโยค จ.สุราษฎร์ธานี ปี 2470 - 4

พระกสิณ หลวงพ่อเผือก วัดพระโยค จ.สุราษฎร์ธานี ปี 2470 - 5

ชื่อร้านค้า	จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jeerasit (112)
ชื่อพระเครื่อง	พระกสิณ หลวงพ่อเผือก วัดพระโยค จ.สุราษฎร์ธานี ปี 2470
อายุพระเครื่อง	98 ปี
หมวดพระ	พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ	Tayanrum@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พ. - 17 ก.ค. 2562 - 20:56.23
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ส. - 07 ก.ย. 2562 - 14:15.06

รายละเอียด
พระกสิณ หลวงพ่อเผือก วัดพระโยค จ.สุราษฎร์ธานี ปี 2470 ..ตำนาน กสิณไฟ แห่งความขลัง....แดนทักษิณ..สุราษฏร์เมืองคนดี ... พระกสิณหลวงพ่อเผือก วัดพระโยค จ.สุราษฎร์ธานี รุ่นแรก (เนื้อดินบัวตุ่ม) จัดสร้างราว ปี ๒๔๗๐ สุดคลาสสิค พระชุดนี้สร้างก่อนพระ กสิณของหลวงพ่อพัฒน์เสียอีก อาจพูดได้ว่าพระกสิณแห่งวัดพระโยค นับได้ว่าเป็นต้นแบบแห่งพุทธศิลป์ที่ออกแบบได้งดงามมาก สำหรับมวลสารนั้นหลวงพ่อเผือกได้มีการนำผงอิทธิเจเป็นส่วนผสมกับดินและทำการเผาตามแบบฉบับโบราณ ซึ่งบางองค์ท่านก็ได้เคลือบด้วยรักน้ำเกลี้ยงอีกครั้ง เพื่อความคงทน หลวงพ่อเผือก ท่านมีความเชี่ยวชาญด้านการทำผงอิทธิเจ ตลอดจนแพทย์แผนโบราณ ด้านกระดูก,เส้น และยาแผนโบราณ ท่านสำเร็จวิชากสิณไฟ นอกจากนี้ท่านเป็นอาจารย์ที่หลวงพ่อพัฒน์ให้ความเคารพเป็นอย่างมากพุทธคุณเหมือนกับหลวงพ่อพัฒน์ทุกประการ (คาดว่าช่างแกะแม่พิมพ์ น่าจะเป็นคนเดียวกันกับพระกสิณหลวงพ่อพัฒน์ก็เป็นไปได้) พระกสิณแดนใต้ หลวงปู่เผือก ปัจจุบันพบเห็นได้ยากมาก นับเป็นอีกหนึ่งตำนาน แห่งวิชากสิณไฟที่กล่าวขานกันมาแต่ช้านานของจังหวัดสุราษฎร์ธานี สุดยอดประสบการณ์ หายากน่าเก็บน่าใช้ครับ วัดพระโยคเป็นวัดเก่าในอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เดิมชื่อ วัดสระแก้ว เพราะมีสระน้ำขนาดใหญ่ ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นวัดพระโยค เนื่องจากมีเรื่องเล่ากันว่า เดิม พระประธานของวัดประดิษฐานยังใต้ต้นข่อย (ปัจจุบันบริเวณดังกล่าวคือด้านหน้าพระอุโบสถ) ชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมา เห็นพระประธานองค์ โยคไปโยคมา จึงพากันตั้งชื่อ วัดพระโยค ตั้งแต่บัดนั้นจวบจนปัจจุบัน ส่วนพระกสิณหลวงพ่อเผือกวัดพระโยค จ.สุราษฎร์ธานี เป็นอีกหนึ่งพระเครื่องยุคเก่าของลุ่มน้ำตาปี ที่มีตำนานแห่งวิชากสิณไฟที่กล่าวขานกันมาแต่ช้านานของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งสร้างใน ราวปี ๒๔๗๐-๒๔๘๐ จัดสร้างโดย หลวงปู่เผือกวัดพระโยค ซึ่งท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่พัฒน์ นารโท วัดใหม่บ้านดอน หรือวัดใหม่พัฒนาราม ในปัจจุบัน ท่านทั้งสองได้แลกเปลี่ยนวิชาความรู้กันเสมอซึ่งทั้งสองท่านก็ได้สร้าง พระกสิณแดนใต้ขึ้นมา ซึ่งพระกสินของหลวงพ่อเผือกเท่าที่พบเห็น มีสีออกโทน แดง ดำ และเนื้อขาว จัดเป็นพระเก่า พระดี ปีลึก ราคายังเบาๆ แต่พบเห็นน้อย ที่ท่านบรรจงสรรสร้างให้ลูกหลานได้ติดตัวบูชา แต่คาดว่าต่อไปแม้มีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อได้ กับสุดยอดพุทธคุณเด่นทางด้านเมตตาโชคลาภ สำหรับองค์นี้เนื้อแห้งเก่าดูง่าย สภาพสุดคลาสสิค หายากน่าเก็บน่าใช้ คุณวิเศษ หลวงพ่อเผือก เป็นพระเกจิอาจารย์ ที่ชำนาญในการ “ หุงน้ำมันด้วยคาถา” และคุณวิเศษในเรื่องการรักษาประสานกระดูกและแตกร้าวได้ด้วยคาถา…. 9.วัตถุมงคล หลวงพ่อเผือก นอกจากช่วยสงเคราะห์ชาวบ้านแล้วท่านก็ยังมีวัตถุมงคล โดยเฉพระท่านเองก็มีความเชี่ยวชาญในการทำผงอิทธิเจ จึงได้มีการสร้างพระกสินขึ้นมา พุทธคุณเด่นทางเมตตามหานิยม และเสริมวาสนาบารมี มีหลายพิมพ์ด้วยกัน คือ - พิมพ์พุ่มข้าวบิณฑ์ - พิมพ์สี่เหลี่ยม - พิมพ์กลม - พิมพ์หยดน้ำ - พิมพ์ปิดตา ส่วนเครื่องราง ของขลังอื่นๆ คงจะมีบ้างตามความปรารถนาของศิษย์ เหมือนกับพระเกจิท่านอื่นๆ #เปิดตำนาน "วิชาวิปัสสนากัมมัฏฐานขั้นสูง เตโชกสิณ (กสิณไฟ)" หนึ่งวิชาที่ได้รับการสืบทอดกันมา เท่าที่ทราบผู้ที่ศึกษาวิชากสิณไฟในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แก่ หลวงพ่อเผือก วัดพระโยค, หลวงพ่อพัฒน์ วัดใหม่, หลวงพ่อเริ่ม วัดดอนยาง, หลวงพ่อพลับ วัดธรรมบูชา.. การสร้างพระกสิณหลวงพ่อเผือก ท่านพิถีพิถันมาก อันดับแรกคือ การแกะพิมพ์ที่มีความงดงามในพุทธศิลป์ อ่อนช้อยควรค่าแก่การบูชา.. ในการจัดสร้างพระกสิณจะมีส่วนผสมอันวิเศษคือ "ผงอิทธิเจ" หลวงพ่อเผือก ศึกษาวิชาทำผงอิทธิเจมีความเชี่ยวชาญ ผงอิทธิเจที่เกิดจากการเขียนจารอักขระด้วยดินสอพอง ที่ผสมสิ่งอาถรรพ์ต่างๆ ว่าคาถาแล้วลบผงนั้น อิธะเจ หรือ อิทธิเจของเทพย์ สาริกบุตร เป็นวิชาทางไสยศาสตร์ว่าด้วยการทำผงตามคัมภีร์อิธะเจ ซึ่งเป็นหนึ่งในคัมภีร์หลักของระบบไสยศาสตร์ไทยโบราณ อันประกอบด้วยคัมภีร์ปถมัง อิธะเจ ตรีนิสิงเห และมหาราช นอกจากนั้นชื่อวิชาอิธะเจยังปรากฏอยู่ในเสภาขุนช้างขุนแผนตอนพลายงามเรียนวิชาด้วย เนื้อหาของวิชาอิธะเจคือการทำผงด้วยการตั้งตัวตามสูตรบาลีมูลกัจจายน์ ซึ่งเป็นระบบบาลีไวยากรณ์ใหญ่ที่ปัจจุบันได้ล้มเลิกไป อิธะเจมีหลายตำรับด้วยกัน แต่ที่เป็นหลักสำคัญจะตั้งตัวด้วย อิทะ อิติ อิติ อัสสา อุทัง อะหัง อัคคัง อะหัง อะหัง อิถัง อัมมะ อัสสา จากนั้นจึงกระทำตามสูตรสนธิโดยอ้างสูตรตามคัมภี์บาลีไวยากรณ์จนสำเร็จเป็น อิธเจตโสทฬฺหํคณฺหาหิถามสา เป็นอันขาดตัวในสูตรสนธิ ผงที่ได้จากการเขียนและลบอักขระตามคัมภีร์อิธะเจ เรียกว่าผงอิธะเจ เชื่อว่ามีอานุภาพทางเมตตามหานิยม เป็นเสน่ห์โดยเฉพาะแก่สตรีเพศ.

รายละเอียด

พระกสิณ หลวงพ่อเผือก วัดพระโยค จ.สุราษฎร์ธานี ปี 2470

..ตำนาน กสิณไฟ แห่งความขลัง....แดนทักษิณ..สุราษฏร์เมืองคนดี

...
พระกสิณหลวงพ่อเผือก วัดพระโยค จ.สุราษฎร์ธานี รุ่นแรก (เนื้อดินบัวตุ่ม) จัดสร้างราว ปี ๒๔๗๐ สุดคลาสสิค พระชุดนี้สร้างก่อนพระ กสิณของหลวงพ่อพัฒน์เสียอีก อาจพูดได้ว่าพระกสิณแห่งวัดพระโยค นับได้ว่าเป็นต้นแบบแห่งพุทธศิลป์ที่ออกแบบได้งดงามมาก สำหรับมวลสารนั้นหลวงพ่อเผือกได้มีการนำผงอิทธิเจเป็นส่วนผสมกับดินและทำการเผาตามแบบฉบับโบราณ ซึ่งบางองค์ท่านก็ได้เคลือบด้วยรักน้ำเกลี้ยงอีกครั้ง เพื่อความคงทน หลวงพ่อเผือก ท่านมีความเชี่ยวชาญด้านการทำผงอิทธิเจ ตลอดจนแพทย์แผนโบราณ ด้านกระดูก,เส้น และยาแผนโบราณ ท่านสำเร็จวิชากสิณไฟ นอกจากนี้ท่านเป็นอาจารย์ที่หลวงพ่อพัฒน์ให้ความเคารพเป็นอย่างมากพุทธคุณเหมือนกับหลวงพ่อพัฒน์ทุกประการ (คาดว่าช่างแกะแม่พิมพ์ น่าจะเป็นคนเดียวกันกับพระกสิณหลวงพ่อพัฒน์ก็เป็นไปได้) พระกสิณแดนใต้ หลวงปู่เผือก ปัจจุบันพบเห็นได้ยากมาก นับเป็นอีกหนึ่งตำนาน แห่งวิชากสิณไฟที่กล่าวขานกันมาแต่ช้านานของจังหวัดสุราษฎร์ธานี สุดยอดประสบการณ์ หายากน่าเก็บน่าใช้ครับ

วัดพระโยคเป็นวัดเก่าในอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เดิมชื่อ วัดสระแก้ว เพราะมีสระน้ำขนาดใหญ่ ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นวัดพระโยค เนื่องจากมีเรื่องเล่ากันว่า เดิม พระประธานของวัดประดิษฐานยังใต้ต้นข่อย (ปัจจุบันบริเวณดังกล่าวคือด้านหน้าพระอุโบสถ) ชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมา เห็นพระประธานองค์ โยคไปโยคมา จึงพากันตั้งชื่อ วัดพระโยค ตั้งแต่บัดนั้นจวบจนปัจจุบัน ส่วนพระกสิณหลวงพ่อเผือกวัดพระโยค จ.สุราษฎร์ธานี เป็นอีกหนึ่งพระเครื่องยุคเก่าของลุ่มน้ำตาปี ที่มีตำนานแห่งวิชากสิณไฟที่กล่าวขานกันมาแต่ช้านานของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งสร้างใน ราวปี ๒๔๗๐-๒๔๘๐ จัดสร้างโดย หลวงปู่เผือกวัดพระโยค ซึ่งท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่พัฒน์ นารโท วัดใหม่บ้านดอน หรือวัดใหม่พัฒนาราม ในปัจจุบัน ท่านทั้งสองได้แลกเปลี่ยนวิชาความรู้กันเสมอซึ่งทั้งสองท่านก็ได้สร้าง พระกสิณแดนใต้ขึ้นมา ซึ่งพระกสินของหลวงพ่อเผือกเท่าที่พบเห็น มีสีออกโทน แดง ดำ และเนื้อขาว จัดเป็นพระเก่า พระดี ปีลึก ราคายังเบาๆ แต่พบเห็นน้อย ที่ท่านบรรจงสรรสร้างให้ลูกหลานได้ติดตัวบูชา แต่คาดว่าต่อไปแม้มีเงินก็ใช่ว่าจะซื้อได้ กับสุดยอดพุทธคุณเด่นทางด้านเมตตาโชคลาภ สำหรับองค์นี้เนื้อแห้งเก่าดูง่าย สภาพสุดคลาสสิค หายากน่าเก็บน่าใช้
คุณวิเศษ หลวงพ่อเผือก เป็นพระเกจิอาจารย์ ที่ชำนาญในการ “ หุงน้ำมันด้วยคาถา” และคุณวิเศษในเรื่องการรักษาประสานกระดูกและแตกร้าวได้ด้วยคาถา….
9.วัตถุมงคล หลวงพ่อเผือก นอกจากช่วยสงเคราะห์ชาวบ้านแล้วท่านก็ยังมีวัตถุมงคล โดยเฉพระท่านเองก็มีความเชี่ยวชาญในการทำผงอิทธิเจ จึงได้มีการสร้างพระกสินขึ้นมา พุทธคุณเด่นทางเมตตามหานิยม และเสริมวาสนาบารมี มีหลายพิมพ์ด้วยกัน คือ
- พิมพ์พุ่มข้าวบิณฑ์
- พิมพ์สี่เหลี่ยม
- พิมพ์กลม
- พิมพ์หยดน้ำ
- พิมพ์ปิดตา
ส่วนเครื่องราง ของขลังอื่นๆ คงจะมีบ้างตามความปรารถนาของศิษย์ เหมือนกับพระเกจิท่านอื่นๆ

#เปิดตำนาน "วิชาวิปัสสนากัมมัฏฐานขั้นสูง เตโชกสิณ (กสิณไฟ)" หนึ่งวิชาที่ได้รับการสืบทอดกันมา เท่าที่ทราบผู้ที่ศึกษาวิชากสิณไฟในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แก่ หลวงพ่อเผือก วัดพระโยค, หลวงพ่อพัฒน์ วัดใหม่, หลวงพ่อเริ่ม วัดดอนยาง, หลวงพ่อพลับ วัดธรรมบูชา.. การสร้างพระกสิณหลวงพ่อเผือก ท่านพิถีพิถันมาก อันดับแรกคือ การแกะพิมพ์ที่มีความงดงามในพุทธศิลป์ อ่อนช้อยควรค่าแก่การบูชา.. ในการจัดสร้างพระกสิณจะมีส่วนผสมอันวิเศษคือ "ผงอิทธิเจ" หลวงพ่อเผือก ศึกษาวิชาทำผงอิทธิเจมีความเชี่ยวชาญ ผงอิทธิเจที่เกิดจากการเขียนจารอักขระด้วยดินสอพอง ที่ผสมสิ่งอาถรรพ์ต่างๆ ว่าคาถาแล้วลบผงนั้น
อิธะเจ หรือ อิทธิเจของเทพย์ สาริกบุตร เป็นวิชาทางไสยศาสตร์ว่าด้วยการทำผงตามคัมภีร์อิธะเจ ซึ่งเป็นหนึ่งในคัมภีร์หลักของระบบไสยศาสตร์ไทยโบราณ อันประกอบด้วยคัมภีร์ปถมัง อิธะเจ ตรีนิสิงเห และมหาราช นอกจากนั้นชื่อวิชาอิธะเจยังปรากฏอยู่ในเสภาขุนช้างขุนแผนตอนพลายงามเรียนวิชาด้วย เนื้อหาของวิชาอิธะเจคือการทำผงด้วยการตั้งตัวตามสูตรบาลีมูลกัจจายน์ ซึ่งเป็นระบบบาลีไวยากรณ์ใหญ่ที่ปัจจุบันได้ล้มเลิกไป อิธะเจมีหลายตำรับด้วยกัน แต่ที่เป็นหลักสำคัญจะตั้งตัวด้วย อิทะ อิติ อิติ อัสสา อุทัง อะหัง อัคคัง อะหัง อะหัง อิถัง อัมมะ อัสสา จากนั้นจึงกระทำตามสูตรสนธิโดยอ้างสูตรตามคัมภี์บาลีไวยากรณ์จนสำเร็จเป็น อิธเจตโสทฬฺหํคณฺหาหิถามสา เป็นอันขาดตัวในสูตรสนธิ ผงที่ได้จากการเขียนและลบอักขระตามคัมภีร์อิธะเจ เรียกว่าผงอิธะเจ เชื่อว่ามีอานุภาพทางเมตตามหานิยม เป็นเสน่ห์โดยเฉพาะแก่สตรีเพศ.