หมวด เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540

เหรียญหลวงพ่อเขียว วัดกลางวงศ์มณี จ.พิจิตร 2

เหรียญหลวงพ่อเขียว วัดกลางวงศ์มณี จ.พิจิตร 2 - 3

เหรียญหลวงพ่อเขียว วัดกลางวงศ์มณี จ.พิจิตร 2 - 5

ชื่อร้านค้า	จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jeerasit (112)
ชื่อพระเครื่อง	เหรียญหลวงพ่อเขียว วัดกลางวงศ์มณี จ.พิจิตร 2
อายุพระเครื่อง	44 ปี
หมวดพระ	เหรียญปั๊ม ปี 2521 ถึง 2540
ราคาเช่า	350 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ	Tayanrum@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	อา. - 12 ม.ค. 2563 - 21:30.59
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	อา. - 12 ม.ค. 2563 - 21:30.59

รายละเอียด
เหรียญหลวงพ่อเขียว วัดกลางวงศ์มณี จ.พิจิตร 2 กรมนาวิกโยธิน สร้าง ปี 2524 เหรียญ สวย ผิวเดิม...ดู เหรียญที่ มีลงประมูลได้ครับ... เหรียญนี้ สวยกว่ามาก ผิวเดิม ๆ ไม่ผ่านการใช้ ..ประวัติหลวงพ่อเขียว... หลวงพ่อเขียวท่านจมอยู่ใต้ดินมานานกี่ปีไม่มีใครทราบ จนกระทั่งวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๔๙ ได้มีตำรวจสายตรวจใน ส.ภ.อ. สามง่าม ซึ่งมาตรวจประจำในตำบลนี้ และมีหนึ่งในสายตรวจนั้นเป็นร่างทรงของหลวงพ่อปู่เมืองเก่าพิจิตร ได้มาเข้าทรงบอกชาวบ้านว่า ที่นาของนายธูป มีสระน้ำเก่าและต้นโพธิ์ ๑ ต้น เลยจากที่นั่นไปประมาณ ๒ เส้นกว่า ๆ มีต้นโพธิ์ ๔ ต้น หนองน้ำใหญ่น้ำไม่แห้งในฤดูแล้งขวางตะวันอยู่ สถานที่ดังกล่าวชาวบ้านเรียกว่า “ทุ่งหนองสกัด” ที่ดังกล่าวเดิมเคยเป็นเมืองเก่าสมัยทวาราวดี (ขอม) ที่กำลังรุ่งโรจน์ แต่ได้ถูกข้าศึกตีแตกชาวเมืองได้พากันทิ้งเมืองหนีกระเจิดกระเจิงอลหม่านเพื่อเอาตัวรอดพร้อมเจ้าเมือง ซึ่งเจ้าเมืองได้ฝังสมบัติไว้ใต้เสาประตูเมืองก่อนที่จะหลบหนีไป เมื่อได้ฟังเรื่องราวจากร่างทรงฯ ทางตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านพร้อมชาวบ้านห้วยห้าง ไหล่โก โนนไร่ หนองตะเข้ จึงได้พร้อมใจกันไปทำพิธีบวงสรวงและทำการขุดค้นหาหลักฐานดังกล่าว โดยขุดลึกลงไปประมาณ ๘ ศอก ก็ไม่พบเจออะไร อยู่ต่อมาอีก ๒-๓ วัน ร่างทรงของพ่อปู่ได้เข้าทรงอีกครั้ง และบอกให้ชาวบ้านทำพิธีขุดใหม่อีก ๑ วัน ๑ คืน ก็ไม่เจออะไรอีกจึงเลิกขุด เมื่อถึงฤดูทำนา ชาวนาก็เริ่มทำนากันตามปกติ วันหนึ่งนายสวนผู้เช่านานายธูป หลังจากไถนาเสร็จ นายสวนได้มองไปในสถานที่ขุดสมบัติ นั้น ซึ่งก็เห็นแต่น้ำเกือบครึ่งหลุมพร้อมอิฐและดินที่พังลงไปใต้หลุมเพราะฝนตก แต่เมื่อนายสวนเหลือบมาอีกครั้งก็มองเห็นสิ่งหนึ่งที่กองรวมอยู่กับก้อนอิฐซึ่งซ้อนกันระเนระนาดที่พังและแตกระแหงนั้น นายสวนจึงเรียกชาวบ้านที่ทำนาอยู่ใกล้ ๆ และลูกเขยช่วยกันขุดเอาวัตถุสิ่งนั้นขึ้นมาจากหลุม ล้างน้ำ จึงทราบว่าเป็นพระพุทธรูปปางนาคปกเนื้อหินสีเขียวแกะสลักเป็นวัตถุโบราณศิลปะสมัยลพบุรี (ขอม)ประมาณอายุได้ ๑,๒๐๐ ปี โดยพระมีขนาดหน้าตักกว้าง ๑๐ นิ้ว สูง ๒๗ นิ้ว ชาวบ้านเรียกพระพุทธรูปที่ขุดขึ้นมาได้ว่าหลวงพ่อเขียวและได้สร้างมณฑปไว้ในบริเวณวัดและได้นิมนต์ท่านไปประจำในมณฑปดังกล่าว ต่อมาได้มีคนร้ายมาโจรกรรมแต่เอาท่านไปไม่ได้เพราะทางวัดและชาวบ้านตื่นมาเสียก่อน คนร้ายหลบหนีไปได้ ครั้งที่ ๒ มีคนร้ายมาปล้นอีกแต่ก็เอาไปไม่ได้ ครั้งที่ ๓ เมื่อคืนข้างขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๐ ปี ๒๕๒๕ ก็มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้มาโจรกรรมตัดประตูเหล็ก ๕ ชั้น ขโมยเอาหลวงพ่อเขียวไปจนได้ ต่อมาโทรทัศน์ช่อง ๗ สี มีข่าวการพบพระพุทธรูปรูปนี้ กรรมการวัดและชาวบ้านเมื่อได้รับข่าวต่างดีอกดีใจจึงได้เดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อรับหลวงพ่อคืนกลับมาที่วัด แต่ต่อมาก็ได้มีผู้มาขโมย ไปอีกจนกระทั้งปัจจุบันไม่ทราบว่าหลวงพ่อท่านถูกโจรกรรมไปอยู่ ณ ที่แห่งใด

รายละเอียด

เหรียญหลวงพ่อเขียว วัดกลางวงศ์มณี จ.พิจิตร 2

กรมนาวิกโยธิน สร้าง ปี 2524

เหรียญ สวย ผิวเดิม...ดู เหรียญที่ มีลงประมูลได้ครับ...

เหรียญนี้ สวยกว่ามาก ผิวเดิม ๆ ไม่ผ่านการใช้

..ประวัติหลวงพ่อเขียว...
หลวงพ่อเขียวท่านจมอยู่ใต้ดินมานานกี่ปีไม่มีใครทราบ จนกระทั่งวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๔๙ ได้มีตำรวจสายตรวจใน ส.ภ.อ. สามง่าม ซึ่งมาตรวจประจำในตำบลนี้ และมีหนึ่งในสายตรวจนั้นเป็นร่างทรงของหลวงพ่อปู่เมืองเก่าพิจิตร ได้มาเข้าทรงบอกชาวบ้านว่า ที่นาของนายธูป มีสระน้ำเก่าและต้นโพธิ์ ๑ ต้น เลยจากที่นั่นไปประมาณ ๒ เส้นกว่า ๆ มีต้นโพธิ์ ๔ ต้น หนองน้ำใหญ่น้ำไม่แห้งในฤดูแล้งขวางตะวันอยู่ สถานที่ดังกล่าวชาวบ้านเรียกว่า “ทุ่งหนองสกัด” ที่ดังกล่าวเดิมเคยเป็นเมืองเก่าสมัยทวาราวดี (ขอม) ที่กำลังรุ่งโรจน์ แต่ได้ถูกข้าศึกตีแตกชาวเมืองได้พากันทิ้งเมืองหนีกระเจิดกระเจิงอลหม่านเพื่อเอาตัวรอดพร้อมเจ้าเมือง ซึ่งเจ้าเมืองได้ฝังสมบัติไว้ใต้เสาประตูเมืองก่อนที่จะหลบหนีไป เมื่อได้ฟังเรื่องราวจากร่างทรงฯ ทางตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านพร้อมชาวบ้านห้วยห้าง ไหล่โก โนนไร่ หนองตะเข้ จึงได้พร้อมใจกันไปทำพิธีบวงสรวงและทำการขุดค้นหาหลักฐานดังกล่าว โดยขุดลึกลงไปประมาณ ๘ ศอก ก็ไม่พบเจออะไร อยู่ต่อมาอีก ๒-๓ วัน ร่างทรงของพ่อปู่ได้เข้าทรงอีกครั้ง และบอกให้ชาวบ้านทำพิธีขุดใหม่อีก ๑ วัน ๑ คืน ก็ไม่เจออะไรอีกจึงเลิกขุด เมื่อถึงฤดูทำนา ชาวนาก็เริ่มทำนากันตามปกติ วันหนึ่งนายสวนผู้เช่านานายธูป หลังจากไถนาเสร็จ นายสวนได้มองไปในสถานที่ขุดสมบัติ นั้น ซึ่งก็เห็นแต่น้ำเกือบครึ่งหลุมพร้อมอิฐและดินที่พังลงไปใต้หลุมเพราะฝนตก แต่เมื่อนายสวนเหลือบมาอีกครั้งก็มองเห็นสิ่งหนึ่งที่กองรวมอยู่กับก้อนอิฐซึ่งซ้อนกันระเนระนาดที่พังและแตกระแหงนั้น นายสวนจึงเรียกชาวบ้านที่ทำนาอยู่ใกล้ ๆ และลูกเขยช่วยกันขุดเอาวัตถุสิ่งนั้นขึ้นมาจากหลุม ล้างน้ำ จึงทราบว่าเป็นพระพุทธรูปปางนาคปกเนื้อหินสีเขียวแกะสลักเป็นวัตถุโบราณศิลปะสมัยลพบุรี (ขอม)ประมาณอายุได้ ๑,๒๐๐ ปี โดยพระมีขนาดหน้าตักกว้าง ๑๐ นิ้ว สูง ๒๗ นิ้ว ชาวบ้านเรียกพระพุทธรูปที่ขุดขึ้นมาได้ว่าหลวงพ่อเขียวและได้สร้างมณฑปไว้ในบริเวณวัดและได้นิมนต์ท่านไปประจำในมณฑปดังกล่าว ต่อมาได้มีคนร้ายมาโจรกรรมแต่เอาท่านไปไม่ได้เพราะทางวัดและชาวบ้านตื่นมาเสียก่อน คนร้ายหลบหนีไปได้ ครั้งที่ ๒ มีคนร้ายมาปล้นอีกแต่ก็เอาไปไม่ได้ ครั้งที่ ๓ เมื่อคืนข้างขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๐ ปี ๒๕๒๕ ก็มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้มาโจรกรรมตัดประตูเหล็ก ๕ ชั้น ขโมยเอาหลวงพ่อเขียวไปจนได้ ต่อมาโทรทัศน์ช่อง ๗ สี มีข่าวการพบพระพุทธรูปรูปนี้ กรรมการวัดและชาวบ้านเมื่อได้รับข่าวต่างดีอกดีใจจึงได้เดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อรับหลวงพ่อคืนกลับมาที่วัด แต่ต่อมาก็ได้มีผู้มาขโมย ไปอีกจนกระทั้งปัจจุบันไม่ทราบว่าหลวงพ่อท่านถูกโจรกรรมไปอยู่ ณ ที่แห่งใด