-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525
หลวงพ่อ ผุด วัดนางนองวรวิหาร กทม




ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | หลวงพ่อ ผุด วัดนางนองวรวิหาร กทม |
อายุพระเครื่อง | - |
หมวดพระ | พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525 |
ราคาเช่า | 250 บาท |
เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | พ. - 01 เม.ย. 2563 - 22:04.32 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | พฤ. - 20 ต.ค. 2565 - 14:56.25 |
รายละเอียด | |
---|---|
หลวงพ่อ ผุด วัดนางนองวรวิหาร กทม วัดนางนอง เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในเขตบางขุนเทียน จะเห็นได้จากที่ตั้งวัด วัสดุการก่อสร้างวัด ปูชนียวัตถุ ล้วนแต่มีการก่อสร้างอย่างประณีตบรรจงเช่น พระอุโบสถ พระวิหาร พระปรางค์ พระเจดีย์ ตลอดจนพระประธานทรงเครื่องในพระอุโบสถ วัดนางนองนี้ เดิมอยู่ริมคลองด่าน การสัญจรไปมาใช้เส้นทางคลองด่านเป็นหลัก หน้าวัดจึงได้หันสู่คลอง ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกมิได้หันไปทางทิศตะวันออก แต่ต่อมาเมื่อมีการตัดถนน การสัญจรทางน้ำลดความสำคัญลง สภาพของก็เปลี่ยนไป ทางเข้าวัดได้เปลี่ยนมาเป็นทางด้านถนนวุฒากาศ การก่อสร้างวัดนี้ ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเริ่มสร้างในสมัยใด สันนิษฐานจากรูปแบบของศิลปะที่พบในวัด ควรจะสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และได้บูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อ พ.ศ. 2375 ได้โปรดเกล้าฯ ให้รื้อของเก่าแล้วปฏิสังขรณ์ใหม่ทั่วทั้งพระอาราม ดังจะเห็นได้จากพระอุโบสถ พระวิหาร พระเจดีย์ ศาลาหน้าวัดล้วนเป็นทรงเก๋งจีน พร้อมทั้งศิลปกรรมที่ปั้นลม หน้าบัน ประตู หน้าต่าง พระประธานในพระอุโบสถพร้อมทั้งลายฝาผนังลายรดน้ำ รูปทรงศิลปะไทยจีนประยุกต์ รัชกาลที่ 3 ทรงบูรณะวัดนางนองนี้ เพราะวัดนี้ตั้งอยู่ในบริเวณที่ชื่อว่า บางนางนอง ซึ่งเป็นนิวาสสถานเดิมของสมเด็จพระศรีสุลาลัย หรือเจ้าจอมมรดาเรียม พระราชชนนีของท่าน ก่อนที่ตระกูลของสมเด็จพระศรีสุลาลัยจะข้ายข้ามคลองไปตั้งถิ่นฐานบริวณวัดหนัง ใช้เวลาปฏิสังขรณ์หลายปีจึงแล้วเสร็จได้สถาปนาเป็นพระอารามหลวงพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคไปประกอบพิธีผูกพัทธสีมาพระอุโบสถในวันที่ 19 พ.ย. 2385 วัดนางนองนี้เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่วัดหนึ่งหันไปทางทิศตะวันตกตามทางสัญจร คือคลองด่านสิ่งปลูกสร้างแบ่งเป็นเขตพุทธาวาส และสังฆาวาส เขตพุทธวาสมีถาวรวัตถุ พระอุโบสถ พระวิหาร เจดีย์ทรงปรางค์ เจดีย์ทรงเครื่องโดยมีแผนผังตามแนวแกนหลักคือ พระอุโบสถเป็นประธานของวัด อยู่ด้านหลังสุด หน้าพระอุโบสถมีเจดีย์ทรงเครื่องขนาดใหญ่ ด้านซ้ายและขวาของเจดีย์มีวิการคู่ ส่วนของวิหาร ทั้งสองหลังยังมีเจดีย์ทรงปรางค์ตั้งอยู่ด้านหลังและมีกำแพงแก้วร้อมรอบ ลักษณะของผังแบบนี้ ถือเป็นรูปแบบหนึ่งของงานสร้างวัดในสมัยรัชกาลที่ 3 พระพุทธมหาจักรพรรดิ พระประธานในพระอุโบสถ คือ พระพุทธรูปสำริดปิดทอง เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องปางมารวิชัยพระนาม “พระพุทธมหาจักรพรรดิ” พระพักตร์พุทธศิลป์อย่างสมัยสุโขทัย หน้าตักกว้าง 2 เมตร 25 เซนติเมตร เครื่องทรงที่ประดับทุกชิ้นแยกออกจากองค์พระ สวมทับลงไว้ ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีปั้นลายปิดทองประดับกระจก เป็นงานประติกมากรรมชิ้นเยี่ยมในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวที่มีความงามวิจิตรอลังการปลูกความเลื่อมใสศัทธาแก่ผู้เข้ามาสักการะ มีประวัติสำคัญคือได้มีการนำมงกุฎของพระพุทธรูปที่วัดนางนองไปประดิษฐานยังยอดของตรีศูลพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามภายหลังจึงมีการสร้างถวายคืนให้ในรัชกาลของพระองค์ พระอุโบสถ ภาพจิตรกรรมในพระอุโบสถ งานจิตรกรรมภายในพระอุโบสถมีหลายเรื่องอันประกอบด้วยที่ผนังพระอุโบสถส่วนบนเหนือกรอบหน้าต่างทุกด้าน เขียนเรื่อง ชมพูบดีศูตร เป็นงานเขียนสีลงบนฝาผนัง ระหว่างหน้าต่างเป็นงานเขียนบนรักอย่างจีนที่เรียกว่าลายกำมะลอ เรื่องสามก๊ก ระหว่างบานประตูเป็นภาพสำคัญคือ ฮก ลก ซิ่ว พร้อมทั้งเครื่องมงคล ตามรัชกาลที่ 3 ที่สมบูรณ์อีกแห่งหนึ่ง ในกรอบกระจำเป็นนิยายจีน จิตรกรรมประดับบานประตู หน้าต่าง และบานแผละ เป็นลายรดน้ำที่บานประตูเขียนเรื่องรามเกียรติ์ บานหน้าต่างเขียนภาพเทพในศาสนาฮินดูที่นำมาใช้เป็นงานประดับและทวารบาลอย่างไทย บานแผละเขียนเป็นภาพมงคลที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ได้แก่ เครื่องราชกุธภัณฑ์ คือ พระมหามงกุฎ ธารพระกร พระแสงขรรค์ชัยศรี พัดวาลวีชนี พระแส้ และฉลองพระบาทเครื่องสูง ภาพเขียนภายในพระอุโบสถลบเลือนมากวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นพุทธประวัติตอนชมพูบดีสูตร คือตอนพระพุทธเจ้าทรมาณพระยามหาชมพูเป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างานจิตรกรรมกับพระพุทธรูปที่เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง ซึ่งหมายถึงปางทรมานพญามหาชมพู พระวิหารด้านเหนือ เป็นสถาปัตยกรรมที่ไดัรับอิทธิพลมาจากจีนพระวิหารด้านขวา หรือวิหารหลังทิศเหนือ เรียกกันว่า"วิหารหลวงพ่อผุด" มีกำแพงแก้วล้อม ซุ้มประตูเป็นประตูโค้ง สมัยเมื่อเจ้าอาวาสองค์ที่ 4 วัดนางนองวรวิหารมีสภาพชำรุดทรุดโทรม เฉพาะวิหารคู่ด้านเหนือ และใต้นั้น ได้บูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่ในสมัยของพระราชรัตนโสภณ เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันทั้งหมดได้มีการสันนิษฐานว่า พระวิหารหลังนี้น่าจะเป็นพระอุโบสถหลังเดิม ก่อนการบูรณะปฏิสังขรณ์ในรัชกาลที่ 3 พระประธานอุโบสถเดิมคือ องค์หลัง ชาวบ้านยุคหลังเรียกว่า "หลวงพ่อผาด" เพื่อคล้องกับหลวงพ่อผุด ส่วนหลวงพ่อผุด เป็นพระพุทธรูปหินทรายจมดินอยู่ เล่ากันว่า สายฟ้าลงบริเวณที่จม ดินจึงเกิดรอยแยกออก จึงมองเห็นพระพุทธรูปชาวบ้านจึงเรียกนามท่านว่าหลวงพ่อผุด ประดิษฐานอยู่หน้าหลวงพ่อผาด พระประธานองค์เดิม ลักษณะเป็นหินทรายลงรักปิดทอง พระวิหารด้านใต้หรือศาลาการเปรียญ พระวิหารด้านซ้าย หรือวิหารหลังทิศใต้ ประโยชน์ใช้สอยคือเป็นสถานที่เล่าเรียนของพระภิกษุสงฆ์ สมัยโบราณเรียกว่า ศาลาการเปรียญ ปัจจุบันอาคารหลังนี้ยังคงเป็นสถานที่เล่าเรียนของพระภิกษุในวัด จึงเรียกว่า ศาลาการเปรียญ ขนาดอาคารไล่เลี่ยกับวิหารหลวงพ่อผุด หน้าบันเป็นศิลปะจีนลายมังกรล่อแก้ว ภายในมีพระประธานขนาดใหญ่ และเก็บรักษาพระพุทธรูปยืนอีกจำนวนไม่น้อยพระวิหาร ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...










อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments