หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525

พระผงสุพรรณ หลวงพ่อ พยุง วัดบัลลังก์ จ.สุพรรณบุรี

พระผงสุพรรณ หลวงพ่อ พยุง วัดบัลลังก์ จ.สุพรรณบุรี - 3

พระผงสุพรรณ หลวงพ่อ พยุง วัดบัลลังก์ จ.สุพรรณบุรี - 4

ชื่อร้านค้า	จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jeerasit (112)
ชื่อพระเครื่อง	พระผงสุพรรณ หลวงพ่อ พยุง วัดบัลลังก์ จ.สุพรรณบุรี
อายุพระเครื่อง	29 ปี
หมวดพระ	พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ	Tayanrum@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	อา. - 14 มิ.ย. 2563 - 21:35.29
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	อา. - 14 ม.ค. 2567 - 14:43.48

รายละเอียด
พระผงสุพรรณ หลวงพ่อ พยุง วัดบัลลังก์ จ.สุพรรณบุรี สวยเดิม มีเกษา ข้อมูลจาก เพจ ศิษย์หลวงพ่อพยุง สุนฺทโร วัดบัลลังก์ จ.สุพรรณบุรี 8 มิถุนายน 2016 · แชร์กับ สาธารณะ #ประวัติการสร้างพระผงสุพรรณของวัดบัลลังก์ปี ๒๕๓๙ เป็นที่ทราบกันดีว่า ถ้าหากพูดถึงจังหวัดสุพรรณบุรีแล้ว ก็จะไม่มีใครไม่รู้จักพระผงสุพรรณ เพราะพระผงสุพรรณเป็นพระที่ขึ้นชื่ออันดับหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรี ดังนั้นพระเกจิคณาจารย์วัดต่างๆของสุพรรณ ก็นิยมสร้างพระผงสุพรรณด้วยเช่นกัน วัดบัลลังก์เป็นวัดหนึ่งที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี และหลวงพ่อก็เป็นพระเถระที่มีชื่อเสียงเกรียติคุณเป็นที่นับถือของชนทุกชั้น ซึ่งในบรรดาศิษย์หลวงพ่อนั้น ก็มีหลายท่านนิยมพระผงสุพรรณ แต่เนื่องด้วยพระผงสุพรรณที่แตกกรุในวัดพระศรีมหาธาตุนั้น มีราคาแพงมากและไม่สามารถจะหามาบูชาได้ ด้วยความเคารพหลวงพ่อ จึงขอร้องให้หลวงพ่อสร้างพระผงสุพรรณขึ้นมาบ้าง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นของเก่าแก่ ขอเพียงให้เป็นของหลวงพ่อก็พอใจแล้ว เมื่อสานุศิษย์ของร้อง หลวงพ่อจึงให้ช่างแกะพิมพ์พระผงสุพรรณมาและมอบผงปลุกเสกให้พระไปปั๊มออกมา โดยใช้ผงธูป ผสมเกษรดอกไม้บูชาหลวงพ่อแท่น และว่าน ๑๐๘ ชนิดเป็นมวลสาร เมื่อหลวงพ่อปลุกเสกอธิฐานจิตไว้ดีแล้วจึงแจกจ่ายให้สานุศิษย์นำไปบูชา ต่อมาในปีเดียวกันนั้นฝนแล้ง น้ำในสระหลังวัดเริ่มแห้งลง คืนหนึ่งหลังออกพรรษาได้ไม่นาน หลังจากที่ท่านสรงน้ำแล้วหลวงพ่อได้เข้ากุฏินั่งทำสมาธิจิตถึงอภิญญาและเข้าสมาบัติ ในคืนนั้นท่านได้เห็นพระอรหันต์ ๓ รูปลงมาล้างมือในสระหลังวัดนั้น รุ่งเช้าท่านจึงบอกให้พระเณรไปดูที่สระหลังวัดว่ามีอะไรผิดปกติบ้างหรือไม่ เมื่อพระ-เณรได้รับคำสั่งจากหลวงพ่อก็รีบไปดูตามที่ท่านบอก ก็ไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติ นอกจากน้ำในสระแห้ง จนดินโคลนโผล่ขึ้นมา จึงลงไปดูใกล้ๆ เมื่อหยิบดินที่แห้งแล้วมาดูก็สังเกตเห็นว่า ไม่เหมือนดินโคลนทั่วไป เพราะดินในสระนี้ไม่มีกรวดหรือทรายผสมอยู่เลย เป็นดินเนื้อละเอียด กรอบ จึงลองชิมดู ปรากฏว่าดินในสระนั้นกินได้ นอกจากไม่มีกรวดทรายแล้วยังมีรสชาติ มันกรอบอีกด้วย แต่ถ้าเคี้ยวเมื่อไหร่ จะเหนียวติดฟันคล้ายน้ำตาลเคี่ยว จึงเก็บมาให้หลวงพ่อดู เมื่อหลวงพ่อได้พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง จึงบอกว่า กินได้พระอรหันต์ท่านมาล้างมือแล้วอธิฐานให้เป็นยา เมื่อข่าวว่าดินในสระวัดบัลลังก์มีลักษณะแปลกและยังกินได้ จากปากต่อปากจึงกระจายไปอย่างรวดเร็ว คนที่ไหนต่อที่ไหนก็พากันมา บางคนก็มาเพราะอยากรู้อยากเห็น บางคนก็มาเพราะอยากได้ไปกินไปทาเพื่อรักษาโรค ในปีนั้นมีผู้คนมาเก็บดินในสระไปวันๆหนึ่งประมาณพันกว่าคน และมากันทุกวัน จนเป็นข่าวดังและได้มีนักข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเดินทางมาทำข่าว และนำไปเขียนข่าวทำนองว่า หากใครกินจะเป็นอันตรายเพราะไม่สะอาดและอาจจะมีสารตกค้างอยู่ในดินและไม่มี อย.รับรอง อย่าหลงเชื่อและก็ยังเขียนข่าวเกินจริงไปอีกมากมาย แต่ข่าวนั้นก็ไม่ได้ทำให้กระแสมหาชนที่เดินทางมาลดลงเลย เพราะความศรัทธาอย่างหนึ่ง และนำไปกินไปทาแล้วได้ผลอย่างหนึ่ง จึงยังมีผู้คนเดินทางมาเก็บจนดินในสระหมดไป จะเหลือบ้างก็ที่ป่นๆแตกๆเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทางวัดจึงไปเก็บมาลองทำเป็นพระผงสุพรรณ และพระไพรีพินาศ เนื่องจากว่า ดินชนิดนี้มีความละเอียดสูงก็จริงจะฟูขยายตัวเมื่อเวลาถูกน้ำ และจะหดตัวลงเมื่อเวลาแห้งสนิท เวลาปั๊มเข้าพิมพ์ออกมาแล้ว พระจะหดตัวเล็กลงกว่าพิมพ์ปกติ จึงทำให้พระผงสุพรรณที่ทำจากดินในสระนั้นมีสภาพเล็กลงกว่าองค์ที่ปั๊มด้วยผงเกษร ทั้งๆที่เป็นแม่พิมพ์อันเดียวกัน เพราะเมื่อนำมาวางข้างๆกันแล้วจะเห็นได้ชัดเจน เนื่องจากดินนั้นนำมาทำพระแล้วมีสภาพไม่คงตัวและยังกรอบหักง่าย จึงทำไว้เพียงเล็กน้อย ไม่ได้ทำจำหน่ายจ่ายแจกแบบพระรุ่นอื่นๆ ที่นำมาลงนี้ก็เพื่อให้สานุศิษย์ที่สนใจเรื่องวัตถุมงคลได้ศึกษา ความเป็นมาของพระรุ่นนี้และความเป็นมาของดินในสระมงคลของวัดบัลลังก์ ซึ่งหลังจากปี ๒๕๓๙ มานั้นก็ไม่เคยมีเหตุการณ์ว่าจะมีดินส่วนใหนของวัดบัลลังก์จะมีลักษณะเช่นนั้นอีกเลยจนถึงปัจจุบัน จึงนับได้ว่า เป็นเพราะบุญบารมีของหลวงพ่อ จึงเกิดมีสิ่งที่ไม่เคยมีมาให้สานุศิษย์ได้พบได้เห็นและยังได้ประจักษ์ใน สภาวจิตอันเป็นทิพย์ของท่าน จากเรื่องราวเหล่านี้ผู้เขียนก็ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยจึงได้ เรียบเรียงบทความตามที่เป็นมาเพื่อนำมาเผยแผ่ให้ทุกท่านได้ศึกษากัน

รายละเอียด

พระผงสุพรรณ หลวงพ่อ พยุง วัดบัลลังก์ จ.สุพรรณบุรี

สวยเดิม มีเกษา

ข้อมูลจาก เพจ ศิษย์หลวงพ่อพยุง สุนฺทโร วัดบัลลังก์ จ.สุพรรณบุรี

8 มิถุนายน 2016 · แชร์กับ สาธารณะ

#ประวัติการสร้างพระผงสุพรรณของวัดบัลลังก์ปี ๒๕๓๙

เป็นที่ทราบกันดีว่า ถ้าหากพูดถึงจังหวัดสุพรรณบุรีแล้ว ก็จะไม่มีใครไม่รู้จักพระผงสุพรรณ เพราะพระผงสุพรรณเป็นพระที่ขึ้นชื่ออันดับหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรี ดังนั้นพระเกจิคณาจารย์วัดต่างๆของสุพรรณ ก็นิยมสร้างพระผงสุพรรณด้วยเช่นกัน วัดบัลลังก์เป็นวัดหนึ่งที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสุพรรณบุรี และหลวงพ่อก็เป็นพระเถระที่มีชื่อเสียงเกรียติคุณเป็นที่นับถือของชนทุกชั้น ซึ่งในบรรดาศิษย์หลวงพ่อนั้น ก็มีหลายท่านนิยมพระผงสุพรรณ แต่เนื่องด้วยพระผงสุพรรณที่แตกกรุในวัดพระศรีมหาธาตุนั้น มีราคาแพงมากและไม่สามารถจะหามาบูชาได้ ด้วยความเคารพหลวงพ่อ จึงขอร้องให้หลวงพ่อสร้างพระผงสุพรรณขึ้นมาบ้าง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นของเก่าแก่ ขอเพียงให้เป็นของหลวงพ่อก็พอใจแล้ว เมื่อสานุศิษย์ของร้อง หลวงพ่อจึงให้ช่างแกะพิมพ์พระผงสุพรรณมาและมอบผงปลุกเสกให้พระไปปั๊มออกมา โดยใช้ผงธูป ผสมเกษรดอกไม้บูชาหลวงพ่อแท่น และว่าน ๑๐๘ ชนิดเป็นมวลสาร เมื่อหลวงพ่อปลุกเสกอธิฐานจิตไว้ดีแล้วจึงแจกจ่ายให้สานุศิษย์นำไปบูชา ต่อมาในปีเดียวกันนั้นฝนแล้ง น้ำในสระหลังวัดเริ่มแห้งลง คืนหนึ่งหลังออกพรรษาได้ไม่นาน หลังจากที่ท่านสรงน้ำแล้วหลวงพ่อได้เข้ากุฏินั่งทำสมาธิจิตถึงอภิญญาและเข้าสมาบัติ ในคืนนั้นท่านได้เห็นพระอรหันต์ ๓ รูปลงมาล้างมือในสระหลังวัดนั้น รุ่งเช้าท่านจึงบอกให้พระเณรไปดูที่สระหลังวัดว่ามีอะไรผิดปกติบ้างหรือไม่ เมื่อพระ-เณรได้รับคำสั่งจากหลวงพ่อก็รีบไปดูตามที่ท่านบอก ก็ไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติ นอกจากน้ำในสระแห้ง จนดินโคลนโผล่ขึ้นมา จึงลงไปดูใกล้ๆ เมื่อหยิบดินที่แห้งแล้วมาดูก็สังเกตเห็นว่า ไม่เหมือนดินโคลนทั่วไป เพราะดินในสระนี้ไม่มีกรวดหรือทรายผสมอยู่เลย เป็นดินเนื้อละเอียด กรอบ จึงลองชิมดู ปรากฏว่าดินในสระนั้นกินได้ นอกจากไม่มีกรวดทรายแล้วยังมีรสชาติ มันกรอบอีกด้วย แต่ถ้าเคี้ยวเมื่อไหร่ จะเหนียวติดฟันคล้ายน้ำตาลเคี่ยว จึงเก็บมาให้หลวงพ่อดู เมื่อหลวงพ่อได้พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง จึงบอกว่า กินได้พระอรหันต์ท่านมาล้างมือแล้วอธิฐานให้เป็นยา เมื่อข่าวว่าดินในสระวัดบัลลังก์มีลักษณะแปลกและยังกินได้ จากปากต่อปากจึงกระจายไปอย่างรวดเร็ว คนที่ไหนต่อที่ไหนก็พากันมา บางคนก็มาเพราะอยากรู้อยากเห็น บางคนก็มาเพราะอยากได้ไปกินไปทาเพื่อรักษาโรค ในปีนั้นมีผู้คนมาเก็บดินในสระไปวันๆหนึ่งประมาณพันกว่าคน และมากันทุกวัน จนเป็นข่าวดังและได้มีนักข่าวหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเดินทางมาทำข่าว และนำไปเขียนข่าวทำนองว่า หากใครกินจะเป็นอันตรายเพราะไม่สะอาดและอาจจะมีสารตกค้างอยู่ในดินและไม่มี อย.รับรอง อย่าหลงเชื่อและก็ยังเขียนข่าวเกินจริงไปอีกมากมาย แต่ข่าวนั้นก็ไม่ได้ทำให้กระแสมหาชนที่เดินทางมาลดลงเลย เพราะความศรัทธาอย่างหนึ่ง และนำไปกินไปทาแล้วได้ผลอย่างหนึ่ง จึงยังมีผู้คนเดินทางมาเก็บจนดินในสระหมดไป จะเหลือบ้างก็ที่ป่นๆแตกๆเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทางวัดจึงไปเก็บมาลองทำเป็นพระผงสุพรรณ และพระไพรีพินาศ เนื่องจากว่า ดินชนิดนี้มีความละเอียดสูงก็จริงจะฟูขยายตัวเมื่อเวลาถูกน้ำ และจะหดตัวลงเมื่อเวลาแห้งสนิท เวลาปั๊มเข้าพิมพ์ออกมาแล้ว พระจะหดตัวเล็กลงกว่าพิมพ์ปกติ จึงทำให้พระผงสุพรรณที่ทำจากดินในสระนั้นมีสภาพเล็กลงกว่าองค์ที่ปั๊มด้วยผงเกษร ทั้งๆที่เป็นแม่พิมพ์อันเดียวกัน เพราะเมื่อนำมาวางข้างๆกันแล้วจะเห็นได้ชัดเจน เนื่องจากดินนั้นนำมาทำพระแล้วมีสภาพไม่คงตัวและยังกรอบหักง่าย จึงทำไว้เพียงเล็กน้อย ไม่ได้ทำจำหน่ายจ่ายแจกแบบพระรุ่นอื่นๆ ที่นำมาลงนี้ก็เพื่อให้สานุศิษย์ที่สนใจเรื่องวัตถุมงคลได้ศึกษา ความเป็นมาของพระรุ่นนี้และความเป็นมาของดินในสระมงคลของวัดบัลลังก์ ซึ่งหลังจากปี ๒๕๓๙ มานั้นก็ไม่เคยมีเหตุการณ์ว่าจะมีดินส่วนใหนของวัดบัลลังก์จะมีลักษณะเช่นนั้นอีกเลยจนถึงปัจจุบัน จึงนับได้ว่า เป็นเพราะบุญบารมีของหลวงพ่อ จึงเกิดมีสิ่งที่ไม่เคยมีมาให้สานุศิษย์ได้พบได้เห็นและยังได้ประจักษ์ใน สภาวจิตอันเป็นทิพย์ของท่าน จากเรื่องราวเหล่านี้ผู้เขียนก็ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยจึงได้ เรียบเรียงบทความตามที่เป็นมาเพื่อนำมาเผยแผ่ให้ทุกท่านได้ศึกษากัน