พระขุนแผน หลวงพ่อเชย อมโร อาศรมวิเวกไพรสณ (เขาเจ้าหลาว) จ.จันทบุรี-จ่าจีระสิทธิ์ - webpra
VIP
  • 0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
  • Page 1
  • Page 2
หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525

พระขุนแผน หลวงพ่อเชย อมโร อาศรมวิเวกไพรสณ (เขาเจ้าหลาว) จ.จันทบุรี

พระขุนแผน หลวงพ่อเชย อมโร  อาศรมวิเวกไพรสณ (เขาเจ้าหลาว) จ.จันทบุรี - 1พระขุนแผน หลวงพ่อเชย อมโร  อาศรมวิเวกไพรสณ (เขาเจ้าหลาว) จ.จันทบุรี - 2พระขุนแผน หลวงพ่อเชย อมโร  อาศรมวิเวกไพรสณ (เขาเจ้าหลาว) จ.จันทบุรี - 3พระขุนแผน หลวงพ่อเชย อมโร  อาศรมวิเวกไพรสณ (เขาเจ้าหลาว) จ.จันทบุรี - 5
ชื่อร้านค้า จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง พระขุนแผน หลวงพ่อเชย อมโร อาศรมวิเวกไพรสณ (เขาเจ้าหลาว) จ.จันทบุรี
อายุพระเครื่อง 25 ปี
หมวดพระ พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ 08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ Tayanrum@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ ศ. - 05 พ.ย. 2564 - 21:10.19
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ ส. - 09 มี.ค. 2567 - 18:37.08
รายละเอียด
พระขุนแผน หลวงพ่อเชย อมโร หลังโรยผงตะไบ-เกศา ปี 2543
อาศรมวิเวกไพรสณ (เขาเจ้าหลาว) จ.จันทบุรี

สวยเดิม ๆ หายากครับ


พระขุนแผนชินบัญชร (ยอดขุนพลอ่าวคุ้งกระเบน) สร้าง ปี 2543
โดยคณะศิษย์สายจันทบุรี-ระยอง ที่เป็นลูกศิษย์และหลานหลวงปู่ทิม มาขออนุญาตหลวงปู่จัดสร้างให้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุได้ 77 ปี โดยหลวงปู่อนุญาตให้เป็นกรณีพิเศษ โดยหลวงปู่ให้แบบยันต์ และมอบมวลสารให้ รวมทั้งทรายศักดิ์สิทธิ์ จากเขาเจ้าหลาว ที่มีเทวดามานิมิตร(บางท่านให้ข้อมูลว่า มีผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมผสมอยู่ด้วย)

จุดประสงค์ เพื่อสมทบสร้างพระสถูปเจดีย์เพื่อบรรจุอัฐิธาตุของหลวงปู่หลังจากท่านมรณภาพ
และส่วนหนึ่งจะได้เอามาแจกงานประชุมเพลิงสรีระของหลวงปู่ท่านในกาลข้างหน้า

ด้านหลังของเกศาหลวงพ่อเชย และ ผงตะไบพระกริ่ง

มวลสาร หลวงปู่เชยได้ให้แบบยันต์ และได้เมตตามอบเกศาของท่าน
อีกทั้งมวลสารผงวิเศษให้มาดำเนินการสร้างพระขุนแผนรุ่นแรกนี้ จำนวน 3 ถุง ได้แก่

1. ผงว่านสลักไก (ผงสีชมพู) เด่นทางด้านคงกระพันชาตรี
2. ผงว่านสาวหลง (ผงสีอมเหลือง) เด่นด้านมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม
3. ผงดินขุยอุดรูปู (ผงสีเทาอมดำ) เด่นทางด้านแคล้วคลาด ปลอดภัย

นอกจากนี้ยังมีทรายศักดิ์สิทธิ์จากเขาเจ้าหลาว ที่มีเทวดามานิมิตบอก กาฝากมะรุม
(บางท่านให้ข้อมูลว่า มีผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิมผสมอยู่ด้วย)

ส่วนผงตะไบที่โรยด้านหลังพระขุนแผนนั้นได้รับมาจาก ช่างสมร รัชตธรรม
ผู้หล่อพระกริ่งชินบัญชรให้ลป.ทิม ซึ่งประกอบไปด้วย

1. ผงตะไบพระกริ่งชินบัญชรมหาโสฬส ปี 2533 ของมูลนิธิหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ระยอง
2. ผงตะไบพระกริ่งโภคทรัพย์ หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ระยอง
3. ผงตะไบพระกริ่งญาณวิทยาคม หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชสีมา
4. ผงตะไบพระกริ่งหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม

การปลุกเสก หลวงปู่เชย อธิษฐานจิตเดี่ยวตลอดไตรมาส สวยเดิมๆครับ

ปล.หลวงปู่เคยเกิดเป็นลูกท่านแม่ศรี(หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง)พระที่หลวงปู่ปลุกเสกและวัตถุมงคลต่างๆ ท่านก็จะนึกถึงครูบาอาจารย์ของท่าน และท่านแม่ศรีทุกครั้ง ท่านแม่ศรีก็จะมาช่วยงานท่านในทุกเรื่องครับ

ตอนบั้นปลายชีวิตของหลวงปู่เชย ท่านแม่ศรีก็ได้มาบอกถึงกาลอายุขัยของหลวงปู่
แล้วก็บอกให้หลวงปู่เชยนั้นทำพิธีต่ออายุก็จะสามารถอยู่ได้ถึง 116 ปี
แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครข้าใจถึงปริศนาที่หลวงปู่เชยได้บอก เนื่องด้วยความโง่เขลาเบาปัญญาของลูกศิษย์ จึงมิได้นิมนต์ท่านให้อยู่ตามคำแนะนำของท่านแม่ศรี
หลวงปู่เชยจึงได้ละสังขารไปด้วยเวลาอันไม่สมควร หลังปลงสรีระสังขารของท่าน อัฐิของท่านก็ได้แปรสภาพเป็นพระธาตุอย่างน่าอัศจรรย์

ว่ากันว่าท่านสำเร็จพระอนาคามีผลเนื่องจากได้มีคนเคยถามท่านถึงการที่ท่านจะละขันธ์ว่า หากหลวงปู่ไปจากโลกนี้แล้ว หลวงปู่จะไปอยู่ที่ไหน? และจะลงมาเกิดอีกไหมครับ?
ท่านหลวงปู่ตอบว่า ถ้าไปก็ไปพรหมชั้นสูง แต่ไม่ลงมาแล้ว บำเพ็ญอีกหน่อยก็เข้านิพพานได้เลย

ศิษย์มีครู
9 ธันวาคม 2015 ·
หลวงปู่เชย พระอริยะเจ้าผู้มีจิตเมตตาสูงส่ง ล้ำลึกด้วยวิทยา อาคม เทพเจ้าแห่งอ่าวคุ้งกระเบน
Cr.คุณ ทุเรียนทอด บอร์ดพลังจิต
กราบเท้าสักการะ นมัสการ ต่อองค์พระเดช พระคุณท่าน หลวงปู่เชย อมโร พระอริยะเจ้าในดวงใจองค์หนึ่ง(ของผม) และขออนุญาตินำ ชีวะประวัติบางตอนขององค์หลวงปู่ นำเผยแพร่สู่สาธารณะ ศาสนิกชน ผู้มีความสนใจในปฏิทา ข้อวัตรปฏิบัติ ของพระอริยะสงฆ์สาวก ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ปฏิบัติดีถูกต้องตามหลักธรรมคำสอน เพื่อประสงค์มิให้ข้อมูล และความรู้สึกดีๆ ที่มีต่อองค์พระคุณท่าน ได้สูญหายสลายไปตามกาลเวลา หากสิ่งใดมิสมควร พลาดพลั้ง ล่วงเกินอันใดลงไป กระผมขอกราบขอขมาอภัย และขอหลวงปู่ครูบาอาจารย์ได้โปรดอดโทษล่วงเกินอันนั้น และขออย่าได้สร่างซึ่งเมตตาแก่ข้ากระผมตลอดไปด้วยเทอญ,,,
ประวัติ โดยสังเขป

ชื่อเดิม: เชย ชุมศิริ
เกิด: เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน 2466 ปีกุน ณ.บ้านคลองขุด ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
อุปนิสัย: เป็นคนจิตใจดี มีน้ำใจ พูดน้อย รักสงบ และฝักใฝ่ในทางธรรม
อุปสมบท: เมื่ออายุได้ 20 ปี ณ วัดหมูดุด วันที่ 8 กรกฎาคม 2486 โดยมีพระครูแจง วัดโขมง เป็นพระอุปปัชฌาย์ หลวงพ่ออ่ำ วัดโขมง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูญานวรกิจ(หลวงพ่อกล้วย)วัดหมูดุด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า อมโร แปลว่า ไม่ตาย
อยู่จำพรรษา ณ วัดหมูดุด 15 พรรษา ต่อมา ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองหงส์ อยู่วัดหนองหงส์ ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ เป็นเวลาทั้งหมด 25 พรรษา ปฏิบัติกิจทางพระศาสนาด้วยดีเสมอมา ควบคู่กับการปฏิบัติธรรมอย่างเข้มข้น มีอยู่ครั้งหนึ่งเกิดการติดขัดในกรรมฐานบางอย่าง ไม่อาจที่จะแก้ไขเองได้ จึงตั้งจิตอธิษฐานขอให้ได้พบครูบาอาจารย์องค์ที่มีความเชี่ยวชาญ ในพระกรรมฐาน ที่จะแก้ไขให้ตรงจุดนี้ได้ ต่อมาจึงได้รับนิมิตรบางอย่าง ว่าให้ไปหาหลวงพ่อฤษีลิงดำ ที่วัดท่าซุง จึงได้เดินทางไปพบ และหลวงพ่อฤษีลิงดำก็แนะนำวิธีแก้ข้อติดขัดในพระกรรมฐานนั้นๆ ให้ได้รับความกระจ่าง สว่างไสว อยู่ปฏิบัติกับหลวงพ่อฤษีลิงดำได้ประมาณ 1เดือน ได้รู้ได้เห็นอะไรต่างๆมากมาย จึงได้กราบลาหลวงพ่อฤษีลิงดำกลับมาที่วัดหนองหงษ์ได้สักระยะหนึ่ง จากนั้นจึงลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองหงส์ เนื่องด้วยเป็นผู้รักการปฏิบัติ บำเพ็ญแบบสันโดษ ไม่ชอบคลุกคลีกับหมูคณะ และย้ายขึ้นมาปักกลดบำเพ็ญ สมถะ วิปัสนากรรมฐาน อยู่บนเขาเจ้าหลาว ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ เพียงรูปเดียว เป็นเวลา 17 พรรษา ตอนสมัยที่ย้ายมาอยู่แรกๆนั้น มีความเป็นอยู่ลำบากมาก ไม่มีที่พักกันแดด-ฝนมีเพียงกรดเล็กๆเพียงหลังเดียวเท่านั้น การเลี้ยงชีพก็อาศรัยบิณฑบาต กับชาวบ้านระแวกนั้น ซึ่งก็อยู่ใกลกันมาก เพราะในอดีตยังมีแต่ป่า-เขา ท่านต้องเดินด้วยเท้าเปล่าเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร กว่าจะได้ข้าวมาเพียงหนึ่งทัพพี ฉันกับกุ้งแห้งแช่น้ำปลา เป็นประจำทุกวัน และฉันเพียงเมื้อเดียว ต่อมามีชาวบ้านที่ทราบข่าว เกิดเลื่อมใสพร้อมใจกันสร้างที่พักสงฆ์ถวายให้ เพื่อกันแดด-ฝน ในระหว่างนั้นท่านก็สร้างวัตถุมงคลบ้าง อาทิ พระปิดตาบ้าง ตะกรุดบ้างตามตำราที่ได้เล่าเรียน และตกทอดมาจากสำนักวัดวังเวียนอันโด่งดัง เพื่อมอบให้กับผู้ที่มาช่วยงาน และผู้ที่มากราบทำบุญ..ฯลฯ ซึ่งสร้างประสบการณ์ให้เกิดขึ้นมากมาย คนพื้นที่ต่างรู้กันดี มีทุกรูปแบบ
ท่านเป็นยอดเกจิอาจารย์องค์หนึ่งของจันทบุรีที่สามารถกราบได้อย่างบริสุทธิ์ใจ และท่านสามารถล่วงรู้วันมรณภาพของตัวท่านเอง และก็ได้มรณภาพในท่านั่งสมาธิอย่างสงบ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2544 เวลา 17.00 น. รวมอายุได้ 77 ปี 57 พรรษา
อาจเป็นความโชคดี หรือมีวาสนาของผม และคนครอบครัวทุกคน ที่ได้พบ และเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มาตั้งแต่ปี 253...กว่า หลวงปู่ท่านเป็นพระอริยะสงฆ์เนื้อนาบุญที่ดีมาก ว่ากันว่าท่านสำเร็จพระอนาคามีผล เนื่องจากได้เคยถามท่านถึงการที่ท่านจะละขันธ์ว่า หากหลวงปู่ไปจากโลกนี้แล้ว หลวงปู่จะไปอยู่ที่ไหน? และจะลงมาเกิดอีกไหมครับ? ท่านหลวงปู่ตอบว่า ถ้าไปก็ไปพรหมชั้นสูง แต่ไม่ลงมาแล้ว บำเพ็ญอีกหน่อยก็เข้านิพพานได้เลย สำหรับผมคิดว่า จริงๆหลวงปู่จะเอานิพพานสมบัติในชาตินี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่หลวงปุ่ท่านสงสารญาติโยมทั้งหลายที่ตกทุกข์ได้ยาก ที่มาขอให้ช่วยสงเคราะห์ซึ่งตอนบั้นปลายชีวิตของท่านยิ่งมีมามากไม่ซ้ำแต่ละวัน ไหนจะนิมนต์ให้ไปในที่ต่างๆบ้าง โดนคุณไสยบ้าง จะขายบ้าน ขายเรือ เอาของมาให้เสกบ้าง ฯลฯ ฯลฯ...
ตอนหลังท่านก็เลยงดรับกิจนิมนต์ เพื่อที่จะได้อยู่โปรดญาติโยมที่อาศรม
หลวงปูท่านเป็นพระที่คงแก่เรียน ศึกษากระกรรมฐานให้ได้รู้แจ้งก่อน และศึกษาตำรับ ตำรา พระเวทพุทธาคมควบคู่ไปกับการปฏิบัติ ผมเคยเห็นตำราอักขระขอม และตำราวิชาโบราณต่างๆของหลวงปู่ที่ท่านได้รับการถ่ายทอด และรับตกทอดมาเยอะมากๆ เห็นมีอยู่หลายตั้ง ส่วนตำราที่ชำรุดท่านใส่กระสอบเอาไว้(บางส่วนอาจจะใช้ทำผงยาใบลานด้วย) มีอยู่หลายกระสอบ หลวงปู่กล่าวว่า ตำราพวกนี้เป็นตำราใบลานเก่าแก่มาก บางผูกมีอายุหลายร้อยปี เวลาเราว่างก็ศึกษาอยู่ แล้วก็ลองทำดู อันไหนได้ผลดีก็แยกเอาไว้ แต่หากอันไหนทำได้ผลสำเร็จ แต่ไม่เกิดผลดีต่อศาสนบริษัทก็ทำลายไปเลย อย่าไปเสียดาย เพราะตำราพวกนี้เป็นวิชามารไม่เกิดประโยชน์ ตำราบางเล่มครูบาอาจารย์ได้ยักย้ายถ่ายเทอักขระ ก็ต้องศึกษาดูเอา มาประกอบกันอีก แต่ตำราวิชา ที่หลวงปู่ท่านใช้ทำประจำเพื่อสงเคราะห์ญาติโยม ได้แก่วิชาลงตะกรุด พระเจ้าปิดไฟ ตะกรุดมหาระงับ และสร้างพระปิดตาเนื้อผงยา 7ประการ ซึ่งวิชาทั้งหลายที่กล่าวมานี้ เป็นวิชาที่สืบทอดกันมาจาก หลวงปู่ผุด วัดวังเวียน อันโด่งดัง เมื่อร้อยกว่าปีมาแล้วถึงปัจจุบัน ความนิยมของเครื่องราง วัตถุมงคลของสำนักนี้มีแต่จะทวีความนิยมมากขึ้น เพราะต่างประสบการณ์กันมาทุกยุค-สมัย เชื่อถือได้แท้จริง และเป็นวัตถุมงคลที่มีราคายอดนิยมสูงที่สุดใน จ.จันทบุรี พื้นที่แถบภาคตะวันออกเล่นหากันเป็นเรือนแสน แต่ก็หาได้ยากสุดๆใครมีต่างหวงแหน ตำราดังกล่าวนั้นสืบทอดมาจากหลวงปู่ผุด ต่อมาถึงหลวงปู่เปี๊ยก ซึ่งหลวงปู่เปี๊ยกนี้ท่านยังเป็นน้องชายแท้ๆของหลวงปู่จิ่ม วัดไผ่ล้อม พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุดสงครามอินโดจีน และยังเป็นพระเกจิที่มีชื่อเข้าร่วมพิธี ชินราชอินโดจีน ของวัดสุทัศน์ และพิธี 25ศัตวรรษ ว่ากันว่าหลวงปู่เปี๊ยกท่านมีจริตวิสัยที่แปลกๆไม่เหมือนชาวบ้าน แต่หลวงปู่เชยบอกว่าอาจารย์เปี๊ยกท่านก็ปกตินะ แต่คนส่วนมากพอเห็นใครทำอะไรที่ไม่เหมือนตนทำ ก็จะหาว่าคนนั้นน่ะบ้า.. และหลวงปู่เชยได้เคยเดินทางไปแลกเปลี่ยนวิชากับหลวงปู่เปี๊ยกเสมอ ถือว่าเป็นพระสหธรรมมิก ถึงจะอายุต่างกัน และเคยช่วยหลวงปู่เปี๊ยกตัดกระป๋องนมอนูมิเนียม(สมัยก่อน) เพื่อทำตระกรุด หลวงปู่เปี๊ยกท่านชอบพายเรือบิณฑบาต และชอบเอาตะกรุดที่ท่านทำไปบอกบุญชาวบ้าน เคยมีคนลองเอาตะกรุดของหลวงปู่เปี๊ยกไปทดลองยิง ปรากฏว่ายิงไม่ออกเลย ด้วยความสนิทสนมกันมากจนกระทั่งหลวงปู่เชยได้ตำราผูกนี้มา เป็นตำราใบลานเก่ามาก น่าจะสืบทอดมาจาก สำนักวัดประดู่ทรงธรรม อโยธยาฯ เพราะว่ามีวิชาลงตะกรุดมหาระงับอยู่ด้วย และหลวงปู่ผุดองค์ปรมจารย์ท่านก็เป็นพระธุดงค์ท่องเที่ยวไปทั่วก่อนที่จะมาอยู่ที่วัดวังเวียน และท่านก็ยังเป็นอีกหนึ่งในพระสหธรรมมิกของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าอีกด้วย

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top