เหรียญ ครบ ๒๐๐ ปี วันประสูติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์-จ่าจีระสิทธิ์ - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

จ่าจีระสิทธิ์

0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7

หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด พระหล่อ-เหรียญหล่อ-พระปั๊มรูปเหมือน ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน

เหรียญ ครบ ๒๐๐ ปี วันประสูติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์

เหรียญ ครบ ๒๐๐ ปี วันประสูติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ - 3

เหรียญ ครบ ๒๐๐ ปี วันประสูติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ - 4

เหรียญ ครบ ๒๐๐ ปี วันประสูติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ - 5

ชื่อร้านค้า	จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jeerasit (112)
ชื่อพระเครื่อง	เหรียญ ครบ ๒๐๐ ปี วันประสูติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
อายุพระเครื่อง	16 ปี
หมวดพระ	พระหล่อ-เหรียญหล่อ-พระปั๊มรูปเหมือน ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน
ราคาเช่า	450 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ	Tayanrum@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	อา. - 20 ก.พ. 2565 - 21:28.21
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	อา. - 20 ก.พ. 2565 - 21:28.21

รายละเอียด
เหรียญ ครบ ๒๐๐ ปี วันประสูติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2552 สมเด็จพระเทพฯ ทรงเสด็จเททองฯ พิธีพุทธาภิเษก ยิ่งใหญ่ ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร ในวาระที่ครบรอบ ๒๐๐ ปี แห่งวันประสูติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ วัดบวรนิเวศวิหาร ได้จัดนิทรรศการพระราชประวัติ ณ ตำหนักล่าง ในระหว่างวันที่ ๑๓ กันยายน-๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๓๐ น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ พร้อมกันนี้ได้จัดสร้างสิ่งมงคลสักการะในโอกาสนี้ คือ พระกริ่งปวเรศ รุ่น ๒๐๐ ปี แห่งวันประสูติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ โดยถอดพิมพ์จากองค์เดิม ในพิพิธภัณฑ์วัดบวรฯ (ตกแต่งเพียงเล็กน้อย) พร้อมทั้ง ครอบน้ำมนต์ปวเรศ โดยถอดพิมพ์จากใบเดิมของวัด (ภายครอบน้ำมนต์มีพระกริ่งปวเรศประดิษฐานอยู่ ๑ องค์) และเหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ภ.ป.ร.เหรียญสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ภ.ป.ร. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จเททองฯ วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๒ และเสด็จเปิดนิทรรศการพระประวัติสมเด็จมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศฯ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร พิธีพุทธาภิเษก วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๒.๒๙ น. ณ พระอุโบสถวัดบวรฯ โอกาสนี้จะได้อัญเชิญ พระกริ่งปวเรศ องค์เดิมของวัด จากพิพิธภัณฑ์ฯ สมโภชในพิธีด้วย โดยมีพิธีสรงน้ำองค์พระกริ่งปวเรศ เพื่อเป็นน้ำพระพุทธมนต์ใช้ในพิธีต่างๆ ต่อไป (ผู้ที่ทำบุญบูชาครอบน้ำมนต์รุ่นนี้ จะมีน้ำพระพุทธมอบให้ด้วย) ประวัติสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ นับแต่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส สิ้นพระชนม์ เมื่อ พ.ศ.๒๓๙๖ ในรัชกาลที่ ๔ แล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมิได้ทรงสถาปนาพระเถระรูปใดเป็นสมเด็จ พระสังฆราชอีกจนตลอดรัชกาล เป็นเวลา ๑๕ ปี ฉะนั้น ในรัชกาลที่ ๔ จึงว่างสมเด็จพระสังฆราชจนเกือบตลอดรัชกาล เพราะสมเด็จฯ กรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส ทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชอยู่เพียงปีเศษ ตอนต้นรัชกาลเท่านั้น เมื่อ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส ทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชนั้น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงดำรงพระอิศริยยศเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์ ทรงดำรงสมณฐานันดรเป็นที่สองจาก สมเด็จฯ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส มา ในรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็มิได้โปรดสถาปนาพระเถระรูปใดเป็น สมเด็จพระสังฆราช ตลอดช่วงต้นแห่งรัชกาล เป็นเวลาถึง ๒๓ ปี ฉะนั้น ในช่วงต้น รัชกาลที่ ๕ จึงว่างสมเด็จพระสังฆราชอยู่ถึง ๒๓ ปี จึงได้ทรงสถาปนา สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ขณะทรงดำรงพระอิศริยยศเป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ เป็นสมเด็จพระสังฆราช นับเป็นพระองค์ที่ ๘ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าฤกษ์ เป็นราชโอรสในสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ และเจ้าจอมมารดาน้อยเล็ก ประสูติเมื่อวันจันทร์ เดือน ๕ ขึ้น ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๓๕๒ ตรงกับวันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๓๕๒ อันเป็นวันเริ่มสวดมนต์ ตั้งพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ จึงได้พระราชทานนามตามศุภนิมิตว่าว่า พระองค์เจ้าฤกษ์ ดำรงยศอย่างพระองค์เจ้าในพระราชวังบวรสถานมงคล สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ เป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ กล่าวคือ สมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ พระราชบิดาเป็นพระโอรสลำดับที่ ๗ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี เมื่อสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ พระราชบิดาสวรรคคตแล้ว พระองค์ได้เสด็จมาอยู่ในพระราชวังหลวงกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้นที่ ๑ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพยวดี ซึ่งเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องเธอในสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงเทพวยดี ทรงนำพระองค์เจ้าฤกษ์ไปถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ จึงได้ทรงคุ้ยเคยเป็นอย่างยิ่ง พ.ศ.๒๓๖๕ พระชนมายุ ๑๓ พรรษา ทรงผนวชเป็นสามเณร ณ วัดมหาธาตุ โดยมีสมเด็จพระสังฆราช (มี) เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมา พ.ศ.๒๓๗๒ ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ โดยมี สมเด็จพระสังฆราช (ด่อน) เป็นพระอุปัชฌาย์ ทรงศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรงผนวชเป็นพระภิกษุอยู่ ณ วัดมหาธาตุ สมเด็จฯ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงศึกษาพระปริยัติธรรมจนทรงแตกฉานในภาษาบาลี ต่อมาสมัยรัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดให้เลื่อนพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๗ สมเด็จฯ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงพระปรีชาในหลายด้าน อาทิ ทรงเป็นปราชญ์ ทางภาษาบาลีที่สำคัญพระองค์หนึ่ง นอกจากนี้ยังทรงเป็นนักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ นักดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ สถาปนิก นักวิทยาศาสตร์ กวี และทรงให้กำเนิดพระกริ่งองค์แรกในประเทศไทย คือ พระกริ่งปวเรศ จนเป็นแบบอย่างให้มีการสร้างพระกริ่งในเวลาต่อมา พระกริ่งปวเรศ ที่ทรงจัดสร้างสมัยนั้น มีจำนวนน้อยมาก (เท่ากับกำลังวัน) ในทุกวันนี้จึงเป็นที่แสวงหากันมาก โดยมีการเช่าหากันถึงองค์ละหลายล้านบาทขึ้นไป สมเด็จฯ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สิ้นพระชนม์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๘ กันยายน ๒๔๓๕ สิริรวมพระชนมายุ ๘๓ พรรษา ๑๓ วัน พรรษา ๖๔ ทรงครองวัดบวรนิเวศเป็นเวลา ๔๒ ปี ทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช ๑๐ เดือน ต่อมาเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๔ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.๖) ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาเปลี่ยนคำนำพระนามเป็น “สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์” "บุญนำพา" จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๒

รายละเอียด

เหรียญ ครบ ๒๐๐ ปี วันประสูติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2552

สมเด็จพระเทพฯ ทรงเสด็จเททองฯ พิธีพุทธาภิเษก ยิ่งใหญ่ ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร

ในวาระที่ครบรอบ ๒๐๐ ปี แห่งวันประสูติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ วัดบวรนิเวศวิหาร ได้จัดนิทรรศการพระราชประวัติ ณ ตำหนักล่าง ในระหว่างวันที่ ๑๓ กันยายน-๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ เวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๓๐ น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ

พร้อมกันนี้ได้จัดสร้างสิ่งมงคลสักการะในโอกาสนี้ คือ พระกริ่งปวเรศ รุ่น ๒๐๐ ปี แห่งวันประสูติ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ โดยถอดพิมพ์จากองค์เดิม ในพิพิธภัณฑ์วัดบวรฯ (ตกแต่งเพียงเล็กน้อย) พร้อมทั้ง ครอบน้ำมนต์ปวเรศ โดยถอดพิมพ์จากใบเดิมของวัด (ภายครอบน้ำมนต์มีพระกริ่งปวเรศประดิษฐานอยู่ ๑ องค์) และเหรียญสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ภ.ป.ร.เหรียญสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ภ.ป.ร.
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จเททองฯ วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๕๒ และเสด็จเปิดนิทรรศการพระประวัติสมเด็จมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศฯ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร
พิธีพุทธาภิเษก วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๒ เวลา ๑๒.๒๙ น. ณ พระอุโบสถวัดบวรฯ โอกาสนี้จะได้อัญเชิญ พระกริ่งปวเรศ องค์เดิมของวัด จากพิพิธภัณฑ์ฯ สมโภชในพิธีด้วย โดยมีพิธีสรงน้ำองค์พระกริ่งปวเรศ เพื่อเป็นน้ำพระพุทธมนต์ใช้ในพิธีต่างๆ ต่อไป (ผู้ที่ทำบุญบูชาครอบน้ำมนต์รุ่นนี้ จะมีน้ำพระพุทธมอบให้ด้วย)

ประวัติสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์

นับแต่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส สิ้นพระชนม์ เมื่อ พ.ศ.๒๓๙๖ ในรัชกาลที่ ๔ แล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมิได้ทรงสถาปนาพระเถระรูปใดเป็นสมเด็จ พระสังฆราชอีกจนตลอดรัชกาล เป็นเวลา ๑๕ ปี ฉะนั้น ในรัชกาลที่ ๔ จึงว่างสมเด็จพระสังฆราชจนเกือบตลอดรัชกาล เพราะสมเด็จฯ กรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส ทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชอยู่เพียงปีเศษ ตอนต้นรัชกาลเท่านั้น

เมื่อ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส ทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชนั้น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงดำรงพระอิศริยยศเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหมื่นบวรรังษีสุริยพันธุ์ ทรงดำรงสมณฐานันดรเป็นที่สองจาก สมเด็จฯ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส

มา ในรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็มิได้โปรดสถาปนาพระเถระรูปใดเป็น สมเด็จพระสังฆราช ตลอดช่วงต้นแห่งรัชกาล เป็นเวลาถึง ๒๓ ปี ฉะนั้น ในช่วงต้น รัชกาลที่ ๕ จึงว่างสมเด็จพระสังฆราชอยู่ถึง ๒๓ ปี จึงได้ทรงสถาปนา สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ขณะทรงดำรงพระอิศริยยศเป็น พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ เป็นสมเด็จพระสังฆราช นับเป็นพระองค์ที่ ๘ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าฤกษ์ เป็นราชโอรสในสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ และเจ้าจอมมารดาน้อยเล็ก ประสูติเมื่อวันจันทร์ เดือน ๕ ขึ้น ๗ ค่ำ ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๓๕๒ ตรงกับวันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๓๕๒ อันเป็นวันเริ่มสวดมนต์ ตั้งพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ จึงได้พระราชทานนามตามศุภนิมิตว่าว่า พระองค์เจ้าฤกษ์ ดำรงยศอย่างพระองค์เจ้าในพระราชวังบวรสถานมงคล

สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ เป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ ๑ กล่าวคือ สมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ พระราชบิดาเป็นพระโอรสลำดับที่ ๗ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี เมื่อสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ พระราชบิดาสวรรคคตแล้ว พระองค์ได้เสด็จมาอยู่ในพระราชวังหลวงกับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอชั้นที่ ๑ เจ้าฟ้ากรมหลวงเทพยวดี ซึ่งเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องเธอในสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาเสนานุรักษ์ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงเทพวยดี ทรงนำพระองค์เจ้าฤกษ์ไปถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่ครั้งยังทรงพระเยาว์ จึงได้ทรงคุ้ยเคยเป็นอย่างยิ่ง

พ.ศ.๒๓๖๕ พระชนมายุ ๑๓ พรรษา ทรงผนวชเป็นสามเณร ณ วัดมหาธาตุ โดยมีสมเด็จพระสังฆราช (มี) เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมา พ.ศ.๒๓๗๒ ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ โดยมี สมเด็จพระสังฆราช (ด่อน) เป็นพระอุปัชฌาย์

ทรงศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรงผนวชเป็นพระภิกษุอยู่ ณ วัดมหาธาตุ สมเด็จฯ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงศึกษาพระปริยัติธรรมจนทรงแตกฉานในภาษาบาลี

ต่อมาสมัยรัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดให้เลื่อนพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๗

สมเด็จฯ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงพระปรีชาในหลายด้าน อาทิ ทรงเป็นปราชญ์ ทางภาษาบาลีที่สำคัญพระองค์หนึ่ง นอกจากนี้ยังทรงเป็นนักโบราณคดี นักประวัติศาสตร์ นักดาราศาสตร์และโหราศาสตร์ สถาปนิก นักวิทยาศาสตร์ กวี

และทรงให้กำเนิดพระกริ่งองค์แรกในประเทศไทย คือ พระกริ่งปวเรศ จนเป็นแบบอย่างให้มีการสร้างพระกริ่งในเวลาต่อมา

พระกริ่งปวเรศ ที่ทรงจัดสร้างสมัยนั้น มีจำนวนน้อยมาก (เท่ากับกำลังวัน) ในทุกวันนี้จึงเป็นที่แสวงหากันมาก โดยมีการเช่าหากันถึงองค์ละหลายล้านบาทขึ้นไป

สมเด็จฯ กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สิ้นพระชนม์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๘ กันยายน ๒๔๓๕ สิริรวมพระชนมายุ ๘๓ พรรษา ๑๓ วัน พรรษา ๖๔ ทรงครองวัดบวรนิเวศเป็นเวลา ๔๒ ปี ทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช ๑๐ เดือน

ต่อมาเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๔ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.๖) ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาเปลี่ยนคำนำพระนามเป็น “สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์”

"บุญนำพา"

จากหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ฉบับวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๒