หมวด พระหล่อ-เหรียญหล่อ-พระปั๊มรูปเหมือน ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน

พระดวงแก้ว ชัยวัฒน์ บรรจุผงยาจินดามณี

พระดวงแก้ว ชัยวัฒน์ บรรจุผงยาจินดามณี - 3

พระดวงแก้ว ชัยวัฒน์ บรรจุผงยาจินดามณี - 4

พระดวงแก้ว ชัยวัฒน์ บรรจุผงยาจินดามณี - 5

ชื่อร้านค้า	จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jeerasit (112)
ชื่อพระเครื่อง	พระดวงแก้ว ชัยวัฒน์ บรรจุผงยาจินดามณี
อายุพระเครื่อง	24 ปี
หมวดพระ	พระหล่อ-เหรียญหล่อ-พระปั๊มรูปเหมือน ปี 2541 ถึง ปัจจุบัน
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ	Tayanrum@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	อ. - 23 พ.ค. 2566 - 21:13.25
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พฤ. - 08 มิ.ย. 2566 - 22:44.51

รายละเอียด
พระดวงแก้ว ชัยวัฒน์ บรรจุผงยาจินดามณี พบเจอ เป็น องค์ที่ 2 ครับ...หายากจริง ๆ พระไม่มีหมุนเวียนออกมาให้เห็น บ่อยนัก... สวย สมบูรณ์ พร้อม กล่องเดิม .... .... ข้อมูล เครดิต จาก อาจารย์ เจริญสิทธิ์ เขียนไว้ ใน เว็ปยู นานมากแล้วครับ ถ้าพูดถึงเรื่องการสร้างยาจินดามณีแล้ว หลายๆท่านอาจคิดว่าเมืองนครปฐม จะมีการสร้างกันที่วัดกลางบางแก้วเท่านั้น แต่ในความจริงแล้วเมืองนครปฐมมีการสร้างยาจินดามณีตำรับสมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแ้ก้ว ที่วัดใหม่สุคนธาราม โดยอาจารย์ใบ เป็นเจ้าพิธี และอีกหนึ่งที่มีการสร้างที่วัดพระปฐมเจดีย์ โดยมี พระปฐมเจติยานุรักษ์ ( สำลี ) เป็นเจ้าพิธี มีการเรียกขานกันว่า เอกายโน จินดามณี พระปฐมเจติยานุรักษ์ เดิมชื่อ สำลี นามสกุล ปานเจริญ เกิดวันที่ 3 เืดือนพฤษภาคม พ.ศ.2479 ณ.ตำบลบางช้าง อ.สามพราน จ.นครปฐม โยมบิดาชื่อ จันทร์ โยมมารดาชื่อ นางหมา สกุลปานเจริญ บรรพชาเป็นสามเณร วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2494 ณ.พระอุโบสถวัดเทียนดัด โดยมี หลวงปู่ผล เจ้าอาวาสวัดเทียนดัด เป็นพระอุปัฌชาย์ บรรพชาเป็นพระภิกษุ วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2499 ณ.พระอุโบสถวัดบางช้างใต้ โดยมี พระสิริชัยมุนี ( ชิต ชิตวิปุโล ) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐมและเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ องค์ต่อจากเจ้าคุณโชติ เป็นพระอุปัฌชาย์ มีหลวงพ่อเพิ่ม วัดสรรเพชญ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลังจากบรรพชาแล้ว ได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดพระปฐมเจดีย์ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย ภายใต้การดูแลของ พระสิริชัยมุนี จนกระทั่งสอบได้ นักธรรมเอกในปีพ.ศ.2498 และสอบได้เปรียญธรรม 4 ในปีพ.ศ.2504 ในปีพ.ศ.2518 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระครูปฐมเจติยานุรักษ์ อันว่าสมณศักดิ์ที่ พระปฐมเจติยานุรักษ์ แล้ว ในสมัยโบราณยุคปี พ.ศ. 2450-2440 ก่อนที่จะมีการตั้งตำแหน่งพระครูผู้พิทักษ์องค์พระปฐมเจดีย์ ทั้งสี่ทิศ สมณศํกดิ์ พระปฐมเจติยานุรักษ์ ถือเป็นอันดับหนึ่งเมืองนครปฐม เกจิองค์สำคัญที่ดำรงค์ตำแหน่งนี้ได้แก่ หลวงปู่กล่ำ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ และองค์อุปัฌชาย์ หลวงปู่นาค วัดห้วยจรเข้ ก็เคยดำรงค์ตำแหน่งนี้ ซึ่งในยุคนั้น หลวงปู่กล่ำ ถือเป็นอันดับหนึ่งเมืองนครปฐม และท่านยังเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่ปาน วัดตุ๊กตาและหลวงปู่ทอง วัดกลางบางแก้ว พระมหาสำลี ได้ศึกษาตำราการสร้างยาจินดามณี ตำรับสมเด็จพระพนรัตน์ อย่างถ่องแท้ และท่านได้สร้างยาจินดามณีขึ้นมาถึงสามครั้งด้วยกัน โดยที่การสร้างในครั้งแรก เป็นการสร้างร่วมกับวัดอื่น ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการร่วมสร้างที่วัดกลางบางแก้ว ครั้งที่สองถึงเป็นการสร้างด้วยตัวของท่านเอง ซึ่งในครั้งแรกที่สร้างขี้นเองนี้ สร้างยาจินดามณีได้ถึง 70 ก.ก. ใช้ทุนในการสร้าง สี่แสนบาท ในการสร้างครั้งที่สามของมหาสำลี ถือเป็นการสร้างครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และได้มีการบันทึกเป็นหลักฐานว่า เป็นการสร้างยาจินดามณีที่ดีทีสุดเท่าที่ได้มีการบันทึกไว้ ที่มีตัวยาครบตามตำราสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว การสร้างยาจินดามณีในครั้งนี้ ศิษย์ของมหาสำลีที่เป็นพ่อค้าและคหบดี ทั่วเมืองนครปฐม ได้ร่วมกันลงขันเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการหาตัวยาและการทำพิธีกรรมตามตำรา ถึง สามล้านบาทเศษ การสร้างยาจินดามณีในครั้งนี้ ได้มีการทำพิธีกันที่ สำนักสงฆ์เอกายโน อ.ทองผาภูม จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นสำนักสงฆ์ที่มหาสำลีได้สร้างไว้ มีการทำพิธีบวงสรวงเทพยดาตามตำราก่อนจะทำการผสมยาจินดามณี และศิษย์ที่จะร่วมสร้างยาจินดามณี ต้องถือศีลและนุ่งขาวห่มขาวตลอดเวลา ในระหว่างการผสมและปั้นเม็ดยาจินดามณี ซึ่งต้องกระทำภายในวงสายสิญจ์ภายในถ้ำ และตลอดเวลาที่มีการสร้างยาจินดามณี จะมีพระภิกษุสงฆ์ทำพิธีสวดมนต์ตลอดเวลา จนกว่าจะเสร็จพิธี การสร้างยาจินดามณีในครั้งนี้ ใช้เวลาในการสร้างถึง 13วัน ได้จำนวนยาจินดามณีทั้งหมดรวม 546ก.ก. และได้นำยาจินดามณีบางส่วนนำมาสร้างเป็นพระพุทธขึ้นอีกด้วย ในระหว่างที่มีการสร้างยาจินดามณี พระมหาสำลีได้มีการนั่งสมาธิและนิมิตรไปกราบนมัสการ สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว หลวงปู่ทอง วัดกลางบางแก้ว และหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เพื่อเรียนถามถึงที่มาของตำรายาจินดามณี รวมไปถึงเมื่อการสร้างสำเร็จลุล่วงแล้ว จะให้บูชาได้หรือไม่ คำตอบที่มหาสำลีได้รับก็คือ ไม่มีการจำหน่ายหรือให้ทำบุญ โดยเด็ดขาด ซึ่งหลังจากพิธีการสร้างยาจินดามณีสำเร็จลุล่วงแล้ว มหาสำลีได้ทำการแจกจ่ายเม็ดยาให้กับศิษย์ ที่ได้ร่วมกันออกทุนไปจนหมด เหลือไว้กับมหาสำลีจำนวนหนึ่ง และท่านก็ได้แจกจ่ายจนหมด โดยไม่มีการทำบุญเลยแม้แต่บาทเดียว ยกเว้นยาจินดามณีที่ได้สร้างเป็นพระพุทธ ได้มีการออกให้บูชาในยุคนั้นองค์ละ 1,500 บาท สำหรับยาจินดามณี ที่ได้แจกจ่ายไป ท่านก็ได้กำชับว่า ให้แจกจ่ายต่อกันไป โดยห้ามขายอย่างเด็ดขาด ทำให้ยาจินดามณีที่ีมหาสำลีสร้างขึ้น หายากมากในเมืองนครปฐม เพราะไม่มีใครกล้าขาย ถ้าจะได้ยาจินดามณีนี้ ก็ต้องรู้จักสนิทสนมกับเจ้าของยาเท่านั้น มหาสำลี มรณะภาพ วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2549 อายุได้ 70ปี พรรษา 50ปี ทิ้งไว้แต่คุณงามความดี และยาจินดามณีที่ได้รับการยอมรับกันว่า เป็นยาจินดามณี ที่มีพิธีกรรมในการสร้างดีที่สุดที่ได้มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และมีตัวยาครบตามตำราการสร้างของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว และในปัจจุบันนี้ พระพุทธที่สร้างด้วยยาจินดามณี ยังไม่มีของเลียนแบบ เพื่อนๆสมาชิกถ้าพบเจอ อย่าปล่อยผ่านไป ขอให้ทุกท่านโชคดีได้ครอบครอง ครับ หัวเรือใหญ่ที่ให้นอแรดขนาดใหญ่มากมาหนึ่งนอ สมัยนั้นราคาหลายแสน ภายหลังเจ้าของเดิมมาติดต่อขอซื้อ 7 แสนบาทเพื่อเอาไปขายทำกำไรต่อ แต่หลวงพ่อฟักแห่งเขาวงพระจันทร์ไม่ยอมขาย กลับเอามาถวายหลวงพ่อสำลี เพื่อทำยาจินดามณี หลังจากนั้นไม่นานราคานอแรดก็พุ่งโด่งเกินกว่าล้าน ร่วมด้วยช่วยกัน ข้อมูลเพิ่มเติม 1. การสร้างครั้งแรก พระครูปฐมฯ ท่านดำเนินการจัดสร้างที่ วัดวังน้ำขาว อ.สามพราน จ.นครปฐม 2. การสร้างครั้งที่ 2 พระครปฐมฯ ท่านดำเนินการจัดสร้างที่ อุโบสถ วัดพระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม 3.การสร้างครั้งที่ 3(ครั้งสุดท้าย) ท่านดำเนินการจัดสร้างที่ สำนักสงฆ์เอกายโน ตามที่พี่เจริญสิทธิ์ ให้ข้อมูลนั้น ถูกต้องตรงความจริงแล้วครับ การดำเนินการ มีพระอาจารย์สายวัดปากน้ำรูปหนึ่งร่วมช่วยด้วย ถูกต้องตามที่พี่ขมิ้นดงให้ข้อมูล โดยพระอาจารย์สายวัดปากน้ำรูปนี้ เป็นผู้นำยาจินดามณีไปจัดพิมพ์เป็นรูปพระหลายพิมพ์ แล้วนำกลับมาถวายพระครูปฐมฯ จำนวนการสร้างครั้งสุดท้าย มีจำนวนมากที่สุดตรงตามที่พี่เจริญสิทธิ์ให้ข้อมูลครับ

รายละเอียด

พระดวงแก้ว ชัยวัฒน์ บรรจุผงยาจินดามณี

พบเจอ เป็น องค์ที่ 2 ครับ...หายากจริง ๆ พระไม่มีหมุนเวียนออกมาให้เห็น บ่อยนัก...

สวย สมบูรณ์ พร้อม กล่องเดิม

....
....

ข้อมูล เครดิต จาก อาจารย์ เจริญสิทธิ์ เขียนไว้ ใน เว็ปยู นานมากแล้วครับ

ถ้าพูดถึงเรื่องการสร้างยาจินดามณีแล้ว หลายๆท่านอาจคิดว่าเมืองนครปฐม จะมีการสร้างกันที่วัดกลางบางแก้วเท่านั้น แต่ในความจริงแล้วเมืองนครปฐมมีการสร้างยาจินดามณีตำรับสมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแ้ก้ว ที่วัดใหม่สุคนธาราม โดยอาจารย์ใบ เป็นเจ้าพิธี และอีกหนึ่งที่มีการสร้างที่วัดพระปฐมเจดีย์ โดยมี พระปฐมเจติยานุรักษ์ ( สำลี ) เป็นเจ้าพิธี มีการเรียกขานกันว่า

เอกายโน จินดามณี พระปฐมเจติยานุรักษ์ เดิมชื่อ สำลี นามสกุล ปานเจริญ เกิดวันที่ 3 เืดือนพฤษภาคม พ.ศ.2479 ณ.ตำบลบางช้าง อ.สามพราน จ.นครปฐม โยมบิดาชื่อ จันทร์ โยมมารดาชื่อ นางหมา สกุลปานเจริญ

บรรพชาเป็นสามเณร วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2494 ณ.พระอุโบสถวัดเทียนดัด โดยมี หลวงปู่ผล เจ้าอาวาสวัดเทียนดัด เป็นพระอุปัฌชาย์

บรรพชาเป็นพระภิกษุ วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2499 ณ.พระอุโบสถวัดบางช้างใต้ โดยมี พระสิริชัยมุนี ( ชิต ชิตวิปุโล ) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐมและเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ องค์ต่อจากเจ้าคุณโชติ เป็นพระอุปัฌชาย์ มีหลวงพ่อเพิ่ม วัดสรรเพชญ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลังจากบรรพชาแล้ว ได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดพระปฐมเจดีย์ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย ภายใต้การดูแลของ พระสิริชัยมุนี จนกระทั่งสอบได้ นักธรรมเอกในปีพ.ศ.2498 และสอบได้เปรียญธรรม 4 ในปีพ.ศ.2504

ในปีพ.ศ.2518 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระครูปฐมเจติยานุรักษ์

อันว่าสมณศักดิ์ที่ พระปฐมเจติยานุรักษ์ แล้ว ในสมัยโบราณยุคปี พ.ศ. 2450-2440 ก่อนที่จะมีการตั้งตำแหน่งพระครูผู้พิทักษ์องค์พระปฐมเจดีย์ ทั้งสี่ทิศ

สมณศํกดิ์ พระปฐมเจติยานุรักษ์ ถือเป็นอันดับหนึ่งเมืองนครปฐม เกจิองค์สำคัญที่ดำรงค์ตำแหน่งนี้ได้แก่ หลวงปู่กล่ำ อดีตเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ และองค์อุปัฌชาย์ หลวงปู่นาค วัดห้วยจรเข้ ก็เคยดำรงค์ตำแหน่งนี้ ซึ่งในยุคนั้น หลวงปู่กล่ำ ถือเป็นอันดับหนึ่งเมืองนครปฐม และท่านยังเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่ปาน วัดตุ๊กตาและหลวงปู่ทอง วัดกลางบางแก้ว พระมหาสำลี ได้ศึกษาตำราการสร้างยาจินดามณี ตำรับสมเด็จพระพนรัตน์ อย่างถ่องแท้ และท่านได้สร้างยาจินดามณีขึ้นมาถึงสามครั้งด้วยกัน โดยที่การสร้างในครั้งแรก เป็นการสร้างร่วมกับวัดอื่น ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการร่วมสร้างที่วัดกลางบางแก้ว ครั้งที่สองถึงเป็นการสร้างด้วยตัวของท่านเอง ซึ่งในครั้งแรกที่สร้างขี้นเองนี้ สร้างยาจินดามณีได้ถึง 70 ก.ก. ใช้ทุนในการสร้าง สี่แสนบาท

ในการสร้างครั้งที่สามของมหาสำลี ถือเป็นการสร้างครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และได้มีการบันทึกเป็นหลักฐานว่า

เป็นการสร้างยาจินดามณีที่ดีทีสุดเท่าที่ได้มีการบันทึกไว้ ที่มีตัวยาครบตามตำราสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว

การสร้างยาจินดามณีในครั้งนี้ ศิษย์ของมหาสำลีที่เป็นพ่อค้าและคหบดี ทั่วเมืองนครปฐม ได้ร่วมกันลงขันเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการหาตัวยาและการทำพิธีกรรมตามตำรา ถึง สามล้านบาทเศษ การสร้างยาจินดามณีในครั้งนี้ ได้มีการทำพิธีกันที่ สำนักสงฆ์เอกายโน อ.ทองผาภูม จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นสำนักสงฆ์ที่มหาสำลีได้สร้างไว้ มีการทำพิธีบวงสรวงเทพยดาตามตำราก่อนจะทำการผสมยาจินดามณี และศิษย์ที่จะร่วมสร้างยาจินดามณี ต้องถือศีลและนุ่งขาวห่มขาวตลอดเวลา ในระหว่างการผสมและปั้นเม็ดยาจินดามณี ซึ่งต้องกระทำภายในวงสายสิญจ์ภายในถ้ำ และตลอดเวลาที่มีการสร้างยาจินดามณี จะมีพระภิกษุสงฆ์ทำพิธีสวดมนต์ตลอดเวลา จนกว่าจะเสร็จพิธี

การสร้างยาจินดามณีในครั้งนี้ ใช้เวลาในการสร้างถึง 13วัน ได้จำนวนยาจินดามณีทั้งหมดรวม 546ก.ก. และได้นำยาจินดามณีบางส่วนนำมาสร้างเป็นพระพุทธขึ้นอีกด้วย

ในระหว่างที่มีการสร้างยาจินดามณี พระมหาสำลีได้มีการนั่งสมาธิและนิมิตรไปกราบนมัสการ สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว หลวงปู่ทอง วัดกลางบางแก้ว และหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เพื่อเรียนถามถึงที่มาของตำรายาจินดามณี รวมไปถึงเมื่อการสร้างสำเร็จลุล่วงแล้ว จะให้บูชาได้หรือไม่

คำตอบที่มหาสำลีได้รับก็คือ ไม่มีการจำหน่ายหรือให้ทำบุญ โดยเด็ดขาด

ซึ่งหลังจากพิธีการสร้างยาจินดามณีสำเร็จลุล่วงแล้ว มหาสำลีได้ทำการแจกจ่ายเม็ดยาให้กับศิษย์ ที่ได้ร่วมกันออกทุนไปจนหมด เหลือไว้กับมหาสำลีจำนวนหนึ่ง และท่านก็ได้แจกจ่ายจนหมด โดยไม่มีการทำบุญเลยแม้แต่บาทเดียว ยกเว้นยาจินดามณีที่ได้สร้างเป็นพระพุทธ ได้มีการออกให้บูชาในยุคนั้นองค์ละ 1,500 บาท

สำหรับยาจินดามณี ที่ได้แจกจ่ายไป ท่านก็ได้กำชับว่า ให้แจกจ่ายต่อกันไป โดยห้ามขายอย่างเด็ดขาด

ทำให้ยาจินดามณีที่ีมหาสำลีสร้างขึ้น หายากมากในเมืองนครปฐม เพราะไม่มีใครกล้าขาย ถ้าจะได้ยาจินดามณีนี้ ก็ต้องรู้จักสนิทสนมกับเจ้าของยาเท่านั้น มหาสำลี มรณะภาพ วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ.2549 อายุได้ 70ปี พรรษา 50ปี

ทิ้งไว้แต่คุณงามความดี และยาจินดามณีที่ได้รับการยอมรับกันว่า

เป็นยาจินดามณี ที่มีพิธีกรรมในการสร้างดีที่สุดที่ได้มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และมีตัวยาครบตามตำราการสร้างของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว

และในปัจจุบันนี้ พระพุทธที่สร้างด้วยยาจินดามณี ยังไม่มีของเลียนแบบ เพื่อนๆสมาชิกถ้าพบเจอ อย่าปล่อยผ่านไป ขอให้ทุกท่านโชคดีได้ครอบครอง ครับ

หัวเรือใหญ่ที่ให้นอแรดขนาดใหญ่มากมาหนึ่งนอ สมัยนั้นราคาหลายแสน ภายหลังเจ้าของเดิมมาติดต่อขอซื้อ 7 แสนบาทเพื่อเอาไปขายทำกำไรต่อ แต่หลวงพ่อฟักแห่งเขาวงพระจันทร์ไม่ยอมขาย กลับเอามาถวายหลวงพ่อสำลี เพื่อทำยาจินดามณี หลังจากนั้นไม่นานราคานอแรดก็พุ่งโด่งเกินกว่าล้าน

ร่วมด้วยช่วยกัน ข้อมูลเพิ่มเติม
1. การสร้างครั้งแรก พระครูปฐมฯ ท่านดำเนินการจัดสร้างที่ วัดวังน้ำขาว อ.สามพราน จ.นครปฐม
2. การสร้างครั้งที่ 2 พระครปฐมฯ ท่านดำเนินการจัดสร้างที่ อุโบสถ วัดพระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม
3.การสร้างครั้งที่ 3(ครั้งสุดท้าย) ท่านดำเนินการจัดสร้างที่ สำนักสงฆ์เอกายโน ตามที่พี่เจริญสิทธิ์ ให้ข้อมูลนั้น ถูกต้องตรงความจริงแล้วครับ

การดำเนินการ มีพระอาจารย์สายวัดปากน้ำรูปหนึ่งร่วมช่วยด้วย ถูกต้องตามที่พี่ขมิ้นดงให้ข้อมูล
โดยพระอาจารย์สายวัดปากน้ำรูปนี้ เป็นผู้นำยาจินดามณีไปจัดพิมพ์เป็นรูปพระหลายพิมพ์ แล้วนำกลับมาถวายพระครูปฐมฯ
จำนวนการสร้างครั้งสุดท้าย มีจำนวนมากที่สุดตรงตามที่พี่เจริญสิทธิ์ให้ข้อมูลครับ