พระสวนสี่ ชินเขียว เหนียวจริงๆ-จ่าจีระสิทธิ์ - webpra
VIP
  • 0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
  • Page 1
  • Page 2
หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด พระกรุ เนื้อชิน

พระสวนสี่ ชินเขียว เหนียวจริงๆ

พระสวนสี่ ชินเขียว เหนียวจริงๆ - 1พระสวนสี่ ชินเขียว เหนียวจริงๆ - 2พระสวนสี่ ชินเขียว เหนียวจริงๆ - 3
ชื่อร้านค้า จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง พระสวนสี่ ชินเขียว เหนียวจริงๆ
อายุพระเครื่อง -
หมวดพระ พระกรุ เนื้อชิน
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ 08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ Tayanrum@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พฤ. - 04 เม.ย. 2567 - 21:19.37
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ พฤ. - 04 เม.ย. 2567 - 22:05.53
รายละเอียด
พระสวนสี่ ชินเขียว เหนียวจริงๆ

พระมเหศวรสองหน้าสององค์กลับด้าน วงการเรียก
พระสวนสี่ เนื้อชินเขียว กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
สุพรรณบุรี. พระเครื่องในตำนาน


พระกรุเมืองสยาม ตอนที่ 5 (พระเนื้อชินเขียว)
ในสมัยรัชกาลที่ ๖ กรมราชฑัณฑ์กระทรวงนครบาล ได้ลงโทษประหารชีวิตนายบุญเพ็ง (บุญเพ็ง หีบเหล็ก) ด้วยวิธีการกุดหัว (ตัดศรีษะ) เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๒ สถานที่ประหารชีวิตนายบุญเพ็ง คือลานวัดภาษี เขตวัฒนา กรุงเทพฯ (นายบุญเพ็งเป็นนักโทษคนสุดท้ายในสยาม ที่ถูกประหารชีวิตด้วยวิธีการกุดหัว)...ข้อมูลประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการลงถูกบันทึกไว้เพียงเท่านี้ เชื่อว่าหลายท่านคงพอจะทราบกันมาบ้างแล้ว แต่ประวัติศาสตร์หน้านี้ยังไม่สมบูรณ์ เพราะขาดรายละเอียดสำคัญในส่วนของปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ซึ่งเป็นช่วงเวลาขณะที่เพชรฆาตได้ลงดาบประหารนายบุญเพ็ง...เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น ชาวบ้านรุ่นคุณทวดที่ได้เข้าชมการประหารชีวิตนายบุญเพ็ง ต่างรู้เห็นกันทุกคน (เพราะสมัยนั้นทางการอนุญาตให้ประชาชนเข้าชมการประหารชีวิตได้) แล้วจึงมาเล่าให้ลูกหลานฟังต่อๆกันมาว่า เพชรฆาตได้ลงดาบฟันคอนายบุญเพ็งอย่างแรง แต่ดาบนั้นฟันไม่เข้า เนื่องจากนายบุญเพ็งเป็นคนที่มีอาคมขลังหนังเหนียว เพชรฆาตจึงบอกกับนายบุณเพ็งว่า มีของดีอะไรให้เอาออกมามิเช่นนั้นจะเอาไม้รวกสวนทวาร(ก้น) แล้วจะเจ็บปวดทรมานจนตาย...(วิธีการสวนทวารนี้ เป็นวิธีที่ครูเพชรฆาตสมัยโบราณสอนต่อๆกันมา จะใช้กับนักโทษประหารที่มีอาคมขลังหนังเหนียวเท่านั้น) นายบุญเพ็งจึงยอมคาย "พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่าเนื้อชินเขียว" ซึ่งได้อมไว้ออกมาจากปาก จากนั้นเพชรฆาตจึงกุดหัวนายบุญเพ็งได้สำเร็จ...ข้อมูลส่วนนี้คือประวัติศาสตร์สำคัญหน้าที่ขาดหายไป แม้จะไม่ได้รับการจดบันทึกไว้อย่างเป็นทางการก็ตาม แต่ก็ถูกเล่าขานเป็นตำนานในกลุ่มของผู้ที่นิยมสะสมพระกรุอย่างไม่มีวันจบสิ้น
จากเรื่องที่นายบุญเพ็งหนังเหนียวฟันไม่เข้า เพราะอมพระพิจิตรเม็ดข้าวเม่าเนื้อชินเขียวไว้ในปาก กลายเป็นที่โจษขานกันอย่างมากในวงการนักสะสมพระเครื่องยุคปี พ.ศ.๒๔๖๒ ทั้งเซียนพระและชาวบ้าน(ที่รู้เห็นเหตุการณ์)ต่างพากันแสวงหาพระเครื่องชนิดนี้กันถ้วนหน้า ทำให้พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่าเนื้อชินเขียวได้รับความนิยมขึ้นมาทันที ประกอบกับในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ได้มีกลุ่มคนร้ายเที่ยวลักลอบขโมยขุดพระเจดีย์ร้างตามจังหวัดต่างๆ เพื่อค้นหาสมบัติเพชรพลอยทองคำในพระเจดีย์กันมากขึ้น จึงทำให้พระเนื้อชินเขียวแตกกรุออกมาเรื่อยๆเป็นจำนวนมากมายมหาศาลตามไปด้วย ซึ่งพระกรุเหล่านี้ ส่วนใหญ่ก็จะถูกลำเลียงเข้าสู่สนามพระเครื่องในตัวจังหวัดนั้นๆ จากนั้นก็จะถูกลำเลียงเข้าสู่สนามพระที่กรุงเทพอีกต่อหนึ่ง (สนามพระที่กรุงเทพในยุคนั้น อยู่ที่วัดราชนัดดา , วัดโพธิ์ , สนามหลวง ฯลฯ) ไม่ว่าจะเป็นพระร่วงพิมพ์ต่างๆเนื้อชินเขียว , พระอัฏฐารสเนื้อชินเขียว , พระสี่สวนเนื้อชินเขียว , พระมเหศวรเนื้อชินเขียว , พระหูยานเนื้อชินเขียว , พระกำแพงหย่อง-พระปางลีลาพิมพ์ต่างๆเนื้อชินเขียว , พระขุนแผนเนื้อชินเขียว , พระนาคปรก-พระรอด พะเยาเนื้อชินเขียว , พระพิจิตรหัวดง-พระพิจิตรพิมพ์ต่างๆเนื้อชินเขียว เป็นต้น จากประสบการณ์ที่สัมผัสมา พระกรุเนื้อชินเขียวน่าจะมีแบบพิมพ์พระเครื่องรวมกันทั้งหมดไม่น่าจะต่ำกว่า 50 พิมพ์ และที่เป็นพระขนาดใหญ่มีน้ำหนักมาก(คล้องคอช้าง-ม้า)อีกไม่น้อยกว่า 10 พิมพ์
ส่วนในด้านประสบการณ์เชิงอิทธิปาฏิหารย์ของพระกรุเนื้อชินเขียว นอกจากเรื่องของนายบุญเพ็งแล้ว ยังมีอยู่อีกมากมายหลายเรื่องซึ่งคนเก่าแก่ในยุคนั้นทราบกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขุนโจร(เสือคุ้มต่างๆ)ที่แขวนพระแล้วออกปล้น แต่กลับคงกะพันหนังเหนียว หรือเรื่องของนักเลงหัวไม้ ที่แขวนพระเครื่องแล้วฟันแทงกันตามงานวัดแต่ไม่เป็นอะไร เป็นต้น...จากเท่าที่ได้ประมวลเหตุการณ์จากคำบอกเล่าของคนในยุคนั้น เกี่ยวกับเรื่องของการแขวนพระเครื่องแล้วทำให้ผู้ที่แขวน กลายเป็นคนคงกะพันหนังเหนียวพบว่า พระที่แขวนคอกันส่วนใหญ่มักจะหนีไม่พ้นพระกรุเนื้อชินเขียวนั่นเอง ในส่วนนี้จึงเป็นดัชนีชี้วัดได้อย่างดีว่า คนในยุคนั้นให้ความนิยมกับพระกรุเนื้อชินเขียวกันขนาดไหนและเหตุผลคืออะไร

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top