-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525
พระสมเด็จ หลวงปู่เจ๊ก วัดระนาม 2 องค์



ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระสมเด็จ หลวงปู่เจ๊ก วัดระนาม 2 องค์ |
อายุพระเครื่อง | 33 ปี |
หมวดพระ | พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน หลังปี 2525 |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ส. - 27 เม.ย. 2567 - 21:37.14 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อา. - 26 พ.ค. 2567 - 10:19.08 |
รายละเอียด | |
---|---|
พระสมเด็จ หลวงปู่เจ๊ก วัดระนาม 2 องค์ ปี 2535 มีเกศา ท่าน ทั้ง 2 องค์ ครับ ได้มา ทั้งตลับ ยกชุด ทั้ง 2 องค์ หลวงปู่เจ๊ก วัดระนาม พระอริยสงฆือีกรูปหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึง และเซียนใหญ่เซียนไม่ใหญ่ ไม่นิยมเช่าหา หรือบูชาเพราะไม่มีค่านิยมทางพาณิชย์ แต่เชื่อหรือไม่วัตุถุมงคลหรือพระเครื่องที่ท่านเสก หรืออธิษฐานจิต มีพุทธคุณสูงมากในทุกๆด้าน ที่เห็นเป็นรูปธรรมเลยก็ เรื่องปืนที่ไม่สามารถยิงออกได้ กับคนร้ายที่มุ่งประสงค์จะเอาชีวิตกับผู้ที่มีวัตถุมงคลหรือพระเครื่องของหลวงปู่เจ๊ก แขวนบูชาไว้ติดตัว หรือเรื่อง คงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัยตลอดจนเมตตา ค้าขายก็มีเช่นกัน 🤓😆😆😆 หลวงปู่เจ๊ก วัดระนาม จ.สิงห์บุรี เป็นพระอริยะเจ้าอีกองค์ที่ คุณหมอสุข คงอุไร นับถือท่านมาก หลวงปู่ท่านเป็นศิษย์ของลพ.ใยวัดระนามซึ่งหลวงพ่อใยท่านเป็นพระยุคเดียวกับหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า เเต่ลพ.ใยอายุอ่อนกว่า หลวงปู่เจ๊กท่านว่าท่านเรียนอานาปานสติจากหลวงพ่อใย สมัยที่คณะศิษย์รัศมีพรหมไปหาหลวงปู่เจ๊กตอนนั้นท่านก็อายุ90กว่าๆแล้ว เเต่ท่านเมื่อรู้ว่าคุณหมอสมสุขเป็นศิษย์หลวงพ่อพรหมได้อานาปานสติมาจากหลวงพ่อพรหมท่านก็เมตตาต่อคุณหมอสมสุข และคณะรัศมีพรหมมาก ถามเรื่องธรรมะกับท่านๆก็ตอบหมดไม่ปิดบัง เมื่อครั้งปี2536 ที่บ้านอาจารย์หมอสะพานเหลืองจัดพิธีพุทธาภิเศกทั้งสองครั้งอาจารย์หมอนิมนต์หลวงปู่เจ๊กท่านก็มาทั้งสองครั้ง ตอนนั้นหลวงปู่เจ๊กอายุ96ปีเเล้ว ท่านกับท่านพ่อคร่ำอายุเท่ากัน ตอนนั้นหลวงปู่สุภาก็ได้นิมนต์มาด้วยหลวงปู่สุภาอายุมากที่สุด98ปี ทั้งสามองค์นั่งติดกัน หลวงปู่เจ๊กท่านดังเเถวท้องถิ่นอยู่เเล้วในสมัยนั้น ที่วัดท่านออกวัตถุมงคลเองหลายอย่างมากมีประสพการณ์มากมีคนโดนยิงไม่ออก ตอนคณะรัศมีพรหมไปก็เช่าวัตถุมงคลท่านกันมาก และยังเคยเจอประสพการณ์วัตถุมงคลท่าน มีญาติของคนในคณะเปิดร้านขายค้าศรีนครินทร์เคยโดนพวกโจรมาจี้จะเอากระเป๋าใส่เงินขายต้นไม้ที่เเขวนไว้ แล้วแต่แกไม่ยอมเข้าไปแย่งกระเป๋าคืน โจรเลยเอาปืนยิงจ่อท้องประชิดตัวเลยยิงไป3-4นัดไม่ออกขนาดยิงเผาขนขนาดนั้น แกกับพวกแถวนั้นเอากระถางต้นไม้ทุ่มใส่โจรสลบเลย จับส่งตำรวจได้สบายๆ คนในคณะนิมนต์ลป.เจ๊กไปที่บ้านที่สมัยก่อนอยู่คลองตัน พื้นที่ข้างหลังเป็นคลองที่บ้านขายต้นไม้ด้วยงูก็เยอะสารพัดตอนนั้นลูกๆยังเล็กก็กลัวงูกัดเด็ก จึงนิมนต์ลป.เจ๊กมาทำพิธี ท่านให้หาทรายมาเเล้วลป.เจ๊กท่านก็เสกทรายให้เเล้วเอาไปหว่านรอบๆพื้นที่บ้าน ว่ากันว่าตั้งแต่นั้นมาไม่เห็นงูมารบกวนที่บ้านอีกเลย ญาติผู้ใหญ่ของผมเองเคยเอาแผ่นเงินไปให้หลวงปู่เจ๊กท่านลงให้ พอลงเสร็จท่านบอกว่า “อย่าเอาไปลองยิงนะ ปืนจะแตก” *****เชื่อไม่เชื่ออย่างไรก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านแล้วครับ**** พระครูอินทคณานุสิชฌน์ หรือหลวงปู่เจ็ก (หลวงพ่อเจ็ก) อาจารสุโภ อดีตเจ้าอาวาสวัดระนาม หมู่ ๖ บ้านระนาม ตำบลชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวจังหวัดสิงห์บุรีและจังหวัดใก้ลเคียงให้ความเคารพศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างมาก ท่านเปี่ยมไปด้วยความเมตตากับญาติโยมทุกๆ คนที่ไปหาท่านไม่ว่าจะเป็นชนชั้นใดให้ความเมตตาเท่ากันหมด "นายทองอินทร์ สุขุม" เป็นชื่อและนามสกุลเดิมของหลวงปู่เจ็ก เกิดเมื่อ พ.ศ.๒๔๔๐ ที่บ้านเดิมบางนางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี โยมบิดาชื่อ นายมะกล่ำ โยมมารดาชื่อ นางถุงเงิน มีพี่น้องทั้งหมด ๗ คน ท่านเป็นคนที่ ๖ โดยที่มาของชื่อ "เจ็ก" นั้น นอกจากตั้งตามเชื้อสายเป็นลูกชาวจีนแล้ว ยังตั้งตามความเชื่อที่ว่า "ถ้าชื่อเด็กไพเราะเพราะพริ้งจะเลี้ยงยาก ขี้โรค และถ้าตั้งชื่อลูกให้มีความหมายน่าเกลียดน่าชังเด็กคนนั้นๆ จะไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วย จะเลี้ยงง่าย เมื่ออายุมากขึ้นทางบ้านเห็นว่าน่าที่จะต้องรู้หนังสือพออ่านออกเขียนได้ไว้บ้าง พี่สาวกับพี่เขยจึงฝากให้เรียนหนังสือกับหลวงพ่อปั้น และหลวงพ่อมา ที่วัดเสือข้าม ต.ประสบสุข อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี จนกระทั่งอายุครบ ๒๐ ปี ก็บวชเป็นพระที่วัดระนาม โดยมีหลวงพ่อใย อดีตเจ้าอาวาสวัดระนามเป็นพระอุปัชฌาย์ พระวินัยธรเขียว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระใบฎีกาพรหม วัดบางคู เป็นพระอนุสาวนาจายร์ ได้ฉายาว่า "อาจารสุโภ" บวชได้ ๑ ปี ก็ถูกเกณฑ์เป็นหทาร เมื่อครบกำหนด ๒ ปี ท่านก็กลับไปบวชเป็นครั้งที่ ๒ เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๗ โดยมีหลวงพ่อใย อดีตเจ้าอาวาสวัดระนามเป็นพระอุปัชฌาย์ พระคู่สวดก็รูปเดิม นอกจากศึกษาด้านปริยัติจนสามารถสอบนักธรรมชั้นโทได้ หลวงปู่เจ็กยังเป็นศิษย์ของหลวงพ่อแบน วัดเดิมบาง (อาจารย์องค์หนึ่งของหลวงพ่อกวย) หลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์ หลวงพ่อใย วัดระนาม หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงพ่อพรหม วัดบางปูน ซึ่งอาจารย์ของท่านที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่เป็นพระที่เป็นตำนานของสุดยอดพระเกจิทั้งสิ้น หลวงปู่เจ็ก เป็นพระอริยสงฆ์ที่ทรงอภิญญาสูงมาก ท่านอายุยืน ท่านมรณภาพนับอายุได้ร้อยกว่าปี และมีเมตตาเป็นปกติ ไม่ชอบความวุ่นวาย มีความเป็นอยู่เรียบง่าย สมถะเป็นที่สุด วันทั้งวันถ้าไม่มีกิจอะไรท่านจะนั่งภาวนาตลอด เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของสาธุชนทั่วประเทศ ฌานสมาบัติของท่านนั้นเยี่ยมยอดมากๆ หลายท่านเจอกับตนเอง เช่น ก่อนไปตั้งใจจะไปหาท่าน เพื่อให้ท่านสงเคราะห์เรื่องต่างๆ พอไปเห็นหน้าท่าน ท่านสามารถบอกได้หมดว่าต้องการให้ท่านสงเคราะห์เรื่องอะไร ทั้งๆ ยังไม่ได้พูดอะไรออกไปเลย อย่างไรก็ตามเมื่อครั้งที่หลวงปู่เจ็กมีชีวิตอยู่มักมีผู้นิยมไปกราบไหว้ขอพร และยากได้ยินคำที่หลวงปู่เจ็กพูดว่า "ขอให้โชคดีนะโยม กลับบ้านให้มีเงินทองใช้มากมาย แต่อย่าลืมทำบุญนะ" ปรากฏว่าผู้ที่ได้รับพรจากหลวงปู่ไปเมื่อกลับมากราบหลวงปู่อีกครั้งกลับกลายเป็นคนมีฐานะดีกว่าที่มากราบหลวงปู่ครั้งแรก เรื่อวาจาสิทธิ์นี้เป็นที่กล่าวขานของคนจังหวัดสิงห์บุรีและใกล้เคียงมาถึงทุกวันนี้ ปาฏิหาริย์แห่งพระหลวงปู่เจ็ก "ล็อกเกตทุกรุ่นของหลวงปู่เจ็กนี้ผู้ที่แขวนคอไว้ เมื่อประสบอุบัติเหตุทางด้านรถชนจะรอดตายทุกราย ในขณะที่เหรียญรุ่นหนึ่งที่เขาเรียกว่ารุ่น เง็ก มีอภินิหารมากจริงๆ เหรียญรุ่นนี้สร้างเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓ มีหลายคนคิดว่าหลวงปู่นี้คงสร้างออกมาเฉยๆ คงไม่มีอภินิหารอะไร แต่ที่ไหนได้มีคนเอาใส่หมวกกันน็อกโยนขึ้นฟ้าแล้วเอาปืนยิงนับร้อยๆ นัด แต่ยิงไม่ถูก เป็นที่อัศจรรย์แก่ผู้พบเห็นอย่างมาก" นี่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องเล่าของพุทธคุณแห่งพระเครื่องที่จัดสร้างโดยหลวงปู่เจ็ก วัดระนาม พระอริยสงฆ์ ๕ แผ่นดิน แห่งเมืองสิงห์บุรี พระเครื่องและวัตถุมงคลขอหลวงปู่เจ็กขึ้นชื่อว่าพุทธคุณสูงมากๆ โดดเด่น ด้านแคล้วคลาด มหาอุด เมตตา โชคลาภยิ่งนัก เช่น เหรียญรุ่น ๑ ของหลวงปู่เจ็ก เป็นเหรียญที่เขียนชื่อท่านผิดไปจากคำว่า "เจ็ก" เป็นเง็ก" ก่อนหน้านี้ท่านได้สร้างเหรียญรุ่น 1 เป็นเหรียญที่เขียนชื่อท่านผิดไปจากคำว่า เจ็ก เป็น เง็ก สร้างเมื่อปี 2523 ว่ากันว่ามีคนเอาไปลองใส่ในหมวกกันน๊อคแล้วโยนขึ้นฟ้า และกระหน่ำยิงเป็นร้อยนัด แต่ยิงไม่ถูกเลย เป็นที่นิยมอย่างมาก กระทั่งหมดจากวัดไปอย่างรวดเร็ว เป็นที่นิยมของบรรดาศิษยานุศิษย์ และประชาชนทั่วไปเป็นอันมาก ส่วนรูปหล่อเหมือนหลวงปู่เจ็กสำหรับติดหน้ารถนั้น เป็นรุ่น "ซ่อหอประชุม" มีอภินิหารมากเช่นกัน โดยในวันที่ผู้สร้างแบบมาขอถ่ายรูปหลวงปู่ ไม่ติดภาพหลวงปู่สักใบ ทั้งๆ ที่ฟิล์มถ่ายรูปก็ไม่เสียแต่อย่างใด ในขณะที่วัตถุมงคลรุ่นไพรพ่ายซึ่งเป็นรุ่นแรกนั้นก็มีอภินิหารแปลกๆ ให้ได้เห็น เช่น ตอนที่สร้างครั้งแรกนั้นหลวงปู่เทผงลงเบ้าไม่หมดจึงไม่ดังเท่ามี่ควร ท่านจึงนำมาเข้าพิธีหล่อใหม่ ปรากฏว่าช่างรมดำไม่ติดองค์พระของท่านเลย นอกจากนี้แล้วมีดหมอหลวงปู่เจ็กที่ท่านสร้างครั้งแรกนั้นก็มีอภินิหารมากมาย วัตถุมงคล รุ่นปลอดภัย มั่งมี ศรีสุข ปี 2536 หลวงพ่อเจ็ก ท่านจัดสร้างเพื่อนำปัจจัยไปบูรณะวัดของอาจารย์ท่าน ระหว่างทำพิธีพุทธาภิเษกพระเครื่องชุดนี้ได้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับลูกศิษย์ท่าน คือ ระหว่างทำพิธี ทางกรรมการได้ตั้งกล้องถ่ายทำวิดีโอ ไว้ 4 มุม 4 ตัว ปรากฏว่า กล้องทั้ง 4 ตัว ไม่มีรูปท่าน เห็นแต่สิ่งของในพิธีเท่านั้น และ ตรงหน้าหลวงพ่อเจ็ก มีโอ่งน้ำมนต์เทียนชัย บรรจุน้ำอยู่ครึ่งโอ่ง แต่หลังจากเสร็จพิธี ปรากฎว่ามีน้ำอยู่เต็มโอ่ง กลายเป็นที่กล่าวขวัญในหมู่ลูกศิษย์ พระเครื่องของท่าน โดดเด่น ด้านแคล้วคลาด เมตตา มหาอุดและโชคลาภ วันไหนท่านอารมณ์ดี และเป็นวันใกล้หวยออก ถ้าศิษย์คนไหนมีโชค ท่านจะบอกเลขให้ไปซื้อ หลายท่านได้โชคจากท่านเป็นที่ร่ำลือทั่วสิงห์บุรีเลยทีเดียว การจัดสร้างวัตถุมงคลนั้น นายประจวบ มงคล อดีตอาจารย์ใหญ่ ร.ร.วัดระนาม ซึ่งเป็นลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดที่หลวงปู่เจ็กไว้ใจมากที่สุด ไม่ว่าจะทำอะไรภายในวัด รวมทั้งสร้างวัตถุมงคลของหลวงปู่เจ็กทุกๆ รุ่น ท่านก็จะให้จัดการแทนทั้งหมด หลวงพ่อเจ็ก มรณภาพอย่างสงบเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ.2538 สิริอายุ 98 ปี 74 พรรษา ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวสิงห์บุรีและลูกศิษย์ในจังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่ามากราบนมัสการท่านแล้ว ไม่ผิดหวังแม้แต่รายเดียว หลวงปู่ท่านมีอายุยืนยาวตอนท่านมรณภาพก็ร่วมๆร้อยปี สังขารท่านไม่เน่าไม่เปื่อยเก็บไว้ในโลงเเก้วหลายปี ตอนเเรกๆก็เอาไว้ที่กุฏิท่าน พอน้ำท่วมเขาก็ย้ายโลงเเก้วท่านไปไว้ที่ศาลาไม้ ที่นั่นไม่มีคนดูเเล ปล่อยให้ขี้ฝุ่นหยากไย่ขึ้น เขาว่าท่านไปเข้าฝันลูกศิษย์ว่าให้เผาสังขารท่านเสียอย่าเก็บไว้ ทางวัดที่มีเจ้าอาวาสองค์ใหม่เขาว่าไม่ใช่พระพื้นที่ไม่ค่อยสนใจนับถือลป.เท่าไหร่ ทางวัดจึงเผาสังขารท่านไปแล้ว จึงเป็นที่น่าเสียดายที่สังขารไม่เน่าเปื่อยของท่านได้ถูกทำการเผาไป |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...










อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments