เหรียญเนื้อดิน หลวงพ่อสร้อย วิจาโร วัดเขาแก้ว สระบุรี ปี 2503-จ่าจีระสิทธิ์ - webpra
VIP
  • 0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
  • Page 1
  • Page 2
หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525

เหรียญเนื้อดิน หลวงพ่อสร้อย วิจาโร วัดเขาแก้ว สระบุรี ปี 2503

เหรียญเนื้อดิน หลวงพ่อสร้อย วิจาโร วัดเขาแก้ว สระบุรี ปี 2503 - 1เหรียญเนื้อดิน หลวงพ่อสร้อย วิจาโร วัดเขาแก้ว สระบุรี ปี 2503 - 2เหรียญเนื้อดิน หลวงพ่อสร้อย วิจาโร วัดเขาแก้ว สระบุรี ปี 2503 - 3เหรียญเนื้อดิน หลวงพ่อสร้อย วิจาโร วัดเขาแก้ว สระบุรี ปี 2503 - 4
ชื่อร้านค้า จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เหรียญเนื้อดิน หลวงพ่อสร้อย วิจาโร วัดเขาแก้ว สระบุรี ปี 2503
อายุพระเครื่อง 65 ปี
หมวดพระ พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525
ราคาเช่า -
เบอร์โทรติดต่อ 08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ Tayanrum@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ เช่าแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พ. - 04 ก.ย. 2567 - 21:33.25
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ พ. - 04 ก.ย. 2567 - 22:34.26
รายละเอียด
เหรียญเนื้อดิน หลวงพ่อสร้อย วิจาโร วัดเขาแก้ว สระบุรี ปี 2503

....
....

สายขลัง...ขึ้นห้าง ราคาแรงมากครับ...



เครดิต บทความจาก

ฅนขลัง คลังวิชา
31 มกราคม 2016 ·
ஐ พระผู้รับบิณฑบาตจากเทวดา ஐ
*.....* หลวงพ่อสร้อย วิจาโร *.....*
พระอรหันต์ที่หลวงพ่อฤๅษีลิงดำนับถือ
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
ในชีวิตของข้าพเจ้านับถือครูบาอาจารย์มากมายหลายรูป แต่ครูบาอาจารย์ที่นับว่าสุดยอดของข้าพเจ้ามีไม่กี่รูป ซึ่งครูบาอาจารย์บางรูปก็ไม่ได้โด่งดังอะไรนัก ติดจะลึกลับผู้ฅนไม่ค่อยรู้จักเสียด้วยซ้ำ ในวาระนี้ขอกล่าวถึงพระอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่ข้าพเจ้าเคารพนับถือท่านมานาน ท่านเป็นพระแท้บริสุทธิ์เป็นผู้ถึงพร้อมทั้งบุญฤทธิ์ และอิทธิฤทธิ์ เป็นพระอรหันต์ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยกล่าวถึงไว้ว่าท่านเคยพบอภินิหารหลายประการของ หลวงพ่อสร้อย สมัยที่ท่านอาพาธเข้ารับการรักษาตัว ณ กรมแพทย์ทหารเรือ ทั้งนี้หลวงพ่อสร้อยรูปนี้ยังเป็นหนึ่งในครูบาอาจารย์ที่ แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม ให้ความเคารพนับถือมาก โด่งท่านเรียกหลวงพ่อใหญ่ หรือหลวงพ่อบาตรใหญ่ ทั้งมอบตัวเป็นศิษย์ด้วยท่านเคารพในภูมิธรรม
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
ท่านบอกว่า ตัวท่านเป็นชาวจังหวัดสระบุรี ไม่เคยเรียนหนังสือมาก่อนเลย ตัวหนังสือไทนี้ตามปกติท่านก็อ่านไม่ออก ท่านว่าเมื่อท่านอายุได้ ๗ ปี มีพระอาจารย์ในถ้ำเขตสระบุรีรูปหนึ่ง ไปเยี่ยมโยมท่านที่บ้าน เมื่อพระรูปนั้นจะกลับถ้ำ ได้ออกปากชวนท่านไปอยู่ด้วย ท่านก็ขออนุญาตโยมพ่อ – โยมแม่ ว่าจะไปอยู่กับพระอาจารย์รูปนั้น โยมทั้งสองอนุญาตด้วยความเต็มใจ
............
หลวงพ่อสร้อยเคยเล่าไว้ว่า เมื่อท่านไปอยู่กับพระอาจารย์รูปนั้นก็ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ เพราะในถ้ำนั้นมีพระสงฆ์อยู่ ๒ - ๓ รูป ท่านบิณฑบาตกลับมาแล้ว ท่านฉันจังหันเสร็จ ต่างก็เข้าที่บูชาพระ แล้วนั่งภาวนากันตลอดวันตลอดคืน ไม่ใคร่มีเวลาพูดคุยกัน ท่านอาจารย์ในถ้ำก็สอนให้หลวงพ่อสร้อยภาวนาด้วย ทำอยู่อย่างนั้นจนครบบวช พระอาจารย์ในถ้ำก็พาออกมาบวชที่บ้านโยมท่าน เมื่อหลวงพ่อสร้อยบวชแล้วก็พากลับมาอยู่ที่ถ้ำเช่นเดิม สอนให้นั่งภาวนาตามที่พระอาจารย์สอนเช่นเดิม
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
หลวงพ่อสร้อย วิจาโร เป็นพระเถระที่ทรงคุณด้านวิปัสสนากรรมฐาน ผู้ฅนในเขตจังหวัดสระบุรีรู้จักท่าน ด้วยวัตรปฏิบัติท่านเคร่งครัดน่าเคารพเลื่อมใส ท่านฉันอาหารมังสวิรัติเพียงวันละหนึ่งมื้อ ต่อมาพระครูศรีรัตนาบาลได้นิมนต์มาจำพรรษา ณ วัดเขาแก้ว จังหวัดสระบุรี เพื่อขอบารมีท่านช่วยสร้างวัดภูเขาแก้ว ที่กำลังก่อสร้างแต่ยังขาดแคลนปัจจัยอยู่มากในเวลานั้น ขอท่านช่วยสร้างวัดให้สำเร็จลุล่วงเสียที ซึ่งเวลานั้นกำลังก่อสร้างพระเจดีย์และศาลาการเปรียญ
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
หลวงพ่อสร้อย อายุ ๗๐ แล้วยังเดินธุดงค์มากรุงเทพฯได้ แสดงว่าท่านต้องแข็งแรงมาก จิตของหลวงพ่อสร้อยแข็งแกร่งแต่ร่างกายของท่านไม่สู้แข็งแรงนัก ท่านอายุมากทั้งฉันภัตตาหารเพียงวันละหนึ่งมื้อ ฉันแต่ข้าวกับผักและเกลือ ไม่ฉันเนื้อสัตว์ทุกชนิด ท่านจึงเป็นโรคขาดสารอาหาร ตามปกติหลวงพ่อสร้อยจะใช้บาตรขนาดใหญ่มากออกบิณฑบาต ญาติโยมจะใส่จนเต็ม บาตรหนักมากแม้แต่ฅนธรรมดายังอุ้มไม่ไหว แต่หลวงพ่อท่านอุ้มบาตรนี้ได้เป็นระยะทางหลายกิโลเมตร ฅนเลยเรียกท่านว่า หลวงพ่อบาตรใหญ่หลวงพ่อสร้อยจะฉันอาหารในบาตร ท่านจะเลือกฉันแต่ข้าวและผักเพียงนิดหน่อย ส่วนอาหารที่เหลือท่านจะเพ่งดูอยู่ครู่หนึ่งเพื่อกำหนดจิตอนุโมทนาและให้พรแก่ญาติโยมที่ถวายภัตตาหารแก่ท่าน ต่อจากนั้นท่านจะส่งข้าวปลาอาหารในบาตรให้ญาติโยมกินกันต่อไป
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
ตามประวัติของท่านทราบว่าราวปี พ.ศ.๒๕๐๓ - ๒๕๐๔ หลวงพ่อสร้อยธุดงค์ไปปักกลดอยู่แถวปลายทุ่งบางกะปิ พระนคร ใครจะนิมนต์ท่านเข้าไปในชายคาบ้านท่านไม่ยอม (ท่านอธิษฐานธุดงค์ไม่เข้าชายคาบ้านใคร) ต่อมาท่าน พลเรือตรีสนิท โปกฤษณะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทหารเรือไปพบเข้า มีความเลื่อมใส และได้ทราบว่าพระอาจารย์สร้อยอาพาธ จึงนิมนต์เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลทหารเรือ โดยให้อยู่ตึก ๑ เป็นตึกฅนไข้พิเศษ ที่แห่งนี้เองทำให้หลวงพ่อฤาษีลิงดำซึ่งกำลังอาพาธ และเข้ารักษาตัวอยู่ได้พบหลวงพ่อสร้อย ต่อมาหลวงพ่อฤาษีสังเกตว่าท่านไม่ใช่พระสงฆ์ธรรมดาจึงได้เกิดการทดสอบขึ้น ขอนำเรื่องราวที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำทดสอบ หลวงพ่อสร้อย มาบอกเล่าดังต่อไปนี้
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
§ บิณฑบาตอาหารทิพย์จากเทวดา §
ปฏิปทาของ หลวงพ่อสร้อย คือตอนเช้าท่านต้องบิณฑบาตทุกวัน ท่านไม่ได้ไปไกลท่านจะออกจากตึกฅนไข้พิเศษ ๑ แล้วเดินไปที่ประตูทางเข้าออกตรงโรงพยาบาลทหารเรือ ซึ่งตรงนั้นมีต้นมะฮอกกานี ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือ ชิดประตู ต้นใหญ่มาก ท่านเอาบาตรไปแขวนที่ต้นไม้นี้แล้วท่านก็ยืนหลับตา ฅนเขาก็เดินผ่านไปผ่านมา มันไม่ใช่ป่านี่ ฅนเดินกันไขว่เทียว แล้วท่านก็ยืนหลับตาอยู่ประมาณ ๑๔ นาที
............
จึงลืมตาขึ้นแล้วถือบาตรกลับ ส่งให้นายทหารหัวหน้าตึกแล้วเข้าห้องพักฅนป่วย ซึ่งตรงจุดที่ท่านไปยืนอยู่ใต้ต้นมะฮอกกานีนั้นเป็นทางผ่านเข้าออกของฅนไปมาปกติ ทุกฅนเห็นท่านยืนเฉย ๆ ไม่เห็นใครเอาอะไรมาใส่บาตรให้ แต่ทุกครั้งที่ท่านเอาบาตรกลับมาจะต้องมีข้าวสุกสีเหลืองอ่อน ๆ ประมาณ ๒ - ๓ ทัพพี และดอกไม้แปลก ๆ ที่ไม่เคยเห็นในโลกนี้ ดอกใหญ่เกือบจะเต็มบาตร ติดมาด้วย ๑ ดอกทุกวัน สร้างความแปลกใจแก่ผู้พบเห็นเป็นประจำ
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
บาตรที่ท่านพระอาจารย์สร้อยจะเอาไปแขวนนั้น มีนายทหารเรือเป็นฅนจัดให้ท่าน นายทหารเรือผู้นั้นยืนยันว่า ตนตรวจและทำความสะอาดทุกวัน รับรองว่าบาตรว่าไม่มีอะไรจริงๆ เมื่อท่านเอาบาตรไปแขวนก็อยู่ในสายตาพวกตน เพราะไปไม่ไกลห่างจากตึก ๑ ประมาณไม่ถึง ๑๐ เมตร และติดกับประตูกรมแพทย์ทหารเรือ หมายถึงที่พระอาจารย์สร้อยไปยืนเอาบาตรแขวนต้นไม้ แต่แปลกตรงที่เราไม่เห็นว่าไม่มีใครเอาของมาใส่บาตรเลย ทุกครั้งที่ท่านเอาบาตรมาส่งให้กลับมีข้าวและดอกไม้กลับมาทุกวัน ปกติท่านสอนเตือนให้คณะนายทหารเรือละชั่ว ประพฤติดีทุกวันทำเอานายทหารเรือเลิกสุรายาเมาไปได้หลายฅน
............
❀❀❀❀❀❀❀❀
............
§ พิสูจน์คุณธรรม §
วันหนึ่งหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้ไปกรมแพทย์ทหารเรือ พอไปถึงนายทหารเล่าว่า พฤติกรรมแปลกประหลาดของ หลวงพ่อสร้อยให้ฟัง หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็นึกในใจว่าพระอาจารย์สร้อยผู้นี้อาจได้ฌานโลกีย์ และอย่างสูงอาจได้พระอริยบุคคลก็ได้ ดังนั้น ท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำจึงได้บอกกับบรรดานายทหารเรือว่า เอาอย่างนี้ซิ เรามาลองท่าอาจารย์สร้อยดูสักวิธีหนึ่ง คือ ลองพูดภาษาต่าง ๆ กับท่าน ถ้าท่านรู้เรื่องและพูดได้ทุกภาษาแล้ว ฉันคิดว่าพระอาจารย์สร้อยนี้เป็นอริยะเจ้าขั้นปฏิสัมภิทาญาณ ผู้ที่จะได้ปฏิสัมภิทาญาณต้องเป็นพระอรหันต์เสียก่อน คุณสมบัติปฏิสัมภิทาญาณจึงจะปรากฏ
............
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ จึงได้รวบรวมนายทหารเรือที่พูดภาษาต่างประเทศได้ ๖ ภาษา คือ ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน ญี่ปุ่น และมาลายู แล้วจึงส่งนายทหารเรือที่ชำนาญแต่ละภาษาเข้าไปพูดกับพระอาจารย์สร้อย ปรากฏอัศจรรย์ว่า พระอาจารย์สร้อย สามารถพูดตอบโต้ได้ทุกภาษาเล่นเอานายทหารเรือชุดนั้นงงไปตาม ๆ กัน นายทหารเรือชุดนั้นได้กราบเรียนถามพระอาจารย์สร้อยว่า ไปเรียนภาษาต่างประเทศมาจากไหน จึงสามารถพูดได้ทุกภาษาเ

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top