เหรียญ ร.6 กรมการรักษาดินแดน ปี 2505 ขนาด 3 ซ.ม.ยันต์จม-จ่าจีระสิทธิ์ - webpra
VIP
  • 0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7
  • Page 1
  • Page 2
หน้าที่ และความรับผิดชอบ
 เหรียญ ร.6 กรมการรักษาดินแดน ปี 2505 ขนาด 3 ซ.ม.ยันต์จม - 1 เหรียญ ร.6 กรมการรักษาดินแดน ปี 2505 ขนาด 3 ซ.ม.ยันต์จม - 2 เหรียญ ร.6 กรมการรักษาดินแดน ปี 2505 ขนาด 3 ซ.ม.ยันต์จม - 3 เหรียญ ร.6 กรมการรักษาดินแดน ปี 2505 ขนาด 3 ซ.ม.ยันต์จม - 4 เหรียญ ร.6 กรมการรักษาดินแดน ปี 2505 ขนาด 3 ซ.ม.ยันต์จม - 5
ชื่อร้านค้า จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า
ชื่อพระเครื่อง เหรียญ ร.6 กรมการรักษาดินแดน ปี 2505 ขนาด 3 ซ.ม.ยันต์จม
อายุพระเครื่อง 63 ปี
หมวดพระ วัตถุมงคลของแผ่นดิน เชื้อพระวงศ์ บุคคลสำคัญ เหรียญกษาปณ์ เหรียญที่ระลึก ธนบัตร
ราคาเช่า 350 บาท
เบอร์โทรติดต่อ 08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ Tayanrum@hotmail.com
LINE
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ จองแล้ว
Facebook
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ พฤ. - 01 พ.ค. 2568 - 21:21.35
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ พฤ. - 01 พ.ค. 2568 - 22:11.24
รายละเอียด

เหรียญ ร.6 กรมการรักษาดินแดน ปี 2505 ขนาด 3 ซ.ม.ยันต์จม

เหรียญ สวย ไม่ผ่านการใช้ มีรอยจาร คล้าย ๆ แบบ ที่ หลวงปู่ดูจาร วน ๆ ย้ำ

ทั้ง หน้า และ หลัง
เหรียญ ร.6 กรมการรักษาดินแดน
ปี 2505 ขนาด 3 ซ.ม. บล็อคยันต์จม หูเชื่อม จะเป็น เหมือน เหรียญใหญ่

การแกะพิมพ์ จะสวยงามกว่ามากครับ

ราคา พิเศษ ครับ (บล็อคนี้ ต้องสี่ร้อยห้าสิบ )

เครดิต.. นวเรศ วิมล
ศักดิ์สิทธิ์
2 มกราคม 2020 ·
พบพระอรหันต์กลางกรุง
ดัดแปลงจากเรื่อง รอยพระบาทเจ้าคุณนรฯ ก่อปาฏิหาริย์
เขียนโดยคุณบรรจง มีแสงพราว
ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร ศักดิ์สิทธิ์ ปีที่ 2 ฉบับที่ 32 วันที่ 30 มิถุนายน 2527
คัดลอกจากที่โพสท์ใน : www.saktalingchan.com
รวมรวม และเขียนโดย........ธีรวัชร จรเจริญ
เมื่อประมาณ พ.ศ. 2500-2513 เป็นช่วงที่หนังสือประเภทแวดวงพุทธจักรยังไม่มีเกลื่อนกลาด คงมีแต่ นสพ. "บางกอกไทม์" ฉบับเดียวที่เสนอข่าวด้านนี้ และผมซึ่งเป็นนักข่าวเฉพาะกิจจึงมีโอกาสสัมผัสกับท่านเจ้าคุณนรฯ บ่อยครั้ง เคยเผชิญทั้งสิ่งอัศจรรย์และของขลังจากพระคุณท่านบ่อยที่สุด ผมถูกมอบหมายจากท่านเจ้าคุณอุดมฯ ให้เขียนประวัติชีวิต ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ หลังจากท่านมรณภาพวันเดียวเท่านั้น และยังเป็นคนแรกที่เขียนอีกด้วย
ก่อนที่ชื่อเสียงของท่านจะขจรขจายออกนอกกำแพงวัดไปทั่วนั้น ผมจำได้ว่า เมื่อ พ.ศ. 2505 กรมการรักษาดินแดนได้จัดสร้างเหรียญ ร. 6 ขึ้นและจัดพิธีพุทธาภิเษกโดยนิมนต์เกจิอาจารย์ชื่อดังเข้าร่วมปลุกเสก โดยคณะกรรมการยังได้นิมนต์ ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ วัดเทพศิรินทร์ เนื่องจากท่านเป็นผู้ที่จงรักภักดีต่อ ร.6 อย่างมาก
แม้ว่าท่านจะปฏิเสธ ด้วยไม่ยอมออกนอกวัด แต่ท่านได้บอกทางคณะกรรมการว่า
"อาตมาจะขอนั่งปรกปลุกเสกอยู่ในกุฏิเพื่อส่งกระแสจิตร่วมในครั้งนี้จนกระทั่งเสร็จพิธี"
ผมจึงประโคมข่าวนี้ให้ประชาชนทราบ และปรากฏว่า มีคลื่นมหาชนเดินทางมาสั่งจองเหรียญกันเกินความคาดหมาย
ผมยังเขียนข่าวเรื่อง ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ ถอดกายทิพย์ไปปรากฏตัวและรักษาโรคให้ชาวอเมริกัน รวมทั้งปรากฏตัวให้เห็นตามบ้านต่างๆ อีกด้วย จากนั้นชื่อเสียงของท่านก็ดังระเบิด จนเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ
คราวนี้เดือดร้อนที่จะต้องเข้าพบกับท่าน เพื่อขอสัมภาษณ์ข้อเท็จจริง เพราะข่าวที่เขียนไปนั้น มาจากคำบอกเล่าของผู้อื่นทั้งสิ้น
การพบท่านนับว่าลำบากพอดู เพราะจะพบได้หลังทำวัตรเช้า - เย็นเท่านั้น แต่ญาติโยมก็ไปดักพบเต็มไปหมด ทำให้หาโอกาสคุยได้ยาก ผมกับคุณ วงศ์ แววงาม ที่เป็นช่างภาพ จึงไปดักพบตอนเช้า ที่บริเวณโบสถ์ ก่อนที่ท่านจะมาลงทำวัตรเช้า
ผมให้คุณวงศ์ไปดักถ่ายรูปบนระเบียงโบสถ์ ส่วนผมดักพบตรงประตูเข้าบริเวณโบสถ์ ได้จังหวะพอดิบพอดีกับมุมกล้องทีเดียว (ภาพที่ได้มาคือภาพหน้าปกของหนังสือที่ท่านถืออยู่เล่มนี้) เมื่อท่านเดินเข้าประตูมา ผมรีบเข้าประชิดตัวทันที พร้อมกับคารวะท่าน แล้วจึงถามคำถามที่เตรียมไว้โดยไม่รีรอ
"ผมอยู่ นสพ.บางกอกไทม์ อยากจะมาเรียนถามพระคุณเจ้าเรื่องการถอดกายทิพย์ได้จริงหรือไม่ครับ"
"ขอทีเถอะ อาตมาไม่อยากให้มีเรื่องอื้อฉาว"
ท่านตอบคำถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แต่ก็ไม่ยอมหยุดคุย ท่านยังคงเดินไปเรื่อยๆ อย่างเชื่องช้า ผมถามท่านอีกหลายประโยค ท่านไม่ตอบ ได้แต่อมยิ้ม จนกระทั่งประโยคสุดท้ายก่อนที่จะขึ้นบันไดโบสถ์ ผมถามท่านว่า
"เพราะเหตุใดจึงคิดบวชไม่ยอมสึก"
ท่านตอบว่า
"อาตมาเคยมีความสุขสุดยอดมาแล้ว ก็อยากจะขอใฝ่หาความสงบในด้านนี้ดูบ้าง"
ผมกลับโรงพิมพ์พาดหัวข่าวเลยครับ "พบพระอรหันต์กลางกรุง" ขยายรูปตอนเดินสัมภาษณ์ขนาดใหญ่เพราะอิริยาบทของท่านไม่เหมือนพระภิกษุทั่วไป เท้าไม่แตะพื้น ใบหน้ายิ้มอยู่ตลอดเวลา
ต่อมาเมื่อท่านเจ้าคุณอุดมฯ ได้ดำริจะสร้างโบสถ์วัดวังกระโจม จึงขอความอนุเคราะห์ให้ท่านอธิษฐานจิตลงในพระเครื่องให้
นับแต่นั้นเป็นต้นมาพระเครื่องเจ้าคุณนรฯ จึงมีชื่อเสียงไปทั่วราชอาณาจักร เมื่อพระมหาสงัดจะสร้างโบสถ์ให้วัดต่างจังหวัด ก็ขออนุญาตสร้างรูปเหมือนด้านข้างครึ่งองค์จึงสามารถสร้างโบสถ์สมปรารถนา
ต่อมาใครจะสร้างอะไรต่ออีก ผมก็จำไม่ได้ ท่านให้โยมอุปัฏฐากมาขอให้ผมทำข่าวให้ ผมบอกไปว่า การทำข่าว ก็ต้องมีใครเป็นข่าว โยมอุปัฏฐากบอกว่า มีข่าวเกี่ยวกับท่านธมฺมวิตกฺโกภิกขุที่น่าสนใจมาก ผมจึงบอกว่า ผมต้องการถ่ายภาพท่านมาประกอบข่าว ผมจึงเดินทางไปถ่ายภาพขณะลงทำวัตรเย็นในโบสถ์วัดเทพฯ
ถ้าจำไม่ผิด ท่านนั่งทำวัตรอยู่แถวริมที่ 3 นับจากข้างหน้า แถวที่หนึ่ง ด้านซ้ายมือของพระประธาน ผมกราบพระประธานแล้วยกกล้องจ้องไปหาโฟกัสที่ท่านทันที ท่านธมฺมวิตกฺโกภิกขุหันมาจ้องกล้องผมตาเขม็ง เหมือนกับส่งกระแสจิตมาบังคับ ผมไม่ได้กดชัตเตอร์ครับ เพราะเหมือนไฟฟ้าช็อตที่มือเมื่อผมกดถูกปุ่มชัตเตอร์ ผมเหงื่อแตกทันที รีบลดกล้อง กราบพระประธาน แล้วออกจากโบสถ์ในบัดดลนั่นเอง
การที่ผมนำเอาเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผมได้สัมผัสกับท่านมาเสนอให้ทราบ ก็เพื่อจะให้คุณผู้อ่านได้ทราบว่าผมได้สัมผัสกับท่านมาแล้วจริงๆ ครับ
ข้อมูลจาก​ dhammagateway

นวเรศ วิมล
9 สิงหาคม 2021 ·
ปฐมบทแห่งตำนานการ "เดินญาณเสกพระ" ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งสยามประเทศ
(ตอนที่ 2)
**************************************************************************************
คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า
พระผู้จุดประกายการ
"เดินญาณเสก"
หรือ
"ปลุกเสกพระทางไกล"
แบบ
"ผ่านดาวเทียม"
ที่ใช้วิธีนี้เสกพระอยู่ "่บ่อยครั้ง"
และ
"สั่งเป็นการเป็นงาน"
อีกทั้งยังมี
"หลักฐานบันทึก"
ไว้มากมาย
ยิ่งกว่าท่านผู้ใดในประวัติศาสตร์
ก็คือ
"พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต (ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ) วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร"
นั่นเอง
ซึ่งเหตุที่ "เจ้าคุณนรฯ" ต้อง "ถอดจิตเดินญาณ" ไปเสกพระให้ตามวัดต่างๆ ด้วย "กระแสจิต" นั้น
เหตุก็มาจากการที่ท่านเจ้าคุณนรฯได้ตั้ง "สัจจะอธิษฐาน" ในอันที่จะไม่ "เยื้องกราย" ออกนอกวัดเทพศิรินทร์(ด้วยกายเนื้อ)โดยเด็ดขาดมาแต่พรรษาต้นๆ
เพื่อจะได้มีเวลาในการ "ปฏิบัติธรรม" อย่างเข้มงวดที่สุด
จนเมื่อท่านเจ้าคุณนรฯ ได้ "สำเร็จมรรคผลธรรมวิเศษ"สมดังปรารถนาแล้ว
เมื่อมีวัดวาอารามหรือหน่วยราชการมากราบขอ "บารมี" แห่งท่าน
ที่กำลังหอมหวนทวนลมกึกก้องทั่วฟ้าเมืองไทยในเวลานั้น
ไปนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ
แต่ท่านเจ้าคุณนรฯซึ่ง "ถือสัจจะยิ่งชีพ" ก็ไม่อาจจะละเมิดสัจจะที่ท่านได้ตั้งไว้เองได้
ท่านเจ้าคุณนรฯจึงได้สั่งให้ตกแต่งอาสนะปูผ้าขาวรอไว้ในพิธี
และเมื่อถึงเวลา
"อาตมาจะสวดอธิษฐานไปให้จากกุฏิที่วัดเทพศิรินทร์นี้"
ท่านจะสั่งไว้อย่างนี้เสมอๆ
ซึ่งวัตถุมงคลที่มี "บันทึก" ไว้อย่างชัดเจนว่า ท่านเจ้าคุณธมฺมวิตกฺโกได้ "เดินญาณ" ไปร่วมนั่งปรกพุทธาภิเษกให้ก็มี
1.พระกริ่ง รด. กรมการรักษาดินแดน
2.เหรียญร.6 กรมการรักษาดินแดน พ.ศ.2506
3.พระกริ่ง,พระสมเด็จ,เหรียญสมเด็จ วัดอรุณราชวราราม พ.ศ.2509
4.พระผง วัดสรรเพชญ์ นครปฐม พ.ศ.2513
และด้วยเหตุดังกล่าว
เมื่อถึงคราวมีการสร้าง
"เหรียญพระแก้วมรกต วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร รุ่นฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี"
เมื่อปี
"พ.ศ.2525"
หลังจากที่ท่านเจ้าคุณนรฯได้ "นิพพาน"ไปเพียง
"11 ปี"
และในตอนนั้น ชื่อเสียงเกียรติคุณของท่านก็ยัง "ตลบอบอวล" ทั่วไป
จนเรียกได้ว่า
"เป็นหนึ่ง ไม่มีสอง"
อยู่ในขณะนั้น
(คนที่เกิดทันในยุคนั้น จะรู้ความข้อนี้ดี)
และก็คงจะมี "ผู้รู้" บางองค์บางท่าน
"ปัญญาไว"
และได้ประยุกต์วิธีการ "เดินญาณเสก" ของท่านเจ้าคุณนรฯ
มาใช้ในการพุทธาภิเษก
"เหรียญพระแก้วมรกต วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร รุ่นฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พ.ศ.2525"
ซึ่งเป็นวาระสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของบ้านเมือง
โดยมีการออกฏีกานิมนต์พระอริยคณาจารย์องค์สำคัญ
จำนวน
"90 องค์"
ทั่วประเทศ
ให้
"นั่งปรกเจริญสมาธิแผ่เมตตาจิตตานุคุณ ณ ที่พำนักของท่าน"
อย่าง
"เป็นทางการ"
ตาม "จารีต" ที่ท่านเจ้าคุณนรฯได้ทำ "นำร่อง" มาก่อนล่วงหน้า
แบบ
"เต็มๆ"
ไม่มีอะไรจะต้องพักสงสัย
Get กันบ้างแล้วใช่ไหม...???????????????????????????????
หมายเหตุ, และคงไม่ต้องสงสัยว่า
"พลังจิตเจ้าคุณนร"
ที่ "ผู้รู้" บางท่าน "ส่อง" ไปเห็นว่า
"อยู่ที่พระแก้วมรกต"
อย่าง
"เข้มข้นมากๆ"
เหตุเพราะท่านเจ้าคุณนรฯนับถือพระแก้วมรกตเป็นสรณะมาช้านาน
และได้ใช้เป็นจุด "โฟกัส" ในการตั้งจิตอธิษฐาน
ตั้งแต่ครั้งที่เจ้าคุณนรฯยังเป็นฆราวาส
จนถึงเวลาที่ท่านได้สำเร็จอริยผล
แม้จนใกล้วาระจะปรินิพพาน
ไม่เคยว่างเว้น
จะถูกถ่ายทอดลงประจุใน
"เหรียญพระแก้วมรกต วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร รุ่นฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี"
โดย
"ปริยาย"
ตามหลักการ
"เคลื่อนย้ายถ่ายเทพลังงาน"
แค่ไหน
เพียงไร
และ
หรือไม่
ขอได้นำเรื่องราวตอนนี้ไปตรองให้จงดีทั่วกันเทอญฯ
(ยังมีต่อ)


เหรียญ ร.6 กรมการรักษาดินแดน
ปี 2505
. เนื้ออัลปาก้า ....
....

เหรียญพระรูป รัชกาลที่ 6 จัดสร้าง โดยกรมการรักษาดินแดน เมื่อปี พ.ศ.2505 โดยจัดทำขึ้นหลายแบบทั้งกลมใหญ่ กลมเล็กและใบเสมา ได้จัดพิธีพุทธาภิเษก ในวันที่ 17 พ.ย.2505 มีคณาจารย์ผู้ทรงคุณได้รับนิมนต์มานั่งปรกหลายองค์ อาทิเช่น
หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร
หลวงปู่อาคม วัดสุทัศน์
หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
หลวงพ่อคล้าย วัดจันดี
หลวงพ่อนาค วัดระฆัง
หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
ฯลฯ

และ คณะกรรมการ ได้กราบอารธนาท่านเจ้าคุณนรฯ มาร่วมปลุกเสกด้วย ซึ่งท่านได้บอกกับคณะกรรมการที่ไปนิมนต์ว่า " อาตมาจะขอนั่งปรกปลุกเสก ในกุฏินี้ เพื่อส่งกระแสจิตไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกด้วยจนกว่าจะเสร็จ " และท่านยังได้สั่งให้จัดอาสนะ ไว้ในพิธีนั้นด้วย

และในขณะที่มีพิธีปลุกเสกนั้น หลวงพ่อที่นั่งข้าง ๆ กับอาสนะเปล่า ได้นิมิตเห็น พระภิกษุรูปหนึ่งมานั่งปรกด้วย

พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...

อื่นๆ...

กำหลังโหลด Comments
Top