หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525

พระผงรูปเหมือน หลวงปู่บัว วัดป่าบ้านหนองแซง

พระผงรูปเหมือน หลวงปู่บัว วัดป่าบ้านหนองแซง - 3

พระผงรูปเหมือน หลวงปู่บัว วัดป่าบ้านหนองแซง - 4

ชื่อร้านค้า	จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jeerasit (112)
ชื่อพระเครื่อง	พระผงรูปเหมือน หลวงปู่บัว วัดป่าบ้านหนองแซง
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525
ราคาเช่า	350 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ	Tayanrum@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	จ. - 28 ก.ค. 2568 - 21:39.56
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	จ. - 28 ก.ค. 2568 - 21:45.06

รายละเอียด
พระผงรูปเหมือน หลวงปู่บัว วัดป่าบ้านหนองแซง พระอาจารย์บัว สิริปุณฺโณ เป็นพระอริยสงฆ์สาวกผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นผู้หลุดพ้นแล้วสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ปฏิปทาในการปฏิบัติธรรมะของหลวงปู่เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใส และยกย่องบูชาของบุคคลทั่วไปทั้งในจังหวัดอุดรธานี และละแวกใกล้เคียงตลอดจนในภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ ชาตะเมื่อวันศุกร์ ปี พ.ศ.2431 ที่บ้านเขื่องใหญ่ อำเภอจังหาน จังหวัดร้อยเอ็ด ในครอบครัวชาวนา หลวงปู่จึงไม่ได้เรียนหนังสือ เขียนหนังสือไม่เป็น แม้แต่บวชแล้วหลวงปู่ก็ไม่สามารถท่องปาติโมกข์ได้ อุปนิสัยหลวงปู่บัว สิริปุณฺโณนั้น ฝักใฝ่ในการบุญกุศล และธรรมะมาตั้งแต่เด็ก จากคำบอกเล่าของพระอาจารย์เสน ปญฺญาธโร ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่ และเป็นผู้ดูแลปกครองวัดป่าหนองแซงสืบจากหลวงปู่เล่าว่า หลวงปู่ฝักใฝ่การบุญ ชอบทำบุญและจะทำทีละมากๆ ไม่ประหยัดมัธยัสถ์ใดๆ เลยในการทำบุญ แม้ว่าครอบครัวของท่านจะไม่ร่ำรวยเลย หากินแต่พออยู่พอกิน ท่านก็ชอบทำบุญ และจะทำครั้งละมากๆ คุณธรรมของหลวงปู่เป็นที่ประจักษ์แจ้งต่อศานุศิษย์ทั้งหลายของหลวงปู่ ทั้งคฤหัสถ์ และบรรพชิต คุณธรรมของหลวงปู่แผ่ไปอย่างกว้างขวาง ด้วยเป็นพระอริยสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตามแนวทางของหลวงปู่ใหญ่มั่น ภูริทัตโต อย่างเคร่งครัด และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของสหธรรมิกของท่าน ไม่ว่า หลวงปู่ขาว หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่อ่อน หลวงปู่คำดี และพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน ตลอดจนบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายของท่านที่ยังมีชีวิตอยู่ และได้พยายามปฏิบัติธรรมตามแนวทางที่หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ ได้บำเพ็ญมา เช่น พระอาจารย์เพียร วิริโย วัดป่าบ้านหนองกอง อำเภอบ้านผือ พระอาจารย์ทุย วัดป่าดงสีชมพู อำเภอปากคาด พระอาจารย์นิพนธ์ วัดป่าบ้านใหม่ ตำบลเมืองพาน อำเภอบ้านผือ ท่านอาจารย์สด วัดป่าบ้านเพิ่ม และอีกมากมายหลายรูป หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ ได้ละสังขารที่วัดป่าหนองแซง เมื่อปีพ.ศ. 2519 เมื่อหลวงปู่มีครอบครัวแล้ว ท่านได้ย้ายไปตั้งบ้านเรือนที่บ้านจานทุ่ง ตำบลดินดำ อำเภอจังหาน มีฐานะพออยู่พอกิน มีที่นาทำกิน มีวัวควาย ด้วยความฝักใฝ่ในการบุญกุศล เมื่อบุตรชายคนโตของท่าน ชื่อ เพ็ง ได้ออกบวชก่อนท่านนาน พระอาจารย์ครองสมณเพศอยู่นานจนหลวงปู่ออกบวช ท่านจึงลาสิกขาไประยะหนึ่ง แล้วกลับมาบวชอีก เพื่อให้หลวงพ่อของท่านมีพรรษามากกว่าท่าน หลวงพ่อของท่านจะได้ไม่ต้องแสดงคาราวะต่อท่าน พระอาจารย์เพ็ง เมื่อบวชครั้งหลังนี้ ก็บวชไปตลอดชีวิตท่าน สาเหตุการออกบวชของหลวงปู่นั้น หลวงปู่ไม่ได้มีปัญหาทางครอบครัว หรือปัญหาชีวิตใดๆ แต่เป็นเพราะท่านฝักใฝ่ทางธรรมะอยู่แล้ว ต่อมาท่านได้ฟังธรรมะจากสามเณรบุนนาคครั้งหนึ่ง ทำให้ท่านซาบซึ้งในธรรมะ ต่อมาท่านได้ฟังธรรมะจากท่านพระอาจารย์สีโห และจากพระอาจารย์อิน ซึ่งเป็นพระธุดงค์ไปปักกลดอยู่ที่บ้านจานทุ่ง จังหวัดร้อยเอ็ด ต่อมาท่านได้รับธรรมะจากหลวงปู่คำดี ปภาวโส แห่งวัดถ้ำผาปู่ จังหวัดเลย จากการรับธรรมะจากหลวงปู่คำดี ท่านได้โสดาปัตติผล และท่านก็ต้องการจะออกบวช แต่ติดขัดที่ทางบ้านขอไว้ว่ายังไม่พร้อม หลวงปู่ก็ให้เวลาทางบ้านมาจนท่านเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้ว จะชักช้าอีกไม่ได้ ท่านก็ออกไปบวชโดยไม่ให้ทางบ้านของท่านรู้เรื่องแต่ประการใด เมื่อบวชเป็นพระภิกษุแล้ว หลวงปู่ได้ไปอยู่กับหลวงปู่สี มหาวโร แห่งวัดเขาน้ำย้อย จังหวัดร้อยเอ็ด หลวงปู่บัวตั้งใจมั่นว่า จะได้เข้ากราบนมัสการหลวงปู่ใหญ่มั่น ภูริทัตโต และเข้าศึกษาอบรมในสำนักของหลวงปู่มั่น แต่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านได้วางกฎในการรับพระภิกษุเข้าศึกษาธรรมะในสำนักของท่านว่า ท่านจะไม่รับพระภิกษุที่มีอายุมากแล้วมาบวช และไม่รับพระภิกษุที่ท่องปาติโมกข์ไม่ได้ หลวงปู่บัวท่องปาติโมกข์ไม่ได้ และออกบวชเมื่อมีอายุมากแล้ว หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ บวชเป็นพระภิกษุอยู่ประมาณ 7 - 8 พรรษา จึงได้เข้ากราบนมัสการหลวงปู่ใหญ่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดหนองผือนาใน จังหวัดสกลนคร ขณะนั้นหลวงปู่ออกเดินธุดงค์ไปปฏิบัติธรรมที่บ้านหนองผักตบ พระอาจารย์สวด หรือหลวงปู่สวด ซึ่งเป็นลูกศิษย์รุ่นใหญ่ของหลวงปู่ใหญ่มั่น ซึ่งอยู่กับหลวงปู่ใหญ่มั่นที่วัดหนองผือนาใน เป็นผู้นำหลวงปู่บัวเข้ากราบนมัสการหลวงปู่ใหญ่มั่น (ตรงนี้มีประวัติเล่าว่า หลวงปู่ใหญ่มั่นปรารภกับหลวงปู่สวดว่า “วัวหายไปหนึ่งตัว ให้หลวงปู่สวดไปตามหา”) หลวงปู่สวดได้ไปพบหลวงปู่บัวที่บ้านหนองผักตบ จึงชวนไปกราบนมัสการหลวงปู่ใหญ่มั่น การครั้งนี้ตรงกับความปรารถนาอันสูงสุดของหลวงปู่บัว ที่จะได้เข้ากราบนมัสการหลวงปู่ใหญ่มั่น หลวงปู่บัวใช้เวลาเดินทางจากบ้านหนองผักตบ 2 วัน 2 คืน ไปที่บ้านหนองผือนาในกับหลวงปู่สวด เมื่อไปถึงวัดบ้านหนองผือนาใน หลวงปู่สวดให้ท่านรออยู่ข้างนอกก่อน ส่วนหลวงปู่สวดจะไปกราบเรียนถามหลวงปู่ใหญ่มั่นก่อนว่า จะให้เข้ากราบนมัสการได้หรือไม่ ซึ่งหลวงปู่มั่นก็บอกว่า “ใช่วัวตัวที่หายไป ให้นำมาพบ” หลวงปู่บัวจึงได้เข้าพบหลวงปู่ใหญ่มั่น และได้อยู่ศึกษาในสำนักของท่านตั้งแต่นั้นมา หลวงปู่บัวเล่าว่า เมื่อเข้าไปกราบนมัสการหลวงปู่ใหญ่มั่น และขอศึกษาในสำนักของหลวงปู่ใหญ่มั่นนั้น หลวงปู่ใหญ่มั่นได้กล่าวถามท่านว่า “นั่งอย่างไรได้ 3 วัน 3 คืน” หลวงปู่บัวตอบท่านไปว่า”กระผมได้เข้าถึงจิตเดิม” (คือ จิตบริสุทธิ์แบบทารกในครรภ์มารดา) หลวงปู่ใหญ่มั่นบอกท่านว่า “มันผิดทาง ไม่ใช่อริยมรรค ไม่ใช่ทางหลุดพ้น” หลวงปู่บัวเล่าว่าท่านตกใจมาก เพราะคิดตลอดเวลาว่าปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ถูกทางแล้ว หลวงปู่ใหญ่มั่นให้ท่านปฏิบัติใหม่ให้ถูกต้อง ซึ่งท่านก็เริ่มต้นปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่ใหญ่มั่นอย่างตั้งใจถวายชีวิต ต้องปฏิบัติให้ได้ หลวงปู่ใหญ่มั่น มักจะเรียกหลวงปู่บัวว่า “เฒ่าขี้กะตืด” เพราะท่านอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ และสวดปาติโมกข์ไม่ได้เลยตลอดชีวิต ตลอดเวลาที่หลวงปู่มีชีวิตอยู่ หลวงปู่บัวไม่เคยสะสมวัตถุใด มุ่งปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นเท่านั้น หลวงปู่บัวไม่ก่อสร้างถาวรวัตถุใด ไม่ว่าจะเป็นเสนาสนะ ศาลาการเปรียญ โบสถ์ วิหาร ทุกอย่างในวัดป่าหนองแซง ล้วนเกิดจากแรงศรัทธาของหมู่ศรัทธาในหลวงปู่ ก่อสร้างทั้งสิ้น ศาลาการเปรียญของวัดเป็นศาลาที่โรงเลื่อยจักรอนันต์ประสิทธิ์สร้างถวาย กุฏิทั้งหลายก็ล้วนหมู่ศรัทธาทั้งหลายสร้างถวาย ตลอดเวลาที่หลวงปู่มีชีวิตอยู่ หลวงปู่บัวไม่เคยสะสมวัตถุใด มุ่งปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นเท่านั้น หลวงปู่บัวไม่ก่อสร้างถาวรวัตถุใด ไม่ว่าจะเป็นเสนาสนะ ศาลาการเปรียญ โบสถ์ วิหาร ทุกอย่างในวัดป่าหนองแซง ล้วนเกิดจากแรงศรัทธาของหมู่ศรัทธาในหลวงปู่ ก่อสร้างทั้งสิ้น ศาลาการเปรียญของวัดเป็นศาลาที่โรงเลื่อยจักรอนันต์ประสิทธิ์สร้างถวาย กุฏิทั้งหลายก็ล้วนหมู่ศรัทธาทั้งหลายสร้างถวาย ตลอดเวลาที่หลวงปู่มีชีวิตอยู่ หลวงปู่บัวไม่เคยสะสมวัตถุใด มุ่งปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นเท่านั้น หลวงปู่บัวไม่ก่อสร้างถาวรวัตถุใด ไม่ว่าจะเป็นเสนาสนะ ศาลาการเปรียญ โบสถ์ วิหาร ทุกอย่างในวัดป่าหนองแซง ล้วนเกิดจากแรงศรัทธาของหมู่ศรัทธาในหลวงปู่ ก่อสร้างทั้งสิ้น ศาลาการเปรียญของวัดเป็นศาลาที่โรงเลื่อยจักรอนันต์ประสิทธิ์สร้างถวาย กุฏิทั้งหลายก็ล้วนหมู่ศรัทธาทั้งหลายสร้างถวาย ตลอดเวลาที่หลวงปู่มีชีวิตอยู่ หลวงปู่บัวไม่เคยสะสมวัตถุใด มุ่งปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นเท่านั้น หลวงปู่บัวไม่ก่อสร้างถาวรวัตถุใด ไม่ว่าจะเป็นเสนาสนะ ศาลาการเปรียญ โบสถ์ วิหาร ทุกอย่างในวัดป่าหนองแซง ล้วนเกิดจากแรงศรัทธาของหมู่ศรัทธาในหลวงปู่ ก่อสร้างทั้งสิ้น ศาลาการเปรียญของวัดเป็นศาลาที่โรงเลื่อยจักรอนันต์ประสิทธิ์สร้างถวาย กุฏิทั้งหลายก็ล้วนหมู่ศรัทธาทั้งหลายสร้างถวาย

รายละเอียด

พระผงรูปเหมือน หลวงปู่บัว วัดป่าบ้านหนองแซง

พระอาจารย์บัว สิริปุณฺโณ เป็นพระอริยสงฆ์สาวกผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นผู้หลุดพ้นแล้วสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ปฏิปทาในการปฏิบัติธรรมะของหลวงปู่เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใส และยกย่องบูชาของบุคคลทั่วไปทั้งในจังหวัดอุดรธานี และละแวกใกล้เคียงตลอดจนในภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ ชาตะเมื่อวันศุกร์ ปี พ.ศ.2431 ที่บ้านเขื่องใหญ่ อำเภอจังหาน จังหวัดร้อยเอ็ด ในครอบครัวชาวนา หลวงปู่จึงไม่ได้เรียนหนังสือ เขียนหนังสือไม่เป็น แม้แต่บวชแล้วหลวงปู่ก็ไม่สามารถท่องปาติโมกข์ได้ อุปนิสัยหลวงปู่บัว สิริปุณฺโณนั้น ฝักใฝ่ในการบุญกุศล และธรรมะมาตั้งแต่เด็ก จากคำบอกเล่าของพระอาจารย์เสน ปญฺญาธโร ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่ และเป็นผู้ดูแลปกครองวัดป่าหนองแซงสืบจากหลวงปู่เล่าว่า หลวงปู่ฝักใฝ่การบุญ ชอบทำบุญและจะทำทีละมากๆ ไม่ประหยัดมัธยัสถ์ใดๆ เลยในการทำบุญ แม้ว่าครอบครัวของท่านจะไม่ร่ำรวยเลย หากินแต่พออยู่พอกิน ท่านก็ชอบทำบุญ และจะทำครั้งละมากๆ คุณธรรมของหลวงปู่เป็นที่ประจักษ์แจ้งต่อศานุศิษย์ทั้งหลายของหลวงปู่ ทั้งคฤหัสถ์ และบรรพชิต คุณธรรมของหลวงปู่แผ่ไปอย่างกว้างขวาง ด้วยเป็นพระอริยสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตามแนวทางของหลวงปู่ใหญ่มั่น ภูริทัตโต อย่างเคร่งครัด และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของสหธรรมิกของท่าน ไม่ว่า หลวงปู่ขาว หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่อ่อน หลวงปู่คำดี และพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน ตลอดจนบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายของท่านที่ยังมีชีวิตอยู่ และได้พยายามปฏิบัติธรรมตามแนวทางที่หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ ได้บำเพ็ญมา เช่น พระอาจารย์เพียร วิริโย วัดป่าบ้านหนองกอง อำเภอบ้านผือ พระอาจารย์ทุย วัดป่าดงสีชมพู อำเภอปากคาด พระอาจารย์นิพนธ์ วัดป่าบ้านใหม่ ตำบลเมืองพาน อำเภอบ้านผือ ท่านอาจารย์สด วัดป่าบ้านเพิ่ม และอีกมากมายหลายรูป หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ ได้ละสังขารที่วัดป่าหนองแซง เมื่อปีพ.ศ. 2519 เมื่อหลวงปู่มีครอบครัวแล้ว ท่านได้ย้ายไปตั้งบ้านเรือนที่บ้านจานทุ่ง ตำบลดินดำ อำเภอจังหาน มีฐานะพออยู่พอกิน มีที่นาทำกิน มีวัวควาย ด้วยความฝักใฝ่ในการบุญกุศล เมื่อบุตรชายคนโตของท่าน ชื่อ เพ็ง ได้ออกบวชก่อนท่านนาน พระอาจารย์ครองสมณเพศอยู่นานจนหลวงปู่ออกบวช ท่านจึงลาสิกขาไประยะหนึ่ง แล้วกลับมาบวชอีก เพื่อให้หลวงพ่อของท่านมีพรรษามากกว่าท่าน หลวงพ่อของท่านจะได้ไม่ต้องแสดงคาราวะต่อท่าน พระอาจารย์เพ็ง เมื่อบวชครั้งหลังนี้ ก็บวชไปตลอดชีวิตท่าน สาเหตุการออกบวชของหลวงปู่นั้น หลวงปู่ไม่ได้มีปัญหาทางครอบครัว หรือปัญหาชีวิตใดๆ แต่เป็นเพราะท่านฝักใฝ่ทางธรรมะอยู่แล้ว ต่อมาท่านได้ฟังธรรมะจากสามเณรบุนนาคครั้งหนึ่ง ทำให้ท่านซาบซึ้งในธรรมะ ต่อมาท่านได้ฟังธรรมะจากท่านพระอาจารย์สีโห และจากพระอาจารย์อิน ซึ่งเป็นพระธุดงค์ไปปักกลดอยู่ที่บ้านจานทุ่ง จังหวัดร้อยเอ็ด ต่อมาท่านได้รับธรรมะจากหลวงปู่คำดี ปภาวโส แห่งวัดถ้ำผาปู่ จังหวัดเลย จากการรับธรรมะจากหลวงปู่คำดี ท่านได้โสดาปัตติผล และท่านก็ต้องการจะออกบวช แต่ติดขัดที่ทางบ้านขอไว้ว่ายังไม่พร้อม หลวงปู่ก็ให้เวลาทางบ้านมาจนท่านเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้ว จะชักช้าอีกไม่ได้ ท่านก็ออกไปบวชโดยไม่ให้ทางบ้านของท่านรู้เรื่องแต่ประการใด เมื่อบวชเป็นพระภิกษุแล้ว หลวงปู่ได้ไปอยู่กับหลวงปู่สี มหาวโร แห่งวัดเขาน้ำย้อย จังหวัดร้อยเอ็ด หลวงปู่บัวตั้งใจมั่นว่า จะได้เข้ากราบนมัสการหลวงปู่ใหญ่มั่น ภูริทัตโต และเข้าศึกษาอบรมในสำนักของหลวงปู่มั่น แต่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านได้วางกฎในการรับพระภิกษุเข้าศึกษาธรรมะในสำนักของท่านว่า ท่านจะไม่รับพระภิกษุที่มีอายุมากแล้วมาบวช และไม่รับพระภิกษุที่ท่องปาติโมกข์ไม่ได้ หลวงปู่บัวท่องปาติโมกข์ไม่ได้ และออกบวชเมื่อมีอายุมากแล้ว หลวงปู่บัว สิริปุณฺโณ บวชเป็นพระภิกษุอยู่ประมาณ 7 - 8 พรรษา จึงได้เข้ากราบนมัสการหลวงปู่ใหญ่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดหนองผือนาใน จังหวัดสกลนคร ขณะนั้นหลวงปู่ออกเดินธุดงค์ไปปฏิบัติธรรมที่บ้านหนองผักตบ พระอาจารย์สวด หรือหลวงปู่สวด ซึ่งเป็นลูกศิษย์รุ่นใหญ่ของหลวงปู่ใหญ่มั่น ซึ่งอยู่กับหลวงปู่ใหญ่มั่นที่วัดหนองผือนาใน เป็นผู้นำหลวงปู่บัวเข้ากราบนมัสการหลวงปู่ใหญ่มั่น (ตรงนี้มีประวัติเล่าว่า หลวงปู่ใหญ่มั่นปรารภกับหลวงปู่สวดว่า “วัวหายไปหนึ่งตัว ให้หลวงปู่สวดไปตามหา”) หลวงปู่สวดได้ไปพบหลวงปู่บัวที่บ้านหนองผักตบ จึงชวนไปกราบนมัสการหลวงปู่ใหญ่มั่น การครั้งนี้ตรงกับความปรารถนาอันสูงสุดของหลวงปู่บัว ที่จะได้เข้ากราบนมัสการหลวงปู่ใหญ่มั่น หลวงปู่บัวใช้เวลาเดินทางจากบ้านหนองผักตบ 2 วัน 2 คืน ไปที่บ้านหนองผือนาในกับหลวงปู่สวด เมื่อไปถึงวัดบ้านหนองผือนาใน หลวงปู่สวดให้ท่านรออยู่ข้างนอกก่อน ส่วนหลวงปู่สวดจะไปกราบเรียนถามหลวงปู่ใหญ่มั่นก่อนว่า จะให้เข้ากราบนมัสการได้หรือไม่ ซึ่งหลวงปู่มั่นก็บอกว่า “ใช่วัวตัวที่หายไป ให้นำมาพบ” หลวงปู่บัวจึงได้เข้าพบหลวงปู่ใหญ่มั่น และได้อยู่ศึกษาในสำนักของท่านตั้งแต่นั้นมา หลวงปู่บัวเล่าว่า เมื่อเข้าไปกราบนมัสการหลวงปู่ใหญ่มั่น และขอศึกษาในสำนักของหลวงปู่ใหญ่มั่นนั้น หลวงปู่ใหญ่มั่นได้กล่าวถามท่านว่า “นั่งอย่างไรได้ 3 วัน 3 คืน” หลวงปู่บัวตอบท่านไปว่า”กระผมได้เข้าถึงจิตเดิม” (คือ จิตบริสุทธิ์แบบทารกในครรภ์มารดา) หลวงปู่ใหญ่มั่นบอกท่านว่า “มันผิดทาง ไม่ใช่อริยมรรค ไม่ใช่ทางหลุดพ้น” หลวงปู่บัวเล่าว่าท่านตกใจมาก เพราะคิดตลอดเวลาว่าปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ถูกทางแล้ว หลวงปู่ใหญ่มั่นให้ท่านปฏิบัติใหม่ให้ถูกต้อง ซึ่งท่านก็เริ่มต้นปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่ใหญ่มั่นอย่างตั้งใจถวายชีวิต ต้องปฏิบัติให้ได้ หลวงปู่ใหญ่มั่น มักจะเรียกหลวงปู่บัวว่า “เฒ่าขี้กะตืด” เพราะท่านอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ และสวดปาติโมกข์ไม่ได้เลยตลอดชีวิต ตลอดเวลาที่หลวงปู่มีชีวิตอยู่ หลวงปู่บัวไม่เคยสะสมวัตถุใด มุ่งปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นเท่านั้น หลวงปู่บัวไม่ก่อสร้างถาวรวัตถุใด ไม่ว่าจะเป็นเสนาสนะ ศาลาการเปรียญ โบสถ์ วิหาร ทุกอย่างในวัดป่าหนองแซง ล้วนเกิดจากแรงศรัทธาของหมู่ศรัทธาในหลวงปู่ ก่อสร้างทั้งสิ้น ศาลาการเปรียญของวัดเป็นศาลาที่โรงเลื่อยจักรอนันต์ประสิทธิ์สร้างถวาย กุฏิทั้งหลายก็ล้วนหมู่ศรัทธาทั้งหลายสร้างถวาย ตลอดเวลาที่หลวงปู่มีชีวิตอยู่ หลวงปู่บัวไม่เคยสะสมวัตถุใด มุ่งปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นเท่านั้น หลวงปู่บัวไม่ก่อสร้างถาวรวัตถุใด ไม่ว่าจะเป็นเสนาสนะ ศาลาการเปรียญ โบสถ์ วิหาร ทุกอย่างในวัดป่าหนองแซง ล้วนเกิดจากแรงศรัทธาของหมู่ศรัทธาในหลวงปู่ ก่อสร้างทั้งสิ้น ศาลาการเปรียญของวัดเป็นศาลาที่โรงเลื่อยจักรอนันต์ประสิทธิ์สร้างถวาย กุฏิทั้งหลายก็ล้วนหมู่ศรัทธาทั้งหลายสร้างถวาย ตลอดเวลาที่หลวงปู่มีชีวิตอยู่ หลวงปู่บัวไม่เคยสะสมวัตถุใด มุ่งปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นเท่านั้น หลวงปู่บัวไม่ก่อสร้างถาวรวัตถุใด ไม่ว่าจะเป็นเสนาสนะ ศาลาการเปรียญ โบสถ์ วิหาร ทุกอย่างในวัดป่าหนองแซง ล้วนเกิดจากแรงศรัทธาของหมู่ศรัทธาในหลวงปู่ ก่อสร้างทั้งสิ้น ศาลาการเปรียญของวัดเป็นศาลาที่โรงเลื่อยจักรอนันต์ประสิทธิ์สร้างถวาย กุฏิทั้งหลายก็ล้วนหมู่ศรัทธาทั้งหลายสร้างถวาย ตลอดเวลาที่หลวงปู่มีชีวิตอยู่ หลวงปู่บัวไม่เคยสะสมวัตถุใด มุ่งปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นเท่านั้น หลวงปู่บัวไม่ก่อสร้างถาวรวัตถุใด ไม่ว่าจะเป็นเสนาสนะ ศาลาการเปรียญ โบสถ์ วิหาร ทุกอย่างในวัดป่าหนองแซง ล้วนเกิดจากแรงศรัทธาของหมู่ศรัทธาในหลวงปู่ ก่อสร้างทั้งสิ้น ศาลาการเปรียญของวัดเป็นศาลาที่โรงเลื่อยจักรอนันต์ประสิทธิ์สร้างถวาย กุฏิทั้งหลายก็ล้วนหมู่ศรัทธาทั้งหลายสร้างถวาย