หมวด พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525

พระหินแกะ หลวงพ่อใหญ่ วัดถ้ำกระะบอก

ชื่อร้านค้า	จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jeerasit (112)
ชื่อพระเครื่อง	พระหินแกะ หลวงพ่อใหญ่ วัดถ้ำกระะบอก
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	พระเนื้อผง เนื้อดิน เนื้อว่าน ก่อนปี 2525
ราคาเช่า	1,250 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ	Tayanrum@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พฤ. - 31 ก.ค. 2568 - 21:10.54
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พฤ. - 31 ก.ค. 2568 - 21:17.23

รายละเอียด
ขอบพระคุณท่านที่ได้ดำเนินการ ตามวาระ สิ้นเดือน... ผมจะได้มีเงินทุนหมุนเวียน หาของมา ต่อได้ครับ.... ...... ...... พระหินแกะ หลวงพ่อใหญ่ วัดถ้ำกระะบอก สุดยอดของความหายาก.... อาจจะเป็น หนึ่งเดียวในโลก ก็ได้... พระแต่ละ องค์ จะไม่เหมือนกัน พระหินแกะ เป็นพระยุคแรก ของท่าน ก่อนท่านจะมอบให้ ท่านจะตั้งชื่อ กำกับให้ แต่ละองค์ กว้าง 1.5 ซ.ม. สูง 2.5 ซ.ม. เลี่ยมเก่า เครดิต จากเพจ พระเครื่องวัดถ้ำกระบอกศึกษาและร่วมอนุรักษ์พระเครื่องหลวงพ่อใหญ่ Sivakorn Joopang · 12 พฤศจิกายน 2024 · หินเลี้ยงพระ ราวก่อนปี2504 หลวงพ่อใหญ่ท่านถามหลวงพ่อเจริญ ว่า ถ้าอนาคตพระเป็นร้อย ท่านจะเอาอะไรเลี้ยงพระ หลวงพ่อเจริญท่านก็ตอบไปว่า เอาหินนั้นหละมาเลี้ยงพระ พระเถระในยุคนั้นก็พูดขึ้นมา ใครจะอยู่ก้อยู่ไป อนาคต สงสัยเอาหินมาต้มน้ำใส่เกลือแล้วดูดกิน ถ้าแบบนั้นคงจะเหลือแต่หลวงพ่อกับหมาเฝ้าวัด พระเถระรูปนั้น ท่านมิเข้าใจในความหมายอาจจะเพราะท่านมีเชื้อสายจีน ก็คงจะมีการจินตนาการ ว่า คนจีนสมัยก่อนล่องเรือมา เวลาหิว ก็เอาหินไปใส่น้ำใส่เกลือแล้วก็ดูดประทังความหิวประมานแบบนั้น ปริศนาธรรรมปี2504 หลวงพ่อเจริญท่านจึงมาอธิบายในภายหลังว่า เวลาโยมมาทำบุญถวายอาหาร ไม่มีอะไรจะให้ผู้ศรัทธา ก็เอาหินนี้แหละ มาแกะพระบ้างเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆก็จะเก็บมาแกะหรือหินที่มีหลายก้นหอย คล้ายพระธาตุมาแกะพระบ้าง ทำหัวแหวนบ้าง แจกจ่ายให้แก่ญาติโยมเป็นสิริมงคล ติดตัว อะไรที่ติดขัดหรือเป็นอุปสรรคก็อาจจะเบาบ้างลง ค้าขายอยู่ๆก็เจริญรุ่งเรื่อง เขาก็คงจะคิดได้พระหินแกะนั้นแหละหัวแหวนนั้นแหละ ที่ช่วยเหลือเขา ก็คงจะเป็นได้ จึงเป็นที่มาของคำว่า หินเลี้ยงพระ ถอดคำพูดของหลวงพ่อเจริญ ที่กล่าวไว้ตอนนึง พระหินแกะ ในยุคนั้น ขนาดเท่าเม็ดแตงโมก็มี ทำเป็นตุ้มหูห้อย และเปลือกหอย มากมายนับไม่ถ้วน ตามประวัติที่ขึ้นชื่อ ก็คงจะมีชื่อคือ หลวงพ่อวิชัย (หรืออาจารย์วิชัย) แกะได้อ่อนช้อย สวยงามวิจิตรมาก ตัวกระทำละเอียดอ่อน และอีกประการนึง ได้รับความอนุเคาะห์จากทางทหารอากาศมอบเครื่องจุลทรรศ์แกะ ที่ทันสมัยในยุคนั้นและดีเยี่ยมสามารถมีก้องส่องได้ ในการแกะ พอแกะพระเสร็จ ก็จะมอบให้หลวงพ่อใหญ่ไว้แจกลูกศิษย์ แต่ละองค์ชื่อเรียกก็จะไม่เหมือนกัน ตามแต่ที่บุคคลได้ อาทิเช่น ชื่อพระ 1.จักรพรรดิราช 2.เกาะแก้วกิริยาธรรม 3.เจ้าน้อยชมตลาด 4.รัชธิกัสสปะ 4.แกล้วกล้าพญาลอ 5.เกาะแก้วพิจารณากิจ 6.สมาธิกัสสปะ 7.มิลินกัสสปะ 8.องค์รักษ์วิมลธรรม(เกาะลอย) 9.ฟ้าน้อยกระเทือนธรรม 10.สระแก้วพิจารณาตน 11.เกาะแก้วสุนทรธรรม 12.เกาะแก้วพิสดารธรรม 13.กระเดื่องน้อยกระทบธรรม 14.บ่อน้อยสิราราช 15อัตฐิปัญญา และอื่นอีกมากมาย นับไปถ้วน 1องค์ก็1ชื่อ ประมาณอะไรแบบนี้ ต่อมาภายหลัง อาจจะไม่พอต่อการแจกเนื่องจากลูกศิษย์ลูกหาในยุคสมัยนั้นเยอะมาก ทำให้ไม่สามารถแกะได้ทัน จึงไม่ได้มีการแจกพระหินแกะ ทำให้เข้าสู่ในยุคพิมพ์สิงหราช ชมพูพาน ชมพูทวีป และอื่นๆต่างๆอีกมากมายพระเครื่องดินเผา ถ้ำกระบอกในการต่อมานั้นเอง🙏🙏 ข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ณ.ที่นี้ หากพบเจอศิลปะพระหินแกะ แบบนี้ก็สมารถตามกลับมาบูชาได้ หรือใครมีเคยได้ไป ก็นำมาลงให้ชมเพื่อเป็นสิริมงคลกันได้นะขอรับ หากแต่จะถามชื่อก็คงมิสามารถบอกได้ว่า พระชื่ออะไร เพราะคนที่ได้ไป ต้องเก่าแก่ หรือได้รับจากพระเถระของทางวัดโดยตรงเท่านั้นเอง จึงจะสามารถพอจะบอกชื่อได้ นั้นเอง

รายละเอียด

ขอบพระคุณท่านที่ได้ดำเนินการ ตามวาระ สิ้นเดือน...

ผมจะได้มีเงินทุนหมุนเวียน หาของมา ต่อได้ครับ....

......
......

พระหินแกะ หลวงพ่อใหญ่ วัดถ้ำกระะบอก

สุดยอดของความหายาก....

อาจจะเป็น หนึ่งเดียวในโลก ก็ได้...

พระแต่ละ องค์ จะไม่เหมือนกัน

พระหินแกะ เป็นพระยุคแรก ของท่าน

ก่อนท่านจะมอบให้ ท่านจะตั้งชื่อ กำกับให้ แต่ละองค์

กว้าง 1.5 ซ.ม. สูง 2.5 ซ.ม.

เลี่ยมเก่า

เครดิต จากเพจ พระเครื่องวัดถ้ำกระบอกศึกษาและร่วมอนุรักษ์พระเครื่องหลวงพ่อใหญ่
Sivakorn Joopang
·
12 พฤศจิกายน 2024
·
หินเลี้ยงพระ ราวก่อนปี2504 หลวงพ่อใหญ่ท่านถามหลวงพ่อเจริญ ว่า ถ้าอนาคตพระเป็นร้อย ท่านจะเอาอะไรเลี้ยงพระ หลวงพ่อเจริญท่านก็ตอบไปว่า เอาหินนั้นหละมาเลี้ยงพระ พระเถระในยุคนั้นก็พูดขึ้นมา ใครจะอยู่ก้อยู่ไป อนาคต สงสัยเอาหินมาต้มน้ำใส่เกลือแล้วดูดกิน ถ้าแบบนั้นคงจะเหลือแต่หลวงพ่อกับหมาเฝ้าวัด พระเถระรูปนั้น ท่านมิเข้าใจในความหมายอาจจะเพราะท่านมีเชื้อสายจีน ก็คงจะมีการจินตนาการ ว่า คนจีนสมัยก่อนล่องเรือมา เวลาหิว ก็เอาหินไปใส่น้ำใส่เกลือแล้วก็ดูดประทังความหิวประมานแบบนั้น ปริศนาธรรรมปี2504 หลวงพ่อเจริญท่านจึงมาอธิบายในภายหลังว่า เวลาโยมมาทำบุญถวายอาหาร ไม่มีอะไรจะให้ผู้ศรัทธา
ก็เอาหินนี้แหละ มาแกะพระบ้างเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆก็จะเก็บมาแกะหรือหินที่มีหลายก้นหอย คล้ายพระธาตุมาแกะพระบ้าง ทำหัวแหวนบ้าง แจกจ่ายให้แก่ญาติโยมเป็นสิริมงคล ติดตัว อะไรที่ติดขัดหรือเป็นอุปสรรคก็อาจจะเบาบ้างลง ค้าขายอยู่ๆก็เจริญรุ่งเรื่อง เขาก็คงจะคิดได้พระหินแกะนั้นแหละหัวแหวนนั้นแหละ ที่ช่วยเหลือเขา ก็คงจะเป็นได้ จึงเป็นที่มาของคำว่า หินเลี้ยงพระ ถอดคำพูดของหลวงพ่อเจริญ ที่กล่าวไว้ตอนนึง พระหินแกะ ในยุคนั้น ขนาดเท่าเม็ดแตงโมก็มี ทำเป็นตุ้มหูห้อย และเปลือกหอย มากมายนับไม่ถ้วน ตามประวัติที่ขึ้นชื่อ ก็คงจะมีชื่อคือ หลวงพ่อวิชัย (หรืออาจารย์วิชัย) แกะได้อ่อนช้อย สวยงามวิจิตรมาก ตัวกระทำละเอียดอ่อน และอีกประการนึง ได้รับความอนุเคาะห์จากทางทหารอากาศมอบเครื่องจุลทรรศ์แกะ ที่ทันสมัยในยุคนั้นและดีเยี่ยมสามารถมีก้องส่องได้ ในการแกะ พอแกะพระเสร็จ ก็จะมอบให้หลวงพ่อใหญ่ไว้แจกลูกศิษย์ แต่ละองค์ชื่อเรียกก็จะไม่เหมือนกัน ตามแต่ที่บุคคลได้ อาทิเช่น ชื่อพระ
1.จักรพรรดิราช
2.เกาะแก้วกิริยาธรรม
3.เจ้าน้อยชมตลาด
4.รัชธิกัสสปะ
4.แกล้วกล้าพญาลอ
5.เกาะแก้วพิจารณากิจ
6.สมาธิกัสสปะ
7.มิลินกัสสปะ
8.องค์รักษ์วิมลธรรม(เกาะลอย)
9.ฟ้าน้อยกระเทือนธรรม
10.สระแก้วพิจารณาตน
11.เกาะแก้วสุนทรธรรม
12.เกาะแก้วพิสดารธรรม
13.กระเดื่องน้อยกระทบธรรม
14.บ่อน้อยสิราราช
15อัตฐิปัญญา
และอื่นอีกมากมาย นับไปถ้วน 1องค์ก็1ชื่อ ประมาณอะไรแบบนี้ ต่อมาภายหลัง อาจจะไม่พอต่อการแจกเนื่องจากลูกศิษย์ลูกหาในยุคสมัยนั้นเยอะมาก ทำให้ไม่สามารถแกะได้ทัน จึงไม่ได้มีการแจกพระหินแกะ ทำให้เข้าสู่ในยุคพิมพ์สิงหราช ชมพูพาน ชมพูทวีป และอื่นๆต่างๆอีกมากมายพระเครื่องดินเผา
ถ้ำกระบอกในการต่อมานั้นเอง🙏🙏
ข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ณ.ที่นี้ หากพบเจอศิลปะพระหินแกะ แบบนี้ก็สมารถตามกลับมาบูชาได้ หรือใครมีเคยได้ไป ก็นำมาลงให้ชมเพื่อเป็นสิริมงคลกันได้นะขอรับ หากแต่จะถามชื่อก็คงมิสามารถบอกได้ว่า พระชื่ออะไร เพราะคนที่ได้ไป ต้องเก่าแก่ หรือได้รับจากพระเถระของทางวัดโดยตรงเท่านั้นเอง จึงจะสามารถพอจะบอกชื่อได้ นั้นเอง