-
0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7

หมวด เครื่องรางของขลัง
ล็อกเก็ต พระปัญจสิงขร



| ชื่อร้านค้า | จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
|---|---|
| ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
| ชื่อพระเครื่อง | ล็อกเก็ต พระปัญจสิงขร |
| อายุพระเครื่อง | 8 ปี |
| หมวดพระ | เครื่องรางของขลัง |
| ราคาเช่า | 350 บาท |
| เบอร์โทรติดต่อ | 08-6560-4037 |
| อีเมล์ติดต่อ | Tayanrum@hotmail.com |
| LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
| สถานะ |
|
| เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | พฤ. - 23 ต.ค. 2568 - 21:15.38 |
| แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | พฤ. - 23 ต.ค. 2568 - 21:16.01 |
| รายละเอียด | |
|---|---|
| พระปัญจสิขร หรือ พระปัญจสิงขร สามารถเรียกท่านได้ทั้งสองชื่อ เนื่องจากชื่อของท่านมาจากภาษาบาลีว่า “ปัญจสิข” เป็นเทวดาในคติพุทธ ซึ่งในคติพราหมณ์หรือฮินดูนั้นพบน้อยมาก เจอเพียงว่าทรงเป็นเทพที่เป็นผู้เดินนำพระศิวะเวลาเสด็จออกทุกครั้งไป และระหว่างเดินก็ทรงบรรเลงเครื่องสายถวายองค์พระศิวะ ส่วนในคติพุทธนั้นหาได้จากเตภูมิกถา เดิมที่ท่านนั้นเป็นมนุษย์ธรรมดา มีอาชีพเลี้ยงโค ทำความดีไว้มากเมื่อเสียชีวิตลงจึงได้สถิตเป็นเทวดาในชั้นจาตุมหาราชิกา ได้ชื่อว่า “ปัญจสิขคนธรรพเทพบุตร” ท่านเป็นครูเทพดนตรีหนึ่งในสามครูเทพแห่งดุริยางคศาสตร์อันประกอบด้วย พระวิศณุกรรม (ผู้สร้างเครื่องดนตรีทุกชนิด) พระประคนธรรพ (หรือเทวฤาษี เทพผู้ชำนาญด้านการดนตรีขับร้อง) และพระปัญจสิขร (เทพผู้เป็นเจ้าแห่งเครื่องสายเครื่องดนตรีทั้งปวง) ดังนั้นนักดนตรีที่บรรเลงเครื่องสายเช่นซอ จะบูชาพระปัญจสิขรมากเป็นพิเศษกว่าเทวะด้านดนตรีองค์อื่นๆ ประติมานวิทยาของพระปัญจสิขรนั้น ระบุว่า เศียรของท่านจะเป็นมงกุฎยอดน้ำเต้ามี ๕ ยอด วรกายเป็นสีขาว มี 4 กร มีกุณฑล ทรงอาภรณ์ประดับด้วยนิลรัตน์ ทรงภูษาสีแดง ทรงถือพิณและบัณเฑาะว์ (สาเหตุที่ทรงมงกุฎน้ำเต้า บนยอดมี ๕ แฉกนั้น เนื่องจากตอนที่เป็นมนุษย์ท่านไว้ ผม 5 แหยม) เครื่องดนตรีประจำองค์พระปัญจสิขร คือ พิณและบัณเฑาะว์ พิณของท่านนั้น จะมีพรรณเลื่อมเหลืองดุจผลมะตูมสุกสะอาด คันของพิณก็จะเป็นแก้วอินทนิลมณี มีทั้งหมด 50 สาย ทุกสายทำด้วยเงิน ส่วนเวทกะ ที่สำหรับสอดสายพิณก็จะทำด้วยแก้วประพาฬ ส่วนบัณเฑาะว์นั้นไม่มีการระบุไว้ ในคติพุทธนั้น พระปัญจสิขร เป็นที่โปรดปรานขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีฐานะสำคัญในการเป็นพุทธอุปัฏฐาก แม้แต่พระอินทร์ ก่อนเมื่อจะทูลถามปัญหาถึงพระพุทธเจ้า เมื่อครั้งเสด็จประทับอยู่ ณ อินทสาลคูหากรุงราชคฤห์ ก็ต้องให้พระปัญจสิขรเป็นผู้นำเข้าเฝ้า ทูลขอโอกาสให้ก่อน และในครั้งนั้น พระปัญจสิขรได้บรรเลงพิณและขับลำนำพรรณนา ในเรื่องของ...พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นข้ออุปมา ซึ่งพระพุทธองค์ก็ทรงชมเชยว่า...เสียงพิณและเสียงขับกล่อมของพระปัญจสิขร มีความกลมกล่อมไม่ต่างกัน เสียงพิณก็มีลีลาละมุนละม่อมเสมอสมานเป็นอันหนึ่งอันเดียว และหลังจากนั้นพระปัญจสิขรจึงทูลขอโอกาสให้พระอินทร์ และพระพุทธองค์ก็ทรงพุทธานุญาต พระอินทร์และบริวารจึงได้เข้าเฝ้าและทูลถามปัญหาต่อพระพุทธองค์ หลังจากที่พระอินทร์ได้ทูลถามปัญหา รวมถึงฟังพระธรรมเทศนาแล้ว ได้ทราบซึ้งถึงคุณูปการต่อพระปัญจสิขร จึงได้ประทาน นางสุริยวัจฉสา ซึ่งเป็นเทวธิดาให้เป็นมเหสีรวมถึงตัวของท่านก็เป็น สมเด็จพระเจ้าปัญจสิขคนธรรพเทพบุตรราช และเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จจากสวรรค์ลงมายังโลกมนุษย์จะต้องมีปัญจดุริยางค์ หรือ ดนตรีของสรวงสวรรค์ บรรเลงนำลงมา พระปัญจสิขรก็จะเป็นผู้ดีดพิณรวมถึงไกวบัณเฑาะว์นำอยู่ในวงเครื่องสูง ในการนำเสด็จของพระพุทธเจ้าในทุกๆ ครั้งไป การตั้งศีรษะของพระปัญจสิขรซึ่งแทนสัญลักษณ์องค์พระปัญจสิขร ซึ่งถือว่าท่านเป็นครูพิณและขับร้องต่างๆ เวลาตั้งหัวโขนหรือศีรษะท่านในงานไหว้ครู จะตั้งทางด้านขวาของเวทีรวมกับศีรษะพระครูฤษีต่างๆ พอจะเห็นที่มาที่ไปและความสำคัญ ว่าเหตุใดพระครูปัญจสิขร จึงเป็นเทวดาประจำวงดนตรีสุนทราภรณ์ เพราะด้วยท่านเป็นเจ้าแห่งการบรรเลงเครื่องดนตรีทั้งปวงและเป็นเอกในการขับลำนำ ชาวสุนทราภรณ์เราจะเรียกพระปัญขสิขรกันย่อๆว่า “พระครู” และในการบรรเลงของวงดนตรีสุนทราภรณ์ทุกครั้งไม่ว่าที่ใดก็ตาม ก็จะอัญเชิญป้ายหน้าวงซึ่งเป็นรูปพระปัญจสิขรทรงพิณ มีสองพระกร พื้นผ้าเป็นสีแดงสด ติดเป็นป้ายหน้าวงทุกครั้งไป |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments





