หมวด เหรียญปั๊ม ก่อนปี 2520

เหรียญ พระแก้วมรกต อาจารย์ไพศาล ไวจรรยา

เหรียญ พระแก้วมรกต อาจารย์ไพศาล ไวจรรยา - 3

เหรียญ พระแก้วมรกต อาจารย์ไพศาล ไวจรรยา - 4

เหรียญ พระแก้วมรกต อาจารย์ไพศาล ไวจรรยา - 5

ชื่อร้านค้า	จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jeerasit (112)
ชื่อพระเครื่อง	เหรียญ พระแก้วมรกต อาจารย์ไพศาล ไวจรรยา
อายุพระเครื่อง	48 ปี
หมวดพระ	เหรียญปั๊ม ก่อนปี 2520
ราคาเช่า	250 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ	Tayanrum@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	ศ. - 24 ต.ค. 2568 - 21:45.45
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	ศ. - 24 ต.ค. 2568 - 21:45.45

รายละเอียด
ปิดท้าย วันนี้ นำเสนอ เหรียญ ที่ เรา ๆ ท่าน ๆ หลง ผิดกันมานาน เหรียญ พระแก้วมรกต อาจารย์ไพศาล ไวจรรยา เรื่องราว อาจจะยาว ซักนิด ผมมีเหรียญ ท่าน อยู่ 40 เหรียญ สภาพ เหรียญ สวยเดิม ออกผิวหิ้ง นิด ๆ เหรียญละ 250 บาท หลังจากนี้ไป จะปรับ ราคา 350 บาทครับ คุณครูไพศาล ไวจรรยา ไทรน้อย นนทบุรี เป็นอาจารย์ฆราวาสสอนกรรมฐาน และพระเวทย์ฯ โดยกรรมฐานในสายนี้ เป็นแนวทางมโนยิทธิอีกทางหนึ่ง ซึ่งครูท่านจะนำทำกรรมฐานมโนยิทธิไปกราบพระ กราบผู้ใหญ่ บนสวรรค์ชั้นยามา ปัจจุบันที่บ้านคุณครูท่านปิดไม่มีการสอนแล้ว (ครูท่านเสียนานแล้ว) แต่ในหมู่ศิษย์ที่ได้เรียนต่อจากท่านยังคงมีสอน และปฏิบัติกันเฉพาะกลุ่มเล็กๆ ในแต่ละปีก็จะรวมตัวกันมาทำพิธีไหว้ครูที่บ้านคุณครูปีละครั้ง วิชาในสายนี้ท่านเน้นที่กรรมฐานเป็นบาทหลักที่จะใช้เป็นฐานในการเรียนวิชาอื่นๆ ต่อไป อย่างเช่น วิชาการตั้งศาลพระภูมิ ในสายนี้ไม่เหมือนกับที่ปฏิบัติกันอยู่ทั่วไป กล่าวคือ ผู้ที่ทำพิธีตั้งศาลพระภูมิ ต้องขึ้นไปอาราธนาเชิญเทวดาเสียก่อน และที่สำคัญต้องทราบชื่อเทวดาองค์นั้นด้วย เมื่อจะทำพิธี ต้องให้เจ้าบ้านมาทำกรรมฐาน แล้วพาเจ้าบ้านไปพูดคุยกับเทวดาที่เชิญมาสถิตย์ว่าเห็นว่ามาหรือยัง ลักษณะเป็นแบบไหน ให้ไต่ถามเอาว่าท่านชื่ออะไร ถ้าเจ้าบ้านบอกตรงกับที่ผู้ทำพิธีขึ้นไปถามไว้ก่อน เป็นอันว่าใช้ได้ ต่อจากนั้นไป เวลาจะทำอะไรก็ให้เจ้าบ้านติดต่อเทวดาที่มารับหน้าที่สถิตย์บารมีคุ้มครองบ้านเรือนเขาเอาเอง หรืออย่างเวลานำทำกรรมฐาน ครูไพศาลท่านก็จะนั่งคุมอยู่ด้านหลัง ศิษย์จะนั่งสมาธิอยู่ด้านหน้ารวมกันหลายคน สำหรับผู้ฝึกใหม่ ครูท่านก็จะสอดกำลังใจไปดูว่าศิษย์แต่ละคนเห็นภาพที่ปรากฏขึ้นในจิตเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็จะพูดออกมาตรงกับการรับรู้ของทุกคน ว่าคนนั้นเห็นภาพชัดแล้วอย่างนี้ คนนี้เห็นภาพยังไม่ชัด คนนี้ยังไม่เห็น ต้องให้ปรับอารมณ์อย่างนี้อย่างนั้น อัดองค์ภาวนา "พระอะระหังสัมมาสัมพุทโธ" เข้าไว้ ยิ่งฟุ้งก็ต้องยิ่งภาวนาอัดเข้าไป เป็นต้น สำหรับวัตถุมงคลที่คุณครูท่านทำ ส่วนใหญ่จะแจกเฉพาะในหมู่ศิษย์ เช่น ผ้ายันต์ , ตะกรุด , เหรียญท่านครูวาสุกรี , เหรียญพระแก้วมรกต (ท่านองค์สูง) ฯลฯ ปัจจุบันในเรื่องของตำราพระเวทย์ ตำราการสร้างวัตถุมงคล ฯลฯ ของคุณครูท่านก็ได้มอบต่อไว้ให้ลูกศิษย์หลายท่านด้วยกัน หนึ่งในนั้นก็คือหลวงพี่อานนท์ ที่ได้ไปเรียนกรรมฐาน และพระเวทย์ จากคุณครูไพศาล ไวจรรยา ตั้งแต่สมัยยังเป็นฆราวาส ยกตัวอย่างการเรียนการสอน "วิชาการสร้างเชือกคาด" ก็จะมีระบุว่ากี่ปมๆ สูงสุดที่อนุญาตให้ทำได้คือกี่ปม (ถ้ามากกว่านั้นท่านว่าไปฟาดใครเข้าจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต) สมัยที่ยังไม่ได้บวช ครูไพศาลท่านเรียกเข้าไปเพื่อสอนวิธีการทำเชือกคาดให้ ครูท่านจะทำให้ดูก่อน จากนั้นก็ลองให้ทำเองบ้าง ผูกปมว่าอย่างนี้ตอนเสกๆ อย่างนี้ ท่านให้เสกจนมั่นใจ แล้วเอาเชือกคาดนั้นฟาดเบาๆ ไปที่หวีกล้วย เพียงแค่ฟาดไปเบาๆ ภายนอกหวีกล้วยก็คงสภาพปกติไม่มีอะไร แต่พอปอกเปลือกกล้วยหวีนั้นออกดูปรากฏว่า "เนื้อกล้วยขาดออกจากกัน คล้ายโดนมีดหั่นตามที่เชือกฟาดโดนไว้ไม่มีผิด" เมื่อทำให้ครูไพศาลท่านเห็นว่าทำได้อย่างนั้นแล้ว ครูท่านก็ใช้ให้รีบมายกครูครอบเรียนไป อย่างนี้เป็นต้น

รายละเอียด

ปิดท้าย

วันนี้ นำเสนอ เหรียญ ที่ เรา ๆ ท่าน ๆ หลง ผิดกันมานาน

เหรียญ พระแก้วมรกต อาจารย์ไพศาล ไวจรรยา

เรื่องราว อาจจะยาว ซักนิด

ผมมีเหรียญ ท่าน อยู่ 40 เหรียญ สภาพ เหรียญ สวยเดิม ออกผิวหิ้ง นิด ๆ

เหรียญละ 250 บาท หลังจากนี้ไป จะปรับ ราคา 350 บาทครับ

คุณครูไพศาล ไวจรรยา ไทรน้อย นนทบุรี

เป็นอาจารย์ฆราวาสสอนกรรมฐาน และพระเวทย์ฯ โดยกรรมฐานในสายนี้ เป็นแนวทางมโนยิทธิอีกทางหนึ่ง ซึ่งครูท่านจะนำทำกรรมฐานมโนยิทธิไปกราบพระ กราบผู้ใหญ่ บนสวรรค์ชั้นยามา ปัจจุบันที่บ้านคุณครูท่านปิดไม่มีการสอนแล้ว (ครูท่านเสียนานแล้ว) แต่ในหมู่ศิษย์ที่ได้เรียนต่อจากท่านยังคงมีสอน และปฏิบัติกันเฉพาะกลุ่มเล็กๆ ในแต่ละปีก็จะรวมตัวกันมาทำพิธีไหว้ครูที่บ้านคุณครูปีละครั้ง

วิชาในสายนี้ท่านเน้นที่กรรมฐานเป็นบาทหลักที่จะใช้เป็นฐานในการเรียนวิชาอื่นๆ ต่อไป อย่างเช่น วิชาการตั้งศาลพระภูมิ ในสายนี้ไม่เหมือนกับที่ปฏิบัติกันอยู่ทั่วไป กล่าวคือ ผู้ที่ทำพิธีตั้งศาลพระภูมิ ต้องขึ้นไปอาราธนาเชิญเทวดาเสียก่อน และที่สำคัญต้องทราบชื่อเทวดาองค์นั้นด้วย เมื่อจะทำพิธี ต้องให้เจ้าบ้านมาทำกรรมฐาน แล้วพาเจ้าบ้านไปพูดคุยกับเทวดาที่เชิญมาสถิตย์ว่าเห็นว่ามาหรือยัง ลักษณะเป็นแบบไหน ให้ไต่ถามเอาว่าท่านชื่ออะไร ถ้าเจ้าบ้านบอกตรงกับที่ผู้ทำพิธีขึ้นไปถามไว้ก่อน เป็นอันว่าใช้ได้ ต่อจากนั้นไป เวลาจะทำอะไรก็ให้เจ้าบ้านติดต่อเทวดาที่มารับหน้าที่สถิตย์บารมีคุ้มครองบ้านเรือนเขาเอาเอง

หรืออย่างเวลานำทำกรรมฐาน ครูไพศาลท่านก็จะนั่งคุมอยู่ด้านหลัง ศิษย์จะนั่งสมาธิอยู่ด้านหน้ารวมกันหลายคน สำหรับผู้ฝึกใหม่ ครูท่านก็จะสอดกำลังใจไปดูว่าศิษย์แต่ละคนเห็นภาพที่ปรากฏขึ้นในจิตเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็จะพูดออกมาตรงกับการรับรู้ของทุกคน ว่าคนนั้นเห็นภาพชัดแล้วอย่างนี้ คนนี้เห็นภาพยังไม่ชัด คนนี้ยังไม่เห็น ต้องให้ปรับอารมณ์อย่างนี้อย่างนั้น อัดองค์ภาวนา "พระอะระหังสัมมาสัมพุทโธ" เข้าไว้ ยิ่งฟุ้งก็ต้องยิ่งภาวนาอัดเข้าไป เป็นต้น

สำหรับวัตถุมงคลที่คุณครูท่านทำ ส่วนใหญ่จะแจกเฉพาะในหมู่ศิษย์ เช่น ผ้ายันต์ , ตะกรุด , เหรียญท่านครูวาสุกรี , เหรียญพระแก้วมรกต (ท่านองค์สูง) ฯลฯ ปัจจุบันในเรื่องของตำราพระเวทย์ ตำราการสร้างวัตถุมงคล ฯลฯ ของคุณครูท่านก็ได้มอบต่อไว้ให้ลูกศิษย์หลายท่านด้วยกัน หนึ่งในนั้นก็คือหลวงพี่อานนท์ ที่ได้ไปเรียนกรรมฐาน และพระเวทย์ จากคุณครูไพศาล ไวจรรยา ตั้งแต่สมัยยังเป็นฆราวาส

ยกตัวอย่างการเรียนการสอน "วิชาการสร้างเชือกคาด" ก็จะมีระบุว่ากี่ปมๆ สูงสุดที่อนุญาตให้ทำได้คือกี่ปม (ถ้ามากกว่านั้นท่านว่าไปฟาดใครเข้าจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต) สมัยที่ยังไม่ได้บวช ครูไพศาลท่านเรียกเข้าไปเพื่อสอนวิธีการทำเชือกคาดให้ ครูท่านจะทำให้ดูก่อน จากนั้นก็ลองให้ทำเองบ้าง ผูกปมว่าอย่างนี้ตอนเสกๆ อย่างนี้ ท่านให้เสกจนมั่นใจ แล้วเอาเชือกคาดนั้นฟาดเบาๆ ไปที่หวีกล้วย เพียงแค่ฟาดไปเบาๆ ภายนอกหวีกล้วยก็คงสภาพปกติไม่มีอะไร แต่พอปอกเปลือกกล้วยหวีนั้นออกดูปรากฏว่า "เนื้อกล้วยขาดออกจากกัน คล้ายโดนมีดหั่นตามที่เชือกฟาดโดนไว้ไม่มีผิด" เมื่อทำให้ครูไพศาลท่านเห็นว่าทำได้อย่างนั้นแล้ว ครูท่านก็ใช้ให้รีบมายกครูครอบเรียนไป อย่างนี้เป็นต้น