ฤๅษีนารายณ์ พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่บุญโฮม วัดดงสวนผึ้ง เนื้อดินผสมแร่ธาตุกายสิทธิ์ -จ่าจีระสิทธิ์ - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

จ่าจีระสิทธิ์

0 8 6 - 5 6 0 4 0 3 7

หน้าที่ และความรับผิดชอบ

หมวด เครื่องรางของขลัง

ฤๅษีนารายณ์ พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่บุญโฮม วัดดงสวนผึ้ง เนื้อดินผสมแร่ธาตุกายสิทธิ์

ฤๅษีนารายณ์ พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่บุญโฮม วัดดงสวนผึ้ง เนื้อดินผสมแร่ธาตุกายสิทธิ์ - 3

ฤๅษีนารายณ์ พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่บุญโฮม วัดดงสวนผึ้ง เนื้อดินผสมแร่ธาตุกายสิทธิ์ - 4

ฤๅษีนารายณ์ พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่บุญโฮม วัดดงสวนผึ้ง เนื้อดินผสมแร่ธาตุกายสิทธิ์ - 5

ชื่อร้านค้า	จ่าจีระสิทธิ์ - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	jeerasit (112)
ชื่อพระเครื่อง	ฤๅษีนารายณ์ พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่บุญโฮม วัดดงสวนผึ้ง เนื้อดินผสมแร่ธาตุกายสิทธิ์
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	เครื่องรางของขลัง
ราคาเช่า	1,250 บาท
เบอร์โทรติดต่อ	08-6560-4037
อีเมล์ติดต่อ	Tayanrum@hotmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พฤ. - 30 ต.ค. 2568 - 21:08.54
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	พฤ. - 30 ต.ค. 2568 - 21:11.22

รายละเอียด
ฤๅษีนารายณ์ พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่บุญโฮม วัดดงสวนผึ้ง เนื้อดินผสมแร่ธาตุกายสิทธิ์ ยุคแรก สุดยอดของความหายาก พิมพ์ใหญ่ ขนาด ประมาณ 4.5 ซ.ม. สูง 5.5 ซ.ม. ว่านแร่กายสิทธิ์ ต่าง ๆ มากมาย เครดิต บอส เมตตาบารมีครู 11 นาที · เรื่องราวเหนือโลกของหลวงปู่บุญโฮม ดงสวนผึ้ง 🚩 .... สมัยหนุ่มๆเคยถูกจับร่วมกับนักโทษทางการเมือง โดยถูกจับอย่างไรความผิด ถูกส่งไปขังหวังให้ตาย ณ เกาะตะรุเตา ... หลวงปู่บุญโฮม ในตอนนั้นยังเป็นชายฉกรรจ์กำยำคาดหวังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ฝ่าความตายไปดาบหน้า ว่าตนก็ไร้ความผิดหากจะอยู่ต่อก็ตาย สู้ตายเอาดาบหน้าดีกว่า คิดได้เช่นนั้นท่านก็เลือกกระโดดหนีลงทะเล โดยอาศัยเพียงมะพร้าวสองสามลูกผูกติดตัวเป็นเครื่องช่วยพยุงกลางมหาสมุทรอันเคว้งคว้าง ผู้คุมเห็นในสมัยนั้น ด้วยว่าอยู่ห่างไกลฝั่งเห็นหลวงปู่กระโดดลงทะเล ก็หาได้ติดตามคุมตัวไม่ เพราะคิดว่าเสียอย่างไรๆแล้ว ท่านก็ต้องกลายเป็นอาหารของปลาเต่ากลางทะเลแน่นอน หลวงปู่ลอยคออยู่กลางทะเลผ่านวันผ่านคืนจนหมดเรี่ยวแรงลอยเคว้งกลางทะเล ... ท่านก็รำลึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในใจตั้งสัจจะอธิฐานว่า " ... ถ้ารอดตายไปได้ ขึ้นฝั่งได้จะกลับไปบวชและเลิกกินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต ขอจงช่วยให้รอดด้วย .. " ปรากฎว่าด้วยความสิ้นหวังสิ่งเดียวที่พึ่งได้คือมะพร้าวที่ตนกอดเอาไว้แน่นแทนทุ่นลอย ก็เหมือนมีอะไรมาช่วยหนุนตัวและพัดพาท่านให้เร็วขึ้น กระแสน้ำก็เปลี่ยนทาง ... รู้สึกตัวอีกทีท่านก็มาเกยชายหาดบนฝั่งแล้ว ... เป็นอัศจรรย์นักที่รอดตายจากการลอยคอกลางทะเล ในสมัยนั้นทางใต้เป็นป่าดงดิบรกชัด แม้รอดรายจากการลอยคอกลางทะเลมาแล้ว ก็ยังต้องลัดเลาะฝ่าดงหาเส้นทางสัญจรเพื่อเข้าตัวเมือง หรือ หาหมู่บ้าน ซึ่งยุคนนั้นตามชายฝั่งทะเลอันดามันก็ยังมีหมู่บ้านอยู่น้อย ท่านก็สะบักสะบอม ดิ้นรนเอาชีวิตรอดในป่า เอาไม้มาทำอาวุธ เก็บผลไม้ป่ากินประทังชีวิต ... ในป่าแเนใต้นี่เอง ที่หลวงปู่ได้กับบุคคลอัศจรรย์ หรือ ที่ชาวใต้ร่ำลือกันมานานแสนนาน ถึงเหล่าผู้วิเศษที่อาศัยอยู่ในมิติทับซ้อน เช่น ชาวบังบด พรับแพร้วตามภาษาใต้ หรือ พวกคนธรรพ์ นักสิทธิ์วิทยาธร ... ท่านเดินเท้าเปล่าบุกป่าอยู่หลายวันฝ่าดงพงพรี อาศัยดูดวงอาทิตย์ขึ้น ยึดเอาเป็นทางที่ไป ในป่านี้เองท่านก็พบกับ " ตาผ้าขาวลึกลับ " กลางป่าดงดิบแดนใต้ ตาผ้าขาวด้วยความเมตตาสงสารหลวงปู่ ก็แสดงฤทธิ์นานาประการ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ท่านได้เห็นความอัศจรรย์ต่างๆเหนือจินตนาการมนุษย์จะกระทำได้ ก็เกิดศรัทธาอย่างแรงกล้าในตัวตาประขาวผู้นั้น จึงขอฝากตัวเป็นศิษย์ร่ำเรียนอาคมวิเศษต่างๆ อันเป็นอจิณไตยเหนือโลก หลวงปู่บุญโฮมอยู่เรียนกับตาปะขาวกลางป่าจนชำชอง มีอาคมแก่กล้า ในที่นี้เองหลวงปู่ก็ได้เข้าถึงโลกลี้ลับ โลกฝ่ายวิญญาณได้พบเจอเหล่าเทพเทวะ คนธรรพ์ นักสิทธิ์ เหล่าผู้มีฤทธิ์สายเหนือโลก สามารถไขความลับกุญแจทางไสยศาสตร์ได้อย่างรู้เหตุลึกซึ้ง จนสามารถ " แปลงกลายเป็นเสือโคร่งได้ " (ซี่งต่อมาวิชานี้ท่านก็ได้นำมาใช้ที่วัดดงสวนผึ้งจนดป็นที่โจษจันกันมากในสมัยนั้นว่ามักเห็นเสือโคร่งตัวมหึมาเดินไปมาบริเวณกุฏิหลวงปู่อยู่เป็นประจำ) นอกจากจะสำเร็จวิชาแปลงกายแล้ว ยังสำเร็จวิชาอาคมต่างๆอีกด้วยอาทิ - แยกกาย และ หายตัว - ย่นระยะทาง - อยู่ยงคงกระพัน ฯลฯ เมื่อชำชองดีจึงขออาจารย์ออกป่ากลับบ้านที่อีสาน ฝ่ายอาจารย์คงเห็นว่าท่านได้สำเร็จวิชาในดงดิบแห่งนี้จนเพียงพอต่อความรู้ที่จะต้องนำไปใช้แล้ว ก็ให้ท่านกลับออกมาได้ หลวงปู่เมื่อมีความรู้ต่างๆจากอาจารย์ถ่ายทอดให้แล้ว อยู่ป่าจนรู้จักป่าอย่างดีแล้ว การเดินทางออกจากป่าจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับท่านมาก ไม่นานนักท่านก็ออกจากป่าถึงเมือง ... เดินทางกลับบ้านที่อีสานไม่นานนักท่านก็ได้ทำตามคำสัตย์ที่ให้ไว้ " ว่าถ้ารอดตายไปได้บวชและเลิกกินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต" ท่านก็อุปสมบทในพระพุทธศาสนา (มหานิกาย) ต่อมามีโอกาสได้พบเจอหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ก็ติดตามคณะสงฆ์พระกรรมฐานกลุ่มนี้ไปปฏิบัติด้วยอยู่ระยะนึงเกิดปิติศรัทธาในวัตรปฏิบัติสายหลวงปู่มั่น ก็จะขอญัตติเป็นธรรมยุต แต่หลวงปู่มั่นปามไว้ ท่านว่า " พระศาสนาไม่มีนิกาย " หลวงปู่บุญโฮม เลยไม่ญัตติเป็นธรรมยุตแต่นั้น ... ต่อมาท่านจึงธุดงค์กลับมาภูมิลำเนาเดิมของท่าน เพื่อโปรดญาติพี่น้องและประชาชนในบ้านดงสวนผึ้ง จึงได้ริเริ่มสร้างที่พักสงฆ์และพัฒนามาจนกลายเป็นวัดดงสวนผึ้งในปัจจุบัน ... หลวงปู่ท่านได้ใช้สรรพวิชาที่ร่ำเรียนมาจากตาประขาวและนำมาใช้ช่วยเหลือชาวบ้านจนร่ำลือเป็นที่พึ่งของศรัทธาสาธุชน จนถึงกาลมรณภาพ ... ภาพประกอบ : พระผงฤาษีนารายณ์บรมครู ของหลวงปู่บุญโฮม วัดดงสวนผึ้ง เป็นพระที่หลวงปู่ท่านรวบรวมมวลสารเอง. ทั้งผงตามตำราและผงสำคัญที่ได้มาโดยกรรมวิธีพิเศษ (ท่านจะไปเอามาอย่างใดนั้นก็ไม่มีผู้ใดจะล่วงรู้ได้) ท่านนำมาผสมของท่านเองคลุกเคล้ากับยางรักและกดพิมพ์เองที่วัด ท่านเสกด้วยวิชาของท่านเองอันเป็นสายเหนือโลกลี้ลับ และที่สำคัญคือ .. " ท่านเชิญเจ้าตัวมาเสกเอง " นั่นคือ เชิญพระบรมครูพระฤาษีนารายณ์ จากพรหมโลกลงมาประสิทธิวิชาลงในรูปเอง ในการเสกของหลวงปู่แต่ละครั้งที่เชิญพระบรมครูลงมาเสก มักมีเหตุอัศจรรย์ประหลาดปรากฎเป็นนิมิตเหนือโลกเสมอ เพื่อเป็นสัญญาณจากเบื้องบนว่า " ได้ลงมาทำให้แล้ว " ท่านสร้างของท่านเองเป็นระยะนึง ตั้งแต่ช่วงปี 2500 จนถึงมรณภาพ นับว่าเป็นของดีที่ไม่ควรมองข้าม

รายละเอียด

ฤๅษีนารายณ์ พิมพ์ใหญ่ หลวงปู่บุญโฮม วัดดงสวนผึ้ง เนื้อดินผสมแร่ธาตุกายสิทธิ์

ยุคแรก สุดยอดของความหายาก

พิมพ์ใหญ่ ขนาด ประมาณ 4.5 ซ.ม. สูง 5.5 ซ.ม. ว่านแร่กายสิทธิ์ ต่าง ๆ มากมาย

เครดิต บอส เมตตาบารมีครู
11 นาที
·
เรื่องราวเหนือโลกของหลวงปู่บุญโฮม ดงสวนผึ้ง 🚩
.... สมัยหนุ่มๆเคยถูกจับร่วมกับนักโทษทางการเมือง
โดยถูกจับอย่างไรความผิด ถูกส่งไปขังหวังให้ตาย ณ เกาะตะรุเตา ... หลวงปู่บุญโฮม ในตอนนั้นยังเป็นชายฉกรรจ์กำยำคาดหวังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ฝ่าความตายไปดาบหน้า ว่าตนก็ไร้ความผิดหากจะอยู่ต่อก็ตาย
สู้ตายเอาดาบหน้าดีกว่า คิดได้เช่นนั้นท่านก็เลือกกระโดดหนีลงทะเล โดยอาศัยเพียงมะพร้าวสองสามลูกผูกติดตัวเป็นเครื่องช่วยพยุงกลางมหาสมุทรอันเคว้งคว้าง
ผู้คุมเห็นในสมัยนั้น ด้วยว่าอยู่ห่างไกลฝั่งเห็นหลวงปู่กระโดดลงทะเล ก็หาได้ติดตามคุมตัวไม่
เพราะคิดว่าเสียอย่างไรๆแล้ว ท่านก็ต้องกลายเป็นอาหารของปลาเต่ากลางทะเลแน่นอน
หลวงปู่ลอยคออยู่กลางทะเลผ่านวันผ่านคืนจนหมดเรี่ยวแรงลอยเคว้งกลางทะเล ...
ท่านก็รำลึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในใจตั้งสัจจะอธิฐานว่า
" ... ถ้ารอดตายไปได้ ขึ้นฝั่งได้จะกลับไปบวชและเลิกกินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต ขอจงช่วยให้รอดด้วย .. "
ปรากฎว่าด้วยความสิ้นหวังสิ่งเดียวที่พึ่งได้คือมะพร้าวที่ตนกอดเอาไว้แน่นแทนทุ่นลอย ก็เหมือนมีอะไรมาช่วยหนุนตัวและพัดพาท่านให้เร็วขึ้น กระแสน้ำก็เปลี่ยนทาง
... รู้สึกตัวอีกทีท่านก็มาเกยชายหาดบนฝั่งแล้ว ...
เป็นอัศจรรย์นักที่รอดตายจากการลอยคอกลางทะเล
ในสมัยนั้นทางใต้เป็นป่าดงดิบรกชัด แม้รอดรายจากการลอยคอกลางทะเลมาแล้ว ก็ยังต้องลัดเลาะฝ่าดงหาเส้นทางสัญจรเพื่อเข้าตัวเมือง หรือ หาหมู่บ้าน
ซึ่งยุคนนั้นตามชายฝั่งทะเลอันดามันก็ยังมีหมู่บ้านอยู่น้อย ท่านก็สะบักสะบอม ดิ้นรนเอาชีวิตรอดในป่า
เอาไม้มาทำอาวุธ เก็บผลไม้ป่ากินประทังชีวิต ...
ในป่าแเนใต้นี่เอง ที่หลวงปู่ได้กับบุคคลอัศจรรย์
หรือ ที่ชาวใต้ร่ำลือกันมานานแสนนาน ถึงเหล่าผู้วิเศษที่อาศัยอยู่ในมิติทับซ้อน เช่น ชาวบังบด พรับแพร้วตามภาษาใต้ หรือ พวกคนธรรพ์ นักสิทธิ์วิทยาธร
... ท่านเดินเท้าเปล่าบุกป่าอยู่หลายวันฝ่าดงพงพรี
อาศัยดูดวงอาทิตย์ขึ้น ยึดเอาเป็นทางที่ไป
ในป่านี้เองท่านก็พบกับ " ตาผ้าขาวลึกลับ "
กลางป่าดงดิบแดนใต้ ตาผ้าขาวด้วยความเมตตาสงสารหลวงปู่ ก็แสดงฤทธิ์นานาประการ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ท่านได้เห็นความอัศจรรย์ต่างๆเหนือจินตนาการมนุษย์จะกระทำได้ ก็เกิดศรัทธาอย่างแรงกล้าในตัวตาประขาวผู้นั้น จึงขอฝากตัวเป็นศิษย์ร่ำเรียนอาคมวิเศษต่างๆ
อันเป็นอจิณไตยเหนือโลก หลวงปู่บุญโฮมอยู่เรียนกับตาปะขาวกลางป่าจนชำชอง มีอาคมแก่กล้า
ในที่นี้เองหลวงปู่ก็ได้เข้าถึงโลกลี้ลับ โลกฝ่ายวิญญาณได้พบเจอเหล่าเทพเทวะ คนธรรพ์ นักสิทธิ์ เหล่าผู้มีฤทธิ์สายเหนือโลก สามารถไขความลับกุญแจทางไสยศาสตร์ได้อย่างรู้เหตุลึกซึ้ง
จนสามารถ " แปลงกลายเป็นเสือโคร่งได้ "
(ซี่งต่อมาวิชานี้ท่านก็ได้นำมาใช้ที่วัดดงสวนผึ้งจนดป็นที่โจษจันกันมากในสมัยนั้นว่ามักเห็นเสือโคร่งตัวมหึมาเดินไปมาบริเวณกุฏิหลวงปู่อยู่เป็นประจำ)
นอกจากจะสำเร็จวิชาแปลงกายแล้ว
ยังสำเร็จวิชาอาคมต่างๆอีกด้วยอาทิ
- แยกกาย และ หายตัว
- ย่นระยะทาง
- อยู่ยงคงกระพัน ฯลฯ
เมื่อชำชองดีจึงขออาจารย์ออกป่ากลับบ้านที่อีสาน ฝ่ายอาจารย์คงเห็นว่าท่านได้สำเร็จวิชาในดงดิบแห่งนี้จนเพียงพอต่อความรู้ที่จะต้องนำไปใช้แล้ว ก็ให้ท่านกลับออกมาได้
หลวงปู่เมื่อมีความรู้ต่างๆจากอาจารย์ถ่ายทอดให้แล้ว
อยู่ป่าจนรู้จักป่าอย่างดีแล้ว การเดินทางออกจากป่าจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับท่านมาก ไม่นานนักท่านก็ออกจากป่าถึงเมือง ... เดินทางกลับบ้านที่อีสานไม่นานนักท่านก็ได้ทำตามคำสัตย์ที่ให้ไว้
" ว่าถ้ารอดตายไปได้บวชและเลิกกินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต"
ท่านก็อุปสมบทในพระพุทธศาสนา (มหานิกาย)
ต่อมามีโอกาสได้พบเจอหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ก็ติดตามคณะสงฆ์พระกรรมฐานกลุ่มนี้ไปปฏิบัติด้วยอยู่ระยะนึงเกิดปิติศรัทธาในวัตรปฏิบัติสายหลวงปู่มั่น
ก็จะขอญัตติเป็นธรรมยุต แต่หลวงปู่มั่นปามไว้
ท่านว่า " พระศาสนาไม่มีนิกาย " หลวงปู่บุญโฮม
เลยไม่ญัตติเป็นธรรมยุตแต่นั้น ...
ต่อมาท่านจึงธุดงค์กลับมาภูมิลำเนาเดิมของท่าน
เพื่อโปรดญาติพี่น้องและประชาชนในบ้านดงสวนผึ้ง
จึงได้ริเริ่มสร้างที่พักสงฆ์และพัฒนามาจนกลายเป็นวัดดงสวนผึ้งในปัจจุบัน
... หลวงปู่ท่านได้ใช้สรรพวิชาที่ร่ำเรียนมาจากตาประขาวและนำมาใช้ช่วยเหลือชาวบ้านจนร่ำลือเป็นที่พึ่งของศรัทธาสาธุชน จนถึงกาลมรณภาพ ...
ภาพประกอบ : พระผงฤาษีนารายณ์บรมครู
ของหลวงปู่บุญโฮม วัดดงสวนผึ้ง เป็นพระที่หลวงปู่ท่านรวบรวมมวลสารเอง. ทั้งผงตามตำราและผงสำคัญที่ได้มาโดยกรรมวิธีพิเศษ (ท่านจะไปเอามาอย่างใดนั้นก็ไม่มีผู้ใดจะล่วงรู้ได้) ท่านนำมาผสมของท่านเองคลุกเคล้ากับยางรักและกดพิมพ์เองที่วัด ท่านเสกด้วยวิชาของท่านเองอันเป็นสายเหนือโลกลี้ลับ และที่สำคัญคือ ..
" ท่านเชิญเจ้าตัวมาเสกเอง " นั่นคือ เชิญพระบรมครูพระฤาษีนารายณ์ จากพรหมโลกลงมาประสิทธิวิชาลงในรูปเอง ในการเสกของหลวงปู่แต่ละครั้งที่เชิญพระบรมครูลงมาเสก มักมีเหตุอัศจรรย์ประหลาดปรากฎเป็นนิมิตเหนือโลกเสมอ เพื่อเป็นสัญญาณจากเบื้องบนว่า
" ได้ลงมาทำให้แล้ว " ท่านสร้างของท่านเองเป็นระยะนึง
ตั้งแต่ช่วงปี 2500 จนถึงมรณภาพ นับว่าเป็นของดีที่ไม่ควรมองข้าม