ตะกรุดดำน้ำ หลวงปู่เป้า วัดบางพูดใน (710)-บารมีปู่สี - webpra

เว็บ-พระ ประมูลพระเครื่อง ร้านค้าพระเครื่องออนไลน์

บารมีปู่สี

"กรรมเก่าไม่มีใครลบล้างได้ กรรมปัจจุบันจะช่วยเจ้าเอง บุญเราไม่เคยสร้าง ใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า"

หมวด เครื่องรางของขลัง

ตะกรุดดำน้ำ หลวงปู่เป้า วัดบางพูดใน (710)

ตะกรุดดำน้ำ หลวงปู่เป้า วัดบางพูดใน (710) - 3

ตะกรุดดำน้ำ หลวงปู่เป้า วัดบางพูดใน (710) - 4

ตะกรุดดำน้ำ หลวงปู่เป้า วัดบางพูดใน (710) - 5

ชื่อร้านค้า	บารมีปู่สี - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า)
ชื่อเจ้าของร้านค้า	kumairoo (1002)
ชื่อพระเครื่อง	ตะกรุดดำน้ำ หลวงปู่เป้า วัดบางพูดใน (710)
อายุพระเครื่อง	-
หมวดพระ	เครื่องรางของขลัง
ราคาเช่า	-
เบอร์โทรติดต่อ	(ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า)
อีเมล์ติดต่อ	kumairoo1972@gmail.com
LINE	(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
สถานะ
Facebook	Share
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่	พฤ. - 14 พ.ค. 2558 - 22:06.31
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ	อา. - 11 ธ.ค. 2559 - 20:02.49

รายละเอียด
เปิดตำนานตะกรุดดำน้ำ หลวงปู่เป้า วัดบางพูดใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีจำนวนการสร้างไม่ถึง ๑๐ ดอก ตะกรุดหลวงปู่เท่าที่รวบรวมข้อมูลได้มีแบ่งได้ ๒ ประเภทใหญ่ๆ คือ ๑.มีวาระการจัดสร้าง ๑.๑ ไตรมาสรุ่นแรกราวปีพ.ศ.๒๕๐๘ จำนวนการสร้างเท่าอายุหลวงปู่ ถักเชือกปอลายเกลียวกระบอง ๕-๘ เสา ๕ เสามีจำนวนมากกว่า ๘ เสาเพราะใช้เวลานานกว่า ลงรักปิดทองหัว-ท้ายตะกรุด และ(ไตรมาสรุ่น๒) ๑.๒ รุ่นเสาร์๕ (เสก ๓ ปี) สร้างราวปี พ.ศ.๒๕๐๙ ออกให้บูชาในปี พ.ศ.๒๕๑๒ ถักไนล่อน ลายเกลียวกระบอง เสาเดียว ปิดทอง และ(เสาร์๕ รุ่น๒) ๑.๓ รุ่นจันทรคราส สร้างราวปี พ.ศ.๒๕๑๘ ๒.ไม่มีวาระจัดสร้าง ๒.๑ หลวงปู่ทำแจก ไม่ถักเชือกชาวบ้านนำไปถักกันเอง ๒.๒ ชาวบ้านนำแผ่นโลหะไปให้หลวงปู่จาร ทิ้งไว้ ๑ ไตรมาส ตะกรุดแบบไม่มีวาระจัดสร้างตอนที่ท่านมอบให้นั้น ไม่ได้ถักเชือก ผู้ที่ได้รับนำไปถักกันเอง ดังนั้นลายถักและประเภทของเชือกจึงไม่ใช่ข้อยุติ เอาเป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาตะกรุดของท่าน แต่พออ้างอิงได้มีชาวบ้านในละแวกนั้นรับจ้างถักกันในวัดโดยใช้เชือกในลอนสีขาว ลายเกลียวกระบอง ขึ้นเสาเดียว ส่วนจะลงรักหรือไม่ ปิดทองหรือไม่ ก็แล้วแต่จะทำกัน ส่วนตะกรุดดำน้ำนั้น ตามคำบอกเล่าสร้างก่อนไตรมาสรุ่นแรก เพราะตอนที่ท่านมารับรุ่นไตรมาส ตะกรุดชุดนี้วางอยู่ในพานไม่เกิน ๑๐ ดอก แต่ยังไม่ได้ถักเชือก ได้เอ่ยปากขอแต่หลวงปู่ปัดไว้คราวหน้า พอท่านมารับรุ่นเสาร์๕ พบว่าเหลือเพียงดอกเดียว ถักเชือกลงรักแล้ว หมายเหตุ...เหตุที่ตะกรุดดำน้ำต้องเป็นเนื้อตะกั่วทุบ ข้อเท็จจริงขอให้อ่านเพิ่มในขั้นตอนการทำตะกรุด ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า *ความเกี่ยวพันระหว่างหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าและหลวงปู่เป้า วัดบางพูดใน เป็นที่มาของตะกรุดดำน้ำ* ๑.เมื่อพิจารณาช่วงเวลาแล้วหลวงปู่ทั้งสองท่านไม่มีความเกี่ยวพันกันโดยตรง (พ.ศ ๒๔๖๖ หลวงปู่ศุข มรณะภาพ พ.ศ.๒๔๕๐ หลวงปู่เป้าเกิด หลวงปู่เป้ามีอายุ ๑๖ ปีเมื่อหลวงปู่ศุข มรณะภาพ) ๒.เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป ตามประวัติการหลวงปู่เป้าเป็นสหธรรมมิกกับหลวงปู่นาควัดระฆังฯ ครั้งเมื่อหลวงปู่เป้าสร้างพระสมเด็จ ราวปีพ.ศ.๒๕๐๕ หลวงปู่นาคมอบผงวัดระฆังฯและพิมพ์พระสมเด็จฯ (พิมพ์กลางและพิมพ์เล็ก) แก่หลวงปู่เป้า แต่หลวงปู่นาคเป็นสหธรรมมิกกับหลวงพ่อปลื้ม วัดปากคลองมะขามเฒ่าองค์ต่อมา และเป็นน้องคนที่ ๙ ของหลวงปู่ศุข ดังนั้นท่านทั้ง ๓ เป็นสหธรรมมิกกัน รวมไปถึงหลวงพ่อเงิน วัดช่องลมด้วย ที่กล่าวถึงหลวงพ่อเงิน เพราะมีข้อมูลบางประการที่เกี่ยวข้องกับพระสมเด็จ พิมพ์ใหญ่ของหลวงปู่เป้า ซึ่งจะขอยกไปช่วงท้าย ๓.มีความเป็นไปได้สูง ที่ท่านทั้ง ๔ จะมีการแลกเปลี่ยนวิทยาคมกัน (หรือศึกษาตำราของหลวงปู่ศุขร่วมกัน) จากคำบอกเล่าขอคนเก่าแก่ ที่นับถือหลวงปู่เป้าและมีวิทยาคมในยุคเก่า *ทำไมตะกรุดดำน้ำต้องเป็นเนื้อตะกั่วทุบเท่านั้น* จากข้อมูลการสร้างตะกรุดดำน้ำของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าและการเคี่ยวตะกั่ว เชื่อว่าทุกท่านคงจะทราบกันดีแล้ว เรียกว่าตะกรุดจันทร์เพ็ญ ตะกรุดจันทร์เพ็ญมีทั้งเนื้อตะกั่วและเนื้อทองแดง แต่ตะกรุดที่ท่านดำลงไปจารในน้ำและ ปล่อยให้ลอยขึ้นมานั้น มีเฉพาะเนื้อตะกั่วเท่านั้น (ข้อมูลนี้ได้จากคนรุ่นเก่าที่สะสมตะกรุด) ย้อนกลับมาที่ตะกรุดดำน้ำของหลวงปู่เป้า หากเป็นไปตามข้อมูลที่ กล่าวไว้ข้างต้น ตะกรุดดำน้ำของหลวงปู่เป้า ก็ต้องเป็นเนื้อตะกั่วทุบเช่นกัน จะเป็นเนื้ออื่นไปไม่ได้ เพราะข้อที่๑.เนื้อตะกั่วสามารถดูดซับ พลังวิทยาคมได้ดีที่สุด ดีกว่าโลหะชนิดใดๆ ข้อ๒.หลวงปู่เป้าศึกษาจากตำราของหลวงปู่ศุข *ดังนั้นข้อมูลเกี่ยวกับตะกรุดดำน้ำ ของหลวงปู่เป้า ปัจจุบันยังมีผู้เข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่* สำหรับสมเด็จพิมพ์ใหญ่ของหลวงปู่เป้า ข้อมูลตรงนี้ผู้ที่เล่าไม่แน่ใจว่า หลวงปู่เป้ามอบพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ หรือแม่พิมพ์พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ ให้แก่หลวงพ่อเงิน วัดช่องลม เพื่อนำไปแจกให้กับพระบวชใหม่ ตามข้อมูลที่ได้ท่านจะแจกให้คนละองค์เท่านั้น *ดั้งนั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องหาข้อมูลต่อ แต่เป็นที่น่าเชื่อว่าปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงปู่ ยังไม่มีของเลียนแบบอออกมา ถ้าหากมี พิมพ์ซ้ำกัน ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าท่านให้ยืมแม่พิมพ์ หรือทั้งสองอย่าง เพราะพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ของหลวงปู่เป้า เป็นพิมพ์ที่มีเอกลักษณ์ ชัดเจน ข้อมูลที่ได้มาจากการรวบรวม ตามคำบอกเล่าของคนเก่าแก่ผู้ศรัทธาและทันหลวงปู่ แล้วนำมาสรุปรวบยอด หากมีข้อมูลใหม่จะนำมาลงเพิ่มเติมภายหน้า**

รายละเอียด

เปิดตำนานตะกรุดดำน้ำ หลวงปู่เป้า วัดบางพูดใน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรีจำนวนการสร้างไม่ถึง ๑๐ ดอก

ตะกรุดหลวงปู่เท่าที่รวบรวมข้อมูลได้มีแบ่งได้ ๒ ประเภทใหญ่ๆ คือ
๑.มีวาระการจัดสร้าง
๑.๑ ไตรมาสรุ่นแรกราวปีพ.ศ.๒๕๐๘ จำนวนการสร้างเท่าอายุหลวงปู่ ถักเชือกปอลายเกลียวกระบอง ๕-๘ เสา
๕ เสามีจำนวนมากกว่า ๘ เสาเพราะใช้เวลานานกว่า ลงรักปิดทองหัว-ท้ายตะกรุด และ(ไตรมาสรุ่น๒)
๑.๒ รุ่นเสาร์๕ (เสก ๓ ปี) สร้างราวปี พ.ศ.๒๕๐๙ ออกให้บูชาในปี พ.ศ.๒๕๑๒ ถักไนล่อน ลายเกลียวกระบอง
เสาเดียว ปิดทอง และ(เสาร์๕ รุ่น๒)
๑.๓ รุ่นจันทรคราส สร้างราวปี พ.ศ.๒๕๑๘

๒.ไม่มีวาระจัดสร้าง
๒.๑ หลวงปู่ทำแจก ไม่ถักเชือกชาวบ้านนำไปถักกันเอง
๒.๒ ชาวบ้านนำแผ่นโลหะไปให้หลวงปู่จาร ทิ้งไว้ ๑ ไตรมาส
ตะกรุดแบบไม่มีวาระจัดสร้างตอนที่ท่านมอบให้นั้น ไม่ได้ถักเชือก ผู้ที่ได้รับนำไปถักกันเอง ดังนั้นลายถักและประเภทของเชือกจึงไม่ใช่ข้อยุติ เอาเป็นหลักเกณฑ์ในการพิจารณาตะกรุดของท่าน แต่พออ้างอิงได้มีชาวบ้านในละแวกนั้นรับจ้างถักกันในวัดโดยใช้เชือกในลอนสีขาว ลายเกลียวกระบอง ขึ้นเสาเดียว ส่วนจะลงรักหรือไม่ ปิดทองหรือไม่ ก็แล้วแต่จะทำกัน

ส่วนตะกรุดดำน้ำนั้น ตามคำบอกเล่าสร้างก่อนไตรมาสรุ่นแรก เพราะตอนที่ท่านมารับรุ่นไตรมาส
ตะกรุดชุดนี้วางอยู่ในพานไม่เกิน ๑๐ ดอก แต่ยังไม่ได้ถักเชือก ได้เอ่ยปากขอแต่หลวงปู่ปัดไว้คราวหน้า
พอท่านมารับรุ่นเสาร์๕ พบว่าเหลือเพียงดอกเดียว ถักเชือกลงรักแล้ว

หมายเหตุ...เหตุที่ตะกรุดดำน้ำต้องเป็นเนื้อตะกั่วทุบ ข้อเท็จจริงขอให้อ่านเพิ่มในขั้นตอนการทำตะกรุด
ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

***ความเกี่ยวพันระหว่างหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าและหลวงปู่เป้า วัดบางพูดใน เป็นที่มาของตะกรุดดำน้ำ***
๑.เมื่อพิจารณาช่วงเวลาแล้วหลวงปู่ทั้งสองท่านไม่มีความเกี่ยวพันกันโดยตรง (พ.ศ ๒๔๖๖ หลวงปู่ศุข มรณะภาพ พ.ศ.๒๔๕๐
หลวงปู่เป้าเกิด หลวงปู่เป้ามีอายุ ๑๖ ปีเมื่อหลวงปู่ศุข มรณะภาพ)
๒.เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไป ตามประวัติการหลวงปู่เป้าเป็นสหธรรมมิกกับหลวงปู่นาควัดระฆังฯ ครั้งเมื่อหลวงปู่เป้าสร้างพระสมเด็จ
ราวปีพ.ศ.๒๕๐๕ หลวงปู่นาคมอบผงวัดระฆังฯและพิมพ์พระสมเด็จฯ (พิมพ์กลางและพิมพ์เล็ก) แก่หลวงปู่เป้า
แต่หลวงปู่นาคเป็นสหธรรมมิกกับหลวงพ่อปลื้ม วัดปากคลองมะขามเฒ่าองค์ต่อมา และเป็นน้องคนที่ ๙ ของหลวงปู่ศุข ดังนั้นท่านทั้ง ๓
เป็นสหธรรมมิกกัน รวมไปถึงหลวงพ่อเงิน วัดช่องลมด้วย ที่กล่าวถึงหลวงพ่อเงิน เพราะมีข้อมูลบางประการที่เกี่ยวข้องกับพระสมเด็จ
พิมพ์ใหญ่ของหลวงปู่เป้า ซึ่งจะขอยกไปช่วงท้าย
๓.มีความเป็นไปได้สูง ที่ท่านทั้ง ๔ จะมีการแลกเปลี่ยนวิทยาคมกัน (หรือศึกษาตำราของหลวงปู่ศุขร่วมกัน) จากคำบอกเล่าขอคนเก่าแก่
ที่นับถือหลวงปู่เป้าและมีวิทยาคมในยุคเก่า
***ทำไมตะกรุดดำน้ำต้องเป็นเนื้อตะกั่วทุบเท่านั้น***
จากข้อมูลการสร้างตะกรุดดำน้ำของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าและการเคี่ยวตะกั่ว เชื่อว่าทุกท่านคงจะทราบกันดีแล้ว
เรียกว่าตะกรุดจันทร์เพ็ญ ตะกรุดจันทร์เพ็ญมีทั้งเนื้อตะกั่วและเนื้อทองแดง แต่ตะกรุดที่ท่านดำลงไปจารในน้ำและ ปล่อยให้ลอยขึ้นมานั้น
มีเฉพาะเนื้อตะกั่วเท่านั้น (ข้อมูลนี้ได้จากคนรุ่นเก่าที่สะสมตะกรุด) ย้อนกลับมาที่ตะกรุดดำน้ำของหลวงปู่เป้า หากเป็นไปตามข้อมูลที่
กล่าวไว้ข้างต้น ตะกรุดดำน้ำของหลวงปู่เป้า ก็ต้องเป็นเนื้อตะกั่วทุบเช่นกัน จะเป็นเนื้ออื่นไปไม่ได้ เพราะข้อที่๑.เนื้อตะกั่วสามารถดูดซับ
พลังวิทยาคมได้ดีที่สุด ดีกว่าโลหะชนิดใดๆ ข้อ๒.หลวงปู่เป้าศึกษาจากตำราของหลวงปู่ศุข ***ดังนั้นข้อมูลเกี่ยวกับตะกรุดดำน้ำ
ของหลวงปู่เป้า ปัจจุบันยังมีผู้เข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่***

สำหรับสมเด็จพิมพ์ใหญ่ของหลวงปู่เป้า ข้อมูลตรงนี้ผู้ที่เล่าไม่แน่ใจว่า หลวงปู่เป้ามอบพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ หรือแม่พิมพ์พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่
ให้แก่หลวงพ่อเงิน วัดช่องลม เพื่อนำไปแจกให้กับพระบวชใหม่ ตามข้อมูลที่ได้ท่านจะแจกให้คนละองค์เท่านั้น

***ดั้งนั้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องหาข้อมูลต่อ แต่เป็นที่น่าเชื่อว่าปัจจุบันวัตถุมงคลของหลวงปู่ ยังไม่มีของเลียนแบบอออกมา ถ้าหากมี
พิมพ์ซ้ำกัน ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าท่านให้ยืมแม่พิมพ์ หรือทั้งสองอย่าง เพราะพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ของหลวงปู่เป้า เป็นพิมพ์ที่มีเอกลักษณ์
ชัดเจน****

***ข้อมูลที่ได้มาจากการรวบรวม ตามคำบอกเล่าของคนเก่าแก่ผู้ศรัทธาและทันหลวงปู่ แล้วนำมาสรุปรวบยอด หากมีข้อมูลใหม่จะนำมาลงเพิ่มเติมภายหน้า***