หมวด พระสมเด็จวัดระฆัง - วัดบางขุนพรหม - วัดเกษไชโย
หลวงปู่ลำภู พิมพ์ฐานคู่(ยุคต้น) วัดใหม่อมตรส(มีบัตรรับรอง)
| ชื่อร้านค้า | ลภัส พระเครื่อง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
|---|---|
| ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
| ชื่อพระเครื่อง | หลวงปู่ลำภู พิมพ์ฐานคู่(ยุคต้น) วัดใหม่อมตรส(มีบัตรรับรอง) |
| อายุพระเครื่อง | - |
| หมวดพระ | พระสมเด็จวัดระฆัง - วัดบางขุนพรหม - วัดเกษไชโย |
| ราคาเช่า | - |
| เบอร์โทรติดต่อ | 097-245-3619 |
| อีเมล์ติดต่อ | lapasamulet@gmail.com |
| สถานะ |
|
| เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | ศ. - 08 ส.ค. 2557 - 12:46.26 |
| แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อา. - 15 ก.ย. 2562 - 22:46.18 |
| รายละเอียด | |
|---|---|
| หลวงปู่ลำภู พิมพ์ฐานคู่(ยุคต้น) วัดใหม่อมตรส(มีบัตรรับรอง) พระสมเด็จที่สมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังษี ได้สร้างไว้ ราคาไปไกลลิบลับแล้วครับ มีเงินก็หาแท้ๆยากมากแล้ว ลองหันมาดูพระสมเด็จ ในสายพุฒาจารย์ โต พรหมรังษี ถึงแม้ว่าจะไม่ทันท่านสร้าง แต่มีส่วนผสมของพระสมเด็จบางขุนพรมที่แตกหักเป็นจำนวนมาก จึงถือว่าเป็นพระที่ใช้แทนพระสมเด็จในราคาที่เบากว่าหลายเท่าตัว ประวัติการสร้าง พระสมเด็จของหลวงปู่ลำภู จากอดีตเมื่อปี 2500 วัดใหม่อมตรส(บางขุนพรหม) ได้ทำพิธีเปิดกรุเจดีย์ภายในวัดอย่างเป็นทางการ ซึ่งภายในเจดีย์บรรจุพระเครื่องที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้สร้างไว้ ก่อนหน้าจะเปิดกรุนั้นเจดีย์เกิดชำรุดผุพัง มีคนแอบมาตกพระออกจากเจดีย์ จนทางวัดต้องเปิดเจดีย์นำพระออกมาให้บูชา ซึ่งพระในเจดีย์ก็มีทั้งสภาพที่ดีและชำรุดแตกหัก แต่ทางวัดได้คัดเอาพระสภาพที่ดีออกให้บูชา ส่วนพระที่หักได้เก็บไว้ ตรงนี้เองที่จะกล่าวถึงการสร้างพระบางขุนพรหมปี 2502 เพราะตอนนั้น หลวงปู่ลำภู ได้เป็นกรรมการในการเปิดกรุ ซึ่งในขณะนั้นท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นรองเจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส ส่วนพระที่หักหรือชำรุดจึงเก็บรักษาไว้ที่กุฏิหลวงปู่ลำภู พอผู้คนและบรรดาลูกศิษย์ทราบก็มาขอท่านอยู่บ่อยๆ จนท่านได้ตัดสินใจ นำพระสมเด็จบางขุนพรหมที่หักมาบดจนละเอียด แล้วนำมาผสมผงมวลสารวิเศษต่างๆ และสมเด็จวัดระฆังฯ นำมาผสมสร้างเป็นพระสมเด็จบางขุนพรหมปี 2502 ทุกพิมพ์หลังเรียบทั้งหมด จากคำบอกเล่าของ พระครูสุทธิธรรมากร หรือหลวงตาประยูร ปัญญาภรโณ เจ้าอาวาสวัดไก่จ้น รูปปัจจุบัน ซึ่งเป็นลูกบุญธรรมหลวงปู่ลำภู กล่าวว่า ช่างที่แกะพิมพ์พระคือ นายเสน่ห์ ลูกศิษย์หลวงปู่ลำภูที่เคยบวชอยู่กับท่านได้แกะพิมพ์พระไว้ทั้งหมด 11 พิมพ์คือ พิมพ์ใหญ่เกศทะลุซุ้ม พิมพ์ใหญ่ พิมพ์ใหญ่ต้อ พิมพ์อกครุฑ พิมพ์ฐานคู่ พิมพ์ฐานแซม พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์ปรกโพธิ์ พิมพ์คะแนน พิมพ์จันลอย และพิมพ์ไสยาสน์ โดยเฉพาะพิมพ์ไสยาสน์ หลวงปู่ลำภู ท่านสร้างไว้น้อยมากๆ และพระที่เหลือท่านก็ได้นำลงฝังกรุที่วัดบางขุนพรหม เท่าที่สังเกตพระที่หลวงปู่ลำภูจารให้นั้นท่านจะจารแค่เลข ๙ เท่านั้น และต้องเป็นเลข ๙ ไทยเท่านั้นด้วยต่อจากนั้นหลวงปู่ลำภูท่านก็มาสร้างพระสมเด็จบางขุนพรหมปี 2514 คราวนั้นหลวงปู่ลำภูท่านไม่ได้สร้างครบทุกพิมพ์ เท่าที่ทราบมาจะมีพิมพ์ใหญ่เกศทะลุซุ้ม พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์จันลอย ด้านหลังของพระรุ่นนี้จะต้องกดยันต์จม พร้อมกับคำว่า หลวงพ่อลำภู ทุกองค์ ส่วนเนื้อผงมวลสารนั้นก็มีส่วนผสมของพระสมเด็จบางขุนพรหมอยู่ด้วย แล้วก็ยังมีเหรียญรูปไข่รุ่นแรกพิมพ์นั่งสมาธิเต็มองค์และเม็ดแตงอีก แล้วหลวงปู่ลำภูยังได้เชิญพระสหายธรรมและพระที่นับถือมาร่วมพุทธาภิเษกที่ กุฏิของท่านอีกด้วย ส่วนเหรียญรุ่นที่ 2 นั้น หลวงปู่ลำภูออกเมื่อปี 2515 เป็นเหรียญรูปไข่ ต่อมาก็สร้างพระสมเด็จ ปี 2516, ปี 2517 นั้นได้ไปออกที่วัดไก่จ้น จากนั้นปี 2519 หลวงปู่ลำภู ก็ได้เปิดกรุพระของท่าน นำพระออกมาแจกให้ลูกศิษย์ แต่ท่านดูแล้วว่า คงจะไม่พอ จึงได้สร้างพระเพิ่มขึ้นมาอีก ต้องทำตราปั๊มที่ด้านหลังเพื่อบอกพ.ศ.มาปั๊มไว้ที่พระ เพราะฉะนั้นพระรุ่นนี้จึงมีทั้งพระสมเด็จปี 2502 ฝังกรุไม่ปั๊มตรา และพระสมเด็จปี 2502 ฝังกรุปั๊มตรา ฤา พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี ๒๕๐๒ จะดีกว่า? วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ 2015 เวลา 10:46 น. ภาพและเรื่องโดย สุธน ศรีหิรัญ หากจะหา พระสมเด็จ แขวนสักองค์ เมื่อมองไปที่พระสมเด็จวัดระฆังแท้ๆ สักองค์ เดี๋ยวนี้ก็เหมือนเกินไขว่คว้า ทั้งราคา และของแท้ จะหาได้อย่างไร มีเงินก็จริงแต่ก็อาจได้ของไม่จริง ใครจะฟันธงได้ หรือจะเชื่อใครได้ อาจารย์ ตรียัมปวาย ของผมก็จากไปนานแล้ว ถ้าท่านอยู่ถึงวันนี้ท่านก็จะแปลกใจหลายอย่าง อย่างแรกก็คือ ราคาของพระสมเด็จทำไมไปไกลถึงขนาดนี้ อย่างที่สองก็คือ บางองค์แท้ได้อย่างไร หากจะเลี่ยงหนีพระสมเด็จวัดระฆังไปดู บางขุนพรหม ซึ่งความจริงก็คือ พระสมเด็จที่ออกจากกรุวัดใหม่อมตรส ทั้งกรุเก่ากรุใหม่คือกรุเดียวกันนั้น แต่กรุเก่าออกมาก่อนปี พ.ศ.2500 และกรุใหม่ซึ่งออกมาตอนเปิดกรุ พ.ศ.2500 เดี๋ยวนี้คำว่า กรุใหม่ กรุเก่า นั้น ไม่มีใครเรียกหรือจดจำแล้ว ถือว่าเป็นกรุเดียวกัน ซึ่งความจริงก็เป็นแบบนั้น คือกรุเดียวกันนั่นเอง เรียกกันว่า กรุบางขุนพรหม ตามสถานที่ย่านอยู่ของวัดใหม่อมตรส ปัจจุบันราคาก็ไปไกลเกินไขว่คว้ามาครอบครองเช่นเดียวกัน บางคนก็หันไปหา พระสมเด็จ ปี 2509 ซึ่งท่าน พระครูบริหารคุณวัตร (ชม) วัดใหม่อมตรส เอาพระสมเด็จที่หักๆ คราวเปิดกรุ พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2500 มาผสมเนื้อใหม่แล้วสร้างขึ้นมา โดยมีหลวงปู่ลำภูเป็นแม่งานสร้างและทำพิธีปลุกเสก เดี๋ยวนี้ พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2509 ก็ราคาเริ่มไปไกล แถมยังมีของปลอมออกมามากมาย ดูยาก เพราะของจริงก็ทำมาไม่นาน ของปลอมก็ออกมา ความเก่าใกล้เคียงกัน ถ้าดูพิมพ์ไม่ชำนาญจริงก็อาจพลาดท่า เมื่อเป็นดังนั้น พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2502 ที่หลวงปู่ลำภูสร้างก็อาจเป็นแนวทางเลือกที่น่าสนใจมาก อย่างน้อยความเก่าก็สร้างมาก่อนปี 2509 ด้วยซ้ำไป หลวปู่ลำภูคือใคร? คงไม่ต้องเขียนประวัติท่านอีกแล้ว เพราะ เก่ง รางน้ำ ได้เขียนลง ลานโพธิ์ แนะนำมา 9 ฉบับติดต่อกัน ละเอียดจนแทบมองเห็นตัวตนของท่านได้อย่างชัดเจนทีเดียว เอาเป็นว่า ขนาด หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ยังยกย่องท่านมากสำหรับ พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2502 นี้สร้างโดยหลวงปู่ลำภู เมื่อครั้งท่านเป็นรองเจ้าอาวาสอยู่วัดใหม่อมตรส โดยเฉพาะในยุคที่เปิดกรุปี พ.ศ.2500 ท่านก็ยังแข็งแรงอยู่มาก ท่านมีบทบาทในพิธีเปิดกรุอยู่มาก โดยเป็นประธานสงฆ์แทนพระครูอมรศีลาจาร (เส็ง) เจ้าอาวาสซึ่งอาพาธ เรื่องราวเหล่านี้ เก่ง รางน้ำ เขาก็เขียนเอาไว้ละเอียดยิบ เมื่อตอนเปิดกรุ พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี พ.ศ.2500 นั้น ได้พระสมเด็จพิมพ์ต่างๆ ที่สมบูรณ์เป็นองค์อยู่เพียง 2,950 องค์เท่านั้น ส่วนที่เหลืออีกนับหมื่นองค์แตกหักเสียหาย เพราะความชื้นของกรุ ทำให้จับตัวกันเป็นก้อนๆ ไม่สามารถแกะแยกออกจากกันได้ หากแยกออกก็มักจะแตกหักเป็นส่วนใหญ่ หลังจากเปิดกรุ ปี พ.ศ.2500 แล้ว พระสมเด็จในกรุที่แตกหักชำรุดจึงมีอยู่มากกว่าองค์ที่สมบูรณ์ หลวงปู่ลำภูซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ยุคนั้น ท่านจึงนึกเสียดายพระสมเด็จที่หักชำรุดเหล่านั้น จึงให้ลูกศิษย์เอามาเก็บเอาไว้จำนวนถึง 20 ลัง เศษหักๆ ซึ่งไม่มีใครสนใจจำนวน 20 ลังนั้น ต่อมาหลวงปู่ลำภูได้เอามาให้ลูกศิษย์ช่วยกันแยกออกจากคราบกรุ โดยแช่น้ำเอาดินกรุออกจากเนื้อพระที่หักๆ แล้วจึงเอาเนื้อพระที่ได้ทั้งหมดเอามาบด เอามาตำ บางส่วนก็ละเอียด บางส่วนที่แข็งๆ ก็ยังเป็นก้อนเป็นเม็ดเล็กๆ อยู่ จากนั้นท่านก็เอามาสร้างเป็น พระสมเด็จ ปี พ.ศ.2502 จำนวนทั้งสิ้น 13 พิมพ์ คือ 1. พิมพ์ใหญ่ แยกได้เป็น 6 พิมพ์ย่อย คือ 1.1 เกศจรดซุ้ม 1.2 เกศทะลุซุ้ม 1.3 พิมพ์ต้อ 1.4 พิมพ์ตัดปีกกว้าง 1.5 พิมพ์ขอบกระด้ง 1.6 พิมพ์พระประธาน 2. พิมพ์เส้นด้าย 3. พิมพ์ทรงเจดีย์ 4. พิมพ์ปรกโพธิ์ 5. พิมพ์สังฆาฏิ 6. พิมพ์ฐานแซม 7. พิมพ์ฐานคู่ 8. พิมพ์อกครุฑ 9. พิมพ์เกศบัวตูม 10. พิมพ์คะแนน 11. พิมพ์จันทร์ลอย 12. พิมพ์สามเหลี่ยมฐานหมอน 13. พิมพ์นางกวัก พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี พ.ศ.2502 นี้ หลวงปู่ลำภูได้ใช้ผงเก่าผสมมากที่สุดกว่ารุ่นอื่นๆ เพราะขณะนั้นมีผงอยู่จำนวนมาก หากสังเกตให้ดีจะเห็นเนื้อพระบางองค์จะเห็นเม็ดผงเก่าที่ตำไม่ละเอียดปรากฏให้เห็นได้อย่างชัดเจน อาจกล่าวได้ว่า เป็น พระสมเด็จยุคหลังที่มีผงเก่าผสมอยู่มากที่สุดก็ว่าได้ พระสมเด็จ ปี พ.ศ.2502 ของหลวงปู่ลำภูทั้ง 13 พิมพ์ดังกล่าวนั้น บางส่วนได้ให้ทำบุญเพื่อนำรายได้สมทบทุน มูลนิธิวัดไก่จ้น ของหลวงปู่ลำภูเป็นบางส่วน แต่พระส่วนใหญ่ท่านได้นำลงบรรจุกรุเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2519 ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งเป็น วันวิสาขบูชา โดยบรรจุพระลงในโอ่งดินขนาดใหญ่สามใบ เสร็จแล้วนำไปฝังดินในบริเวณกุฏิของท่าน แล้วจึงปลูกต้นโพธิ์ทับไว้สามต้นบนโอ่งสามใบนั้น พระอีกส่วนหนึ่งท่านเก็บใส่ตุ่มน้ำมนต์ไว้บนกุฏิ ทั้งพระสมเด็จฯที่บรรจุกรุในตุ่มน้ำมนต์บนกุฏิของท่าน และที่ฝังดินใต้ต้นโพธิ์ข้างกุฏิของท่าน บางส่วนโดยเฉพาะพิมพ์สมเด็จพิมพ์ใหญ่และพิมพ์อื่นๆ นั้น ด้านหลังจะปั๊มยันต์สีแดง ระบุ พ.ศ.2519 คือปีบรรจุกรุ มิใช่ปีที่สร้าง คือปี พ.ศ.2502 หมึกแดงที่พิมพ์เป็นหมึกจากสีย้อมผ้าประทับด้วยตรายาง เท่าที่เห็นส่วนมากคือ พิมพ์ใหญ่เกศทะลุซุ้ม พิมพ์ใหญ่ต้อ พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์เจดีย์ พิมพ์ปรกโพธิ์ และพิมพ์สังฆาฏิ แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่ได้ปั๊มยันต์แดง เนื่องจากระหว่างปั๊มนั้นตรายางที่ปั๊มได้ชำรุดลง พระที่หลวงปู่ลำภูบรรจุกรุไว้ในกุฏิของท่านคือในตุ่มน้ำมนต์และใต้ต้นโพธิ์นั้น ท่านจะปลุกเสกน้ำมนต์ประพรมตลอดติดต่อกันนานหลายปี จนถึง พ.ศ.2527 มีบรรดาลูกศิษย์อยากได้พระสมเด็จที่หลวงปู่ลำภูสร้างไว้เมื่อปี พ.ศ.2502 กันจำนวนมาก ท่านทนรบเร้าไม่ไหวจึงได้ตัดสินใจเอาพระสมเด็จที่บรรจุไว้ในตุ่มน้ำมนต์บนกุฏิและฝังดินไว้ใต้ต้นโพธิ์ออกมาให้ทำบุญ พระที่บรรจุกรุเหล่านี้บางองค์จึงมีคราบกรุอยู่บางๆ บางองค์มีคราบน้ำมนต์ให้เห็นบ้างเล็กน้อย องค์ที่ผสมผงใบลานบางคนทดลอง เอาไปฝนด้านหลังองค์พระออกดู ก็เห็นเม็ดผงสมเด็จบางขุนพรหมเก่าผสมอยู่อย่างชัดเจน โดยเป็นเม็ดสีขาวติดฝังกับเนื้อผงสีเทาดำ หากเป็นพระเนื้อสีขาวจะไม่เห็นชัดเจน แต่หากพิจารณาดูให้ดีจะพบมีเม็ดของสมเด็จเก่าอยู่เต็มทั้งองค์ทีเดียว พระพิมพ์ผงสมเด็จพิมพ์ต่างๆ รุ่น 2502 ของหลวงปู่ลำภู คงฺคปญฺโญ วัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม นับได้ว่าเป็นวัตถุมงคลอีกองค์ที่ผสมผงใบลานบางคนทดลอง เอาไปฝนด้านหลังองค์พระออกดู ก็เห็นเม็ดผง สมเด็จบางขุนพรหม เก่าผสมอยู่อย่างชัดเจน โดยเป็นเม็ดสีขาวติดฝังกับเนื้อผงสีเทาดำล้ำเลิศด้วยพุทธานุภาพ ศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิปาฏิหาริย์ยิ่งนัก ในทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาดอยู่ยงคงกระพันชาตรี จึงเป็นที่นิยมใฝ่หาของนักเลงพระเครื่องทั่วไป ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เพราะหลวงปู่ลำภูผู้สร้าง พระสมเด็จ รุ่น 2502 ท่านได้อาศัยบุญญาอภินิหารผงสมเด็จจากกรุเก่า 2500 ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรฺหมฺรังสี) ผสมเป็นส่วนสำคัญในพระทุกองค์ ทุกพิมพ์ จึงทำให้ พระสมเด็จ รุ่น 2502 ของหลวงปู่ลำภูมีพุทธานุภาพ อิทธิปาฏิหาริย์ ดังกล่าวแล้วข้างต้น พระพิมพ์ผงสมเด็จของหลวงปู่ลำภูที่ผ่านการปลุกเสกแล้ว หลวงปู่ท่านจะมอบให้ศิษย์ของท่านนำไปสักการบูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัว ในโอกาสที่หลวงปู่ท่านบำเพ็ญกุศลต่างๆ อาทิ ทำบุญอายุ ทำบุญไหว้ครู ทำบุญทอดกฐิน ทอดผ้าป่า เป็นต้น ส่วนพระสมเด็จที่เหลืออยู่นั้น หลวงปู่ท่านจะเจริญจิตภาวนาปลุกเสกของท่านต่อไป เพื่อเป็นการเพิ่มพลังความเข้มขลังในองค์วัตถุมงคลเหล่านั้นให้ยิ่งๆ ขึ้นไป พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2502 ซึ่งสร้างโดย หลวงปู่ลำภู จึงนับว่า พระสมเด็จยุคหลัง ที่น่าศึกษาและน่าบูชามากที่สุดก็ว่าได้ ปัจจุบันยากที่จะหาสมเด็จวัดระฆังหรือบางขุนพรหม ของเก่า ของแท้ๆ มาแขวนสักองค์ ก็อาจหา พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2502 มาแขวนแทนกันได้สบายมาก จึงขอนำเรื่องราวนี้มาแนะนำท่านผู้อ่านลานโพธิ์เป็น ของขวัญวันปีใหม่ 2558 จากวันนั้นถึงวันนี้ พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2502 ก็มีอายุไม่น้อยแล้ว ผ่านมา 56 ปี เป็นของดีมีค่าที่ขอแนะนำว่า ควรหามาแขวนสักองค์ ( ที่มา : ย่อจาก ลานโพธิ์ ฉบับที่ 1157 เดือนมกราคม 2558 ฤา พระสมเด็จบางขุนพรหม ปี ๒๕๐๒ จะดีกว่า? ภาพและเรื่องโดย สุธน ศรีหิรัญ ) |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments
