
หมวด หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก - หลวงปู่ดู่ วัดสะแก – หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน
พระเหนือพรหมหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก



ชื่อร้านค้า | ตลับเงินตลับทอง - (คลิ๊กที่นี่เพื่อดู ข้อมูลเกี่ยวกับร้านค้า) |
---|---|
ชื่อเจ้าของร้านค้า | |
ชื่อพระเครื่อง | พระเหนือพรหมหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก |
อายุพระเครื่อง | 46 ปี |
หมวดพระ | หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก - หลวงปู่ดู่ วัดสะแก – หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน |
ราคาเช่า | - |
เบอร์โทรติดต่อ | (ไม่แสดงเบอร์ เนื่องจากรายการนี้ไม่ได้ปล่อยเช่า) |
อีเมล์ติดต่อ | nongbluestar@yahoo.com |
LINE |
(คลิ๊กที่นี่เพื่อเพิ่มเพื่อนกับเจ้าของร้าน)
|
สถานะ |
![]() |
เปิดให้เช่าตั้งแต่วันที่ | อา. - 09 มิ.ย. 2556 - 17:26.50 |
แก้ไขข้อมูลล่าสุดเมื่อ | อา. - 05 พ.ค. 2562 - 20:57.05 |
รายละเอียด | |
---|---|
"การสร้างพระผงมหาจักรพรรดิ์ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ" ในการสร้างพระเครื่องประเภทเนื้อปูนผสมผงมหาจักรพรรดิ์ของหลวงปู่ดู่นั้น จักสังเกตุเห็นได้ว่าหลวงปู่ดู่ท่านจะสร้างพระเครื่องไว้เพื่อเป็นพุทธานุสติแก่บรรดาศิษย์เพื่อให้ระลึกเสมอว่าพระพุทธองค์ทรงเป็นผู้ทรงประเสริฐสุดหาที่เปรียบมิได้ ดังที่จะกล่าวในพระชุด ”พระพุทธเจ้าเหนือพรหม” นี้ หลวงปู่ดู่ท่านได้นำ พระพุทธตำนานตอนหนึ่งซึ่งอยู่ใน บทสวดพระคาถาพาหุงฯ บทที่ว่า “ทุคคาหะทิฏฐิ ภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง พรัหมัง* วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง ญาณาคะเทนะวิธินา ชิตะวา มุนินโท ตันเตชะสา ภะวะตุเต ชะยะมังคะลานิ” (* พรัหมัง อ่านว่า พรัมมัง) …พระคาถาบทพาหุงฯบทนี้ ตามพุทธตำนานได้กล่าวถึงตอนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ปราบทิฐิของท้าวผกาพรหมที่ว่าตนเองมีอิทธิฤทธิ์มากและมีความเป็นอมตะไม่ตาย จึงคิดท้าทายพระพุทธเจ้าให้มาลองอิทธิฤทธิ์กัน โดยการท้าลองครั้งนี้คือให้อีกฝ่ายซ่อนและอีกฝ่ายหา หากผู้ใดซ่อนและผู้หา หาไม่พบถือว่าชนะและฝ่ายแพ้จะต้องมาเป็นสาวกของฝ่ายชนะ… เริ่มจากฝ่ายท้าวผกาพรหมเป็นผู้ซ่อนก่อน ท้าวผกาพรหมแปลงกายเป็นธุลีเม็ดทรายหนึ่งเม็ดโดยซ่อนตนเองปะปนอยู่ในทะเลทราย ด้วยพระบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ใช้ฌาณ ตรวจหาไม่นานก็ค้นพบท้าวผกาและชี้ถูกว่าท้าวผกาพรหมเป็นเม็ดทรายเม็ดไหนอย่างถูกต้องครั้งนี้ท้าวผกาพรหมจึงเป็นฝ่ายแพ้ พอถึงคราวพระพุทธเจ้าเป็นผู้ซ่อนบ้าง พระพุทธองค์ทรงย่อพระวรกายให้เล็กลงแล้วเสด็จขึ้นไปประทับซ่อนอยู่ในมวยผมบนเศียรของท้าวผกาพรหม ฝ่ายหาคือท้าวผกาพรหม ก็เริ่มตามหาพระพุทธเจ้าหายังไงก็หาไม่เจอ หาทั่วทั้ง 3 ภพ(ภพโลก ภพสวรรค์ ภพนรก)ก็หาไม่เจอหาไปสุดขอบแดนจักรวาลก็หาไม่เจอ ท้าวผกาพรหมจึงยอมแพ้ เมื่อพระพุทธองค์ทรงพิจารณาเห็นว่าท้าวผกาพรหม ลดทิฏฐิลงมากแล้ว พระพุทธองค์จึงคลายฤิทธานุภาพกลับสู่สภาพเดิม และทรงแสดง พระธรรมเทศนาโปรดท้าวผกาพรหม จนบรรลุเป็นพระโสดาบัน ซึ่งขณะนี้เป็นพระอนาคามีแล้ว จักเข้าถึงพระนิพพาน ในยุคพระศรีอริยเมตไตย จากนั้นมาจึงมีพระนามเรียกขานกันว่า “พระพรหม”… หลวงปู่ดู่ ซาบซึ้งในบทพระพุทธมนต์บทนี้ จึงได้จัดสร้าง “พระเหนือพรหม”ขึ้นมา รูปแบบจะเป็นพระพรหมมี 4 พระพักตร์ และมีรูปพระพุทธองค์อยู่บนเศียรพระพรหม จัดสร้างช่วงแรกปี 2517 มีเนื้อเดียว คือ “เนื้อผงสีขาว” หรือที่เรียกกันว่า “ผงมหาจักรพรรดิ” มีทั้งพิมพ์ใหญ่ กลาง เล็ก ซึ่งหลวงปู่ดู่ลบผงด้วยตัวท่านเอง และพระบางองค์มีคราบสีเหลือง เพราะท่านนำพระเหนือพรหมแช่น้ำชาที่ชงดื่ม “พระเหนือพรหมเนื้อผง” ในยุคแรกนั้น จะไม่ปั๊มยันต์หมึกรูปกงจักร ซึ่งจะปั๊มหมึกหลังจากที่หลวงปู่ดู่ได้มรณภาพไปแล้ว ทางคณะกรรมการวัดสะแกในสมัยนั้นเข้าไปสำรวจทรัพย์สินทั้งหมด แล้วจึงทำยันต์ปั๊มออกมาภายหลัง นอกจากพระเหนือพรหมเนื้อผงแล้ว ในปี พ.ศ.2531 หลวงปู่ดู่ได้สร้างพระเหนือพรหมขึ้นมาอย่างเป็นทางการอีกรุ่นหนึ่ง และมีความพิเศษคือ ท่านได้ผสมเกศาลงไปด้วย พิมพ์ทรงลักษณะเดิม เปลี่ยนแปลงเพียงแค่รูปในหน้าพระพรหมที่มีความคมชัดมากกว่ารุ่นแรก อีกยังสร้างเป็นเนื้อโลหะผสมที่มีรูปทรงเดียวกันอีกด้วย หลวงปู่ดู่ท่านเล่าให้ศิษย์ใกล้ชิดฟังถึงการปลุกเสกและอธิษฐานจิตในวัตถุมงคลทั้งหลายว่า “นอกจากการใช้พลังจิตในการปลุกเสกแล้ว พระคาถาที่ท่านใช้อยู่เสมอคือ บทสวดมนต์ตามเจ็ดตำนาน” ซึ่งท่านบอกว่า ดีกว่าคาถาอาคมมากมาย เพราะเป็นเรื่องราวของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ทั้งนั้น ไม่จัดเป็นเดรัจฉานวิชชา โดยบทที่ท่านสวดทำทุกครั้งคือ บทพระพุทธเจ้าทรมานพญาชมพูบดี หรือที่เรียกกันว่า “บทชมพูปติสูตร”ซึ่งแสดงถึงอำนาจหรือบารมีของพระพุทธเจ้าผู้เป็นครูของมนุษย์และ เทวดาทั้งปวง แสดงถึงธรรมที่ชนะอธรรม ทั้งนี้ในการปลุกเสกพระนั้น หลวงปู่ดู่ท่านน้อมนำอาราธนา พระบารมีรวมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบัน บรมมหาจักรพรรดิทุกๆพระองค์ พระบารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรมและพระอริยะสงฆ์ทั้งหลายโดยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต พระบารมีรวมพระเจ้าจักรพรรดิตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต บารมีรวมหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ อันเป็นที่สุด... และพระคาถาอีกบทหนึ่งที่ท่านนำมาใช้ในการสร้างพระคือ "บทสวดพระมหาจักรพรรดิ"ที่ว่า นะโมพุทธายะ พระพุทธะไตรรัตนะญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะสุธรรมา พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ พุทธคุณและปาฏิหาริย์ของพระเหนือพรหมของหลวงปู่ดู่ ศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดหลวงปู่คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่าพระเหนือพรหมนี้ ใครมีไว้บูชา เรื่องร้ายจะกลับกลายเป็นดี คนดวงตกก็รอดได้ ผู้ใดได้ไข้ได้เจ็บก็หาย ผีและปีศาจร้ายมิอาจกล้ำกราย คุณไสยมนต์ดำการกระทำย่ำยีมิอาจครอบงำ ผู้ใดเป็นศัตรูและคิดร้าย จะพินาศด้วยวิบากกรรมของตนเอง บูชาติดตัวไว้ เทพ พรหม เทวดาและมนุษย์รักใคร่เมตตาปราณี ถ้าถึงเวลาหมดอายุจิตสงบพบทางสว่างมีสุขคติเป็นที่ไป (ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.luangpordu.com , www.watthummuangna.com และคอลัมน์ มุมพระเก่า หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับที่ 7641, มติชนรายสัปดาห์) |
พระเครื่องที่เกี่ยวข้องในร้านค้านี้...
อื่นๆ...
กำหลังโหลด Comments